กษิรากดวางสายจากสาวิตรีตอนเขาขับรถมาเรื่อยๆ เจ้าหล่อนคงโทรมาเช็กว่าเขาอยู่ที่ไหน กษิราไม่อยากสร้างปัญหาเขาจึงเลือกจะพูดโกหก ขอเวลาตักตวงความสุขอีกไม่นาน แล้วเขาจะซื่อสัตย์กับหญิงสาว เป็นคนรักที่ดี และจะเป็นสามีที่ดีของสาวิตรีในอนาคต...
ส่วนนวลเนื้อหอมเขาคงต้องยุติความสัมพันธ์ทั้งหมด อาจให้เงินเจ้าหล่อนสักก้อน ถือเป็นสิ่งตอบแทนน้ำใจให้กัน...
ตอนหัวรถยนต์โผล่เข้ามาจอดตรงหน้าบ้านพักตากอากาศ ตรงบริเวณด้านหน้าข้างระเบียงไม้ มีชายหนุ่มรูปร่างสูงเพรียวใช้สะโพกพิงไว้ด้วยท่าทางสบายๆ
กษิราผลักประตูรถออกมายืนด้านล่าง เพ่งสายตามองแขกไม่ได้รับเชิญอย่างสงสัย...
“คุณกษิรา...สวัสดีครับ...ผมเทิด ลูกชายของแม่วันครับ”
ชายหนุ่มหน้าอ่อนผละร่างจากระเบียงไม้วิ่งมาหาเจ้าของบ้านด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม สายตาดำยังเลยเผื่อแผ่มายังหญิงสาวที่มุดประตูมายืนข้างรถอีกคน เขาส่งยิ้มมาให้หญิงสาวพร้อมยกมือไหว้ทำความเคารพด้วยมารยาทอันดีตามคำสั่งสอนของบุพการี
“สวัสดีครับคุณผู้หญิง...” เทิดศักดิ์ยกมือไหว้นวลเนื้อหอม เข้าใจว่าคงเป็นคนรักของกษิรา ก็ต้องเป็นเจ้านายของแม่ด้วยอีกคน เขาเป็นลูกชายของแม่วัน ซึ่งเป็นคนดูแลบ้านหลังงามหลังนี้...
“อุ้ย!ไม่ต้องไหว้ฉันหรอกนะคะ...” นวลเนื้อหอมยกมือไหว้พร้อมโบกมือห้ามไหวๆ
“ฉันก็เป็นคนรับใช้เขาเหมือนกันค่ะ” เทิดศักดิ์ฉีกยิ้มกว้าง
“ป้าวันเป็นอะไรหรือเปล่า...”
กษิราเอ่ยถามพร้อมชำเลืองหางตามองคนทั้งคู่ หัวใจเขารู้สึกคันยุบยิบอย่างบอกไม่ถูก ไม่กี่นาทีก่อนหน้านี้ เขายังต้องการจะผลักไสนวลเนื้อหอมออกห่างจากชีวิตรักของเขากับสาวิตรีอยู่แหม็บๆ พอเห็นหมาทำท่าจะหยอกไก่ของเขา อารมณ์หึงห่วงก็ผุดขึ้นโดยไม่รู้ตัว...
“แม่ไม่ได้เป็นอะไรหรอกครับ แต่แกให้ผมมาตัดหญ้าหลังบ้านพักเท่านั้นเอง...”
เทิดศักดิ์หันมาบอกจุดประสงค์ด้วยแววตาสดใส หัวใจเขาเต้นแปลกๆตอนเห็นหน้าคุณคนสวย เบาใจขึ้นมาได้บ้างก็ตรงที่เจ้าตัวไม่ใช่คนรักของเจ้านาย ตอนนี้เทิดเรียนอยู่ชั้นปีที่สี่ อีกไม่กี่เดือนเขาก็จะจบการศึกษา เป็นความโชคดีของเทิดศักดิ์ เพราะชายหนุ่มมีงานที่ดีเงินเดือนที่น่าพอใจรอเขาจบการศึกษาแล้วด้วย...
ถ้าจะอยากจะมีแฟนตอนนี้ ก็ไม่น่าจะเสียหายอะไรนี่นา เทิดศักดิ์คิดเล่นๆในใจ...
กษิราพยักหน้าลงรับรู้ ป้าวันเป็นคนเก่าแก่ของคุณป้า ถูกจ้างไว้สำหรับดูแลบ้านพักหลังนี้โดยเฉพาะ แกคงได้ยินเสียงเขาบ่นว่าหญ้าหลังบ้านมันรก จึงส่งลูกชายมาจัดการให้นั่นเอง...
