ในขณะไอติมพึ่งจะอ่านหนังสือจบไปอ**บทเพื่อทบทวนความจำ แล้วทำสรุปง่ายๆที่เข้าใจเองได้ก่อนเดินไประเบียงยืนบิดตัวคลายเมื่อย ตอนนี้จะห้าทุ่มแล้วเธอง่วงจนลืมตาแทบไม่ขึ้น เธอเป็นคนนอนเร็วมากปรกติสี่ทุ่มคือหลับแล้ว แต่ถ้าไปเที่ยวมันก็อีกเรื่องหนึ่งเพราะว่ามีคนคุยสนุกเฮฮาจนลืมเวลาเลย ซึ่งเธอเป็นพวกเงียบๆนะไม่ค่อยเที่ยวเท่าไร ก่อนที่เธอจะนอนก็มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นจนต้องกดอ่านดูนึกแปลกใจนิดหน่อยนะ
เสี่ยฮาย : นอนยังครับ สนใจมาทานอาหารรอบดึกไหม?
ไอติม : ไม่ไหวแล้วค่ะง่วงมาก
เสี่ยฮาย : เสียดายจัง งั้นคืนนี้ฝันถึงด้วยนะ
ไอติม : คงเป็นฝันดีแน่เลย งั้นเจอกันในฝันนะคะ
เสี่ยฮาย : ครับ ฝันดี
เธอว่างโทรศัพท์ลงยิ้มกว้างออกมาอย่างหยุดไม่อยู่แล้วมองไปที่กีต้าร์ที่ช่วยกันเลือก
ทำไมถึงรู้สึกดีแบบนี้นะ!
เช้าวันต่อมาดิวเดินมานั่งกินโจ๊กกับเพื่อนอยากจะถามเรื่องเสี่ยฮายจนแทบเก็บอาการไม่อยู่ เธอก็ว่าแล้วทำไมเสี่ยฮายมองเพื่อนเธอแปลกๆที่ไหนได้แอบรักนี่เองแต่เจ้าตัวรู้รึยังเถอะ
“มองหน้าขนาดนี้จะถามอะไรรึเปล่า?” เพื่อนมองเธอเหมือนคิดอะไรอยู่
“ก็เรื่องของเสี่ยฮายไง แกรู้แล้วใช่ป่ะ?” ลุ้นมากเลยจ้ารีบตอบเถอะเพื่อนรัก
“เขาก็เป็นคนน่ารักไง แกจะบอกอะไรรึเปล่า? หรือว่าเขาชวนไปเที่ยว” จะถามเรื่องอะไรทำไมไม่รู้ละ อาการของดิวออกขนาดนี้ แต่เธอจะยังไม่ตอบหรอกเดี๋ยวจะพากันชงหนักจนอึดอัดเปล่าๆ ของบางอย่างเงียบๆไว้ก็ดีกว่าเปิดเผย
“ก็อื้ม...” ไอติมไม่รู้จริงดิ!!
ไอตินนั่งกินโจ๊กไปอย่างอารมณ์ดีแต่ว่าพูดแล้วก็นึกถึงเลยส่งไลน์ไปมอร์นิ่งสักหน่อยดีกว่า เสี่ยฮายเป็นคนนิสัยยังไงนะแล้วป่านนี้จะตื่นรึยังก็ไม่รู้ท่าทางเที่ยวเก่งแบบนั้น
ไอติม : มอร์นิ่งค่ะ
ไอติม : เช้าๆอย่าลืมหาอะไรกินนะ
ไอติม : เมื่อคืนฝันถึงกันบ้างไหมนะ
และแล้วก็มาถึงวันเสาร์อาทิตย์ที่ไอติมนัดเขามาร้านอาหารที่บรรยากาศดีมากพอสมควรเลย เธอมารอก่อนอยู่แล้วยังแต่งตัวแค่เสื้อยืดกางเกงยีนต์รองเท้าผ้าใบดูธรรมดาแต่ก็ไม่ธรรมดาเลยสักนิด เด็กเสิร์ฟในร้านก็คุยกับเธอเหมือนว่ารู้จักกันมาก่อนจนน่าสงสัย
โต๊ะเรานั่งแยกตัวออกห่างจากลูกค้าในร้านมากพอสมควร แล้วยังดูเป็นส่วนตัวไม่ต้องเป็นเป้าสายตาใคร
