เวลาต่อมา...
-พัดชา-
“เข้ามาสิ...”
“_”
“ไม่ได้ยินหรือไง”
“อ้อ...” ฉันได้ยินแต่ไม่คิดว่าเขาจะพูด ตอนนี้ใจของฉันกระหน่ำเต้นอย่างแรง แรงจนฉันกลัวว่าเขาจะได้ยินก็เลยรีบเดินเข้าไปในห้องของเขา
อพาร์ทเม้นท์แห่งนี้ฉันตามเขามาเช่าอยู่ห้องตรงกันข้ามตั้งแต่ที่ออกจากหอในตอนปีสอง ห้องขนาดกลางไม่ใหญ่และไม่เล็กเกินไป มีโซฟา ทีวี ตู้เย็น ตู้เสื้อผ้า โต๊ะหนังสือ และเตียงนอนขนาดกลาง มันไม่ได้แย่แต่ก็ไม่ได้สวยหรูเหมือนคอนโดของพลอย
“นั่นโทรศัพท์” อิทธ์พยักพเยิดหน้าไปที่โต๊ะหน้าทีวี ก่อนที่ฉันจะพยักหน้ารับพร้อมกับเดินไปหยิบโทรศัพท์ของเขาขึ้น
“รหัสอ่ะ”
“_”
“อ้อ ขอโทษที่เสียมารยาท พอดีว่า...”
“2112XX” ฉันยังพูดไม่จบแต่เขาก็เอ่ยพูดขึ้นเสียก่อน รหัสของเขามันวันเกิดของเขานี่ ฉันรู้เพราะฉันสืบมาน่ะสิ
“ขะ ขอบใจนะ” อิทธ์ไม่ได้ตอบอะไร เขาเดินไปหยิบผ้าขนหนูผืนเล็กมาเช็ดผมของเขาที่เปียกอยู่ อิทธ์หุ่นดีมากให้ตายสิ ฉันกลืนน้ำลายลงคอหลายรอบมากและคิดว่าเขาคงเห็น จะไม่กลืนก็ไม่ได้เดี๋ยวมันจะไหลออกมา
“รีบโทรสิ เธอจะมองฉันอีกนานไหม”
“ห้ะ อ้อ โทษที” ฉันรีบกดโทรศัพท์โทรหายัยพลอยด้วยมือที่สั่น ๆ นาน ๆ ฉันจะได้อยู่ใกล้อิทธ์ ถ้าไม่ใช่เรื่องเรียนเราก็ไม่เคยได้คุยกันเลย
ตื๊ด ตื๊ดด~
ฉันยกโทรศัพท์ขึ้นแนบหูพร้อมกับลอบมองอิทธ์ที่ยืนเช็ดผมอยู่ เหมือนว่าเขาจะคิดอะไรบางอย่างในหัวเพราะว่าคิ้วหนาดกดำของเขามันยู่เข้าหากัน ขณะที่ฉันก็ยืนรอสายจากยัยพลอยนานพอสมควรแต่ในที่สุดยัยเพื่อนตัวดีก็กดรับ
ติ๊ด!
“ฮัลโหลพลอย ฉันพัดนะ...”
[ยัยพัด! ฉันว่าจะโทรหาแกพอดี!]
“เหรอ พลอยพอดีว่า...”
[ฉันได้ผู้ แบบ...หล่อมาก ๆ]
“ห้ะ...”
[คือ...อย่างนี้เพื่อน พอแกออกไปใช่ปะ อยู่ ๆ ก็มีผู้ชายเข้ามาทักฉัน แล้วแบบตอนนี้ฉันอยู่กับเขา!]
เสียงของยัยพลอยทำให้ฉันดึงโทรศัพท์ออกจากหู น้ำเสียงดีใจแบบนี้ทำเอาฉันไม่กล้าขัดจังหวะเพื่อนเลย แต่ทำไงได้ถ้าไม่ได้กุญแจห้องฉันก็เข้าห้องไม่ได้
“เอ่อ...”
