"คิดแล้วหรือยัง เรียนจบจากที่นี่แล้วจะสอบเข้ามหาวิทยาลัยเรียนคณะอะไรต่อ"หญิงสาวถามขึ้นในขณะที่ทั้งจับมือก้าวขาเดินไปบนเส้นทาง
"ก็ว่าจะเรียนมหาลัยใกล้ ๆ บ้านนี่แหละ"
"มหาลัยใกล้บ้าน มีแต่ของรัฐบาลทำไมไม่ไปเรียนมหาลัยเอกชนล่ะ"ต้นกล้าเหลือบสายตาไปมองหน้าแฟนสาว ก่อนที่เขาและเธอจะเดินเลี้ยวเข้าซอยบ้านของวาดฝันซึ่งบ้านแต่ละหลังนั้นล้วนเป็นของคนร่ำรวยมีเงินทองใช้ทั้งชาติก็ไม่หมดเช่นเดียวกับครอบครัวของวาดฝัน
"ว่ายังไงล่ะกล้า ถ้ากล้าไปเรียนมหาลัยเอกชนเราสองคนก็จะได้เรียนที่เดียวกันไง"
กึก
"ฝัน"ต้นกล้าหยุดชะงักหันมามองหน้าแฟนสาว
"เธอก็รู้ว่าครอบครัวของเราไม่ได้รวยอะไร ที่เราเข้าเรียนโรงเรียนนี้ก็เพราะเราได้ทุนนักกีฬา"ต้นกล้ามองหน้าแฟนสาวพลางถอนหายใจ ถึงแม้ว่าพ่อของเขาจะเป็นเจ้าของบริษัทแต่ท่านก็มีภาระต้องดูแลลูกน้องมากมาย และไหนจะส่งเสียงพี่สาวฝาแฝดให้เรียนถึงโรงเรียนชื่อดังซึ่งค่าเทอมแพงหูดับกว่าโรงเรียนที่เขากับวาดฝันเรียนในตอนนี้เสียอีก
"ฝันรู้ ฝันขอโทษ ฝันก็แค่อยากให้กล้าเรียนที่เดียวกัน"หญิงสาวพูดเสียงอ่อยพลางก้มหน้ามองพื้นด้วยความรู้สึกผิด
"ถึงเราไม่ได้เรียนมหาลัยเดียวกัน แต่เราก็ยังนัดเจอกันได้นี่"เห็นแฟนสาวสีหน้าสลดเขาก็อดที่จะปลอบใจเธอไม่ได้
"เอาอย่างนี้ไหม กล้าจะลองไปสอบมหาวิทยาลัยเดียวกับฝัน ได้หรือไม่ได้ค่อยว่ากันอีกที"สุดท้ายแล้วเขาก็เป็นผู้ชายที่พ่ายแพ้ให้กับแฟนสาวอยู่ดี วาดฝันยิ้มตาหยี่คล้องท่อนแขนซบลงบนไหล่กว้างด้วยความดีใจ
"ฝันรักกล้าที่สุดเลย"
"หึ ๆ กล้าก็รักฝันเหมือนกัน"วาดฝันใจเต้นแทบจะทะลุออกมา ทั้งสองเดินคล้องแขนไปยังบ้านหลังใหญ่สุด ซึ่งอยู่ท้ายซอยบรรยากาศยามบ่ายคล้อยเติมเต็มไปด้วยความว่ารักจากปากของทั้งคู่ แม้จะไม่มีใครรู้และคาดถึงว่าอีกไม่นานทั้งสองแทบจะมองหน้าไม่ติดกัน
ฮึก ฮึก
เสียงร้องไห้ปานแทบขาดใจตายของต้นน้ำดังอยู่ในความมืดมีเพียงแสงสว่างอันเลือนรางจากดวงจันทร์ลอดผ่านทานหน้าต่าง ปลายนิ้วมือเลื่อนสไลด์มองรูปถ่ายในโทรศัพท์ มองผู้ชายที่เป็นรักแรกและรักเดียวของเธอพลันน้ำตาไหลอาบหน้าดวงตาหมองเศร้า หลายวันมาแล้วที่ไม่สามารถติดต่อเข้าได้แต่ก็ยังมีข่าวคราวของอีกฝ่ายให้เธอได้เห็นผ่านสื่อบนโทรศัพท์
"คุณทำแบบนี้กับหนูได้ยังไง ฮึก"คำบอกรักแสนหวานชื่นในคือพระจันทร์เต็มดวง สองชายหญิงหล่อหลอมเป็นหนึ่งเดียวกันมันยังคงเป็นภาพตราตรึงในความรู้สึกของเธอ
'เธอรักฉันไหมต้นน้ำ'
'รักค่ะ หนูรักคุณ'หญิงสาวตอบด้วยน้ำเสียงชัดถ้อยคำเธอแน่ชัดกับความรู้สึกของตัวเธอที่มีต่อผู้ชายตรงหน้า
'ถ้าเธอรักฉันจริงก็อย่าปฏิเสธฉันเลยนะ ยอมเป็นของฉัน'
'ถะ...ถ้าคุณสัญญาว่าจะรักและมีแค่หนู'
'ฉันสัญญา'ชายหนุ่มสอดฝ่ามือลูบไล้ไปตามต้นขาด้านในจนถึงใจกลางความสาว ความบริสุทธิ์ในวัยสาวต้นน้ำมอบให้เขาด้วยความเต็มใจภายในโรงแรมม่านรูดซึ่งอยู่ห่างออกไปจากโรงเรียนเพียงไม่ถึงสิบกิโล ซึ่งที่แห่งนั้นมันเปรียบเสมือนรังรักของเขาและเธอในตลอดหลายเดือนซึ่งเป็นจังหวะเดียวกันกับการที่เธอต้องขาดเรียนจนทางโรงเรียนต้องส่งจดหมายมาถึงผู้ปกครอง
