s*x'BF 6
-โมเน่ต์-
"เฮ้อ" ฉันถอนหายใจเฮือกใหญ่ออกมาเมื่อเดินขึ้นมาบนเวทีเป็นที่เรียบร้อย
บ่อยครั้งนักที่วงของพวกเราถูกจ้างวานให้มาแสดงคอนเสริ์ตที่ผับ และเป็นครั้งแรกที่มาผับเเห่งนี้ ได้ยินมาว่าเจ้าของผับนี้นั้นใช้เงินจ้างวานวงของเรามาไม่น้อยเลยละ
ฉันเริ่มดีดกีตาร์เป็นจังหวะเบาๆ ก่อนจะตามด้วยเสียงกลองของไรเฟิลตามมา เป็นเสียงที่บ่งบอกว่าให้เราเริ่มบรรเลงเพลงได้แล้ว
ฉันสูดหายใจเข้าลึกๆก่อนจะเปล่งเสียงทักทายผู้คนออกมา ในวันนี้เพลงที่ฉันร้อง ไม่ใช่เพลงที่บริษัทสังกัดของฉันเเต่งขึ้น แต่เป็นเพลงที่โคฟเวอร์มากจากของคนอื่น
"ขอบคุณทุกๆคนมากเลยนะคะที่มารับชมการแสดงดนตรีของพวกเราในวันนี้" ฉันเกริ่นขึ้นพร้อมกับเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงที่สดใสและตื่นเต้นกับการมาดูของผู้ชมที่มากพอควร ฉันชินแล้วละ กับคนดูที่เยอะขนาดนี้... แต่ฉันก็รู้สึกมีความสุขกับมันอยู่ดี ยิ่งมีคนมาดูมากขึ้นเท่าไหร่ ยิ่งมีความสุขมากเท่านั้น
"กรี๊ดดดด ฉันชอบวงนี้มาตั้งนานแล้ว ผู้ชายคนที่ตีกลองดูหล่อไม่เบา" เสียงของหญิงสาวจากด้านล่างเวทีกรี๊ดร้องออกมาเสียงดัง
"อร๊ายย! แต่คนที่เล่นเบสก็ดูใช้ได้นะ" เสียงแหลมของหญิงสาวที่มารับชมเอ่ยขึ้นอย่างกรี๊ดกร๊าด และฉันได้ยินมันอย่างชัดเจน คนส่วนมากที่มาดูการแสดงของพวกเรานั้นจะมีผู้หญิงเยอะมากกว่าผู้ชาย ก็ในวงของฉันมันมีแต่ผู้ชายนี่นา ก็ต้องมีผู้หญิงมากกรี๊ดกร๊าดมากเป็นธรรมดา
"เพลงที่พวกเราจะร้องในวันนี้ก็คือเพลง นี่แหละความรัก" ฉันบอกออกมา ก่อนจะสูดหายใจเข้าลึกๆและส่งเสียงร้องออกมาด้วยความตั้งใจ.. มือขวาก็เริ่มดีดกีตาร์ให้เข้ากับจังหวะเสียงดนตรี
'เหมือนว่าโลกหมุนเร็วทั้งที่ไม่มีอะไรเคลื่อนไหวเหมือนเราได้พูดคุยกันมากมายทั้งที่ไม่มีเสียงใดเหมือนไม่ได้ยินอะไรสักอย่างนอกจากเสียงหัวใจเหมือนมีอะไรมากเกินบรรยายแต่ว่าฉันรับรู้ได้ เย่'
'แม้ความรู้สึกนี้มันหายไปจากช่วงชีวิตที่ผ่าน โอ้เป็นความรู้สึกนี้ที่ชัดเจนอีกครั้ง เหมือนเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน'
'นี่แหละคือ ความรักคือเสียงที่ดังข้างในหัวใจคล้ายๆ ว่ามีอะไรบางสิ่งที่ทำให้ฉันรู้สึกเมื่อเธอปรากฏในหัวใจนี่แหละความรัก'
'ฉันไม่รู้จริงๆว่าวันพรุ่งนี้จะเป็นเช่นไรฉันไม่รู้จริงๆว่าจะต้องเจอเรื่องดีหรือร้ายรู้แค่ทุกนาทีจากนี้จะไม่เหมือนเดิมต่อไปเพราะว่าในตอนนี้ มีเธอเท่านั้นในหัวใจ'
