“รู้หรือเปล่าว่าเธอกำลังอยู่ในถ้ำเสือ...” ฉันตาโตขึ้นด้วยความตกใจ เข้าใจในทันทีว่าเขาหมายถึงอะไร เสือผู้หญิงคือชื่อของเขาที่ฉันมักได้ยินบ่อย ๆ
“ฉันไม่ชอบการผูกมัดกับใคร เธอจะชอบฉันยังไงฉันก็ไม่เก็บมาคิดว่าเราต้องคบกัน”
“นาย...ชอบอยู่คนเดียวเหรอ”
“เปล่า แต่การอยู่คนเดียวมันดีกว่า” ฉันขมวดคิ้วด้วยความสงสัย และขณะนั้นเองที่แผ่นหลังของฉันแนบติดผนังห้อง และเขาก็เดินเข้ามาใกล้พร้อมกับยกลำแขนแกร่งขึ้นค้ำผนังเหนือศีรษะของฉัน
“พัดชา เธอบอกว่าเธอสวยใช่ไหม...แล้วผู้หญิงสวย ๆ แบบเธอมาอยู่ในห้องเดียวกับฉัน....เธอคิดว่าจะเกิดอะไรล่ะ” อิทธ์ว่าพลางยกหลังมือขึ้นสัมผัสที่แก้มของฉัน
“แล้วนายจะทำอะไรล่ะ...” แม้ว่าฉันจะหวั่นใจ แต่ขอใจดีสู้เสือไปก่อน แม้นว่าเสือตัวนี้จะมีผลต่อใจฉันมากก็ตามแต่
“หึ...ฉันไม่เคยรู้มาก่อนว่าผู้หญิงเงียบ ๆ แบบเธอจะกล้าพูดแบบนี้” ฉันเงยหน้าขึ้นสบสายตากับเขา ฉันไม่ใช่ผู้หญิงเงียบ ๆ อย่างที่เขาพูด ฉันเป็นผู้หญิงร้าย ๆ แต่เป็นเพราะว่าเขาไม่เคยสนใจฉันต่างหากล่ะ เขาก็เลยไม่รู้
“อิทธ์ เวลาฉันมองนายเพียงแค่วินาทีเดียวมันทำให้ฉันมีความสุขไปทั้งวัน” สายตาคมของเขากระตุกเวลาฉันพูดจบ
“นายรู้ไหมว่าวันนี้ฉันต้องรวบรวมความกล้ามากแค่ไหนกว่าจะตัดสินใจบอกนายไปแบบนั้น”
“_”
“ฉันยอมให้นายด่า และไล่ออกจากห้องเพราะฉันคิดว่าเราคงไม่ได้เจอกันอีก”
“เธอกำลังพล่าม...”
“ใช่! ฉันแค่อยากให้นายรู้ แต่พอนายปฏิเสธแล้วหลังจากนี้...ฉันไม่รู้เลยอิทธ์ว่าฉันจะได้เจอนายอีกไหม”
“เธอ...ไม่มีประโยชน์หรอกที่เธอจะพูดอะไรแบบนี้”
“แค่พูด นายก็ไม่อยากได้ยินเหรอ”
“_” อิทธ์ไม่ได้พูดอะไรเขายันตัวเองออกห่างจากฉัน
“รอยยิ้มของนายทำให้ทั้งวันของฉันมีความสุข ฉันไม่รู้ว่าถ้าฉันไม่เห็นแล้ว มันจะเป็นยังไง ฉันคงคิดถึงรอยยิ้มของนาย”
“_”
“แต่ฉันก็เข้าใจนายที่นายไม่ได้ชอบฉัน มันก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่เราจะต้องเจอกันอีก”
“พัดชา...”
“แต่ฉันยังคงอยากเจอนาย...”
“_”
“นายบอกไม่ชอบผูกมัด แล้วทำยังไงล่ะฉันถึงจะยังสามารถอยู่ใกล้ ๆ นายได้อีก”
“เธอยังไม่หายเมาเหรอวะ...”
“หายแล้ว ฉันสติครบถ้วน” ฉันพูดออกมาเสียงแผ่วเบา ฉันคิดมานานแล้วล่ะว่านอกจากจะสารภาพรักกับเขาไป ฉันก็ยังมีบางอย่างที่อยากเสนอเขา...บางอย่างที่จะทำให้ฉันได้อยู่ใกล้เขาอีก ได้เห็นรอยยิ้มของเขาที่นาน ๆ ฉันจะได้เห็น
“เรา...”
