6. อาจ้านหนักขึ้น

1031 คำ
เซวียนหยางนึกไม่ถึงว่าจู่ๆ ฝั่งใต้เท้าหลิวจะเอ่ยเรื่องนี้ขึ้นมา สีหน้าเขาเรียบเฉย ขณะที่มือแกร่งแอบกำแน่นอยู่ใต้แขนเสื้อกว้าง จังหวะนั้นขุนนางฝั่งขวาผู้หนึ่งก็ก้าวออกจากแถว มือประสานกันอยู่ด้านหน้า ก้มตัวลงเล็กน้อย “ทูลฝ่าบาท กระหม่อมมีเรื่องสำคัญจะกราบทูลเช่นกันพ่ะย่ะค่ะ” เซวียนหยางปรายตามองเขา หากจำไม่ผิดเขาคือใต้เท้าซู “ท่านมีเรื่องใด เชิญกล่าวมา” ขุนนางทั้งสองฝั่งย่อมค้านอำนาจกันเองอยู่แล้ว ใต้เท้าซูเอ่ย “ทูลฝ่าบาท เรื่องของฮองเฮาพ่ะย่ะค่ะ” จบประโยคนั้น เสียงฮือฮาในท้องพระโรงก็ดังขึ้นอีกครั้ง เฉินกงกงเห็นว่าท้องพระโรงดูเหมือนจะวุ่นวาย จึงก้าวออกมาแล้วโบกแส้หางม้า “ทุกท่านโปรดอยู่ในความความสงบ ท้องพระโรงแห่งนี้หาใช่ตลาดไม่” เสียงฮือฮาเงียบลงทันใด เซวียนหยางจึงผายมือไปยังใต้เท้าซู ให้เขาพูดต่อไป ใต้เท้าซู “บ่าวเลี้ยงม้าที่ถูกกล่าวหาว่าลอบเป็นชู้กับฮองเฮา ความจริงแล้วไม่ใช่พ่ะย่ะค่ะ...” ใต้เท้าเหลียงซึ่งตัวแทนอีกฝั่งขัดขึ้น “ใต้เท้าซู เหตุใดถึงกล่าววาจาเลื่อนลอย ในเมื่อบ่าวเลี้ยงม้าคนนั้นก็สารภาพความจริงหมดแล้ว อีกทั้งยังมีพยานหลายปาก คนพวกนั้นเห็นกับตาว่าฮองเฮาทรงเสด็จไปที่คอกม้าและหายเข้าไปในโรงเก็บฟางกับบ่าวเลี้ยงม้าสองต่อสอง” ใต้เท้าซู “กราบทูลฝ่าบาท ฮองเฮาทรงถูกใส่ร้ายพ่ะย่ะค่ะ บ่าวเลี้ยงม้าผู้นั้นถูกใครบางคนซื้อด้วยเงินให้กล่าววาจาเท็จให้ร้ายฮองเฮา พระนางไม่เคยได้เสด็จไปคอกม้าเพียงลำพังพ่ะย่ะค่ะ” ใต้เท้าซูคุกเข่าลง “ฝ่าบาท! โปรดทรงไต่สวนเรื่องนี้ใหม่ด้วยเถิดพ่ะย่ะค่ะ” เซวียนหยางสีหน้าเคร่งขรึม เขาโน้มตัวไปข้างหน้า จ้องหน้าใต้เท้าซู นัยน์ตาดุดัน “ผู้ใดให้ร้ายฮองเฮา ท่านกล่าวออกมา” ใต้เท้าซูแอบเหงื่อตกอยู่เหมือนกัน เขาโขกศีรษะลงกับพื้น ความจริงแล้วเขาได้รับคำสั่งจากไทเฮาให้พูดเช่นนั้นออกไป โดยไทเฮาเอ่ยปากรับประกันว่าจะช่วยเหลือทุกทางหากมีอะไรเกิดขึ้น และในปีหน้า ก็จะช่วยให้บุตรสาวเข้ามาเป็นสนมในวังหลวง ใต้เท้าซู “กราบทูลฝ่าบาท ผู้ใดให้ร้ายฮองเฮา เรื่องนี้เดาได้ไม่ยากพ่ะย่ะค่ะ” ใต้เท้าเหลียงกระหยิ่มยิ้ม “กราบทูลฝ่าบาท ใต้เท้าซูกล่าวเลื่อนลอยโดยไร้พยานหลักฐาน ผู้ใดจะโง่งมรับเงินคนอื่นเพื่อโกหกว่าตนเองเป็นชู้กับสตรีเบื้องสูง โทษทัณฑ์ถึงตาย ตายแล้วจะนำเงินไปใช้เงินอย่างไรล่ะ...