'แม้ความรู้สึกนี้มันหายไปจากช่วงชีวิตที่ผ่าน โอ้เป็นความรู้สึกนี้ที่ชัดเจนอีกครั้ง เหมือนเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน'
'นี่แหละคือ ความรักคือเสียงที่ดังข้างในหัวใจคล้ายๆ ว่ามีอะไรบางสิ่งที่ทำให้ฉันรู้สึกเมื่อเธอปรากฏในหัวใจ โอ้ว'
'มันคงเป็นเสียงของความรักที่เคยหายไปOh Babyเธอคงเป็นคำว่ารักที่ใจตามหา'
'นี่แหละคือ ความรักคือเสียงที่ดังข้างในหัวใจคล้ายๆ ว่ามีอะไรบางสิ่งที่ทำให้ฉันรู้สึกเมื่อเธอปรากฏในหัวใจ เย่'
'นี่แหละคือ ความรักคือเสียงที่ดังข้างในหัวใจคล้ายๆ ว่ามีอะไรบางสิ่งที่ทำให้ฉันรู้สึกเมื่อเธอปรากฏในหัวใจนี่แหละความรัก'
'I Know This Is Love BabyI Know This Is Love Baby'
ฉันถอนหายใจเฮือกใหญ่ด้วยความเหนื่อยเมื่อร้องเพลงจบ และสูดลมหายใจเข้าอีกครั้งเพื่อเริ่มต้นร้องเพลงใหม่ ทุกคนดูจะส่งเสียงพึงพอใจกับการร้องเพลงฉันพอสมควร
"ขอบคุณสำหรับจากแสดงวันนี้มากๆเลยนะครับ" เสียงพิธีกรเอ่ยขึ้นมาเมื่อวงของฉันแสดงดนตรีเสร็จอันเป็นเรียบร้อย
จริงสิ... ได้ข่าวว่าเขาจะสัมภาษณ์อะไรพวกเราด้วยนี่นา! แต่ไม่เห็นบอกว่าจะถามอะไร สงสัยอยากจะเก็บไว้เป็นความลับละมั้ง...
"เอาละต่อจากนี้ก็เป็นเวลาที่จะมาถึงช่วงQ&A กับวงBullet Shutที่ทุกคนรอคอยนะครับ" เสียงพิธีกรหนุ่มเอ่ยขึ้นอีกครั้ง
"ค่ะ เชิญถามมาได้เลย" ฉันกล่าวขึ้น พร้อมกับนั่งลงตรงเก้าอี้ที่ถูกจัดเตรียมไว้บนเวทีตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้
"งั้นขอเริ่มข้อแรกกันเลยนะครับ" พิธีกรหนุ่มเอ่ยก่อนจะเปิดโพยคำถาม ดูๆแล้วน่าจะมีประมาณ10ข้อได้
"เมื่อไหร่วงBullet Shutจะเปิดเผยหน้าตากันครับ" พิธีกรเอ่ยถามฉัน ซึ่งเป็นหัวหน้าวงด้วยความอยากรู้อยากเห็น
"ไม่นานเกินรอหรอกค่ะ" ฉันบอกออกมาตามความจริง ใช่แล้วละ... อีกไม่นานพวกเราจะเปิดเผยหน้าตา เพราะต้นสังกัดจะขายหน้าตาของเราแทน เขาบอกว่ามันจะทำกำไรได้มากกว่า...
"คำถามต่อไปนะครับ....." พิธีกรเอ่ยบอกก่อนจะพูดคำถามขึ้นมา พร้อมกับให้คนในวงเอ่ยตอบคำถาม
ไม่นานนักการสัมภาษณ์ก็จบลงเป็นอันสิ้นสุด ฉันที่กำลังจะเดินลงจากเวที ก็ต้องหันไปมองทางพิธีกรทันที เมื่อเขาเอ่ยเรียกตัวฉันไว้
"คุณMครับ! อย่าเพิ่งลงจากเวที พอดีหุ้นส่วนผับอยากจะเซอไพร์สอะไรคุณเล็กน้อย"
"เซอร์ไพร์สเหรอ?" ฉันถามออกมาด้วยความสงสัย พร้อมกับย่นคิ้ว หุ้นส่วนของผับ... มาเซอไพร์สฉันคนเดียวเนี่ยนะ!?
