“ในเมื่อเจ้าไม่อยากแต่งงานกับหนูฟารีดาก็ไม่เป็นไร ย่าจะยกเลิกงานแต่งของเจ้ากับหนูฟารีดา ต่อไปย่าจะไม่เข้ามายุ่งกับชีวิตของเจ้าอีกแล้ว ในเมื่อเจ้าไม่ต้องการหนูฟารีดาเป็นเมีย ย่าก็คงจะหาผู้ชายดีๆ ให้แต่งงานกับหนูฟารีดาใหม่”
ท่านฮาซาร่าตัดบท ในเมื่อท่านหาสตรีที่ดี งามพร้อมมาให้แล้วไม่สนใจ ก็ให้ถือเสียว่าทั้งสองไม่มีบุญวาสนาต่อกัน ท่านถึงกับลอบถอนหายใจออกมาอย่างกลัดกลุ้ม
“ท่านย่าคิดจะจับผู้หญิงคนนั้นไปล้างน้ำแล้วประเคนให้กับผู้ชายคนไหนอีกล่ะครับ”
“ชีคคาลิค! แม่ว่าเจ้าจะปากเสียมากไปแล้วนะ”
ท่านหญิงราเซียน่าเอ่ยออกมาเสียงเข้ม เมื่อฟังน้ำเสียงและเห็นสายตาของเจ้าลูกชายตัวดี ยามพูดถึงหญิงสาวที่ท่านอุปการะเอาไว้
“ย่าว่าเจ้าพูดแรงเกินไปแล้วนะชีคคาลิค ถึงเจ้าจะไม่ชอบหนูฟารีดา ก็ไม่เห็นจะต้องพูดจาไม่ดีกับเธอ ย่าหวังว่าเจ้าจะเลิกกระแนะกระแหนหนูฟารีดา เพราะต่อไปนี้ย่ากับแม่ของเจ้าจะไม่ยุ่งกับชีวิตของเจ้า เป็นแบบนี้มันก็ดีเหมือนกัน เพราะไม่ใช่แต่เจ้าหรอกที่ไม่อยากแต่งงาน หนูฟารีดาเองก็ไม่อยากแต่งงานกับเจ้าเช่นกัน”
“ไม่อยากแต่งงานกับหลานแล้วตอบตกลงแต่งกับหลานทำไมครับท่านย่า”
ไม่อยากแต่งงานกับเขาเหรอ เขาไม่มีทางเชื่อเด็ดขาด ในเมื่อผู้หญิงคนนี้เคยบอกว่ารักเขา ยิ่งท่านย่ากับท่านแม่สั่งให้เขาแต่งงานกับเจ้าหล่อน แล้วมีหรือที่ฟารีดาจะปฏิเสธ ชีคคาลิคคิดอย่างชิงชัง
“ก็เพราะแม่ขอร้องให้หนูฟารีดาแต่งงานกับลูกเอง ไม่ใช่ว่าหนูฟารีดาอยากแต่งงานกับลูกหรอกชีคคาลิค เพราะก่อนหน้านี้หนูฟารีดาเคยปฏิเสธกับแม่และท่านย่ามาครั้งหนึ่งแล้ว แต่แม่กับท่านย่าคิดว่าหนูฟารีดานี่แหละเหมาะสมกับลูกที่สุด แต่สุดท้ายแม่กับท่านย่าก็คิดผิด หนูฟารีดาไม่เหมาะกับลูกหรอกคาลิคหรือบางทีลูกต่างหากที่ไม่เหมาะสมกับหนูฟารีดา”
ท่านหญิงราเซียน่าเอ่ยขึ้น เมื่อนึกถึงคำพูดของหญิงสาวที่ท่านดูแลอุปการะมานานหลายปีอย่างสงสาร ทุกคำพูดที่ฟารีดาเคยพูดกับท่านล้วนเป็นความจริงทั้งสิ้น ชีคคาลิคไม่มีทางแต่งงานกับผู้หญิงที่ไม่มีหัวนอนปลายเท้าและไม่มีทั้งฐานะในสังคม ชาติตระกูล แม้การศึกษาจะสูงแต่ก็ไม่เพียงพอกับเจ้าผู้ปกครองรัฐฮาซัสอย่างชีคคาลิค ฮาซัส ฮัลมาอิล มูฮัมหมัด
