“อ้าวเสี่ยฮายมานั่งทำอะไรคนเดียว?” โจอี้ถามขึ้นพร้อมกับเดินมานั่งเล่นเป็นเพื่อน
“ไม่มีอะไรหรอก ว่าแต่โจอี้ไม่ไปปาร์ตี้กับคนอื่นเหรอ?” คนนี้อัธยาศัยดีเหมือนไอติมมากๆด้วย แต่ว่าคนนิสัยดีเฟรนลี้แบบนี้ถ้าโสดมันไม่เป็นอะไรหรอกแต่ถ้ามีแฟนคงแย่เลยสิ ว่าแล้วก็นึกถึงไอติมขึ้นมา ถ้าเป็นแฟนกันเขาคงหวงมากเพราะความเฟรนลี้ ความขี้เล่น ความพูดเพราะนิสัยดี หน้าตาก็ดีมาก เรียกได้ว่าดีทุกอย่างเลยใครจะชอบแม่งก็ไม่แปลกแต่ถ้าใครคิดแย่งมีเรื่องแน่
“เสี่ยฮายดูหวงไอติมมากนะครับ” จากสายตาที่มองผู้ชายด้วยกันมีเหรอจะดูออก
“เสี่ยก็หวงมากจริงๆ” นี่ขนาดยังไม่ได้เป็นแฟนนะเขายังหวงแต่ก็ขัดใจไอติมไม่เคยได้เลยสักครั้ง
“ไอติมดูมีความสุขนะเวลาอยู่กับเสี่ยฮาย นี่ทำให้ผมไม่แปลกใจเลยทำไมถึงกล้าชวนเสี่ยฮายมาเที่ยวด้วย”
“เสี่ยขอมาด้วยเองแหละครับ ไอติมแค่บอกเฉยๆคงกลัวว่าเสี่ยจะเป็นห่วง ปรกติก็เดี๋ยวมาเดี๋ยวหายถ้าไม่ตามทุกอย่างคงจบ รอบนี้คงจะสงสารคนตามน่ะเลยบอกกันบ้าง”
“ก็ดีครับที่ไอติมบอกเพราะมันแสดงว่าเสี่ยฮายสำคัญนะ”
“ถ้าเป็นแบบนั้นก็ดีสิจะได้มีหวังบ้าง ไอติมน่ะใจแข็งมากกว่าที่เสี่ยคิดไว้ซะอีก”
“งั้นเสี่ยฮายควรดีใจนะครับ เพราะว่าไอติมใจแข็งมากแถมเปิดใจให้ใครยากมากเรื่องนอกใจไม่ต้องคิดมากเลยว่าจะมี” โอกาสนอกใจแทบจะกลายเป็นศูนย์ไปเลยแหละเขารู้ดี
“อาร์มบอกผมว่าเสี่ยขอคบกับไอติมเหรอ?”
“ใช่ เสี่ยอายุจะสามสิบไม่ใช่เด็กๆที่คบกันเล่นๆแล้ว เสี่ยอยากคบใครจริงจังแล้วก็เปิดเผยไม่ต้องหลบซ่อน แต่ก็ไม่รู้ว่าไอติมจะยอมเป็นแฟนกันรึเปล่าก็อีกเรื่องหนึ่ง” กลับไปเมื่อไรนะเขาจะต้องได้เธอเป็นแฟน แล้วหลังนั้นก็รอจนเรียรจบแล้วแต่งงานสร้างครอบครัวด้วยกันอย่างอบอุ่น ไม่ว่าไอติมจะทำอะไรเขาพร้อมจะสนับสนุนทุกอย่างขอเพียงแค่เธอมีความสุข
“ผมว่านะเสี่ยฮายอาจจะต้องเตรียมใจอำลาความโสดอีกไม่นานนี้แล้วแหละ งั้นผมไปปาร์ตี้ก่อนนะ!”
“ออกจากวงการโสดครั้งนี้จะไม่กลับไปโสดอีกเลย!”
