[TIW TALK]
“หึ” ผมแค่นขำเมื่อได้อ่านข้อตกลงในช่องอื่น ๆ ที่หญิงชั่วนั่นเป็นคนเขียน คิดจะหลอกล่อผมหรือไง
เสียใจด้วยที่ต้องผิดหวัง เพราะผมไม่เอาใจลงไปเล่นกับใครซ้ำสอง รอบเดียวก็เกินพอ
“เธอนิ่งดีนะครับ” เลขาส่วนตัวของผมออกความเห็นเมื่อเห็นว่าผมแค่นขำในลำคอ
“หญิงชั่วแบบนั้นมารยาเยอะครับ”
“แต่ผมว่า…”
“ไม่พูดเรื่องเครียดดีกว่าครับ วันนี้เอกสารมีแค่นี้ใช่มั้ยครับ” หญิงชั่วนั่นคงหว่านล้อมให้เลขาส่วนตัวของผมเป็นพวกแน่นอน ยัยนั่นน่ะมารยาร้อยเล่ห์ อย่าได้หลงเข้าไปใกล้เชียว
‘เมื่อแต่งงานแล้ว ฉันจะเป็นคนของคุณตลอดไปตราบสิ้นลมหายใจฉัน’
นี่ไงครับข้อความที่เธอเขียนไว้ ซึ่งผมไม่เก็บมาใส่ใจอยู่แล้ว
ไร้สาระ
ผมเซ็นเอกสารต่ออีกเล็กน้อย จากนั้นไปไหนน่ะเหรอครับ ก็เข้าบ้านไงครับ
โอ๊ะ ไม่เอาดีกว่า เดี๋ยวค่อยเข้าไปพร้อมเจ้าสาวของผม ผมให้เลขาส่วนตัวของผมนัดวันไว้แล้วครับ
คาดว่าป๊าเสือน่าจะพอใจที่ผมหาลูกสะใภ้มาให้
ตอนนี้ผมไปหาไอ้คุณนาฟดีกว่า
ครืด ครืด…
เบอร์ที่โทรเข้ามาทำให้ผมเผลอยิ้ม นี่คงรู้ข่าวเรื่องที่ผมจะแต่งงานแล้วแน่ ๆ
“ว่าไงคะ คิดถึงเหรอ” ผมพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนนุ่ม
(ข้าวได้ยินข่าวมา ในไลน์กลุ่มเด็กเฮีย เขาบอกว่าเฮียจะแต่งงาน) เธอคือข้าวสวย เป็นพี่สาวของข้าวจ้าว กลุ่ม ‘เด็กเฮีย’ ที่ว่าก็คือรุ่นน้องจากทั่วสารทิศที่ผมรู้จักจะถูกรวมอยู่ในกรุ๊ปไลน์นี้
“ใช่แล้วค่ะ”
(ข้าวต้องดีใจใช่มั้ยคะ)
“แล้วข้าวดีใจมั้ยคะ”
(เฮียอ่า…นี่ข้าวจะร้องไห้แล้วนะ)
“ไม่ร้องสิคะ อยู่ไกลบ้านจะร้องได้ไง เฮียจองตั๋วไปปลอบไม่ทันนะคะ”
(ใครคือเจ้าสาวคะ หรือเฮียรักใครแล้ว เฮียรักคนอื่นแล้วข้าวไม่รู้เหรอ)
“ไม่เอาสิข้าว เฮียไม่ได้รักใคร”
(แล้วทำไมไม่เป็นข้าว ทำไมเฮียไม่บอกข้าว ข้าวพร้อมจะบินกลับไปเป็นเจ้าสาวของเฮีย)
“ก็เพราะว่าเป็นเจ้าสาวแค่ปีเดียวไง เฮียบอกแล้วใช่มั้ยว่าเฮียอยากรักษาข้าวไว้ตลอดไป”
(เฮียอ่า… เฮียจะรักเจ้าสาวของเฮียมั้ยคะ)
“เฮียไม่รัก”
(ข้าวจะเชื่อก็ได้ แล้วผู้หญิงคนนั้นเป็นใครคะ)
“เป็นแค่คนที่จ้างมา ข้าวไม่ต้องไปสนใจนะคะ”
(ก็ได้ค่ะ ไม่สนก็ได้ เห็นมั้ยอะเฮียพูดไรข้าวก็เชื่อเฮียหมดเลย)
“ถ้าเชื่อเฮียก็ไปพักผ่อนนะคะ พรุ่งนี้ตั้งใจเรียน อย่าคิดมาก ก็แค่งานแต่งปลอม ๆ”
(ก็ได้ค่ะเฮีย อย่างนั้นก็ได้ คิดถึงนะคะ)
“ค่ะ เฮียก็คิดถึงข้าว”