“ลูกเกลียดผู้หญิงคนนั้น ท่านแม่กับท่านย่าสบายใจได้ ลูกไม่มีทางรักผู้หญิงไม่รักนวลสงวนตัว ทำตัวไร้ยางอาย มั่วผู้ชายไปวันๆ แน่นอนครับ หากไม่มีอะไรแล้วลูกขอตัว เพราะมีนัดประชุมใหญ่พรุ่งนี้ ลูกจะกลับไปเตรียมเอกสาร เอาไว้ประชุมในวันพรุ่งนี้”
ท่านฮาซาร่ากับท่านหญิงราเซียน่าไม่ได้สนใจคำพูดของชีคคาลิค เพราะตอนนี้พวกท่านทั้งสองกำลังมองไปเห็นร่างระหงที่ยืนอยู่หน้าประตูห้องโถงใหญ่ต่างหาก
สีหน้าที่ฉายแววเจ็บปวดยามมองมายังพวกท่านมันมีแต่ความปวดร้าว พวกท่านรู้ดีว่าหญิงสาวคงจะได้ยินทุกประโยคที่พวกท่านและชีคคาลิคสนทนากัน ไม่ต้องบอกก็รู้แล้วว่าตอนนี้หัวใจดวงนั้นคงจะเกลียดใครบางคนจนสุดหัวใจเช่นกัน
*********
ท่านฮาซาร่ากับท่านหญิงราเซียน่าไม่ได้สนใจคำพูดของชีคคาลิค เพราะตอนนี้พวกท่านทั้งสองกำลังมองไปเห็นร่างระหงที่ยืนอยู่หน้าประตูห้องโถงใหญ่ต่างหาก
สีหน้าที่ฉายแววเจ็บปวดยามมองมายังพวกท่านมันมีแต่ความปวดร้าว พวกท่านรู้ดีว่าหญิงสาวคงจะได้ยินทุกประโยคที่พวกท่านและชีคคาลิคสนทนากัน ไม่ต้องบอกก็รู้แล้วว่าตอนนี้หัวใจดวงนั้นคงจะเกลียดใครบางคนจนสุดหัวใจเช่นกัน
ชีคคาลิคเห็นว่าท่านย่าและพระมารดานั่งนิ่งแล้วยังมีอาการตื่นตระหนกเล็กน้อย สายตามองเลยไปทางด้านหลังของเขาด้วยอาการตะลึงไป ชีคหนุ่มหันกลับไปมองทางด้านหลัง แล้วเขาก็พบว่ามีหญิงสาวร่างระหงกำลังยืนอยู่หน้าประตูโถงห้อง ส่วนข้างกายก็มีกระเป๋าเดินทางอีกหนึ่งใบ
“มานานแล้วหรือหนูฟารีดา”
ท่านฮาซาร่าได้สติเป็นคนแรก ท่านถามพร้อมกับส่งยิ้มไปให้เด็กสาวที่ท่านและลูกสะใภ้อุปการะเอาไว้อย่างอ่อนโยน ส่วนท่านหญิงราเซียน่าถึงกับพูดไม่ออก เพราะไม่รู้จะเริ่มประโยคไหนดี
ท่านอดสงสารเด็กสาวที่ท่านอุปการะมาหลายปีไม่ได้ ท่าทางและอาการแบบนี้คงจะได้ยินเรื่องทั้งหมดแล้ว
แต่มันก็ดีเหมือนกัน ต่อไปท่านจะได้เลิกยุ่งเรื่องของหนุ่มสาวคู่นี้เสียที หรือท่านอาจจะทำตามแม่สามีก็ได้ เลือกผู้ชายที่ดีๆ ให้ฟารีดาสักคน เพราะท่านคำนวณดูแล้วว่าชีคคาลิคไม่เหมาะที่จะเป็นสามีของหนูฟารีดาแม้แต่นิดเดียว คนไม่รักกันจะบังคับกันไปทำไม
ชีคคาลิคถึงกับพูดไม่ออก จ้องมองใบหน้างามอย่างตกตะลึง เพราะไม่คิดว่าเด็กสาวที่เคยบอกว่ารักเขาเมื่อหลายปีก่อนจะสวย น่ารักถึงเพียงนี้ ริมฝีปากอวบอิ่มแดงระเรื่อตามธรรมชาติ คิ้วโก่งเหมือนคันศร จมูกโด่งสวยได้รูป ผิวขาวเนียนอมชมพู ดวงตาก็หวานซึ้งจนยากที่จะถอนสายตาไปไหนได้
“มาได้สักพักแล้วค่ะท่านย่า ท่านป้า”