หลายวันผ่านไปหลังจากกลับจากเที่ยวเขายุ่งมากไอติมก็ยุ่งกับการเรียนเหมือนกัน แต่เขาก็ยังหาเวลาให้เธอได้อยู่ถึงมันจะน้อยลงกว่าเมื่อก่อนมากก็ตามและเธอก็เข้าใจดี เขาคิดถึงไอติมตลอดเวลาแต่ไอติมก็ยังคงเป็นคนเดิม ช่วงนี้เดี๋ยวก็มาเดี๋ยวหายเงียบแถมยังตอบข้อความช้ามากแต่นั่นแปลได้ว่ากำลังยุ่งอยู่กับอะไรสักอย่างหนึ่งนี่แหละ
วันนี้ก็เหงาจนทนไม่ไหวแล้ว เธอหายไปตั้งแต่เมื่อคืนแม้ว่าจะส่งข้อความมาบอกฝันดีตอนสี่ทุ่มครึ่งแต่เมื่อเช้าไม่รับสาย จนถึงตอนนี้ข้อความที่ส่งไปยังไม่มีการเปิดอ่านด้วยซ้ำ เขาตั้งใจจะทำงานให้เสร็จแล้วไปหาไอติมทวงเอาคำตอบกับเธอสักที
“เสี่ยครับน้องไอติมมาหา”
“ต่อไปถ้าเป็นไอติมก็ให้เข้ามาเลย”
“สรุปแล้วได้คบเป็นแฟนยังครับ ผมเห็นเสี่ยจีบมาตั้งนานเกือบครึ่งปีแล้วนะ”
“ยัง รีบไปพามาเร็วๆ”
“ครับผม”
เห็นทีวันนี้ฝนคงจะตกแบบฟ้ารั่วน้ำจนท่วมทั้งเมืองแน่นอนเลยไอติมถึงมาหาเขาเองถึงที่ออฟฟิศแบบนี้ จะว่าไปแล้วช่วงนี้เราก็ไม่ค่อยได้เจอกันเลยนะ ตอนนี้ใกล้จะวันเกิดแล้วด้วย มันถึงเวลาอันสมควรที่จะทวงถามสถานะตัวเองอีกครั้งได้รึยังนะ
“เสี่ยฮายไม่เจอกันนานเลยนะคะ” เธอเดินเข้ามาในห้องทำงานเขาพร้อมกับขนมและผลไม้เยอะมาก
“หนูว่างแล้วเหรอถึงมาหากันได้” เขาวางทุกอย่างลงทันทีแล้วไปนั่งข้างๆแทน ไอติมมาหาทีไรงานไม่เป็นอันทำตลอดเลย แต่ช่างเถอะค่อยทำย้อนหลังเอาก็ได้
“วันนี้หนูมาเอารถค่ะเลยแวะมาหา เอ่อ…เสี่ยฮายยุ่งรึเปล่าคะ?” เธอคิดถึงเขานะถึงได้มาหาแบบไม่ได้บอกกล่าวล่วงหน้า แล้วดูงานที่กองบนโต๊ะก็เยอะมากเลยนะ
“เสี่ยว่างครับ…เสี่ยวางมากเลยด้วย! เราออกไปหาอะไรกินดีไหม?” เรื่องงานช่างหัวมันเดี๋ยวหอบกลับไปทำที่บ้านก็ได้ แต่คนตรงหน้าเนี่ยปล่อยไม่ได้แล้ว โอกาสแบบนี้มีน้อยมากต้องรีบคว้าเอาไว้ก่อน
“เสี่ยทำงานเถอะค่ะ เดี๋ยวหนูเอาขนมกับผลไม้จัดจานให้ดีกว่า” เธอลุกขึ้นแต่ว่าเขามาจับมือกันอีกแล้วยังมองด้วยแววตาเว้าวอน เธอยิ้มกว้างรู้ถึงความหมายในแววตาของเขาที่สื่อ
“หนูว่างอยู่กับเสี่ยฮายทั้งวันค่ะ ดังนั้นทำงานนะคะเดี๋ยวรถได้แล้วเขาโทรเรียกเอง”
“อยู่ด้วยกันตลอดเลยไม่ได้เหรอ?”
“เดี๋ยวหนูเอาผลไม้ไปจัดจานให้นะคะ” เธอยิ้มกว้างแกะมือเขาออกแล้วหยิบถุงขนมกับผลไม้ที่ซื้อมาเตรียมไปจัดใส่จานให้
ห้องครัวเล็กๆที่มีถ้วยจานพร้อมแล้วยังมีโต๊ะนั่งกินข้าวขนาดเล็กอีกแสดงว่าต้องมีใครสักคน หรือหลายคนสั่งอาหารมากินที่นี่ เธอหยิบขนมมาแกะแล้วใส่จานให้เสี่ยฮายส่วนหนึ่งอีกส่วนก็เอาไว้เผื่อพนักงานของที่นี่ด้วย แล้วผลไม้ก็ทำแบบเดียวกัน เธอกำลังจะยกไปให้แต่เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นจนต้องหยุดรับสาย
Rrrrrr…
“ค่ะพี่โจอี้”
ในขณะเดียวกันฮายนั่งอมยิ้มด้วยความสุขมาก เอาแต่จูบมือตัวเองข้างที่จับมือไอติมก่อนจะลุกไปจัดการงานให้เรียบร้อยดีกว่า เขายอมทิ้งงานเพื่อเธอแต่ว่าเธอไม่ยอมเลยจะอยู่ด้วยทั้งวันแบบนี้สิดีต่อใจมากๆ ใครได้ไอติมไปถือว่าโคตรดีเลยถึงแม้ว่าเธอจะใจร้ายนิดหน่อยกับคนที่คิดเกินเลยไปแบบเขา
“ฮายเรามีเรื่องจะคุยด้วย”
“เก๋? มีไรแล้วทำไมไม่โทรมาก่อนวะ” แฟนเก่ามาหาถึงออฟฟิศแล้วทำไมไม่ลากผัวใหม่มาด้วยวะ
“เรารีบน่ะ ได้ข่าวว่าไปร้านชาบูเหรอ?” เก๋ถอนหายใจก่อนจะถามออกไปพึ่งจะเห็นกระเป๋าผู้หญิงวางที่โซฟา นี่แฟนเก่าของเธอมีแฟนใหม่แล้วเหรอไม่เห็นได้ข่าวเลย เธอจะไม่ยอมให้เขามีใครทั้งนั้นเพราะที่ตรงนี้มันเป็นของเธอใครก็แทนไม่ได้
“แล้วไง?” ก็ไปแล้วมันทำไมในเมื่อร้านนั้นก็เคยเป็นของเขามาก่อน อีกอย่างมันก็นานแล้วด้วย
“ถ้าเราขายต่อแกจะซื้อไว้ไหม คือเราจำเป็นต้องใช้เงินด่วนมากน่ะ” เก๋ถอนหายใจหนักอีกครั้งแล้วเดินไปจับมืออดีตคนรักที่เคยเป็นหุ้นส่วนร้านชาบูจนเลิกกันถึงถอนหุ้นออกหมด ในตอนนี้ฮายดูดีมากกว่าเมื่อก่อนเยอะจนไม่น่าเชื่อเลยว่าเราจะเลิกกันไปแล้วตั้งสามปีแล้ว
“แล้วผัวแกไม่ว่าเหรอ?” ก็แต่งงานแล้วมาเกี่ยวอะไรกับเขาอีก แล้วไม่จำเป็นสักนิดว่าคนซื้อร้านชาบูนั้นต่อต้องเป็นเขา
“เรากำลังจะหย่ากันน่ะ เราว่าจะไปเมืองนอกคงจะไม่ได้กลับดูแลแล้วเลยจะขายต่อให้แก อย่างน้อยแกก็เคยเป็นเจ้าของนะฮาย” เก๋บอกพร้อมถอนหายใจอีกครั้งแล้วจับมืออดีตคนรักแน่นขึ้น ตอนนี้เธอเดือดร้อนจริงๆเพราะรีบขายจะรีบหนีไปพักใจที่เมืองนอกสักพัก แล้วคนที่รู้จักร้านนั้นดีก็คงเป็นอดีตคนรักนี่แหละ แต่ว่าตอนนี้เปลี่ยนใจแล้วอยากได้เขากลับคืนมามากกว่า
ที่ฮายโสดมาตั้งสามปีก็เพราะว่ายังรักเธออยู่ใช่ไหมละ?
จะต้องไม่มีใครแทนที่เธอได้ทั้งนั้นแหละ!