(ที่นี่ดึกแล้ว ที่นั่นคงยังสว่าง งั้นข้าวไปนอนก่อนนะคะ)
“อื้ม ฝันดีค่ะ”
เธอเป็นคนที่เรียกว่า ‘คนพิเศษ’ ก็ว่าได้ น้อยคนที่จะรู้ว่าเธอคือใคร นาน ๆ เราจะเจอกันสักครั้ง และผมไม่อยากให้เธอรู้ว่าคนที่ผมจะแต่งด้วยคือใคร เธอกำลังเรียน ซึ่งกำลังใกล้จะจบ ผมไม่อยากให้เธอทิ้งอนาคตเพราะห่วงใยผม
เธอพร้อมจะทิ้งทุกอย่างเพื่อผม และผมไม่อยากให้เป็นเช่นนั้น เธอควรมีอนาคตของเธอ โดยที่ผมจะเป็นคนปั้นอนาคตให้เธอเอง
“จะมาคลับอะเข้าใจ แต่ทำไมชอบมาตอนคลับปิด” ผมปรายตามองคนพูดด้วยสายตาเรียบนิ่ง ทำให้ได้ยินประโยคถัดมา “รู้ว่ามีหุ้น ไม่ต้องมองครับเฮียมึง”
“นั่น?” ผมไม่ได้สนที่น้องชายมันบ่น ที่สนใจคือคนที่ยืนอยู่ด้านหลังของน้องชายผม ยืนเกาะเป็นเงาตามตัว
“คนดี”
“อ่อ…อายุถึงแล้วออ?”
“เฮียมึงครับ กูเป็นเจ้าของ กูทำไรก็ได้” แสดงว่าอายุไม่ถึงแน่นอน นี่มั้งที่ไอ้เรซมันว่า เฮ้อ…ส่อแววคุกจริง ๆ
“คุกนะ” ผมจ้องผู้หญิงที่ยืนด้านหลังไอ้นาฟอีกรอบ “อย่ามางอแงทีหลังแล้วกัน” ทิ้งท้ายก่อนจะเดินเข้ามาในห้องวีไอพี ไอ้น้องคนนี้มันชอบของน่ารักมุ้งมิ้ง อะไรที่ตัวเล็ก ๆ ขาว ๆ นุ่ม ๆ มันชอบหมด ตั้งแต่สัตว์ยันคน
“คนบ้าอะไรห่วงสุขภาพ กลัวแก่ แต่แดกเหล้า แดกมาม่า อาหารมีประโยชน์ไม่เอาใส่ท้อง” นี่เสียงของเพื่อนผมครับ ผมนัดดื่มกับมันที่นี่ คนนี้ชื่อจุ้น หนึ่งในกลุ่มไอ้ท็อปอะครับ ผมไม่ค่อยได้เจอเพื่อนสักเท่าไหร่ เวลาที่นัดเจอ เพื่อนจึงไม่คิดจะขัดมาพร้อมตลอด
“แต่ผมก็ยังไม่แก่นะครับ หล่อกว่า หนุ่มกว่าคุณจุ้นอีก ทั้งที่อายุเท่ากัน” ผมพูดพร้อมนั่งลงข้าง ๆ เพื่อน
“มึงช่วยพูดกับกูแบบปกติทีครับคุณชาย อย่ามาสร้างภาพ กูรู้สันดานมึงครับ” จุ้นชงเหล้ามาให้ผม ห้องวีไอพีก็จริง แต่เราเน้นส่วนตัวสุด ๆ จึงบริการกันเอง “แล้วนี่ยังไงครับ เห็นไอ้ท็อปบอกว่าคุณชายให้คนลากแฟนเก่าทำเราเจ็บขึ้นพักห้องวีไอพี รีเทิร์นว่างั้น”
“ข่าวไวจริง”
“แหม เรื่องของคุณชายมันเป็นเรื่องที่เพื่อนในกลุ่มอยากเสือกอยู่แล้วครับ”
“ใช่ คนบ้าอะไรตามกัดแฟนเก่าที่เลิกกันไปตั้งเกือบ 10 ปี พวกผมรู้นะครับว่าคุณชายไม่ค่อยปกติ แต่ก็ไม่คิดว่าจะถึงขั้นนี้ แทนที่จะปล่อยให้น้องเขาไปมีความสุข” เสียงของบุคคลที่สามซึ่งผมคุ้นเคยเสียงของมันดี เป็นไอ้ฟักที่เปิดประตูเข้ามา