“อ้อ...เครื่องตัดหญ้าอยู่ในห้องเก็บของ ส่วนกุญแจวางอยู่ใต้กระถางต้นไม้” เป็นเพราะสายตาขี้เล่นของชายหนุ่มอายุอ่อนกว่าหลายปี ดูเหมือนจะให้ความสนใจนวลเนื้อหอมออกหน้าออกตา กษิราไม่ชอบเลย แต่ก็ไม่กล้าแสดงออกให้ลูกชายป้าวันจับได้...
“นวล...เข้าบ้าน!”
เขาออกคำสั่งเสียงเครียด แต่ไม่รอให้หญิงสาวเดินมาถึงตัว เขาก็ก้าวเท้าพรวดกลับเข้าบ้านด้วยสีหน้าบึ้งจัด นวลเนื้อหอมส่งสายตามองตามแผ่นหลังกว้าง ไม่รู้เจ้านายหนุ่มเกิดอารมณ์เสียอะไรขึ้นมาอีกล่ะนั่น ก็ไหนบอกว่าเคลียร์กับคุณสาวิตรีเข้าใจกันดีแล้วไง ทำไมถึงได้ยังหน้าบูดอยู่อีก...
นวลเนื้อหอมเดินกระวนกระวายใจอยู่ตรงห้องโถงของบ้านพัก เธอเดินหน้าหมองลงมายืนเก้ๆ กังๆ ได้สักพัก เฝ้าวนเวียนหาคำตอบหนักใจ ทว่าก็ยังหาคำตอบนั้นไม่เจออยู่ดี
ย้อนกลับไปตอนกษิราเดินผ่านเข้าประตูบ้านมา เขาไม่พูดกับเธอเลยสักคำ กลับสาวเท้าเดินขึ้นชั้นบนด้วยน้ำหนักเท้าโครมคราม ตรงดิ่งไปยังห้องพักทันที เขาไม่อนุญาตให้เธอเข้าไปในห้องนั้นด้วย ทันทีที่เขาเดินเข้าห้องพัก เขาก็จัดการปิดประตูใส่หน้าเธอดังโครม
นวลเนื้อหอมยืนคว้างอยู่หน้าห้องพักใหญ่ ส่งเสียงเรียก กษิราไม่ตอบ เธอจึงตัดสินใจเดินลงมาด้านล่าง โทรสั่งอาหารกับโรงแรมใกล้ที่สุด เดาเล่นๆว่าการที่เขาอารมณ์เสียอาจเป็นเพราะเขาคงโมโหหิวกระมัง...
เธอรอจนกระทั่งอาหารมาส่ง จึงเดินย้อนกลับขึ้นไปส่งเสียงชวนเขาลงมาทานอาหาร ทว่ากษิรากลับไม่ส่งเสียงตอบรับใดๆ ทั้งนั้น
ความที่เธอเติบโตมากับเขา นวลเนื้อหอมจึงสัมผัสได้ถึงความไม่ปกติ แต่เธอไม่รู้กษิราไม่พอใจเธอเรื่องอะไร หรือมีปัญหาอะไรเกิดขึ้นกันแน่ เขาไม่พูดไม่อธิบายแล้วเธอจะไปเข้าใจเขาได้อย่างไร...
หญิงสาวเดินกลับมาทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้ข้างบานหน้าต่าง ปล่อยให้อาหารทะเลหน้าตาน่ารับประทานเย็นชืด ทอดสายตามองออกไปด้านนอกอย่างเหม่อลอย เธอเห็นทะเลสีฟ้าครามสดใส ต่างจากหัวใจของเธอตอนนี้เหลือเกิน มันรู้สึกหม่นหมองชอบกล ถ้าอยู่ในช่วงอารมณ์ปกตินวลเนื้อหอมคงได้วิ่งถลาลงเล่นน้ำทะเลให้ชุ่มปอด จะไม่ยอมปล่อยโอกาสดีๆแบบนี้หลุดลอยเป็นแน่แท้
คนรับใช้อย่างเธอ ไม่ค่อยได้รับโอกาสเที่ยวทะเลบ่อยนักหรอก ถ้าเจ้านายไม่พามาเธอก็หมดสิทธิ์...
