“อย่าอาลัยอาวรณ์กันมากมายนักเลยคุณชาย รับรองว่าผมจะดูแลคุณหญิงอย่างดี ตามมาตรฐานนางบำเรอของผมทุกกระเบียดนิ้ว และถ้าคุณชายคิดถึงน้อง ผมก็อนุญาตให้มาเยี่ยมได้ แต่แค่คุณชายคนเดียวเท่านั้นนะ และจะต้องบอกผมล่วงหน้าอย่างน้อยหนึ่งวัน ขอบคุณที่กรุณาวกรถกลับมายืนยันความชั่วของตัวเองอีกครั้ง ถ้าจะกลับก็เชิญ”
สองพี่น้องจ้องมองชายที่ไร้มารยาทแทบจะพร้อมกัน กันต์กวีหุนหันออกจากห้องทันทีเพราะทนไม่ได้ ส่วนกัญญาวีร์ก็สาวเท้าหมายจะตามพี่ ถึงจะกลับไม่ได้อย่างน้อยๆ ก็ขอให้ได้ไปคุยไปถามอะไรต่อมิอะไรให้ได้มากกว่านี้ก็ยังดี
“จะไปไหนครับคุณหญิง” แต่สิงหรัฐก็คว้าต้นแขนเอาไว้ได้ ก่อนตัวจะทันได้ถึงบานประตูอีก
“ปล่อยนะ!!! ฉันจะไปคุยกับพี่ชาย!!!”
“หมดเวลาที่คุณจะทำหน้าที่น้องแล้ว ต่อไปก็มีแต่หน้าที่นางบำเรอของผมเท่านั้นที่คุณจะต้องท่องเอาไว้ให้ขึ้นใจ”
“ไม่!!! ปล่อยนะฉันจะไปกับพี่ชาย!!!”
“ผมคิดว่าคุณเข้าใจดีแล้วซะอีกว่าอะไรจะตามมา หลังจากที่คุณก้าวขาออกจากบ้านผมไป คิดว่าผมไม่กล้าเหรอ จะบอกให้นะว่าผมทำได้มากกว่าที่คุณคิดไว้ซะอีก รวมทั้งการเป็นผัวคุณด้วย คุณเองก็รู้แล้วนี่จากเมื่อคืนที่ผมแสดงบทบาทได้ดีเยี่ยมถึงสองครั้ง แต่ดูเหมือนว่าคุณจะยังไม่พอใจ หรือไม่ก็ติดใจจนอยากให้ผมเล่นบทนั้นอีก ผมคิดไว้แล้วว่าโดนไม่กี่ที คุณก็จะติดใจเจ้าน้องชายผม จนต้องเรียกร้องให้ผมกลับมาปรนเปรอให้ใหม่ แม้กระทั่งกลางวันแสกๆ ที่ชาวบ้านชาวช่องเขาทำมาหากินกัน คุณก็ยังไม่วายคิดแต่เรื่องบนเตียงที่มีผม...”
‘เผียะ’
“หยาบคาย!!! สกปรก!!! ฉันไม่เคยเห็นใครจะมีความคิดต่ำช้าได้เท่าคุณมาก่อนในชีวิต!!!”
เขายกมือขึ้นลูบแก้มที่ถูกฟาดลงไปเป็นหนที่สามถ้าจำไม่ผิด สลับกับจ้องมองใบหน้าโกรธแค้น กับปากอิ่มที่กำลังด่าทอเขาอย่างที่ไม่เคยมีผู้หญิงไหนกล้าทำมาก่อน
“และผมจะบอกคุณไว้ตรงนี้ว่า ทุกครั้งที่คุณตบผม ด่าผม ขัดขืนคำสั่งผม หรือคิดจะหนี คุณจะต้องชดใช้ด้วยสิ่งนี้”
“ไม่!!! ปล่อยฉันนะ!!! ปล่อยๆ ๆ บอกให้ปล่...”
ร่างบางถูกเขารวบกอดแล้วจูบอย่างรวดเร็วและรุนแรง แม้สาวสูงศักดิ์จะดิ้นรนยังไงเขาก็ไม่สน จนเรี่ยวแรงแทบจะหดหาย เขาจึงช้อนกายเบาหวิวขึ้นตรงไปหาเตียง พละกำลังที่เหลือน้อยเต็มทีจึงถูกระดมลงไปหากำปั้นแล้วทุบไปที่อกบึกบึนของเขา ปากก็ร้องลั่นห้อง
“ออกไปให้พ้นนะ!!! ฉันเกลียดคุณ!!! ปล่อยฉันนะ!!! บอกให้ปล่อย!!!”
แต่เขาหรือจะสน พอโยนร่างบางลงไปหาเตียงได้ ก็รีบตามขึ้นไปคร่อมไว้ แล้วรวบสองแขนที่ฟาดฟันเขาไว้กับที่นอน ก่อนจะทาบกายสูงใหญ่ลงไปหา
“ไม่นะ!!! ออกไปให้พ้น!!! ฉันเกลียดคุณ!!! ออกไป!!! อย่ามายุ่งกับฉัน!!! ได้ยินมั้ย!!! ฉันบอกให้ออ..”