“ก็คุณชายเขารักมากไง ถึงขั้นปลอมตัวเป็นเด็กวัดตามหารักแท้แบบที่มี้มีให้ป๊า แล้วเหมือนจะเจอคบกันตั้ง 5 ปี เกือบจะเฉลยแล้วแท้ ๆ ว่าตัวเองเป็นนายน้อย แต่น้องมันกลับมาชิ่งทิ้งพี่ไปก่อน” นี่เสียงไอ้เติ๊ก ที่เดินตามไอ้ฟักเข้ามา เรื่องของผมคือเรื่องที่พวกมันสู่รู้ครับ
ตอนที่ผมโดนทิ้งใหม่ ๆ ไอ้พวกนี้ไม่กล้าแซ็วครับ แต่เดี๋ยวนี้เหมือนเป็นเรื่องโจ๊กของกลุ่มไปแล้ว ถ้าได้เอ่ยถึงแฟนเก่าผม พวกมันก็จะขุดแบบขุดชนิดให้ผมอาย นี่จึงเป็นหนึ่งเหตุผลที่ผมไม่อยากเจอพวกมันบ่อย ๆ
“อย่าไปแซ็วคุณชายนักสิครับเพี่ยน ๆ เดี๋ยวคุณชายก็งอนล้วงมีดมาปาดคอพวกมึงหรอกครับ” นี่เสียงไอ้ตัวการ ไอ้คนคาบข่าว ไอ้ท็อปเสียงร่าเริงมาเลยครับ
“แล้วนี่คุณชายครับ เมื่อคืนมึงไม่ได้แดกน้องเขาใช่มั้ยวะ” ไอ้นี่ก็เผือกไม่เลิก ไอ้จุ้นไงครับ จุ้นสมชื่อ
“มึงก็กล้าถามคุณชายนะครับไอ้จุ้น อย่างคุณชายมันชอบใช้มือ แม่งเป็นโรคหวงตัวเอง ปัจจุบันแม่งถึงยังซิงอยู่ไง นี่ทุกวันนี้กูยังรอลุ้นว่าใครแม่งจะได้ซิงคุณชายวะ”
“พวกมึง” ผมส่งเสียงขรึม ชักจะแซ็วไม่เลิก ไม่คิดว่าผมจะอายบ้างหรือไงครับ
“ฮ่า ๆ ๆ พอ ๆ แม่งโมโหละ แดก ๆ”
ไอ้พวกเวรนี่ รู้มากรู้ดี รู้ทุกเรื่อง ปากยิ่งกว่าผู้หญิงซะอีก
เออ แล้วผมยังไม่เคยเสียตัวให้ผู้หญิงมันผิดตรงไหนครับ ก็มันไม่มีใครเหมาะสมที่จะมาสัมผัสตัวผม แล้วไอ้เรื่องพวกนี้พวกเพื่อนของผมมันก็เสือกรู้ดี ทั้งที่ผมเคยปล่อยข่าวว่าตัวเองเป็นเสือผู้หญิงเคี้ยวไม่เลือก พวกนี้แม่งฉลาดเกิน ขนาดญาติของผมยังเชื่อ ทำไมพวกนี้ไม่เชื่อ ผมว่าผมเนียนแล้วนะครับ คงเพราะพวกมันที่คลุกคลีกับผมมากไปก็เลยไม่เชื่อมั้งครับ พวกนี้พากันจับพิรุธจนผมต้องเผลอพลั้งปากยอมรับ แล้วจากนั้นพวกมันก็ขุดครับ ขุดจนผมไม่เหลือชิ้นดี บ้างก็หาว่าผมชอบผู้ชาย ถึงขั้นเอาผู้ชายมานั่งข้างผมเลยก็มี
พวกมันน่ะบ้า ผมก็แค่ยังหาคนมาสัมผัสน้องชายผมไม่ได้ ทำไมมันต้องมโนกันไปไกลขนาดนั้นด้วย
ไม่เสียตัวให้ผู้หญิงก็ไม่เห็นเป็นไร ในเมื่อมือของผมก็มี มีมือก็ใช้ให้เป็นประโยชน์สิครับ
“กูจะแต่งงาน” ดื่มกันไปได้สักพักผมจึงเอื้อนเอ่ยออกไป พวกนี้เป็นเพื่อนที่ผมสนิทที่สุด แม้ว่างานแต่งจะจัดแบบภายในครอบครัวตามความต้องการของผม แต่ผมคิดว่าบอกเพื่อนหน่อยก็ดี เดี๋ยวจะมาเพ้อน้อยใจถ้ารู้ทีหลัง ผมเป็นคนง้อใครไม่ค่อยเป็นด้วยสิ
“หืม?” เพื่อนของผมประสานเสียง ค้างอยู่ในท่าทางนั้น ๆ คล้ายหยุดเวลา
“คุณชายมึงช่วยพูดอีกทีครับ กูขอขยี้ขี้หูแป๊บ” เติ๊กเหมือนตั้งสติได้ก่อนจึงรบเร้าให้ผมพูดใหม่
