สิ่งที่ปกคลุมเราเอาไว้คงเป็นความเงียบที่ไร้ที่สิ้นสุด ในใจของทารีน่านั้นอัดแน่นไปด้วยความรักอันมากมายจนแทบจะล้นทะลักออกมา แต่มันกลับพูดออกไปไม่ได้เลย..
เธอบอกเขาได้เพียงแค่เธอนั้นรักเขา แต่เรื่องเหตุผลของการตกหลุมรักนั้น..บอกเขาไม่ได้อย่างเด็ดขาด
สายตาของทารีน่าทอดมองใบหน้าที่เย็นชาของเขาซึ่งกำลังเดินถอยออกไปจากในห้องนอนของเธออย่างช้าๆ
ประตูห้องถูกปิดลงพร้อมกับมาไคล์ที่เหมือนจะทำตัวไม่ถูก เขาแค่ตกใจเล็กน้อยกับท่าทีการแสดงออกของนาง
โรแกนคืออดีตตระกูลอาร์ดดยุค ถึงแม้ว่าพอทารีน่าขึ้นเป็นผู้นำตระกูลแทนพ่อของนาง อำนาจทางการเมืองจะลดถอยลงไปบ้างแต่เรื่องอำนาจในแวดวงสังคม ทารีน่ายังคงกุมมือเอาไว้ในมืออย่างเหนียวแน่น ทุกธุรกิจของโรแกนร่ำรวยมาจากทารีน่าทั้งสิ้น สตรีผู้นี้มิได้มีดีแค่หน้าตาแต่ความสามารถในการทำงานของนาง นับว่าดียิ่งนัก
“ข้าไม่คิดว่าท่านดยุคยังสมควรจะอยู่ที่นี่ ในเมื่อเจ้าของคฤหาสน์โรแกนไม่สะดวกออกมาต้อนรับท่านในฐานะแขกของที่นี่แล้ว เช่นนั้นท่านก็ควรจะเดินทางกลับได้แล้ว”
ปัญหาเล็กๆ ของทารีน่าคือนางมีคู่หมั้นที่หวังดีกับนางมากกว่าใครอย่างวินเทอร์
“เคาน์ทรอย ถึงแม้ว่าข้าจะไม่ใช่คู่หมั้นของนางแต่ข้ารับรองได้เลยว่าผู้นำตระกูลโรแกนในยามนี้นางต้องการข้ามากกว่าท่านแน่นอน”
ท่าทีมั่นอกมั่นใจของดยุคแห่งทารอนมันชวนให้วินเทอร์รู้สึกหมั่นไส้จนต้องเบือนหน้าหนี
“แล้วอย่างไร ครั้งก่อนกับองค์รัชทายาท รินาก็เป็นเช่นนี้แต่แล้วในยามนี้นางก็ไม่ได้ให้ความสนใจกับองค์รัชทายาทอีกแล้ว จริงอยู่ที่ในยามนี้นางสนใจท่านแต่ระยะเวลาในความสนใจของนาง มันจะนานเท่าไหร่กันเชียว”
มาไคล์หัวเราะเสียงดัง เขายกมือขึ้นมาเสยผมสีดำสนิทจนตอนนี้มันไม่เป็นทรงอีกแล้วก่อนจะจ้องมองใบหน้าของวินเทอร์
“นานเท่าไหร่เรื่องนั้นข้าเองก็ไม่ได้สนใจเหมือนกัน เพราะว่าในยามนี้ทารีน่าในมุมมองของข้า นางคงจะเป็นของเล่นแก้เบื่อชิ้นใหม่ของข้าเพียงเท่านั้น แต่เคาน์ทรอยตัวเจ้าเองเถอะควรจะพยายามมากกว่านี้หน่อยเถอะ เพราะขนาดเจ้าอยู่ข้างกายนางมาหลายปีขนาดนี้นางยังไม่สนใจเจ้าเลย..”
วินเทอร์คิดว่าการเถียงกับดยุคแห่งทารอนนั้นเป็นเรื่องไร้ประโยชน์ เขาจึงเปิดประตูเข้าไปด้านในเพื่อจะเข้าไปดูอาการของทารีน่า แต่เมื่อเขาเปิดประตูออกก็พบว่าทารีน่ากำลังยืนอยู่หน้าประตู
สีหน้าของทารีน่าพลันเห่อร้อนขึ้นมาเมื่อนางถูกจับได้ว่ากำลังแอบฟัง อันที่จริงนางไม่ได้เจ็บป่วยตรงไหนเพียงแค่ดีใจมากไปหน่อยเท่านั้น นางกำลังจะเดินออกไปหาท่านมาไคล์ แต่กลับมาได้ยินบทสนทนาของเขากำลังพูดคุยกับท่านพี่วินเทอร์
จริงอยู่ที่ท่านมาไคล์คือเมนของเธอ จริงอยู่ที่เธอชอบเขาจนแทบบ้า แต่ครั้งนี้เขาทำตัวไม่น่ารักเกินไปหน่อย เพราะเขากล้าพูดทำร้ายจิตใจท่านพี่วินเทอร์ของนาง!!
ทารีน่าเดินเข้าไปหาวินเทอร์ก่อนที่เธอจะจับมือของเขาเอาไว้
“ข้าไม่เป็นไรแล้วค่ะท่านพี่ ขอบคุณที่ท่านรีบมาหาข้า..”