เสียงเครื่องตัดหญ้าดังขึ้นอีกครั้งหลังจากมันหยุดพักทำงานมาราวครึ่งชั่วโมง หญิงสาวถอนหายใจทิ้ง นึกถึงเด็กหนุ่มที่ชื่อเทิด คงกลับมาทำงานที่ค้างต่อแล้วสินะ...
นวลเนื้อหอมไม่รู้จะพาตัวเองไปอยู่ตรงส่วนไหนของบ้าน สองวันมานี้เธอมีกษิราคลอเคลียไม่เคยห่างกาย เขาร่วมรักกับเธอไปทั่ว เรียกได้ว่าเขาใช้พื้นที่ของบ้านสุดคุ้มเลยก็ว่าได้ พอถูกเขาทิ้งขว้างเอาดื้อๆ เลยรู้สึกเหมือนความสุขของเธอจะล่องลอยหายไปไหนเสียก็ไม่รู้...
หญิงสาวจึงเดินออกไปชะโงกหน้าดูเทิดตรงเทอร์เรซ เห็นเขากำลังขะมักเขม้นทำงานกลางแดดจ้า เหงื่อเปียกชุ่มไปทั่วทั้งแผ่นหลัง เห็นแล้วก็ทำให้นวลเนื้อหอมนึกสงสาร...
ความที่นวลเนื้อหอมเป็นเพียงสาวใช้ภายในบ้านธรรมดาคนหนึ่ง ไม่ต้องยกชั้นวรรณะใดต่อกันเข้าข่ม ความมีน้ำใจเอื้อเฟื้อต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกันจึงไม่มีข้อยกเว้นสำหรับเธอกับเทิดศักดิ์...
หญิงสาวตัดสินใจหมุนตัวเดินกลับเข้ามาในบ้าน เดินตรงไปยังห้องครัวขนาดเล็ก เธอจำได้ว่าในตู้เย็นบรรจุน้ำเย็นไว้หลายขวด นวลเนื้อหอมหยิบมันออกมา ตั้งใจจะเดินเอาน้ำเย็นไปให้เด็กหนุ่มที่ชื่อเทิด ถือเป็นน้ำใจเล็กๆน้อยๆ ต่อเพื่อนร่วมโลกเดียวกัน สาบานได้ว่านวลเนื้อหอมไม่มีจิตใจคิดเป็นอย่างอื่น
หากขากำลังก้าวต้องหยุดชะงักลงทันที บนบันไดขั้นสุดท้าย ปรากฏร่างเจ้าของบ้านกำลังยืนหน้ามุ่ยไม่หาย ดวงตาคมกริบจับจ้องมายังน้ำเย็นในมือของสาวเจ้า คิ้วหนาขมวดเข้าหากันโดยอัตโนมัติ...
“จะเอาไปไหน แล้วเอาไปให้ใคร...”
“นวลจะเอาไปให้เทิดค่ะ...เห็นว่าอากาศข้างนอกนั้นร้อนอบอ้าวเหลือเกิน” เธอตอบคำถามอย่างไม่คิดอะไรมาก นิสัยของกษิราก็ไม่ใช่คนแล้งน้ำใจ เขาคงไม่ห่วงแค่น้ำเปล่าเพียงขวดสองขวด แต่เธอกับคิดผิดถนัด
ปัง!
นวลเนื้อหอมสะดุ้งเกือบทำน้ำในมือหลุด จู่ๆกษิราก็โยนโทรศัพท์มือถือลงกับโต๊ะกระจกอย่างแรง โดยไม่กลัวเครื่องจะพังเสียด้วยซ้ำ แล้วเขาก็สาวเท้าเพียงไม่กี่ก้าวมาหยุดยืนจังก้าดักหน้าเธอเอาไว้...
“เธอแน่ใจหรือว่าไอ้ที่บอกว่าร้อน มันคืออากาศ ไม่ใช่อย่างอื่นในตัวที่ร้อน...”
คำกล่าวนั้นเป็นเหตุให้กระบอกตานวลเนื้อหอมร้อนผ่าว เธอเงยหน้ามองเขาด้วยความรู้สึกผิดหวัง น้อยใจอัดแน่นจนไม่อาจกล่าวคำใดออกจากปากน้อยๆของเธอตอนนั้นได้สักคำเดียว...