"ดะ...เดี๋ยวนี่มันอะไรเนี่ย" ฉันสบถออกมาทันทีด้วยความตกใจ จู่ๆก็มีเสียงดังปึ๋ง แล้วก็มีเส้นใยสายสีที่ใช้สำหรับงานปาร์ตี้หล่นลงมาจากเพดานห้อง พร้อมกับการปรากฏตัวของใครบางคนที่ฉันคุ้นหน้าคุ้นตา... และไม่คิดว่าจะพบเขาที่นี่!!!
'เติ้ล'
"ผมเป็นเพื่อนของเจ้าของหุ้นส่วนผับที่นี่ และมีความในใจที่จะบอกกับผู้หญิงคนนี้" เสียงทุ้มต่ำเอ่ยขึ้น ทำให้ฉันได้แต่ขมวดคิ้วด้วยความสงสัย ความในใจที่เขาพูดถึงมันหมายถึงอะไรกัน!?
"เธอหน้าคุ้นๆชะมัด..." เสียงของเติ้ลเอ่ยกระซิบฉันเบาๆ สายตาคมเข้มจ้องมองแววตาของฉัน มือหนาของเขาดึงผ้าปิดปากของฉันออกมาอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว ก่อนจะ...
"อุ๊บส์!!!" ฉันเบิกตากว่างด้วยความตกใจ เมื่อผู้ชายที่ฉันเคยเข้าไปจูบครั้งนั้น กลับกลายมาเป็นว่าตอนนี้เขากำลังจูบฉันกลางเวที และแถมทุกคนที่อยู่ข้างล่างเวทียังมองมาทางพวกเราสองคนด้วยความช็อก...
"เป็นแฟนกันนะ"
หลายวันต่อมา
-เติ้ล-
"ไอ้พวกเพื่อนเชี่ย เพราะพวกมึงเลย กูเลยเป็นข่าวกับยัยนั่นหนักขนาดนี้" ผมบอกออกมาด้วยความหัวเสีย วันนั้นที่ผมจูบกับยัยนักร้องเสียงใสนั่น มีคนถ่ายรูปเอาไปลงในทวิตไม่น้อย แถมยังรีกันเกือบล้าน และภาพที่ถ่ายก็เห็นหน้ายัยนั่นชัดเจน...
แต่ได้ยินมาว่าไหนๆก็จะเลิกใส่ผ้าปิดปากแล้วไม่ใช่เหรอ ผมเผลอไปดึงของเธอออกก็คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง
"กูเพิ่งรู้ว่าผู้หญิงที่ร้องเพลง คือผู้หญิงที่มาหามึงบ่อยๆที่คณะ!" จีโน่เอ่ยขึ้นมา พร้อมกับทำท่านึกย้อนอดีต
ใช่ครับ... คนที่เป็นนักร้องวงนั้น คือ โมเน่ต์ หญิงสาวที่มาหาผมอยู่ทุกๆวัน แต่ตั้งแต่เป็นข่าวกันเมื่อวันนั้น เธอก็ไม่มาหาผมอีกเลย ผมชักจะเป็นห่วงเธอซะแล้วสิ ไม่ใช่ว่าเธอโดนบริษัทต้นสังกัดต่อว่าที่เปิดเผยหน้าตาให้คนทั้งประเทศรู้หรอกนะ...
"กูก็เพิ่งรู้เหมือนกันนั่นแหละ แต่ก็คิดไว้แล้ว..." ผมบอกออกมาพร้อมกับถอนหายใจเฮือกใหญ่
ผมสังเกตุได้ตั้งแต่วันแรกที่เจอเธอแล้ว ผมสีแบบเดียวกัน แววตาที่คล้ายคลึงกันอย่างกับคนๆเดียวกัน แถมขนาดตัวของเธอที่ผมเคยโอบกอดก็เท่ากัน ถ้าไม่ใช่คนคนเดียวก็แปลกแล้ว...