“เมื่อคืนโทรหาหนูมีอะไรรึเปล่าคะ?” เขาโทรมาประมาณตีหนึ่งกว่าๆ ซึ่งในตอนนั้นเธอหลับไปตั้งแต่ห้าทุ่มแล้วเลยไม่ตื่นมารับสายเขา แต่จะโทรกลับไปถามก็คิดได้ว่าวันนี้ต้องเจอกันอยู่แล้วเลยไม่โทรไปกวน
“แค่โทรไปบอกฝันดี” เมื่อคืนเขาเมาแล้วน่าจะคิดถึงมาก
“หนูนอนเร็วค่ะ เสี่ยฮายไปเที่ยวมาเหรอคะ?” เขาน่าจะเป็นคนชอบเที่ยวมากๆ อีกอย่างเมื่อวานเป็นวันศุกร์คนชอบไปเที่ยวกันอยู่แล้ว แต่เธออยู่อ่านหนังสือที่คอนโดจนหลับไป
“หนูไม่เที่ยวเหรอ? เสี่ยเห็นว่าเราคุยกันทุกวันหนูนอนเร็วมากเลย” ช่วงเวลาประมาณสี่ทุ่มเธอจะไม่ตอบข้อความไลน์เขาแล้ว หรือบางคืนนานสุดก็ประมาณห้าทุ่มกว่าๆมั้ง ที่สำคัญเขาไม่เคยเห็นเธอไปเที่ยวตามผับบาร์เลย
“ปรกติแล้วหนูไม่ชอบไปค่ะ หนูชอบอยู่ที่คอนโดอ่านหนังสือบ้าง ออกแบบเครื่องประดับบ้างค่ะ คนแบบหนูน่าเบื่อไหมคะ?” เธอค่อนข้างโลกส่วนตัวสูงพอสมควร แล้วไม่ค่อยชอบสุงสิงกับใคร ยิ่งเป็นสถานที่วุ่นวายยิ่งรู้สึกว่าไม่ชอบ
แต่การที่ไม่เที่ยวกลางคืนมันไม่ใช่เสมอไปนะ หลายครั้งที่เธอไปงานเทศกาลดนตรีแต่อยู่ได้ไม่นานเธอจะรู้สึกว่ามันเหนื่อยจนรีบกลับ เธอค่อนข้างอยู่กับตัวเองมากกว่าอยู่กับคนอื่น แล้วคนที่เธอใช้เวลาอยู่ด้วยก็เป็นเพื่อนสนิทกับญาติสนิทแค่นั้นเอง
“เสี่ยไม่เบื่อหนูนะ ไหนวันนี้เรามาเริ่มเรียนง่ายๆกันดีกว่าเนอะ” เขาขยับเข้าใกล้เธอมากขึ้น ท่าทางไอติมน่าจะพอรู้มาบ้างนิดหน่อยแล้วแหละ การจับกีต้าร์เธอก็โอเคเลยนะแต่ก็แอบกลัวว่าเธอจะเจ็บนิ้วเอาเพราะช่วงแรกมันจะเจ็บพอสมควร
“หนูศึกษามาก่อนแล้วแต่ยังเล่นเป็นเพลงไม่ได้เลยค่ะ”
“ใจเย็นๆไม่ต้องรีบหรอก” เขาพร้อมจะสอนเธอทุกวันเลยถ้าเป็นไปได้นะ ไอติมเงยหน้ามามองและเราสบตากัน
ดวงตากลมโตน่ามองรับกับแพขนตางอนยาวมากทำให้ดูหวานมากขึ้น แล้วใบหน้ายังเนียนใสรูขุมขนเล็กจนแทบมองไม่เห็นเลย แก้มเธออมชมพูนิดๆแบบคนสุขภาพดี และปากเรียวเล็กมีสีชมพูระเรื่อน่าประทับปากลงไปบดเบียดที่สุดเลย
ไอติมมีแต่คำว่าสวยเต็มไปหมด
ตกหลุมรักอีกแล้ว!
“ใจดีแบบนี้ไม่น่าเชื่อว่าจะโสดเลยนะคะ”
“ไม่มีใครเอาน่ะ”
“งั้นหนูเอานะ คนเก่งหน้าตาดีแบบนี้ถ้าโสดเสียดายแย่”
“จริงเหรอครับ?”
“หนูล้อเล่นค่ะ”
เวลาผ่านล่วงเลยไปอย่างช้าๆ ในวันนี้เป็นวันอาทิตย์ที่เขามาสอนไอติมที่ร้านอาหารร้านเดิม แต่ว่าวันนี้เธอแต่งตัวค่อนข้างเซอร์นิดหน่อยแต่ก็น่ารักดี เราจะเจอกันแค่อาทิตย์ล่ะครั้งสองครั้งเพื่อเริ่มสอนบทเรียนใหม่ๆ และสอนให้เล่นเพลงง่ายๆที่เธอน่าจะเล่นได้
เขาตั้งใจสอนเธอแบบช้าๆเองแหละเพราะอยากจะมีเวลาใกล้ชิดกันมากขึ้นกว่าเดิม เดี๋ยวนี้เขาคุยกับเธอทุกวันทุกคืน ปล่อยให้เธอหยอดคำหวานมาจนหัวใจมันเบิกบานเสมอเลย
“ทำไมวันนี้หน้ามีรอยช้ำคะ?” มุมปากแตกใต้ตาม่วงนิดๆคงจะไปมีเรื่องมาแน่นอนเลย
“เมื่อคืนน่ะครับ” มีเรื่องกันช่วงกลับจากผับนิดหน่อย แต่ก็ไปจบลงที่โรงพักจ่ายค่าปรับกันทั้งสองฝ่าย
“หนูทายาให้ไหมคะ?”
“ตามใจหนูสิ”
เธอลุกขึ้นเดินไปหยิบกล่องยาภายในร้านมาพร้อมกับอาหารเครื่องดื่มที่พนักงานช่วยถือมาด้วย เสี่ยฮายไปมีเรื่องกับใครมาก็ไม่รู้นะแต่ดูเขายังอารมณ์ดีได้อยู่ก็เบาใจ
เขาเป็นคนที่มีเสห่น์มากเลยนะเนี่ย
“มือหนูเบาจัง”
“ต่อไปถ้าเจ็บตัวนอนพักที่บ้านก็ได้นะคะ แล้วนี่กินข้าวด้วยกันก่อนนะคะหนูเลี้ยงเอง”
“เสี่ยเลี้ยงเองดีกว่าครับ ไอติมหนูยังไม่มีใครจริงๆใช่ไหม?”
“ไม่มีค่ะ วันๆหนูเรียนหรือไม่ก็ทำงานแค่นั้นเอง แต่วันนี้หนูอยู่กับเสี่ยฮายนะคะ” เธอเก็บยาลงกล่องหันมายิ้มให้เขาก่อนจะลุกขึ้นยกกล่องยาไปเก็บ จากนั้นก็ล้างมือแล้วทาครีมบำรุงให้เรียบร้อยถึงได้เดินกลับมาเห็นว่าเขายังนั่งรออยู่
“เสี่ยรอหนูมากินพร้อมกัน” เขาคิดว่าการกินข้าวโดยที่เธออยู่ตรงหน้ามันจะอร่อยกว่าเยอะเลย
“ดูหนังไหมคะ? วันนี้หนูว่างว่าจะไปดูหนัง” เธอรอหนังเรื่องนี้มานานเป็นปีตั้งแต่ตัวอย่างปล่อยมาแล้ว แต่พอถึงเวลาจริงๆเธอมักไปคนเดียวเสมอเลย
“แล้วทำไมถึงชวนเสี่ยละ?”