“ฉันว่าเธอยังไม่หายเมา”
“เหมือนนายรู้ว่าฉันจะพูดอะไรใช่ไหม”
“_”
“นายจะปฏิเสธฉันเหรอ”
“_”
“ฉัน...อยากมีเอ่อ สัมพันธ์กับนายแบบ...ไม่ผูกมัดเหมือนที่นายว่า”
“พัดชา...ฉันไม่ตลก”
“ฉันก็ไม่ตลก ฉันอยากเจอนายอีกจริง ๆ นะ และมันก็ไม่มีประโยชน์เลยจริง ๆ ที่นายจะยังเจอฉันอยู่ แต่ถ้า...ถ้าเราอยู่ด้วยกันแบบ เอ่อ...แบบนั้นน่ะ นายก็น่าจะยินดีและยังอยากเจอฉันอยู่”
“ออกไปพัดชา เธอกำลังเพ้อ”
“ไม่! ฉันไม่ได้เพ้อ ฉันจริงจังมาก ฉันอยากอยู่กับนายเราแค่มีอะไรกัน แล้วก็เป็นเพื่อนกัน ฉันขอแค่เจอนายทุกวัน...ฉันขอแค่นี้”
“ออกไป”
“ฉันมันแย่ตรงไหน!”
“เพราะเธอไม่ได้แย่ไง!” อิทธ์ตะคอกออกมาจนลำคอแกร่งของเขามีเส้นเลือดปูดขึ้น
“เพราะเธอรู้สึกกับฉัน สักวันเธอจะเสียใจ”
“ฉันไม่กลัวหรอก เพราะตอนนี้ฉันก็เสียใจมากแล้ว”
“เธอมันบ้า”
“บ้าอะไร สมัยนี้เรื่องเซ็กซ์มันเป็นเรื่องปกติ” คิ้วหนาดกดำของเขาขมวดเข้าหากันทันทีที่ฉันพูดจบ อิทธ์ยกมือขึ้นเสยผมก่อนที่เขาจะผายมือไปรอบ ๆ ห้อง เหมือนจะให้ฉันดูสภาพความเป็นอยู่ของเขา
“ดู เธอดูชีวิตฉัน แล้วเธอคิดอะไรอยู่ถึงอยากมาคบ มาอยู่กับคนแบบฉัน”
“ทำไมล่ะ ฉันก็อยู่แบบนายมาเหมือนกัน” สีหน้าของอิทธ์เหมือนกับว่าพร้อมจะเข้ามาบีบคอฉัน
“ก็ใช่ไง แล้วเธอไม่อยากมีชีวิตที่ดีหรือไง”
“อยู่กับนาย ฉันว่ามันต้องดีมาก ๆ” ฉันยิ้มกว้างออกมา ไม่รู้สิ ชีวิตมหา’ลัยของฉันก็มีคนมาตามจีบเยอะเหมือนกัน แต่ฉันว่าอิทธ์นี่แหละคือคู่ชีวิต เหมือนได้เจอรักแท้ และใช่ ฉันมันช่างเพ้อเหมือนที่เขาพูด
“เธอมันดื้อด้านจริง ๆ” ฉันไหวไหล่ขึ้น ก็เขาไม่ได้ชอบฉันนิ เขาจะไปเข้าใจอะไร อิทธ์เหมือนจะหัวเสียเรื่องที่ฉันพูดมาก ๆ ฉันก็แค่อยากเห็นหน้าเขาทุกวัน เขาไม่ยอมคบกับฉัน ดังนั้นแล้วก็มีแค่ทางนี้ทางเดียวที่ฉันจะได้อยู่กับเขา...รักไม่ผูกมัด
“อยากอยู่ก็อยู่ไป แต่ฉันไม่อยู่” พอเขาพูดจบอิทธ์ก็หมุนตัวหันกลับไปยังตู้เสื้อผ้าดังเดิม ปล่อยให้ฉันยืนมองแผ่นหลังหนาด้วยความรู้สึกจุกอยู่เต็มอก นอกจากจะอกหักเขาไม่รักไม่ชอบแล้ว แม้กระทั่งเสนอตัวให้...เขาก็ไม่เอา
แย่สุด ๆ
“อิทธ์ นายจะปฏิเสธฉันจริง ๆ เหรอ” เขาไม่ได้ตอบอะไรเพียงแค่หันหน้ากลับมาหาฉันอีกครั้ง ใบหน้าหล่อเหลาของเขานิ่งเรียบ ก่อนที่เขาจะไล่สายตามองฉันตั้งแต่หัวจรดเท้า
“พัดชา...เธอชอบฉันเพราะอะไร”
“หือ?” น้ำเสียงจริงจังของเขาทำให้ฉันพูดไม่ออก
“นายไม่ต้องสนใจหรอกว่าฉันชอบนายเพราะอะไร ชอบก็คือชอบต้องมีเหตุผลด้วยเหรอ แล้วทำไมนายต้องแคร์ด้วยว่าฉันจะเสียใจไหม เรื่องแบบนี้มันเป็นเรื่องสมัครใจกันไม่ใช่เหรอ นายรักสนุก ฉันรักสนุก ก็แค่นั้น...”