ใต้เท้าซู” เซวียนเหยียดหลังตรง ยกมือคลึงขมับ ท่าทางเหนื่อยล้าเต็มที “ใต้เท้าเหลียงกล่าวมามีเหตุผล ใต้เท้าซูจะกล่าวอะไรควรมีหลักฐาน หรือหากท่านรู้ว่าผู้ใดใส่ร้ายฮองเฮาก็พูดออกมาให้แน่ชัด” เซวียนหยางโบกมือ “เอาล่ะ วันนี้พอแค่นี้ เรามีฎีกาอีกมากที่ต้องตรวจสอบ” กล่าวจบฮ่องเต้หนุ่มก็ลุกจากบัลลังก์ เสด็จกลับไปเสียทันที โดยไม่ฟังเสียงคัดค้านของผู้ใด เรื่องนี้ทำให้ใต้เท้าหลิวรู้สึกไม่สบายใจขึ้นมา แม้พยานเท็จทุกคนในวันนั้นจะสิ้นชีพหมดแล้วก็ตาม °°° หลายวันมานี้หลีเจียวยุ่งกับการทำว่าวกระดาษ วันที่ลมแรง นางจะออกมาเล่นว่าวอยู่ลานด้านหน้า เมื่อว่าวลอยสูงอยู่กลางท้องฟ้า หลีเจียวก็จะดูทิศทางของลม เมื่อลมเปลี่ยนทิศทางที่ต้องการ นางก็ให้เสี่ยวม่านตัดเชือกว่าว นางทำเช่นนั้นอยู่หลายวัน ว่าวที่หลีเจียวทำขึ้น นางได้แอบวาดสัญลักษณ์ดอกไม้ประจำตำหนักของไทเฮา เมื่อมีคนเก็บว่าวได้ก็นำไปคืนที่ตำหนักไทเฮา นางแอบเขียนกลอนปริศนาลงบนว่าวกระดาษ กลอนเล่านี้ล้วนเป็นไทเฮาทรงสอนครั้นยังเด็ก ไทเฮาเมื่อเห็นกลอนนั้นก็รู้ทันทีว่าเด็กสาวที่ตนรับมาเลี้ยง และรักนางอย่างลูกหลานต้องการความช่วยเหลือ วันที่ขันทีนำของมาส่ง ไทเฮาได้ทรงสับเปลี่ยนเอาคนของตนมา หลีเจียวได้เขียนเรื่องราวลงบนกระดาษเตรียมไว้แล้ว ฝากขันทีผู้นั้นนำไปให้ไทเฮา เนื้อความบนกระดาษได้บอกเล่าว่าตอนนี้ตนเองได้คลอดลูกฝาแฝดที่น่ารัก พวกเขาล้วนเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของเซวียนหยาง ไทเฮาเมื่อทราบว่าตนเองมีหลานแล้ว ถึงกับปลาบปลื้มยินดีจนน้ำตาไหล อีกทั้งยังรู้สึกสงสารที่พวกเขาต้องลำบากอยู่แต่ในนั้น ตอนนี้เด็กๆ คลานคล่องขึ้นและเริ่มตั้งไข่แล้ว เซวียนจ้านยืนเกาะขาเสด็จแม่ พยายามปีนขึ้นเสียให้ได้ “แอ้ๆ” หลีเจียวยืนสั่งงานนางกำนัลเรื่องอาหารของเด็กๆ นอกจากให้พวกเขาดื่มนมแม่แล้ว ก็สลับเป็นพวกฟักทองบด ไม่ก็ไข่แดงบด หลีเจียวรู้สึกว่าเซวียนจ้านเป็นเด็กติดมารดา เขาเป็นเด็กซุกซนขี้โวยวาย และก็ขี้อ้อนมากเช่นกัน ส่วนน้องสาวฝาแฝดเซวียนจู นางค่อนข้างเรียบร้อยไม่ขี้โวยวาย หากนางอยากอ้อน ก็แค่เอนศีรษะซบตัวมารดา หลีเจียวเห็นเช่นนั้นก็จะอุ้มนางมากอดแนบอก หลีเจียวอุ้มเซวียนจ้านขึ้น นางขมวดคิ้ว ก้มมองบุตรชาย “อาจ้านหนักขึ้นหรือไม่ ต่อไปแม่คงอุ้มเจ้าไม่ไหวแล้ว” หากพูดถึงเรื่องกินก็เซวียนจ้านเช่นเดิม หลีเจียวรู้สึกเขาตัวหนาขึ้น จับตรงไหนก็เต็มไม้เต็มมือ เซวียนจ้านไม่สนใจที่เสด็จพูด เขาเอนศีรษะพิงอกนิ่มฟูของมารดา ดูดนิ้วมือดังจุ๊บๆ ส่วนเซวียนจูกำลังนั่งดูนางกำนัลพี่เลี้ยงเล่นละครหุ่นกระดาษ นางจดจ้องอย่างใส่ใจ บางครั้งก็ปรบมือหัวเราะชอบใจ หัวเราะคิกอยู่คนเดียว หลีเจียวยิ้มอย่างเอ็นดู ก่อนเดินเข้าไปในห้องเพื่อให้นมลูกชาย
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม