EP 32

1270 คำ
“ป้าอยากให้เขาก็ไปเอาเองสิ!!! มาใช้หนูทำไม หนูก็ทำงานนะ ไม่ว่างหรอก!!!” อีกเสียงก็ดังไม่แพ้กัน “วะ!!! อีนี่!!! ใช้ดีๆ กลับมาย้อน แกจะไปหรือไม่ไป!!!” “ไม่!!! อยากเอาให้เขาทำไมล่ะ!!!” เสียงแหลมปี๊ดของเด็กสาวนามว่า ‘เก่ง’ ดังขึ้นกว่าเดิม กัญญาวีร์อดสงสัยไม่ได้ ทำไมเด็กอายุไม่เกินสิบแปดถึงได้ก้าวร้าวกับผู้ใหญ่อย่างนี้ “ถ้าไม่ไปงั้นแกก็เตรียมกินข้าวกับเกลือได้เลย!!!” ผินมีไม้ตายเสมอๆ บวกกับสาวน้อยเห็นเจ้านายหนุ่มที่เดินคู่กับสาวสวยชมนกชมไม้อยู่ห่างๆ หันกลับมาดูว่ามีอะไรกัน เลยเดินหน้าจ๋อยตรงไปหาผินอย่างหวาดหวั่น “ไปเอาอะไรบ้างล่ะ ทีหลังจะให้อะไรใครดูด้วยสิว่าตัวเองขับรถไม่เป็น จะได้ไม่เที่ยวใช้คนอื่น เบื่อ!!! ไม่ชอบ!!!” กัญญาวีร์ไม่อยากจะมองโลกในแง่ร้ายนัก แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าไม่ถึงยี่สิบนาทีที่ลงเรือนมา ก็ถูกสาวสวยถึงสองคนเหม็นขี้หน้าเข้าให้แล้ว อีกคนไม่แสดงออกอย่างโจ่งแจ้ง ส่วนอีกคนนั้นแสดงออกนอกหน้าเลยทีเดียว รอบแรกก็ในโรงอาหารที่โยนถุงใส่หน้าไปแล้วหนหนึ่ง “ใครจะเอาอะไรอีกหรือเปล่าล่ะ อีเก่งคนนี้จะได้เอามาประเคนให้ทีเดียวเลย” สาวน้อยหน้าตาสะสวยด้วยการแต่งที่ดูจะเกินชาวสวนมากไปนิดในความคิดกัญญาวีร์ ร้องดังๆ ใส่สาววัยดึกที่ต่างหันไปมองเป็นตาเดียวกัน เมื่อไม่มีใครตอบเจ้าของผมม้าก็เดินสะบัดไปหามอเตอร์ไซคล์ที่จอดไว้ใต้ต้นเงาะห่างออกไปไม่มาก “อย่าไปสนใจมันเลยค่ะคุณ นังนี่มันปากดี ไม่มีสัมมาคารวะด้วย มีแต่คนเบื่อมัน แต่คุณเนย์ไม่ไล่มันออก เพราะมันไม่มีพ่อแม่ อยู่กับป้าตั้งแต่เกิดได้สามเดือน พอป้ากับลุงขายที่สวนให้สิงหา คุณรัตนาสงสารเลยรับเลี้ยงมันไว้เป็นคนงานประจำส่งเรียนหนังสือด้วย แต่มันขี้เกียจเรียน แถมยังคิดว่าตัวเองเป็นคนโปรดของท่าน วางก้ามใหญ่แบบนี้ล่ะค่ะ” “ค่ะ” กัญญาวีร์รับคำแค่นั้น เพราะเข้าใจอย่างแจ่มแจ้งแล้วว่า เขาอาจจะเก็บสาวปากกล้าเอาไว้ดูเล่น เผลอๆ ก็อาจจะเก็บไว้ใช้งานเล่นๆ ยามว่างหรือหาใครมาปรนเปรอความสุขบนเตียงไม่ได้กระมัง หรือไม่ก็ให้ความหวังลมๆ แล้งๆ กับเด็กไว้ ถึงได้วางก้ามขนาดนี้ ยิ้มเยาะเย้ยแกมสมเพชจึงเกิดขึ้นกับใบหน้าสวย ก่อนจะก้มหน้าทำงานต่อโดยไม่หันไปมองสองหนุ่มสาวกำลังเดินไปขึ้นรถแล้วขับออกไป และนั่นทำให้โล่งใจไม่น้อยที่จะได้ทำงานอย่างสบายใจ แม้จะไม่สบายกายเท่าไหร่ แต่งานสวนนี้ใช่ว่าจะไม่เคยทำมาก่อน เวลา ‘ลุงแหวงผู้เงียบขรึม’ ป่วยติดกันนานเกือบเดือน ในวันหยุดก็มักจะถูกพี่สาว ป้าปรุง ป้ามะลิชวนมากวาดใบไม้บ้าง ตัดกิ่งไม้บ้าง ปลูกต้นไม้บ้าง หนักๆ เข้าก็ถึงกับต้องตัดหญ้าในสนามด้วย เมื่อบริษัทจัดสวนคิดค่าแรงแพงหูดับจนรับไม่ได้ ‘แต่บ้านก็มีแค่ไร่เดียว’ และพี่ก็ไม่ได้ใช้ให้ทำความสะอาดบ้าน เก็บล้างจานชามจนเหนื่อยอ่อนก่อนให้มาทำแบบนี้ ไม่รู้ว่าใบไม้มาจากไหนกันนักหนา ขนาดกวาดช่วยกันถึงหกคนก็ยังไม่เสร็จ ยิ่งได้รู้ขอบเขตงานของตัวเองว่ามีมากกว่าของคนอื่นถึงหนึ่งเท่าตัวด้วยแล้ว เรี่ยวแรงที่มีก็แทบจะหดหาย มื้อเช้าที่มีเพียงไข่ลวกกับปาท่องโก๋ ถูกใช้เป็นพลังหมดไปตั้งแต่ตอนล้างห้องน้ำแล้ว มื้อเที่ยงที่กำลังจะเจียวไข่โปะข้าวก็ต้องกลายเป็นหมัน เมื่อต้องจัดการพื้นที่มีอาหารตกเกลื่อนเต็มไปหมด จนต้องปัดกวาดเช็ดถูกให้สะอาดอีกรอบ แล้วก็ต้องรีบกระหืดกระหอบมารอเขาตามคำสั่งอีก “ทำไมต้องกวาดด้วยล่ะคะป้า สวนอื่นกวาดแบบนี้หรือเปล่า” อดสงสัยไม่ได้ “มีบ้างค่ะ แต่สวนนี้ต้องกวาดให้สะอาดเพราะเวลาหน้าผลไม้จะเปิดให้คนมาเที่ยว อีกอย่างจะเอาใบไม้ไปทำปุ๋ยหมักด้วยได้ประโยชน์สองทางเลยต้องกวาดค่ะ” เมื่อจนด้วยเหตุผลกัญญาวีร์เลยเงียบ อีกทั้งเหนื่อยจนไม่มีแรงจะคุยด้วย “ถ้าเหนื่อยก็นั่งพักก่อนนะคะคุณ คนไม่เคยทำ วันแรกก็จะอย่างนี้ล่ะค่ะ” ผินดูเหมือนจะสังเกตเห็นอาการเหนื่อยหอบของสาวชาวกรุงผู้ผอมบางร่างน้อย ผิวขาวราวไม่เคยถูกแดดมาตั้งแต่อ้อนแต่ออก แม้จะอยู่ในเสื้อผ้าธรรมดาๆ แต่ความสง่างามทุกท่วงท่าทุกการเคลื่อนย้ายเปรียบเหมือนนางหงส์ก็ไม่ปาน ส่วนเรื่องหน้าตานั้นไม่ต้องพูดถึง