“หึ ดูเธอพูดง่าย แสดงว่าเคย?”
“ก็ใช่น่ะสิ” ฉันพยายามทำเสียงให้เป็นปกติ ขณะที่อิทธ์ก็ยกยิ้มมุมปากขึ้นพร้อมกับจ้องมองฉันไม่วางตา
“มะ มองอะไร”
“หึ มองคนโกหกไง เมื่อกี้เธอยังกรี๊ดแตกเวลาเห็นของของฉันอยู่เลย แถมยังบอกไม่เคยเห็นอีก อมพระมาพูดฉันก็ไม่เชื่อเธอหรอกว่าเธอเคย”
“เหรอ ฉันแค่ยังพูดไม่จบ ฉันจะพูดว่าไม่เคยเห็น...” ฉันละคำไว้พร้อมกับมองไปที่ส่วนล่างของเขา
“ของเล็กน่ะสิ”
“ห้ะ!” อิทธ์เบิกตากว้างขึ้นพร้อมกับอุทานออกมาเสียงดังทำเอาฉันสะดุ้งจนตัวโยน ซึ่งฉันไม่เคยเห็นสีหน้าแบบนี้ของเขาเลย
“เธอว่าอะไรนะ! หยามกันชัด ๆ มันยังไม่แข็งต่างหากล่ะ” อิทธ์เหมือนกับหัวเสียมากที่ฉันพูดอะไรแบบนี้ออกมาก่อนที่เขาจะยกมือขึ้นกุมเป้าตัวเอง
“เหรอ นายโม้หรือเปล่า” ฉันยกยิ้มล้อเลียนเขาพร้อมกับยกนิ้วหัวแม่มือและนิ้วชี้ขึ้นมาแตะปลายนิ้วเข้าหากันก่อนจะเอ่ยพูดขึ้นเพื่อล้อเลียนเขา
“เห็นมีแค่ติ๊ดเดียว”
“พัดชา!” ฉันขำออกมาเบา ๆ เมื่อเห็นว่าเขากำลังหัวฟัดหัวเหวี่ยงกับสิ่งที่ฉันพูด เรื่องแค่นี้ก็ทำเป็นรับไม่ได้
“หึ งั้นฉันจะทำให้เธอดูว่าเวลามันแข็งมันใหญ่แค่ไหน จะคอยดูว่าปากดีแบบเธอเวลาโดนของติ๊ดหนึ่งที่เธอว่าจะร้องดังแค่ไหนกัน” ทันทีที่เขาพูดจบ อิทธ์ก็เดินตรงดิ่งเข้าหาฉัน ซึ่งพอเห็นแบบนี้สัญชาตญาณของฉันก็ทำให้ฉันต้องถอยหลังหนีและแน่นอนว่าเขาสามารถเข้าถึงตัวของฉันได้ก่อน
หมับ!
“ไม่ผูกมัดแน่นะ” คนตัวโตเคลื่อนไหวตัวอย่างรวดเร็วยกลำแขนแกร่งขึ้นโอบรอบเอวของฉันก่อนจะดึงตัวของฉันเข้าหากายของเขา และแน่นอนว่าร่างกายของเราทั้งคู่กำลังแนบติดกันอยู่
“ทำไมไม่ตอบ”
“อึก...ไม่ผูกมัดแน่ ๆ” ฉันตอบกลับออกไปเสียงสั่น ๆ แม้นว่าในใจของฉันกำลังเรียกร้องบอกว่าฉันอยากผูกมัดกับเขา แล้วยังไงล่ะ ก็ในเมื่อเขาไม่อยากผูกมัดแถมยังเป็นฉันเองที่อยากเห็นหน้าเขาทุกวัน
“งั้นเราต้องมีกฎ” อิทธ์ว่าพลางดันตัวฉันจนแผ่นหลังของฉันแนบติดผนังอีกครั้ง ซึ่งคำพูดของเขาฉันก็ได้แค่พยักหน้ารับ “เราสนุกด้วยกันตามที่เธอว่า แต่เธอห้ามท้อง และห้ามรักฉัน”
“แต่ฉัน...” รักนายไปแล้ว ฉันไม่ได้พูดประโยคหลังเพียงแค่นึกคิดในใจ ขณะที่ฝ่ามือหนาของเขากำลังลูบแผ่นหลังเปลือยเปล่าของฉันเนื่องจากวันนี้ฉันใส่ชุดราตรีรัดรูปเปลือยแผ่นหลัง ชุดมันค่อนข้างวาบหวิวไหนจะด้านหน้าที่เป็นทรงคอถ่วง ถ่วงลงมาจนเห็นร่องนมฉันเลยล่ะ