“ไว้ส่งข้อมูลมาแล้วกัน ตอนนี้กลับไปก่อนเดี๋ยวคนมาเห็นจะเข้าใจผิดเอา” กลัวไอติมมาเห็นนี่แหละจะเป็นเรื่องใหญ่มาก เพราะเวลาเธอโกรธแล้วจะโคตรเงียบจนเดาใจอะไรไม่ออก แถมยังพร้อมตัดขาดจากอะไรที่ทำให้รู้สึกแย่ด้วย
อย่าลืมว่าเขาโคตรพยายามให้เรื่องของเราได้ไปต่อ
แฟนเก่าจะเป็นอุปสรรคไม่ได้!
แต่เหมือนว่าไม่เคยมีแต้มบุญพอจะดวงดีเหมือนคนอื่นเลย แล้วยังโชคร้ายมากอีกด้วยเพราะว่าประตูห้องเปิดเข้ามาพอดี ผู้หญิงที่สวยมากยิ้มกว้างถือจานขนมกับผลไม้มาให้ ดูเหมือนว่าจะเข้าใจผิดเขาด้วยเพราะแววตาที่เก็บซ่อนไม่มิดชิดและรอยยิ้มที่จางหายไปอย่างรวดเร็ว
แม่งเอ้ย! กูอยากจะบ้าตายจริงๆเลย!!!
“แม่บ้านคนใหม่เหรอคะฮาย?” เก๋หันไปมองแล้วจงใจถามออกไปโดยที่ไม่ปล่อยมืออดีตคนรักเพราะตั้งใจทำให้เห็น
“เอ่อ…คือว่า…หนูขอตัวนะคะ! เสี่ยฮายน่าจะติดธุระแล้วหนูไม่รบกวนดีกว่าค่ะ” เขาเอื้อมมือจะคว้าข้อมือเล็กเอาไว้ แต่ว่าเธอเดินเลี่ยงออกห่างแล้วหยิบกระเป๋าเดินออกจากห้องทำงานนี้ไปและไม่ลืมที่จะปิดประตูให้อย่างเงียบกริบ
เป็นความเงียบที่ทำให้รู้สึกเย็นยะเยือกไปทั้งตัว!
“เดี๋ยวไอติม!” นาทีนี้เขาแกะมือเก๋ออกก่อนแล้วรีบวิ่งตามว่าที่แฟนออกไปทันที เพราะทุกอย่างที่ตั้งใจมานานอาจจะพังลงเพียงเพราะแฟนเก่าที่เป็นเหี้ยอะไรไม่รู้ถึงมาจับมือ แล้วผีเจาะปากมาพูดรึไงถึงตั้งใจพูดแบบนั้นออกไปให้คนเข้าใจผิด
ขอละทูนหัวรับฟังอย่าหนีหายออกไปชีวิตเสี่ยเลยนะ
รู้ไหมว่าเสียวสันหลังไปหมดแล้วเนี่ย!!
ผู้หญิงคนนั้นเป็นแฟนเก่าเสี่ยฮายเธอจำได้ดีถึงแม้ว่าจะไม่เคยเห็นตัวจริงเลยก็ตาม อยู่ในห้องทำงานตามลำพังสองคนแล้วยังจับมือถือแขนมองกันด้วยสายตาเว้าวอนขนาดนั้น นี่พวกเขาจะคืนดีกันรึเปล่าก็ไม่รู้ ดังนั้นควรถอยออกมามากกว่าเข้าไปเป็นอะไรที่ไม่ดีในชีวิตใครสักคน
เธอเดินออกมานอกออฟฟิศหลับตานิ่งแล้วถอนหายใจเพื่อสงบสติอารมณ์ แล้วเรียกวินมอเตอร์ไซค์ที่ขับผ่านมาพอดีให้ไปส่งที่ศูนย์ซ่อมรถตรงหน้าปากซอยที่ต้องข้ามถนมไปอีกที ภายในหัวของเธอคิดไปเยอะแยะเต็มไปหมด แล้วความตั้งใจที่จะมาหาเพื่อให้คำตอบเรื่องสถานะของเราในตอนนี้กลายเป็นศูนย์ไปหมดแล้ว คำพูดพวกนั้นไม่กล้าจะเอ่ยออกไปแล้ว
ผิดที่เธอไม่ดีเองเขาเลยรอไม่ไหว!
“เดี๋ยวไอติม!!!” ไม่ทันครับนั่งรถไปนู้นแล้ว
“โธ่เว้ย!!” กำลังจะดีอยู่แล้วเชียว