“เสี่ยฮายเป็นผู้ชายคนแรกที่หนูชวนนะคะ ปรกติแล้วถ้าไม่ใช่พี่ชายแล้วหนูไม่เคยชวนใครเลย” เธออธิบายให้เขารู้เพราะว่าเธอสามารถใช้ชีวิตคนเดียวได้แบบสบาย ไม่ว่าจะไปไหนมาไหนเองตลอด จนตอนนี้ดูหนังคนเดียวแล้ว หรือแม้แต่ไปเที่ยวไกลๆคนเดียวทำได้เลย อย่างไปต่างประเทศครั้งล่าสุดก็ไปคนเดียวนะ มันสนุกดีออกแต่บางครั้งก็เหงาอยากมีคนคุยบ้าง
เสี่ยฮายช่วยเธอหายเหงาได้เยอะเลย
“เสี่ยเป็นคนแรก?” จริงดิไม่น่าจะเชื่อเลย! แต่ถึงอย่างนั้นหัวใจมันแทบจะหยุดเต้นตอนที่เธอพยักหน้าตอบรับ เขาเป็นคนแรกที่เธอชวนแสดงว่าเขาต้องพิเศษกว่าใครแล้วใช่ไหม
“ค่ะ กินข้าวต่อเถอะค่ะวันนี้หัดเล่นเสร็จแล้วค่อยไปกันช่วงบ่ายกว่าๆ หนังน่าจะจบก็ตอนเย็นเราจะได้ไม่กลับบ้านดึกกัน” เขาพยักหน้าตอบรับเธอกดโทรศัพท์จองตั้วหนังทันทีเลย
ไอติมกำลังใช้มุกตื้นๆหลอกล่อให้เขาจมเข้าไปในหลุมรักเธอรึเปล่าเนี่ย เขายอมรับเลยว่าตอนนี้รู้สึกดีกับเธอมากจนแทบไม่น่าเชื่อเลย แล้วอาทิตย์หน้าเธอจะไปหาเขาที่ออฟฟิศในช่วงบ่าย ตอนแรกไอติมเกรงใจที่จะไปแต่ว่าเขายืนยันให้เธอไปเองแหละ เขาอยากให้เธอได้รู้จักเขามากกว่านี้
ไอติมน่ารักกับเขาไม่เคยเปลี่ยนไปเลย เธอจำได้ว่าเขาไม่ชอบกินผักอาหารส่วนใหญ่ที่สั่งมาเลยเน้นผักน้อย เธอจำได้ว่าเขาไม่ชอบกินหวาน เครื่องดื่มเลยเป็นน้ำเปล่าไม่เหมือนกับของเธอที่เป็นน้ำผลไม้ปั่น เธอสังเกตในตัวเขามากพอสมควร
แบบนี้เธอมีใจให้เขาบ้างแล้วใช่ไหม?
ถ้าใจเราตรงกันก็คงดีสิ!
“ข้าวติดปากค่ะ หนูเช็ดออกให้นะ”
หัวใจของเขามันแทบจะหยุดเต้นอยู่ตรงนี้ แล้วพยายามหายใจเข้าออกช้าๆเพื่อสงบความคิดตัวเองไม่ให้แสดงออกมากเกินไป ทั้งที่เวลาแค่แป๊บเดียวแต่เขารู้สึกเหมือนว่านาน มือเธอหอมมากจนต้องข่มใจอย่างหนักไม่ให้จับมาจูบมาดม
รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะเป็นโรคจิตเวลาอยู่ใกล้เธอ
ความรักมันไม่ต้องใช้เวลาเขารู้แล้ว เพราะว่ารักเธอตั้งแต่แรกพบ แต่ไม่คิดว่าเพียงแค่ตัวหนังสือที่พิมพ์โต้ตอบกันไปมาในห้องแชทจะทำให้เขารู้สึกกับเธอมาขึ้นกว่าเดิมมากขนาดนี้
เขารักเธอแล้วตอนนี้กำลังจะหลงเธอด้วย!!