[อ้อพัด กระเป๋าแกอยู่กับฉันนะ แต่ว่าฉันคงเอาไปให้ไม่ได้ตอนนี้ พอดีฉันไม่อยากเสียโอกาส แต่ถ้าแกจะมาเอาก็ได้นะ แบบว่าขึ้นแท็กซี่มาก่อนเดี๋ยวค่อยจ่ายทีหลัง]
“โอเค แล้วแกอยู่ไหนอ่ะ”
[แต่เดี๋ยวนะพัด แกจะเสียโอกาสอยู่กับอิทธ์นะ]
พอยัยพลอยพูดชื่ออิทธ์ออกมาทำให้ฉันเดินออกห่างจากตัวของอิทธ์เพราะกลัวว่าเขาจะได้ยิน ซึ่งฉันหันหน้ากลับไปหาเขาก็พบว่าเขายังไม่ใส่เสื้อผ้า มันทำให้ฉันงงเหมือนว่าเขากำลังรออะไรบางอย่าง หรือว่าเขาจะรอให้ฉันออกไปก่อน...คงงั้นมั้ง
[พัด แกฟังฉันนะ แกคิดว่าแกจะมีโอกาสเจออิทธ์อีกเหรอ]
“ก็ ไม่อ่ะ”
[นั่นน่ะสิ แกคิดคนเราจะมีโอกาสกันกี่ครั้งเชียว บางทีแกสารภาพไปมันอาจจะทำให้ได้ผลไม่ดี ฉันแนะนำว่าแกควรทำอะไรบางอย่างให้อิทธ์ชอบแกเอง]
“อะไรนะ อิทธ์เนี่ยนะ...อุ๊บ” ฉันยกมือขึ้นปิดปากแทบไม่ทันเพราะดันหลุดชื่อของอิทธ์ออกมา และตอนนี้เขากำลังหันมามองฉัน แล้วทำไมเข้าไม่ใส่เสื้อผ้าสักที!
[ก็อิทธ์เนี่ยแหละ]
คำพูดของยัยพลอยทำให้ฉันรู้สึกเหมือนกับว่าเธอรู้ว่าอิทธ์จะต้องปฏิเสธฉันแน่ ๆ
“แล้วฉันควรทำไงล่ะ”
[ถ้าใช้ใจนำพาไม่สำเร็จ ก็ลองใช้อย่างอื่นสิ อย่างเช่น...ร่างกายไง]
“หือ พูดอะไรก็ไม่รู้”
[ฮ่า ๆ ฉันก็เพ้อไปงั้น เอาเป็นว่าถ้าแกจะมาเอากระเป๋าก็มาที่โรงแรม...]
ยัยพลอยบอกชื่อโรงแรมเสร็จฉันก็กดตัดสาย ก่อนที่จะหันไปหาอิทธ์ก่อนจะพบว่าเขายังคงเช็ดผมอยู่
“เอาวางไว้ที่เดิม” เสียงทุ้มของเขาดังขึ้น ก่อนที่ฉันจะเดินไปวางโทรศัพท์ไว้ที่เดิมตามคำพูดของเขา
“อิทธ์ คือว่าฉันมีอะไรจะบอกนาย” แม้ว่าเสียงของฉันจะสั่นมากก็ตามแต่ แต่อย่างที่พลอยได้บอกไว้ว่าคนเราจะมีโอกาสกันกี่ครั้งเชียวและฉันก็ไม่อยากปล่อยให้โอกาสนี้หลุดมือไป
อิทธ์ไม่ได้ตอบอะไรเขาเพียงแค่หยุดเช็ดผมและหันหน้ามามองฉัน ใบหน้าหล่อเหลาของเขานิ่งเรียบราวกับว่าไม่มีอะไรอยู่ในหัวของเขา
“ฉันไม่รู้ว่าควรบอกนายไหม...แต่อิทธ์ นานมากแล้วที่เรารู้จักกัน”
“_”
“แล้วฉันก็คิดว่า เอ่อ...มันก็ไม่ได้แย่ถ้าฉันจะบอกบางอย่างกับนาย”
“เธอรู้ได้ยังไงว่ามันไม่แย่”
“หือ? อ้อ คือ...” ฉันก็ไม่ได้แย่สักหน่อย ฉันก้มมองปลายเท้าตัวเอง ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองเขาอีกรอบ
“เพื่อนเธอบอกให้ฉันพูดกับเธอดี ๆ”
“พลอยน่ะนะ” ว่าแล้วไง ฉันคิดว่าสองคนนี้ต้องคุยกันมาก่อนแน่ ๆ
“พลอยบอกอะไรนายเหรอ”
“ไม่หรอก มีแค่ฉันที่จะบอกเธอ”
“_”
“ฉันไม่ได้ชอบเธอและก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่เราจะต้องเจอกันอีก”
“เหรอ...” ฉันพึมพำออกมาเสียงแผ่วเบาก่อนจะกลืนน้ำลายเหนียว ๆ ลงคอ ทำไมการโดนปฏิเสธมันถึงทำให้รู้สึกแย่มากขนาดนี้ ฉันไม่คิดเลยว่าตัวเองจะรู้สึกเจ็บปวดที่หน้าอกข้างซ้าย มันเป็นความรู้สึกแปลกใหม่ ฉันไม่เคยมีแฟนมาก่อน นี่สินะที่คนเขาเรียกกันว่า...อกหัก
“เสร็จแล้วก็ออกไป ปิดประตูให้ด้วย” อิทธ์เย็นชามาก ไม่สนเลยว่าตอนนี้ฉันกำลังร้องไห้ ใช่ อยู่ ๆ น้ำตามันก็ไหลออกมา ไม่รู้สิฉันแค่ชอบเขามากมั้ง ตลอดเวลาห้าปีที่เรียนมาฉันไม่เคยสนใจใครเลย ในหัวของฉันมันมีแต่เรื่องของเขาวนไปหมด และตอนนี้ฉันจะต้องตัดใจอย่างนั้นใช่ไหม
“ขอโทษที่ทำให้นายลำบากใจนะ...ฮึก” ฉันข่มเปลือกตาปิดลง มันแย่มากที่ฉันสะอื้นออกมาต่อหน้าเขา
“แต่ฉัน...อิทธ์ฉันชอบนายจริง ๆนะ” ฉันไม่รู้อะไรดลใจให้ตัวเองพูดแบบนี้ออกมา มันดูแย่มาก แย่มากจริง ๆ
“พัดชา เธอควรชอบคนอื่น”
“ทำไมล่ะ ฉันก็ไม่ได้แย่นะ ฮึก...ฉันสวยกว่าผู้หญิงบางคนที่นายพามาห้องอีก”
“เธอรู้?”
“อื้ม คือฉัน...ไม่ได้ตั้งใจ” พอเห็นสีหน้าไม่พอใจของเขาก็ทำให้ฉันรู้สึกผิดขึ้นมา นั่นน่ะสิมันเป็นเรื่องส่วนตัวของเขา
“เห้อ...พัดชา เธอก็รู้ว่าเรารู้จักกันมานาน ถ้าเธออยากเป็นเพื่อนกับฉันอีกก็ควรเก็บความรู้สึกตัวเองไว้นั่นแหละ”
“อึก...ไม่หรอก เพราะฉันไม่รู้ว่าจะได้เจอนายอีกไหม เห็นเจ๊ฝ้ายบอกว่านายกำลังจะย้ายออก” พอฉันพูดจบอิทธ์มีท่าทีแปลกไป
“เธอ...รู้เรื่องฉันมากแค่ไหนกัน” น้ำเสียงของอิทธ์แข็งกระด้างจนฉันตกใจ เขาไล่สายตาพินิจมองดูฉันตั้งแต่หัวจรดเท้า
“เธอรู้อะไรเกี่ยวกับฉันอีก”
“ปะ เปล่า ไม่รู้อะไรมากหรอก” อิทธ์ขมวดคิ้วเหมือนว่ากำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่ เหมือนว่าเขาจะกลัวว่าฉันจะไปรู้อะไรเข้า
“อิทธ์ ฉันอยากให้นายลองคิดใหม่”
“เรื่อง?”
“ก็เรื่องนี้ไง บางที...เอ่อ เราอาจจะคิดตรงกัน”
“ไม่หรอก เธอเป็นคนดีพัดชา เธอควรเจอคนที่ดี”
“แล้ว...นายไม่ชอบเหรอ” ฉันสบสายตากับเขา ซึ่งคำถามของฉันทำเอาอิทธ์นิ่งไป สายตาคมสีนิลชวนหลงไหลทำให้ฉันนิ่งไปเช่นกัน
“ออกไปเถอะ”
“ไม่เห็นนายตอบ ตอบก่อนสิ”
“ก็ตอบไปตรง ๆ แล้วไงว่าฉันไม่ได้ชอบเธอ” การที่เขาชะงักไปเมื่อครู่ทำให้ฉันแอบคิดเข้าข้างตัวเองว่าเขาอาจจะมีใจให้ฉันบ้าง ก็จริงอยู่ที่ฉันมักตามติดเขาไปทุกที่ แต่มีหลายครั้งเหมือนกันที่เขาเลือกให้ฉันไปอยู่กลุ่มทำงานด้วย แม้จะมีคนหลายคนอยากอยู่กับเขาเพราะอิทธ์น่ะเก่งมาก ทั้งวิชาคำนวณและภาษาเขาเป็นที่หนึ่งมาโดยตลอด
“เหรอ แต่ฉัน...”
“ไม่มีประโยชน์หรอกพัดชา ฉันไม่อยากมีแฟน ไม่อยากคบกับใคร แล้วเธอควรออกไปจากห้องของฉัน”
“คงไม่ได้แล้วล่ะ เพราะยัยพลอยไม่ได้เก็บกระเป๋าฉันไปด้วย แล้วตอนนี้คลับก็ปิดแล้วด้วย” ฉันโกหกออกไปคำโต ซึ่งทันทีที่ฉันพูดจบรูม่านตาของเขาก็เบิกกว้างขึ้น
“แต่มันก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับฉัน”
“เกี่ยวสิ นายมาส่งฉันแต่ไม่เอากระเป๋าของฉันมาด้วย”
“เธอกำลังโทษว่าเป็นความผิดของฉัน?”
“เปล่านะ ก็ฉันพูดความจริง” อิทธ์ไม่เคยจ้องฉันขนาดนี้มาก่อน ซึ่งมันทำให้ฉันกำมือเข้าหากันแน่น
“เห้อ...”
“อยากอยู่ก็อยู่ไป” ทันทีที่พูดจบอิทธ์ก็หมุนตัวไปเปิดตู้เสื้อผ้า และขณะนั้นเองที่เขากระทำอะไรบางอย่างให้ฉันแทบเป็นลมล้มทั้งยืน
พรึ่บ!
“กรี๊ดดด~”
อิทธ์ดึงผ้าขนหนูออกต่อหน้าต่อตาฉัน!
และใช่ ฉันเห็นหมดเลย
พรึ่บ!
ทันทีที่ตั้งสติได้ฉันก็หมุนตัวหนีเขา เสียงหัวเราะที่ดังออกมาจากลำคอหนาทำให้ฉันอยากวิ่งออกไปกรี๊ดดัง ๆ แต่ถ้าออกไปแล้วฉันจะไปอยู่ไหน
“นะ นาย ทำบ้าอะไรก็ไม่รู้”
“หึ”
“หยุดขำนะ!”
“ทำอย่างกับไม่เคยเห็น”
“ก็ไม่เคยเห็นน่ะสิ!”
“ห้ะ...” เสียงของเขาที่แสดงถึงความแปลกใจทำให้ฉันค่อย ๆ หันกลับไปมองเขาอีกครั้ง และเขาก็ยังไม่ใส่เสื้อผ้า!
“นะ นาย กรี๊ดดดด บ้าที่สุดเลยอิทธ์!”
“ฉิบหายละ” ฉันยกมือขึ้นปิดตา แล้วไอ้นั่นของเขามันทำให้ฉันขนลุกขนพอง มัน...
“ไม่อยากจะเชื่อเลย”
“_”
“เอามือออกได้แล้วน่า ฉันใส่ผ้าละ” อิทธ์เงียบไปครู่หนึ่งก่อนที่เขาจะเอ่ยขึ้น เสียงของเขามันให้ความรู้สึกแปลกใจ มันไม่แปลกเลยนะถ้าฉันจะไม่เคยเห็น
“นะ นายไม่โกหกฉันใช่ไหม”
“โกหกแล้วฉันได้อะไร ฉันไม่เคยทำอะไรแล้วไม่ได้ค่าตอบแทน” พอได้ยินอย่างนี้ฉันก็เลยเลื่อนมือออก ซึ่งรอบนี้อิทธ์ไม่ได้แกล้งฉัน เขาใส่บ๊อกเซอร์แล้วจริง ๆ
“เห้อ ฉันก็คิดว่าเธอจะวิ่งออกไป”
“อ้อ...” ที่เขาทำแบบนี้เพราะต้องการไล่ฉันนี่เอง แต่ฉัน... “ออกไปแล้วฉันจะไปอยู่ไหน”
“เยอะแยะ อย่ามาทำไขสือฉันรู้ว่าเธอคิดอะไร”
“คะ คิดอะไร”
“เธอจะข่มขืนฉันใช่ไหม”
“อะไรนะ!!!” ฉันตาโตขึ้นพร้อมกับร้องออกมาเสียงดัง เขาเอาอะไรคิด แม้ว่าเขาจะหล่อมาก แต่เขาคิดว่าฉันจะทำอะไรคนตัวใหญ่แบบเขาได้ยังไง
“ไม่รู้ละ ถ้าเธอไม่ออกไปฉันนี่แหละจะทำเธอเอง”
“ทะ ทำอะไร” ไม่พูดเปล่า อยู่ ๆ อิทธ์ก็สาวเท้าเข้าหาฉัน ทำให้ฉันต้องถอยหลังกรูดหนีทันที
“ทำให้เธอรู้ว่าฉันไม่ใช่คนที่เธอจะมายืนใส่สายเดี่ยวรัดรูปในห้องของฉันไง”
“หือ?” พอเขาพูดแบบนี้ทำให้ฉันก้มมองดูตัวเองทันที แล้วก็ต้องตกใจเพราะชุดที่ฉันใส่มันโป๊จริง ๆ
“รู้หรือเปล่าว่าเธอกำลังอยู่ในถ้ำเสือ...”
!!!