และความเงียบของเธอดันเท่ากับเป็นการเพิ่มเชื้อไฟในใจของคนมีความคิดอกุศลให้โหมกระพือ
“เป็นไง...ฉันพูดจี้ใจดำเธอใช่ไหมล่ะ ถึงไม่กล้าเถียง” กษิรายกมุมปากขึ้นสูง แสดงสีหน้าเยาะหยัน
นวลเนื้อหอมยิ่งพูดไม่ออก ได้แต่ยืนจ้องหน้าเขาอย่างนั้น เธอรับรู้เพียงแต่ว่าหัวอกด้านซ้ายมันเจ็บร้าวเพียงคำพูดของเขาเท่านั้นเอง...
“ไม่คิดว่าเธอจะใฝ่ต่ำ ฉันนี่มองเธอผิดมาตลอดหรือนี่ ก็อย่างว่าสินะ อะไรที่มันเหมือนกันมันมักจะดึงเข้าหากันเองเสมอ” กษิรายังไม่หยุดคำพูดถากถาง คิดเคืองแค้นเมื่อเห็นสมบัติของเขาแสดงท่าทีห่วงใยชายอื่น
เขารึอุตส่าห์ขึ้นไปทำอารมณ์ให้สงบลงได้แล้วเชียว กะจะเดินมาหาเจ้าหล่อน ชวนเธอกินอาหาร พอมาเจอกลับสิ่งที่ตนเองคิด เห็นท่าแล้วคงจะไม่ผิดไปจากนั้นแน่ นวลเนื้อหอมถูกใจไอ้หนุ่มหน้าละอ่อนนั่น...
สติของเขาก็ขาดผึงโดยทันที...
“ถ้าอยากนักทำไมไม่ไปอ้อนวอนขอฉันดีๆล่ะ เธอก็รู้ ลีลาของฉันนั้นเด็ดแค่ไหน”
หนนี้กษิราไม่พูดเปล่าเขาปรี่เข้ากระชากร่างน้อยเข้ามากอดรัด โอบร่างนุ่มนิ่มแนบแน่นฝังลงกับแผงอก จนกระดูกน้อยๆของสาวเจ้าแทบจะหักคาอ้อมกอด มันรุนแรงตามอารมณ์หึงหวง...
“คุณกษิ...นวลเจ็บนะคะ...อืม...”
เสียงประท้วงผลุบหายเข้าสู่โพรงปากร้ายกาจ นวลเนื้อหอมตกใจกับพฤติกรรมก้าวร้าว นี่เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เธอตกเป็นของเขา กษิราไม่เคยทำรุนแรงอย่างนี้มาก่อน ต่อให้เขาอารมณ์ไม่ดีกลับมาจากที่ทำงาน อย่างมากเขาก็เอาเธอดุ แต่ไม่เคยทำให้เธอรู้สึกหวาดหวั่นเท่ากับวันนี้เลยสักครั้ง...
กษิรากดจูบหญิงสาวอย่างดุเดือด เขากระแทกกลีบปากนุ่มจนเจ้าตัวรับรู้ถึงรสชาติคาวสนิม ปากเธอคงแตก หรือไม่ก็ภายในกระพุ้งแก้ม เธอรู้สึกแสบตอนปลายลิ้นยาวของเขาสอดลึกเข้ามาผัวพันอยู่ในโพรงปากของเธอ...
นวลเนื้อหอมหลับตาลงอย่างอ่อนใจ ยอมรับในสิ่งที่ชายหนุ่มยัดเยียดให้โดยไม่ปริปากบ่น แม้นมันจะปราศจากความสุขเจือปนอยู่ในนั้นเลยก็ตาม ประเดี๋ยวอารมณ์เขาดี เธอค่อยอธิบายทุกอย่างให้เขาฟัง...
เขาดันเธอไปตรงราวบันได หมุนร่างเธอเข้าหามัน ยึดข้อมือทั้งสองข้างวางแหมะไว้ตรงนั้น นวลเนื้อหอมไม่โง่พอจะเดาไม่ออกว่าเขากำลังคิดจะทำอะไร ร่างระหงจึงเคลื่อนไหวไปด้านหน้า จัดการคลายนิ้วมือออกทั้งสิบนิ้ว จับยึดราวบันไดไว้ด้วยอารมณ์สั่นคลอน พร้อมกับโก่งลำตัวไปทางด้านหลัง เฝ้ารอเวลาลงทัณฑ์จากเขา...
ชุดที่นวลเนื้อหอมสวมใส่เป็นชุดเดรสสั้นแค่เข่า เลยถือเป็นการอำนวยความสะดวกต่อสิ่งที่กริษามีความคิดว่าจะทำไปโดยปริยาย...
“เธอนี่มันร่านใช่เล่น...จับนิดจับหน่อยก็รู้ว่าต้องทำตัวยังไง...”