“มือหนูหอมจัง” เขาพูดออกไปทำไม
“ตัวก็หอมค่ะ ยิ่งเป็นแก้มยิ่งหอมค่ะ” เธอบอกไปอย่างไม่คิดอะไรมากเพราะแค่อยากจะหยอกเขาเฉยๆ
“หนูนี่ปากหวานมากนะ ถ้าใครเป็นแฟนคงตัวลอยวันล่ะร้อยรอบได้เลยมั้ง” คำพูดเธอน่ะมันทั้งหวานฉ่ำ ทั้งให้ความหวัง ผสมกับการอ่อยเล็กๆ ทั้งที่ตีหน้าซื่อได้แบบไร้เดียงสาที่สุด
เธอน่ารักมากจนสามารถขโมยใจคนไปได้ง่ายๆ
“คงไม่มีใครเอาหรอกค่ะ วันๆอยู่แต่อะไรเดิมๆแล้วก็ช่วงนี้อยู่กับเสี่ยฮายบ่อยด้วย หนูว่านะเสี่ยฮายน่าจะมีแฟนก่อนหนูซะอีก” เธอจำได้ว่าเขาโสดนะ เธอจำได้หลายอย่างเกี่ยวกับตัวเขาโดยที่ไม่ต้องพยายามอะไรเลย เรื่องของเขามันค่อยๆวนเข้ามาในหัวเธอช้าๆ เหมือนกับการตอบข้อความเขาแหละ เธอชินมากแล้วก็ทุกครั้งเธอจะเป็นคนบอกมอร์นิ่งและกู๊ดไหนก่อนเสมอ
หลังจากกินอาหารเที่ยงเรียบร้อยไอติมขอตัวไปแปรงฟันในขณะที่เขาไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้เลย เธอเป็นเด็กอนามัยและรักความสะอาดมากพอสมควรเลย
“พร้อมเรียนแล้วค่ะเสี่ยฮาย”
“พร้อมสอนแล้วเหมือนกันครับ”
“หัดเพลงอะไรดีคะ?”
“เพลง 191 ของลาบานูนครับ เสี่ยจะสอนแบบง่ายๆแล้วคืนนี้หนูเล่นให้เสี่ยฟังด้วยนะ”
“ได้ค่ะ งั้นคืนนี้สี่ทุ่มหนูวีดีโอคอลไปหานะคะ” เธอเริ่มหัดเล่นตามที่เขาบอกช้าๆด้วยความตั้งใจ
ปรกติเสี่ยฮายจะให้เธอลองเล่นเพลงของวงแท็กซี่เป็นส่วนใหญ่ แล้วก็มีของวงบิ๊กแอสบ้างเพราะเขาบอกว่ามีเพลงที่เล่นง่ายๆให้เลือกเยอะ วันนี้ลองเล่นเพลงเก่าของวงลาบานูนดูก็ดีเหมือนกัน ช่วงนี้เธอไม่ค่อยเจ็บนิ้วเท่าตอนแรกเลยเล่นได้ดีขึ้นกว่าเดิม ความจริงคือเขาก็เป็นคนที่สอนอย่างละเอียดมาก แล้วยังใจเย็นไม่เร่งรีบเลยสักนิด
รสนิยมการเลือกเพลงของเขาค่อนข้างจะเป็นเพลงเก่ามาก บางเพลงเธอยังแทบไม่รู้จักเลยด้วยซ้ำ บางเพลงก็ดังช่วงที่เธอเป็นเด็กๆด้วยนะ หลายครั้งที่เขาเล่นกีต้าร์ให้ฟังแต่จะเป็นเพลงรักซะส่วนใหญ่นะ อย่างเพลงแค่บอกว่ารัก เพลงเล่นของสูง เพลงเธอเป็นแฟนฉันแล้ว เพลงคืนที่ดาวเต็มฟ้า เพลงคิดถึงฉันไหม เพลงใจเย็น เพลงเธอสวย เพลงทำอะไรสักอย่าง และเวลาที่ร้องชอบมองหน้าเธอ แล้วหลบตาพร้อมยิ้มออกกว้างเหมือนคนกำลังเขินอายงั้นแหละ เธอแอบคิดนะว่าตอนเรียนเขาต้องเล่นกีต้าร์จีบสาวบ่อยแน่เพราะท่าทางแพรวพราวมากขนาดนี้
“จับแบบนี้นะ แล้วค่อยๆดีดไปแบบนี้” เขาแทบจะกอดเธอได้อยู่แล้วเพราะตอนนี้ยืนซ้อนเก้าอี้เธอ แล้วก้มลงจนแก้มเราแทบสัมผัสกัน มือเขายังจับมือเธอดีดไปเป็นจังหวะ
“ค่ะ เพลงนี้สนุกดีนะคะหนูชอบ”
“เสี่ยก็ชอบเหมือนกัน” เขาชอบเธอเนี่ยเมื่อไรจะรู้ตัวนะ
“มือหนูนุ่มมากนะ” นุ่มมากด้วยพอได้จับแล้วไม่อยากจะปล่อยเลยตัวก็หอมจนอยากจะก้มลงไปสูดดมกลิ่น
“แก้มก็นุ่มค่ะ”