แม้ผินจะเป็นคนบ้านนอกคอกนา ไม่เคยผ่านสังคมเมืองมากไปกว่าอยู่กับไร่กับสวน แต่ก็บอกได้คำเดียวว่าผู้หญิงของเจ้านาย ‘สวยแบบไร้ที่ติจริงๆ’ “บอกให้เขาพักน่ะ ช่วยทำงานในส่วนของเขาด้วยนะป้า อย่าได้เอามาโยนให้คนอื่นเชียว ใครๆ ก็เหนื่อยกันทั้งนั้นล่ะทำงานหนิ ไม่ได้นอนอยู่เฉยๆ จะได้สบาย” สองสาวต่างวัยหันไปหาคนพูดอย่างขุ่นเคืองนิดๆ ในความไม่มีสัมมาคารวะของสาวเจ้าเดิม ผินทำท่าจะอ้าปากด่า “ฟางไม่เหนื่อยเท่าไหร่หรอกค่ะป้า ขอบคุณค่ะ” กัญญาวีร์เลยห้ามไว้ก่อน แล้วหันหน้ากลับไปหางานตามเดิม แม้เข่าจะอ่อน แม้มือจะเจ็บไปหมด ก็ไม่อยากจะทำให้ป้าผู้ใจดีเดือดร้อนเพราะตัวเองนัก แต่ยิ่งมองหน้างานของตัวเองกับของคนอื่น ก็ยิ่งท้อแท้ใจ เพราะเหมือนยังเหลือเท่าเดิมอยู่เลย แม้จะพยายามทำไปเรื่อยๆ แล้วก็ตามที “ดื่มน้ำก่อนค่ะคุณ” ผินเดินเอาขวดน้ำมายื่นให้เจ้าของใบหน้าขาวที่เต็มไปด้วยเหงื่อเม็ดโตๆ ความหิวเรียกร้องให้ต้องรีบรับมาดื่มรวดเดียวจนหมดเกือบครึ่งขวด น้ำตาก็พานจะไหลเมื่อเห็นผินใช้คาดกวาดช่วยอย่างรวดเร็วและว่องไว ตาก็คอยมองเด็กปากร้ายไว้ด้วย ประหนึ่งเกรงกลัวว่าจะเอาไปฟ้องเจ้านายก็ไม่ปาน “ฟางทำต่อเองค่ะป้า ขอบคุณนะคะ ป้าไปทำส่วนของป้าเถอะค่ะ” ด้วยซาบซึ้งกับความมีน้ำใจของคนที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนด้วยซ้ำ ยิ่งอัดอั้นตันใจเมื่อเทียบกับพี่ชายอันเป็นที่รัก ที่รู้จักกันมาตั้งแต่เกิด แต่กลับส่งน้องมาอยู่ในมือมัจจุราชผู้โหดร้ายทารุณโดยไร้เหตุผล ไร้ต้นสายปลายเหตุ มือบางยกขึ้นปาดน้ำตาออกจากแก้ม เมื่อความเสียใจและความเหนื่อยแล่นมารุมเล่นงานร่างน้อยๆ ร่างนี้ จนแทบจะไม่มีแรงยืน หากไม่อับอายผู้คนรอบข้างก็อยากจะนั่งร้องไห้ลงตรงนี้ให้สาสมใจ แต่ก็ทำได้แค่คิดและทำงานไปพร้อมกับน้ำตาเท่านั้น เพราะไม่อยากแสดงให้ใครได้เห็นถึงความอ่อนแอ โดยเฉพาะเขาที่ป่านนี้อาจจะยืนสะใจที่ได้ทำให้เชลยไถ่ถอนคนนี้ทำงานจนหัวหมุนอยู่ก็เป็นได้
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม