จินเยว่นอนมองหลังคาบ้านที่ทำด้วยฟางข้าวด้วยสายตาว่างเปล่า เธอไม่อยากจะเชื่อเลยว่า ตอนนี้ตัวเองได้ย้อนเวลากลับมาสู่ยุคในอดีต และที่เลวร้ายที่สุดในเวลาก็คือเธอกำลังจะตายด้วยความหิว กระเพาะของจิวเยว่ส่งเสียงร้องเตือนเธอว่าหญิงสาวไม่ได้กินอะไรมาเป็นเวลานานแล้ว
ร่างของเด็กผู้หญิงที่เธอเข้ามาอยู่ในตอนนี้ มีชื่อว่าจินเยว่เป็นชื่อที่เหมือนกับเธอ แต่ร่างนี้มีอายุเพียงสิบเก้าปีในขณะที่เธอในยุคปัจจุบันอายุสามสิบหกปี เราสองคนอายุห่างกันเกือบสิบเจ็ดปี
จินเยว่เป็นยุวชนที่ถูกครอบครัวส่งลงมาทำงานที่ชนบท เพราะพ่อและแม่ของจินเยว่ ไม่ต้องการส่งลูกชายให้ไปลำบากที่ชนบทห่างไกลจากในเมือง
จึงตัดสินใจส่งจินเยว่ที่เป็นลูกสาวมาทำงานแทน วันที่เธอเดินทางมาที่ชนบทแห่งนี้จินเยว่เพิ่งมีอายุได้แค่สิบสองปี เธอถูกครอบครัวส่งมาทำงานที่หน่วยชนบทที่อยู่ห่างไกล เพียงเพราะเธอเป็นลูกสาว
ครอบครัวของจินเยว่เป็นครอบครัวที่ฐานะปานกลาง แต่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว เพราะรัฐบาลมีนโยบายกำหนดให้หนึ่งครอบครัวมีลูกได้แค่สองคน
เมื่อแม่ของเธอท้องและคลอดลูกชายคนที่สามออกมา จินเยว่ที่เป็นลูกคนที่สองและยังเป็นผู้หญิง จึงถูกย่าของเธอบอกให้แม่เธอส่งเธอออกไปทำงานที่ชนบท
จินเยว่จึงถูกพ่อแม่ของเธอส่งมาทำงานชนบทที่อยู่ห่างไกล โดยที่ไม่ได้สนใจเลยว่าเธอจะมีชีวิตแบบไหน พ่อของเธอทำงานเป็นคนงานที่โรงงานเหล็ก แม่ของเธอทำงานที่โรงงานทอผ้า พี่ชายของเธออายุมากกว่าเธอสามปีเขาอายุสิบห้าปีแล้ว
แต่เขาก็ยืนมองเธอที่เป็นเด็กผู้หญิง ถูกส่งมาทำงานที่ชนบทโดยที่ไม่สนใจอะไรเลย พวกเขาไม่ต้องการจินเยว่ มันเป็นครอบครัวที่ใจร้ายเหมือนกับครอบครัวของเธอที่อยู่ในยุคปัจจุบันจริง ๆ ที่พ่อและแม่ของเธอก็ไม่ต้องการเธอเช่นกัน
พ่อแม่ของจินเยว่ในยุคปัจจุบันแยกทางกัน และทั้งคู่ก็ไปแต่งงานใหม่โดยที่ไม่มีใครต้องการเธอ ปล่อยให้จินเยว่ต้องเติบโตมากับคุณยายของเธอที่กว่างโจว
คุณยายเลี้ยงดูเธอมาจนกระทั่งเธอเรียนจบมหาลัย เธอและคุณยายใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันตามประสายายหลานอย่างมีความสุข จนกระทั่งท่านจากเธอไปเพราะอาการโรคชรา
จินเยว่ลางานเพื่อกลับมาจัดการงานศพของคุณยายที่บ้านเกิด เมื่อทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยจินเยว่ที่กำลังเสียใจจากการสูญเสียคุณยายที่รัก จึงต้องการกำลังใจจากแฟนหนุ่มของเธอ
จินเยว่เดินทางไปพบเขาที่บ้านของอี้หานที่เป็นแฟนกันมานานเกือบสิบปี โดยที่เธอไม่ได้โทรบอกล่วงหน้า
จินเยว่ต้องการทำให้คนรักแปลกใจแต่เธอกลับถูกเขาทำให้ตกตะลึงกับสิ่งที่พบเจอแทน เมื่อพบแฟนหนุ่มของเธอและเพื่อนสาวคนสนิทที่สุดของเธอ กำลังนอนกอดกันบนเตียงนอนในห้องนอนของแฟนหนุ่ม
จินเยว่นอนคิดถึงความหลังระหว่างเธอกับอี้หานที่เป็นคนรักกับซินอี้ที่เป็นเพื่อนของเธอ ไม่รู้ว่าสองคนนั้นแอบคบกันลับหลังเธอมานานแค่ไหนแล้ว จินเยว่ถอนหายใจด้วยความเศร้าใจ ตอนนี้เธอไม่มีอารมณ์จะคิดถึงความหลังแล้ว เพราะเธอรู้สึกหิวจนแสบท้องไปหมด
เธอพยุงตัวเองลุกขึ้นนั่งแล้วมองดูห้องพักช้า ๆ เธอรู้ว่าตอนนี้เธอไม่มีอาหารเหลือแล้วเพราะปันส่วนของเดือนนี้ยังไม่ได้รับการแจกจ่าย และเธอที่มีร่างกายที่อ่อนแอไม่มีแรงมากพอที่จะทำงานได้เท่าคนอื่นคะแนนงานจึงได้น้อย เธอจะได้ส่วนของอาหารในแต่ละเดือนน้อยตามคะแนนงาน ถ้าวันนี้ฉันไม่ได้กินอะไรฉันต้องตายเพราะความหิวแน่เลย จินเยว่ขยับลุกขึ้นนั่งเอนตัวพิงกำแพงหัวเตียง
ห้องนี้เป็นห้องนอนรวมมีเตียงที่ทำจากไม้ไผ่วางเรียงกันหกเตียง ซึ่งเป็นห้องนอนรวมของยุวชนหญิงที่ถูกส่งตัวมาทำงานที่ชนบทแห่งนี้ เธอหลับตาลงอย่างหมดแรงตอนนี้เธอคงจะทำอะไรไม่ได้แล้วนอกจากยอมรับความหิวโหย
ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหนจินเยว่ลืมมาตื่นขึ้นมาด้วยอาการปวดท้อง เธอนอนมองดูสภาพของห้องนอนที่เปลี่ยนไปอีกครั้งอย่างงุนงง เวลานี้เธอกำลังนอนอยู่บนที่นอนนุ่ม ๆ ภายในห้องนอนของเธอที่บ้านของคุณยาย
หรือว่าเมื่อกี้เธอหลับไปแล้วฝันไปใช่ไหม จินเยว่รีบลุกขึ้นเดินออกจากห้องนอนไปที่ห้องครัว เพื่อที่จะหาอะไรกิน ตอนนี้เธอหิวมาก เหมือนความหิวมันตามเธอออกมาจากความฝัน เธอมีชีวิตอยู่อายุจะสี่สิบปีแล้วไม่เคยหิวแบบนี้มาก่อนในชีวิต แม้สมัยที่เธอยังเด็กคุณยายจะไม่ได้ตามใจเธอมากนัก แต่ท่านก็ไม่เคยปล่อยให้เธอหิวจนแสบท้องแบบนี้
จินเยว่เปิดตู้เย็นหยิบขวดนมออกมาเทใส่แก้วก่อนที่จะยกขึ้นดื่มอย่างหิวโหย พร้อมกับหยิบขนมปังออกมากินเธอกินเหมือนตัวเองไม่ได้กินข้าวมานานหลายวัน
เธอจำได้ว่าก่อนที่จะนอนหลับเธอเพิ่งจะกินอาหารเที่ยงไป แล้วตอนนี้ก็เพิ่งจะบ่ายสองเอง เธอไม่น่าจะมีอาการหิวมากขนาดนี้สงสัยฝันว่าหิวแล้วความหิวมันตามออกมาจริง ๆ จินเยว่นั่งกินขนมปังกับน้ำผลไม้และนมจนรู้สึกว่าตัวเองเริ่มอิ่มแล้วจึงหยุดกิน
“ความหิวช่างเป็นสิ่งที่ทรมานจริง ๆ”
จินเยว่มองดูอาหารที่อยู่ในตู้เย็นแทบจะไม่เหลืออะไรให้กินแล้ว เธอจึงตัดสินใจจะออกไปซื้อของมาไว้ในบ้านเพราะเธอกลับมาอยู่บ้านได้สองวันแล้ว แต่ยังไม่ได้ไปซื้อของเข้าบ้านเลย
สรุปเมื่อครู่เป็นเพียงความฝันอย่างนั้นใช่ไหม เธอฝันไปว่าเธอได้ย้อนไปในอดีตในช่วงที่มีการปฏิวัติวัฒนธรรมภายในประเทศ ชีวิตของเธอช่วงนี้มีแต่เรื่องให้เครียดมากเกินไป ถึงทำให้จินเยว่มีความฝันแบบประหลาดและเหมือนจริงเช่นนั้น
จินเยว่แต่งตัวเพื่อเตรียมออกไปซื้อของใช้ภายในบ้านที่จำเป็น เธอคิดว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเองเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา มันคงจะเป็นเพียงแค่ความฝันเท่านั้น ถ้าเธอสามารถย้อนเวลากลับไปได้จริงโลกนี้คงจะอัศจรรย์มาก