ผมรู้ตั้งแต่ครั้งแรกแล้ว ถึงได้สนใจเธอ และชอบทุกๆอย่างที่เป็นเธอ จนอยากจะรู้จักให้มากกว่านี้
ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาทันที เมื่อรู้สึกได้ว่าโทรศัพท์ของตัวเองสั่นเหมือนมีไลน์เข้า
MoNey : ไปหาที่คอนโดนะ
MoNey : มีเรื่องจะคุยด้วย
Telle'r : เค
Telle'r : ฉันก็มีเรื่องจะคุยกับเธอ
หลังจากที่ผมตอบไลน์ของโมเน่ต์เสร็จ ก็สังเกตุรูปไลน์ของเธอ ผมก็เลยจัดการกดเข้าไปดูเต็มๆ....
ผมดูรูปในไลน์ของโมเน่ต์เสร็จ ก็รีบเก็บโทรศัพท์ลงกระเป๋าทันที ไม่งั้นถ้าไอ้พวกเพื่อนเชี่ยๆนี่มันเห็นว่าผมกำลังดูรูปของยัยนี่ มีหวังล้อผมตายแน่ๆว่ามีแลกลงแลกไลน์กันแล้วเหรอ ไวจริงจริ๊ง!
"พวกมึง กูกลับก่อนนะ พอดีมีธรุะ" ผมเอ่ยลาเพื่อนๆ ก่อนจะรีบเดินไปทางรถที่ตัวเองจอดไว้ และขับตรงไปยังคอนโดของตัวเอง ผมคิดว่าเธอคงจะรอผมที่นั่นแล้ว
"รอนานมั้ย" ผมเอ่ยถามเธอ เมื่อเห็นว่าเธอนั่งรอผมตรงล็อบบี้ของคอนโด
"ไม่หรอก" เธอเบือนหน้าหนีผม ก่อนจะเดินตามผมเข้าลิฟต์ไป จนเข้าไปถึงในห้อง ระหว่างทางเราไม่พูดคุยกันอีกเลย
"ฉันมีเรื่องจะคุยกับนาย" โมเน่ต์เอ่ยขึ้นพร้อมกับหลบตาผม
"ฉันก็มี เธอพูดก่อนละกัน" ผมเอ่ยขึ้น พร้อมกับทิ้งตัวลงบนโซฟา
"เรื่องเมื่อวันนั้น ทำไมนายต้องทำแบบนั้น" โมเน่ต์ถามผมขึ้นมา พร้อมกับใบหน้าที่ค่อนข้างจะเขินอายผม
"ฉันอยากรู้ว่าใช่เธอจริงๆรึเปล่า" ผมตอบออกมาอย่างปัดๆ แต่ก็อยากรู้จริงๆนั่นแหละ ถึงยอมทำแบบนั้น ไม่ใช่แค่เพราะทำตามคำสั่งของพวกเพื่อนอย่างเดียวหรอก
"แล้วนายรู้สึกยังไง ที่คนคนนั้นเป็นฉันจริงๆ" เธอถามต่อ
"โล่งใจละมั้ง ฉันก็นึกอยู่แล้วว่าต้องใช่เธอ" ผมเค่นหัวเราะในลำคอเบาๆ ก่อนจะเล่นปลายผมของผู้หญิงตรงนั้น สีผมเธอนี่มันสาวแซ่บจริงๆ
"จริงเหรอ...." เธอบอกด้วยน้ำเสียงอุบอิบ
"มีแค่นี้เหรอที่จะคุยกับฉัน?" ผมถามออกไปด้วยความสงสัย
"ป่าว ยังมีอีก" เธอเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงที่จริงจังมากกว่าเมื่อกี้หลายสิบเท่า ทำให้ผมต้องมองเธอและตั้งใจฟังทันที
"....."
"เรื่องที่นายขอเป็นแฟนฉัน ฉันไปคิดดูแล้ว"
".....".
"ฉันตกลงจะเป็นแฟนนาย"
"!!!!!!!!!!!!!"