คำพูดของเขายังคงเป็นมีดปลายแหลมสำหรับนวลเนื้อหอม ถูกเขาทำร้ายซ้ำซากจำเจจนเลือดในกายเธอคงแห้งผากไปเองในสักวัน...
กษิราถลกชายชุดเดรสอวดก้อนงอนงาม ฟาดฝ่ามือลงสองสามครั้งจนเนื้อบริเวณนั้นเกิดรอยแดงช้ำ เขาไม่ถอดกางเกงชั้นใน แต่กลับรั้งมันแอบไว้ด้านข้าง เสียดสีเนื้อผ้าลงกับตุ่มกระสัน จนนวลเนื้อหอมต้องกัดฟันแน่น เพราะเขาไม่คิดจะเตรียมความพร้อมให้เธออีก เขากับควักเจ้าโลกขนาดใหญ่มากุมไว้ในมือหยาบ สาวขึ้นลงไม่กี่ทีมันก็ขยายพองโตจนน่าหวั่นเกรง
ก่อนชายหนุ่มจะเสียบแทงมันเข้ามาจนสุดทั้งลำ...
“อะ...อืม...”
เสียงครางระโหยนั่นไม่ใช่เสียงของนวลเนื้อหอม แต่เป็นเสียงแสดงความสุขของเจ้านายหนุ่ม กษิรากุมสะโพกมนไว้ด้วยมือทั้งสองข้าง เพิ่มแรงส่งด้วยจังหวะถี่ระรัว เข้าๆออกๆตามแรงหึงหวง
ด้วย ณ เวลานั้นนวลเนื้อหอมกำลังเจ็บปวดกับความฝืดของผนังภายใน ทุกครั้งยามมันเสียดสีเข้าหากัน น้ำตาเธอปริ่มไหลอย่างสุดจะกั้น แต่ก็ไม่คิดจะร้องขอความเมตตาจากเขาสักคำเดียว นวลเนื้อหอมยอมสู้อดทนรับแรงกระแทกกระทั้น ให้เขาได้ระบายความโกรธที่เธอไม่รู้สาเหตุ
เธอจิกเล็บกับเนื้อไม้จนนิ้วทั้งสิบไร้สีเลือด มันซีดขาวราวกับแผ่นกระดาษ...ตับ ตับ ตับ ตับ ... โหนกเนื้อตอกตรึง ทุกจังหวะย้ำเน้น ด้วยพละกำลังเหนือกว่า
“ซีด...อะ...อะ...อะ...เป็นยังไง เธอหายร้อนบ้างหรือยัง” คำถามก้าวร้าวมาพร้อมกับแรงกระเด้าไม่หยุดหย่อน เนินอกกระเพื่อมตามแรงอัดมาจากด้านหลัง ทำเอาร่างงามหัวสั่นหัวคลอน ทั้งจังหวะเข้าและออกของชายหนุ่มที่กำลังตามืดบอด...
“แอ่นสะโพกเข้าหาฉันอีก ฉันอยากเข้าไปในตัวเธอให้ลึกๆ...”
นวลเนื้อหอมหลับตาสูดลมหายใจเข้าอกลึก หยัดสะโพกสวนแรงกระเด้า พร้อมกับยกขาข้างหนึ่งวางไว้บนซี่บันไดทำจากไม้ เปิดช่องทางให้เขาแทงเข้ารูเธอลึกล้ำอย่างที่เขาต้องการ แรงฝืดของจังหวะกระแทกค่อยๆจางหายไปทีละน้อย ตอนนี้มันแทนที่ด้วยอีกอารมณ์ของความซ่านสยิว กลีบแคมปลิ้นปลอกแดงเถือก สองพวงไข่แฝดตีกระทบติ่งเสียว เสียงร้องครวญครางถูกกลบด้วยเสียงจากเครื่องตัดหญ้า...
แรงขย่มด้านหลังไม่มีหยุดให้พักหายใจ เขาขย่มโยกเข้าหาอย่างบ้าคลั่ง ก่อนจังหวะสุดท้ายร่างใหญ่ก็เกร็งสะท้าน หลับตาคำรามลั่น ปลดปล่อยน้ำกะทิขาวข้นพุ่งทะลักเข้าใส่ร่องสวาทจนนวลเนื้อหอมเสียววาบไปทั้งท้องน้อย เกาะเกี่ยวเขาขึ้นสวรรค์อีกคำรบจนได้...
-------------------------------------