และอีกเช่นกันที่เขาไม่สนใจน้ำคำห้ามปรามเลยแม้แต่นิดเดียว เมื่อกายสาวที่พยายามดิ้นรนขัดขืนเปรียบเสมือนยั่วยุและเชิญชวนให้เขาทิ้งงานกลางแจ้งมาเป็นงานในร่มห่มผ้า ได้แนบชิดกายาอันแสนเย้ายวนใจอย่างไม่ยากเย็นเลยสักนิด
“อื้ห์มมมม”
เจ้าของกายเปลือยเปล่าตกใจแทบช็อก เมื่อเสียงของตัวเองดังเล็ดลอดออกมาจากลำคอทันทีที่เขาก้มลงไปลิ้มลองกายสาวอย่างรวดเร็ว โชคยังดีที่ระงับเสียงเอาไว้ได้ในการรุกครั้งที่สองสามและสี่อย่างจงใจและชอบใจ
มันยากยิ่งที่จะฝืนความต้องการส่วนลึกที่เรียกร้องให้ตอบสนองทางกายกับเขา แม้จะสะกดกลั้นเอาไว้จนปลายเท้างองุ้ม มือเครียดเกร็งจนต้องรวบกำหมอนเอาไว้ แต่เหมือนเขาก็รู้ว่าสาวสูงศักดิ์กำลังต่อสู้กับอะไร เลยได้ใจหยอกเย้าเล้าโลมอย่างไม่คิดจะยอมแพ้
“คุณจะฝืนไปทำไม ไม่มีใครเอาชนะสิ่งนี้ได้หรอก คุณเองก็รู้ดีจากสองครั้งของเรา”
“ฉันเกลียดคุณ! ออกไปให้พ้นๆ ฉันจะไม่มีวันยอ...”
ไม่รู้ทำไมเขาถึงไม่อยากฟังน้ำเสียงดุดันของหญิงสาวนัก จนต้องปิดปากไว้ด้วยปากในทันที มือก็ควานหาความสุขจากอกงามที่เต่งตึงพอดิบพอดีมือ หรืออาจจะน้อยไปนิด แต่เขาไม่ถือเป็นปัญหาสำคัญ
เพราะอีกไม่นานเขาจะทำให้ขนาดเพิ่มขึ้นมาได้อีกเล็กน้อย จากการขยับจับต้องและครอบครองทั้งด้วยปากและอุ้งมือมารเยี่ยงเขา และไม่รู้ทำไมหัวใจถึงได้อิ่มสุขนัก เมื่อได้แนบชิดอยู่กับสาวสวยแสนบริสุทธิ์พ่วงท้ายด้วยสายเลือดของราชนิกุลอันสูงส่ง
ผิดกับอีกราชนิกุลที่ยืนเอาหลังพิงผนังนอกห้อง ซึมซาบเอาความทุกข์ที่น้องกำลังได้รับ จากน้ำมือชายที่มั่นใจได้ว่าน้องคงจะเกลียดยิ่งกว่าอะไรในโลกเป็นแน่ กันต์กวีเข่าอ่อนจนต้องทรุดนั่งลงกับพื้นด้วยความเสียใจยิ่ง กับการกระทำอันไม่ยั้งคิดของตัวเอง
และเมื่อเดาได้ว่าสภาพของน้องจะเป็นยังไงทุกข์ทรมานสักแค่ไหนในขณะนี้ เขาก็ไม่อาจจะทนอยู่ให้ได้ยินเสียงแห่งความทุกข์ของน้องได้อีกแล้ว จึงพากายลุกขึ้นเดินลงบันไดตรงไปหารถ กำลังจะสตาร์ทแต่ก็หันไปเห็นกระเป๋าเสื้อผ้าใบย่อมของน้องก่อน จึงคว้าเอาไว้วางไว้ตรงขั้นบันได
“ฝากให้น้องหญิงด้วยนะครับป้า”
ประจวบเหมาะกับแม่บ้านอ้วนอวบเดินมาพอดี เลยยื่นให้แทน แล้วรีบตรงไปหารถขับออกไปอย่างรวดเร็ว จะได้ไม่ต้องคิดเรื่องน้องอีก แต่ไม่มีทางที่จะทำได้ ตลอดเวลาที่รถแล่นจากสอยดาวถึงบ้านแถวยานนาวา แทบไม่มีแม้แต่วินาทีไหนเลยที่จะลืมน้องได้
“ชายฟ่าง! เป็นยังไงบ้าง ได้สร้อยกลับมาหรือเปล่า พี่จะรั้งท่านแม่ไว้ไม่ไหวแล้วนะ วันนี้สั่งพี่สองรอบแล้วว่าให้เอาออกมาขัด”
พี่สาวยืนรออยู่หน้าประตูด้วยท่าทีร้อนรนชนิดที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน เพราะส่วนใหญ่พี่จะรักษาความเป็นกุลสตรีไว้ได้อย่างครบถ้วน