วินเทอร์ยกมือขึ้นมาเพื่อลูบผมของทารีน่าเบาๆ ด้วยความเอ็นดู เขาแตะฝ่ามือลงไปที่หน้าผากของนางเพื่อทำการวัดไข้
“ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว เจ้าพักสักหน่อยเถิดอย่าพึ่งกลับไปทำงานเลย”
แบบนั้นไม่ได้สิ เธอพึ่งจะให้พ่อบ้านจัดการเตรียมนักระบำชายเอาไว้ต้อนรับแล้ว จะพักได้ไง..
“เข้าใจแล้วค่ะ ท่านพี่กลับไปทำงานของท่านเถิดไม่ต้องเป็นห่วงข้า”
ดวงตาของมาไคล์พลันหรี่ตาลง นี่ทั้งสองคนนั่นกำลังพูดคุยเหมือนมองไม่เห็นเขายังไงอย่างนั้น
“ข้าเองก็จะกลับแล้วเหมือนกัน อย่าลืมเรื่องที่ข้านัดหมายเอาไว้ งานวันชาติข้าจะมารับเจ้า..”
ทารีน่าเหลือบมองท่านพี่วินเทอร์เล็กน้อย
“เข้าใจแล้วค่ะ ขอบคุณท่านดยุคที่เลือกข้าเป็นคู่ควงเพียงแต่ท่านพี่วินเทอร์ของข้าเองก็ไม่มีคู่ควงเช่นกัน เราไปพร้อมกันสามคน..”
“นี่เป็นโอกาสที่ข้าหยิบยื่นให้เจ้านะทารีน่า ไหนบอกว่ารักและชื่นชอบข้าแล้วเหตุใดยังต้องสนใจพี่ชายของเจ้าอีกล่ะ?”
เขาจงใจเน้นย้ำคำว่าพี่ชายเพื่อให้วินเทอร์รับรู้ฐานะของตัวเอง และการเน้นย้ำของมาไคล์มันทำให้วินเทอร์รู้สึกเดือดดาลขึ้นมา
“ท่านดยุค..”
ทารีน่ารีบเอาตัวไปขวางระหว่างทั้งสองคนเอาไว้ บอกตามตรงว่าเธอกำลังทำตัวไม่ถูก
แน่นอนว่าเธออยากจะไปงานวันชาติพร้อมกันกับมาไคล์ แต่เพราะคำสารภาพรักของท่านพี่วินเทอร์เมื่อวันก่อนมันทำให้เธอไม่สามารถทำร้ายจิตใจของเขาได้ดี แถมช่วงเวลาที่ผ่านมาเขาล้วนทำดีกับเธอมาโดยตลอด
ในเมื่อมันเลือกไม่ได้จะไปพร้อมกันสามคนมันผิดตรงไหนกันล่ะ?
“ข้าคิดว่าการไปพร้อมกันทั้งสามคนไม่ใช่เรื่องผิด เอาเป็นว่าข้าจะจัดเตรียมชุดที่ใส่คู่กันส่งไปให้ท่านดยุคที่คฤหาสน์ทารอนนะคะ”
มาไคล์มองหน้าของทารีน่านิ่งๆ เขาจับปลายผมสีแดงสดของเธอมาจุมพิตลงไปเบาๆ ก่อนจะส่งยิ้มให้เธอ
“เอาตามที่เจ้าว่าก็ได้ หวังว่าการสัมผัสในครั้งนี้เจ้าจะไม่เป็นลมไปอีกเพราะหากทำแค่นี้เจ้ายังเป็นลม เวลาที่ทำมากกว่านี้เจ้าจะรับข้าไหวได้อย่างไรกัน”
เป็นอีกครั้งที่ทารีน่ารู้สึกเหมือนว่าพื้นที่ตัวเองยืนอยู่นั้นมันกำลังพังทลายลงไป เหมือนร่างกายของเธอร่วงลงไปจากตึกยี่สิบชั้นกระแทกลงที่พื้นด้านล่าง
เธอยกมือขึ้นมากุมหัวใจเอาไว้พร้อมกับมองตามแผ่นหลังของเขาไปจนลับสายตา
ให้ตายเถอะ เมนของฉันทำไมทำท่าทางแบบไหนก็ดูดีไปซะหมด หัวใจของฉันจะรับไหวได้ยังไงกัน
“รินา หากว่ายืนไม่ไหวพี่พาเจ้าไปนั่งในห้องก่อนดีไหม?”
วินเทอร์จับจูงมือของเธอเข้าไปในห้องนอน เขาส่งสายตาเพื่อไล่หมอและสาวใช้ออกไปให้หมด อันที่จริงในตอนที่พูดคุยกันกับดยุคทารอน เขาได้ยินเสียงฝีเท้าที่มาหยุดอยู่ตรงหน้าประตูและเขาค่อนข้างมั่นใจว่ามันคือฝีเท้าของทารีน่า เพราะอย่างนั้นเขาจึงได้จงใจพูดจายั่วยุดยุคทารอนออกไป เพื่อให้หมอนั่นพูดเรื่องแย่ๆ ออกมา
เขาหวังว่าจะได้เห็นสายตาที่โกรธเคืองของทารีน่าที่มองไปยังท่านดยุค แต่ไม่เลย..
นางไม่แม้แต่จะโกรธหมอนั่น แสดงว่าความรักที่ทารีน่ามีต่อท่านดยุคนั้นเป็นเรื่องจริงสินะ คราวนี้คงไม่ได้เล่นๆ แล้วเพราะดูเหมือนว่านางจะหลงรักดยุคซะเต็มหัวใจ
พี่ปล่อยให้เจ้าสนใจเขาขนาดนั้นไม่ได้หรอกทารีน่า..คราวนี้พี่ไม่ยอมอยู่เฉยๆ เพื่อมองเจ้าถูกแย่งชิงไปอีกแล้ว