"คุณหลอกหนู"เธอกำซองจดหมายสีขาวซึ่งเป็นจดหมายของทางโรงเรียนที่ส่งมาในก่อนหน้านี้ถึงสองฉบับ มันคงเป็นความดีที่ยังคงเหลืออยู่เมื่อเธอกลับมาถึงบ้านหลังจากเสร็จความรักใคร่ในแบบฉบับหนุ่มสาว ซองสีขาวสอดอยู่ตรงตู้จดหมายหน้ารั่วทำเอาหัวใจดวงน้อยของเธอเต้นสั่นด้วยความหวาดกลัวเมื่อเห็นสัญลักษณ์ของโรงเรียนประทับไว้เด่นหรา ก่อนที่พ่อกับแม่และน้องชายจะมาเห็นเธอต้องรีบจัดการกับมัน
'หมายเลขที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ภายในขณะนี้ค่ะ'
"คุณคิดจะเฉดหัวหนูทิ้งอย่างนั้นจริง ๆ สินะคะ"นัยน์ตาอ่อนโยนเปลี่ยนเป็นแข็งกร้าว เธอต้องคุยกับเขาให้รู้เรื่องเธอจะไม่ยอมเสียคนรักเสียพ่อของลูกไปเด็ดขาด
ในยามดึกเงียบสงัดทุกคนภายในบ้านต่างหลับกันหมดมีเพียงแต่เธอเท่านั้นที่นั่งรอเวลานี้ หญิงสาวในชุดรัดกุมก้าวเท้าออกจากห้องนอนด้วยความระมัดระวัง เธอตั้งมั่นว่าคืนนี้จะไปคุยกับคนรักให้รู้เรื่อง สองเท้าเล็กก้าวขาลงบันไดใช้ความชำนาญมองเส้นทางผ่านความมืดมิดก่อนจะพาตัวเองมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าประตู
"เดี๋ยวหนูจะกลับมานะคะ พ่อแม่"
ตึก ตึก
สองเท้าภายใต้รองเท้าหุ้มส้นสีดำเดินย้ำเท้าไปตามเส้นทางที่คุณเคยด้วยความระมัดระวังว่ากลัวว่าใครจะผ่านมาเจอแล้วจำเธอได้
ต้นน้ำถอนหายใจเฮือกใหญ่เมื่อเดินมาถึงถนนใหญ่มีรถวิ่งผ่านไปมาในยามค่ำคืน
"ไปไหนครับ"
"ไปหมูบ้านวรินทราค่ะ"หญิงสาวมองกระจกหลังรถแท็กซี่ ไม่มีใครตามมาและคนในบ้านคงยังไม่รู้ตัวว่าเธอหนีออกมาเพื่อจะไปหาพ่อของลูก
"ถึงแล้วครับ"
"นี่ค่ะ เงิน"เธอเปิดประตูลงจากรถแท็กซี่เมื่อจ่ายเงินเสร็จ ใบหน้าซีดเซียวไร้ความน่าดึงดูดเหมือนในตอนแรงเงยมองบ้านหลังใหญ่ตรงหน้าด้วยแววตายากจะคาดเดา
"มาหาใครครับ"บอดี้การ์ดเฝ้าเวรยามอ่อนถามเมื่อเห็นหญิงสาวคนหนึ่งมายืนอยู่ตรงหน้าประตูรั้วในยามค่ำมืดดูท่าทางไม่น่าไว้ใจ
"หนูมาหาคุณชัชชัยค่ะ"ต้นน้ำถอดหมวกกับที่ปิดปากออกให้บอดี้การ์ดได้เห็นใบหน้าของเธออย่างชัดเจน
"คุณต้นน้ำ"
"คุณชัชชัยอยู่ไหมคะ"เธอถามย้ำมองผ่านประตูรั้วเข้าไปก็เห็นรถคันหรูที่แสนคุ้นเคยจอดนิ่งอยู่
"อยู่ครับ แต่ตอนนี้ท่านกำลังพักผ่อนเชิญคุณต้นน้ำมาใหม่วันพรุ่งนี้จะดีกว่านะครับ"
"ไม่ได้ค่ะ น้ำมีเรื่องด่วนต้องการคุยกับเขา"
"แต่ตอนนี้ท่าน"
"ถ้าพี่ไม่ไปตามเขาออกมาพบ น้ำจะบอกให้คนทั่วทั้งประเทศได้รู้ว่าใครคือพ่อของเด็กในท้อง"เธอไม่ได้ขู่แต่ถ้าเขายังไม่ออกมาพบเธอในตอนนี้พรุ่งนี้ก็เตรียมตัวเป็นข่าวใหญ่ลงหน้าหนังสือพิมพ์ได้เลย
"ถ้าอย่างนั้นคุณน้ำยืนรออยู่ตรงนี้สักครู่นะครับ"แม้จะมีสีหน้าหนักใจแต่สุดท้ายแล้วบอดี้การ์ดคนนั้นก็ยอมทำตามคำสั่งของเธอ
"แม่จะสู้เพื่อหนูนะลูก"ฝ่ามือเล็บลูบลงบนหน้าท้องนูนให้ความรักผ่านลูกน้อยในท้อง