ฟารีดาตอบกลับเสียงอ่อนหวาน เท้าเล็กย่างเท้าเดินเข้ามาภายในห้องโถงด้วยความสงบเสงี่ยม สายตาคู่หวานมองผู้มีพระคุณด้วยความคิดถึงและระลึกอยู่เสมอว่าที่เธอมีทุกวันนี้ได้ก็เพราะความกรุณาของพวกท่านทั้งสอง
“หนูคงได้ยินเรื่องทั้งหมดแล้วใช่ไหม”
ท่านฮาซาร่าเอ่ยขึ้นทันที ยิ่งเห็นอาการอึ้ง ตะลึงไปของหลานชายท่านก็ยิ่งรู้สึกสะใจไม่น้อย ในเมื่อท่านหาสตรีที่ดีมาให้แต่งงานดันไม่ต้องการ ต่อไปท่านก็จะขัดขวางให้ถึงที่สุด เพราะท่านคิดที่จะหาผู้ชายที่ดีและเหมาะสมกับเด็กสาวคนนี้เอาไว้แล้ว คิดว่าคนที่ท่านเลือกให้แต่งงานกับฟารีดาคงจะเหมาะสมกว่าชีคคาลิคแน่นอน
“ค่ะท่านย่า” ฟารีดาตอบ
“แล้วหนูคิดอย่างไรกับเรื่องนี้”
“ฟารีดาแล้วแต่ท่านย่ากับท่านป้าค่ะ”
ฟารีดาตอบโดยไม่ได้หันไปมองคนข้างกายที่หันมามองเธอเลยสักนิด เธอเองก็ไม่อยากแต่งงานกับเขาอยู่เหมือนกัน ในเมื่อเรื่องตอบแทนบุญคุณเธอก็ทำไปแล้ว แต่ในเมื่อชายหนุ่มปฏิเสธ ก็ถือว่าเธอไม่ผิดที่ไม่ได้แต่งงานกับเขา
แบบนี้ก็ดีเหมือนกันเพราะเธอจะได้ไม่ต้องหาข้ออ้างมาคุยกับผู้มีพระคุณทั้งสองให้ลำบาก เพราะคนที่ไม่อยากแต่งงานไม่ใช่มีแต่เธอเสียหน่อย ผู้ชายที่นั่งอยู่ข้างเธอก็ไม่อยากแต่งกับเธอเช่นกัน
“กลับมาทำไมไม่โทรมาบอกป้าล่ะลูก ป้าจะได้ให้ฮาซิมไปรอรับที่สนามบิน”
ท่านหญิงราเซียน่าเอ่ยขึ้น เมื่อนึกถึงการมาของฟารีดา ท่านเหลือบมองบุตรชายด้วยหางตา ตอนนี้เองที่ท่านรู้สึกสะใจแกมหมั่นไส้ ยามเมื่อเจ้าลูกตาคู่คมกล้าที่หันมามองว่าที่ชีคคา เอ๊ะ! ต้องบอกว่าอดีตว่าที่ชีคคาของตัวเองมากกว่า
“ฟารีดาเกรงใจน่ะค่ะท่านป้า” ฟารีดารับสั้นๆ กระชับได้ใจความ
“เรื่องที่ย่าคุยกับพี่เค้าหนูได้ยินหมดแล้วใช่ไหม”
“ได้ยินหมดแล้วค่ะท่านย่า”
“ถ้าอย่างนั้นเรื่องแต่งงานถือเป็นอันยกเลิก เพราะพี่เขาก็ไม่อยากแต่งงานกับหนู ไม่เป็นไรใช่ไหม อีกอย่างหนูก็ไม่อยากแต่งงานกับพี่เขาเหมือนกันนี่”
ท่านฮาซาร่าถามย้ำอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ สำหรับท่านรู้ดีว่าตอนนี้หลานชายคงกำลังนึกเสียดายแม่หนูฟารีดาแน่นอน เพียงแต่ไม่กล้าพูดหรือโวยวายอะไรออกมา เพราะคนที่ขัดขวางงานแต่งในครั้งนี้ก็มีแต่เจ้าตัวเอง ส่วนคนที่เคยถูกขอให้แต่งงานกลับไม่ต้องทำอะไรเลยสักนิด เพราะอีกฝ่ายดันโวยวายไม่ยอมรับการแต่งงานในครั้งนี้อยู่ก่อนแล้ว
...โปรดติดตามตอนต่อไป...