“ห้ามท้องหมายความว่าไง นายจะไม่ป้องกันเหรอ”
“ป้องกัน เพราะฉันไม่คิดจะเอาเธอคนเดียวหรอก” เสียงของเขามันไม่ได้ให้ความรู้สึกว่าเขากำลังแคร์ความรู้สึกของฉันเลย แต่ว่าฉันกลับรู้สึกเจ็บปวดอย่างบอกไม่ถูก
“ฉันไม่ห้ามหากว่าเธอจะไปเอากับใคร ฉันจะอยู่กับเธอด้วยข้อเสนอโง่ ๆ นี้...เพื่อนนอนเป็นไง สถานะของเธอ”
“หึ งั้นนายก็เป็นเพื่อนนอนของฉันเหมือนกัน” ฉันพูดขึ้นพร้อมกับจ้องมองดวงตาสีนิลชวนหลงใหลของเขา รอยยิ้มมุมปากของเขาที่ยกขึ้นบ่งบอกว่าเขาพึงพอใจในคำตอบของฉัน
“ตรงไหนดี เธอชอบแบบยืนหรือนอน”
“ตรงไหนก็ได้ ฉันได้หมด” ซะที่ไหนล่ะ ใบหน้าของฉันใกล้กับผู้ชายครั้งแรกก็ตอนนี้นี่แหละ
“เหรอ งั้นสเต็ปแรกของเราควรเป็นเตียงนอนก่อน” เขาว่าพร้อมกับเลื่อนมือมาสัมผัสสะโพกของฉันทั้งสองข้าง ซึ่งมันทำให้ฉันตาโตขึ้นด้วยความตกใจแต่ก็ต้องรีบปรับสีหน้าให้เป็นปกติจะได้ไม่ผิดสังเกต
“ฉะ ฉันเดินไปก็ได้”
“หึ เดินไปมันจะเร้าใจได้ยังไง” ฉันกลืนน้ำลาลงคอ ก่อนที่อิทธ์จะย่อตัวลงใช้ลำแขนช้อนสะโพกของฉันขึ้นทำให้ฉันต้องรีบยกแขนขึ้นคล้องลำคอของเขา
พรึ่บ!
“นะ นาย” ฉันยกขาขึ้นเกี่ยวตวัดรอบเอวของเขาอย่างช่วยไม่ได้ อิทธ์มองฉันด้วยสายตาแปลกไป สายตาแบบนี้มัน...
“อ่า~ ดูเธอไม่เร่งรีบเหมือนฉันนะ”
“ยะ ยังไง” ฉันถามเขาขณะที่เขาก็อุ้มฉันเดินไปที่เตียงนอน
“ผู้หญิงที่ฉันนอนด้วย ไม่ได้ให้ฉันเป็นฝ่ายเริ่มสักเท่าไร”
“เหรอ แล้วยังไง ฉันจะต้องเริ่มให้นายงั้นเหรอ แต่โทษทีนะอิทธ์ผู้ชายที่ฉันนอนด้วย...ฉันก็ไม่เคยเริ่มทำอะไรให้ก่อน” หากมีรางวัลตุ๊กตาทองสาขานักแสดงหญิงยอดเยี่ยมมันคงตกเป็นของฉัน
“หึ ฉันไม่เกี่ยงหรอก” ว่าแล้วอิทธ์ก็วางฉันลงเตียงนอนสีดำสนิทของเขา ก่อนที่เขาจะเดินไปที่ตะกร้าเสื้อผ้าที่ใส่แล้ว นานอยู่เหมือนกันก่อนที่จะกลับมาพร้อมกับซองถุงยางอนามัย สงสัยเขากลับไปเอาอันที่เตรียมไปคลับมั้ง เขาพกติดตัวตลอดสินะ
“อึก...” ฉันกลืนน้ำลายลงคอมองร่างสูงใหญ่ที่กำลงจะขึ้นเตียงมาหาฉันด้วยใจที่สั่นไหว สายตาคมเข้มที่มองมานั้นทำให้ใจของฉันเต้นแรงแทบกระดอนออกมา
“ดูสิ มันติ๊ดเดียวอย่างที่เธอว่าไหม...” น้ำเสียงแหบแห้งของอิทธ์ทำให้ฉันก้มหน้าลงไปมองสิ่งที่เขาพูด และแน่นอนว่ามันไม่ได้ติ๊ดเดียวอย่างที่ฉันว่า