“กูจะแต่งงาน” ผมก็พูดให้ครับ เผื่อพวกมันจะรู้ว่าไม่ได้หูแว่ว
“เวร”
“บรรลัย”
“ฉิบหาย”
“หิมะตกเมืองไทย”
“เกินไปครับพวกมึง ผมแค่จะแต่งงาน นี่คำอวยพรของพวกคุณมึงเป็นแบบนี้เหรอครับ” ผมพูดด้วยใบหน้านิ่ง ๆ ไม่ต้องมองพวกเพื่อนก็รู้ว่าพวกมันอยู่ในสภาพไหน
“อย่าบอกว่ามึงจะแต่งกับน้องข้าวสวยของมึง ไหนบอกไม่อยากเสียน้องมันไปไงวะ แล้วไหงกลับคำ” ผมบอกแล้วไงครับว่าไอ้พวกนี้รู้ดีรู้มากรู้ทุกเรื่องจริง ๆ
“เปล่า” ผมตอบก่อนจะยกแก้วเหล้าขึ้นดื่มและพูดต่อในขณะที่พวกเพื่อนของผมกำลังยกแก้วเหล้าขึ้นดื่มเช่นกัน “แต่งกับหญิงชั่ว”
“แค่ก แค่ก… ไอ้คุณชาย!” ประสานเสียงกันอีกแล้วครับ สำลักเหล้าพร้อมกันด้วย
ไอ้พวกนี้นี่จริง ๆ เลยน้า
“แก่แล้วครับ พวกคุณมึงน่ะหัดออกกำลังกายบ้าง”
“ไอ้คุณชาย พวกกูแค่ตกใจครับ นี่มันเรื่องเซอร์ไพรส์เลยนะครับ นี่มึงกะจะเอาน้องมาแกล้งถึงที่เลยหรือไง”
“เกลียดเขาจะอยู่ใกล้เขาทำไมวะ”
“ปกติไอ้คุณชายเกลียดอะไรคืออยู่ร่วมโลกไม่ได้ แต่ก็พอเข้าใจแหละ น้องมันน่าแกล้ง”
“ระวังจะตกหลุมรักน้องมันอีกรอบล่ะ นั่นสเปคไม่ใช่หรือไง แฟนคนแรก รักครั้งแรก ว้าว ๆ เมียคนแรกด้วยเปล่าวะ”
“พวกมึงเล่นกับกูเท่าไหร่”
“เล่นไรวะ”
“ก็เล่นว่าน้องมันนั่นแหละจะได้ซิงไอ้คุณชาย”
“แต่น้องมันเจนจัดนะเว้ย ผ่านมาตั้งเท่าไหร่แล้ว ไอ้คุณชายจะเอาออ”
“แค่จ้างมาแต่ง เห็นชอบเงิน เลยซื้อมาเล่นแก้เหงา พวกคุณมึงเลิกเพ้อได้แล้วครับ ถ้าไม่หยุดเพ้อผมกลับนะครับ” ผมรีบเบรกความคิดของพวกเพื่อน พวกนี้ต่อมมโนหนักครับ
“กูว่าเรื่องนี้มีนอกมีใน” ยังคงไม่เลิกสืบ
“ใช่ ไม่งั้นไอ้คุณชายมันไม่เอามาไว้ใกล้ตัว” ฉลาดกันเหลือเกิน
“ถูก ถ้าบอกซื้อมาเล่น ๆ แก้เหงา มันคงซื้อมานานแล้ว ไม่หาทางแกล้งเหมือนที่ผ่านมาหรอก”
“หรือว่า…”
“พอ! เลิกเพ้อเป็นผู้หญิงได้แล้วครับ ป๊าผมแค่อยากให้แต่งครับพวกมึง”
“อ้อ เก็ทละ กลัวป๊าเสือหาให้ เลยไปหาเรื่องบังคับคนที่สามารถควบคุมได้ บวกกับเกลียดมาก ๆ เอามาแกล้งใกล้ ๆ ว่างั้นเถอะ”
“อืม”
“ดี ๆ ชั่วดี เพื่อนชอบ สมแล้วที่เราเป็นเพื่อนกัน”
ครับ เพื่อนกัน ไม่มีห้ามปราม มีแต่ยุยง เพื่อนแบบนี้ไม่ดีครับ เลิกคบได้ก็เลิกเถอะ แต่สำหรับผมเลิกไม่ได้ครับ เพราะพอคบกับพวกมันแล้ว ผมเหมือนดูเป็นคนดีที่สุดในกลุ่มไงครับ ผมชอบเป็นคนดีที่สุดก็เลยต้องอยู่กับคนที่ดูเลว
[END TIW]