บทที่1
"นี่มันอะไรกันต้นน้ำ ทำไมทางโรงเรียนถึงได้ส่งจดหมายมาที่บ้านบอกว่าลูกไม่ได้ไปโรงเรียนตั้งหลายอาทิตย์ มันหมายความว่ายังไง"ผู้เป็นพ่อฟาดซองจดหมายสีขาวประทับตราสัญลักษณ์ของโรงเรียนลงบนโต๊ะตรงหน้าลูกสาวด้วยความขุ่นเคืองเนื่องจากทางโรงเรียนส่งจดหมาย ในข้อความระบุเอาไว้ว่า ต้นน้ำลูกสาวคนโตได้ขาดเรียนติดต่อกันหลายอาทิตย์จนแทบจะไม่มีสิทธิ์สอบทั้งที่ยังเหลืออีกแค่เทอมเดียวเท่านั้นก็จะเรียนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่หก
"ห...หนู"ต้นน้ำก้มมองซองจดหมายริมฝีปากเม้มเป็นเส้นตรงดวงตาเกลือกกลิ้งคล้ายคนกำลังคิดหาคำพูดแก้ตัว
"หนูอะไร ต้นน้ำบอกพ่อกับแม่มาว่าทำไมทางโรงเรียนถึงส่งจดหมายนี้มาได้ หนูไม่ได้เข้าโรงเรียนใช่ไหม"
"คือหนู"เม็ดเหงื่อไหลซึมไปตามไรผมเมื่อถูกผู้เป็นพ่อคาดคั้นและไหนจะแววตากดดันให้พูดความจริงจากผู้เป็นแม่
"ต้นน้ำ บอกพ่อเขาไปสิลูก"
"คือหนู ฮึก"ยังไม่ทันจะได้พูดอะไรก็มีคลื่นลูกใหญ่ตีตื้นขึ้นมาจุกลำคอ ร่างผอมบางแต่กลับมีสัดส่วนของวัยสาวหยัดกายลุกขึ้นรีบวิ่งไปยังทางห้องน้ำด้วยความเร็วสร้างความตกใจให้กับบิดาและมารดา
อ๊วก อ๊วก
เสียงอาเจียนดึงดูดให้ทั้งสองต้องรีบเดินไปยังทิศทางของห้องน้ำเห็นแผ่นหลังในชุดนักเรียนกำลังโก่งคออาเจียนอยู่อย่างหนัก ผู้เป็นแม่รีบเข้าไปช่วยลูบหลังให้หัวใจเต้นกระสับกระส่ายพิลึกชอบกลยามเมื่อมองปฏิกิริยาอาการของลูกสาวในตอนนี้
"ต้นน้ำ"ผู้เป็นแม่สะดุ้งด้วยความตกใจรีบคว้าร่างไร้เรี่ยวแรงของลูกสาวเข้ามากอด ผู้เป็นแม่รู้สึกไม่สบายใจเมื่อเห็นอาการของลูกสาวในตอนนี้
"ต้นน้ำ หนูเป็นยังไงบ้างลูก"
"หนูรู้สึกเวียนหัวจังเลยค่ะแม่"น้ำเสียงแผ่วเบาดังราวกับกระซิบเรี่ยวแรงหายจนไม่มีแรงพยุงตัวลุกขึ้นแต่เป็นจังหวะดีที่ต้นกล้าน้องชายฝาแฝดของต้นน้ำกลับมาจากโรงเรียนเห็นพ่อที่แสดงสีหน้าไม่สู้ดียืนอยู่ตรงหน้าประตูห้องน้ำ
"เกิดอะไรขึ้นครับพ่อ แล้วนั่นพี่ต้นน้ำเป็นอะไร"เด็กหนุ่มผู้มีรูปหน้าหล่อเหลาผิวเหลืองขาวร่างกายกำยำดั่งเช่นนักกีฬาบาสเกตบอลของโรงเรียนอยู่ในสภาพชุดนักเรียนเปียกชุ่มไปด้วยหยาดเหงื่อสะพายกระเป๋าก้าวเท้าเดินเข้ามาใกล้ดวงตาคมกริบมองไปยังร่างของพี่สาวฝาแฝดในสภาพอ่อนแรงอยู่ในอ้อมกอดของผู้เป็นมารดา
"ลูกมาก็ดีแล้วต้นกล้า มาช่วยอุ้มพี่ต้นน้ำขึ้นไปบนห้องหน่อยสิ"
"ดะ...ได้ครับ"แม้จะยังไม่รู้เรื่องราวอะไรที่แน่ชัดแต่ด้วยความรักพี่สาวต้นกล้ารีบวางกระเป๋าเดินเข้าไปตวัดร่างพี่สาวขึ้นมาอุ้มเดินดุ่มขึ้นบันไดไปยังชั้นสองมุ่งหน้าสู่ห้องสีหวานของลูกสาวบ้านนี้
"คุณคะ"
"เธอขึ้นไปดูลูกเถอะ เช็ดตัวหาข้าวหายาให้ลูกทานด้วยนะ"จริญาอดไม่ได้ที่จะมองหน้าของสามี แม้รู้ว่าต้นน้ำจะทำผิดโกหกพ่อแม่แต่หน้าที่ของพ่อแม่คือต้องดูแลลูกให้หายดีส่วนเรื่องอื่นค่อยว่ากันอีกที
"พี่ต้นน้ำเป็นอะไรไปครับแม่"ต้นกล้าที่ยืนดักรออยู่ตรงหน้าประตูรีบเอ่ยถามเมื่อเห็นร่างของผู้เป็นแม่เดินขึ้นมายังชั้นสอง พลางสอดส่ายตามองเข้าไปยังด้านในห้องมองร่างของพี่สาวที่หลับสนิทไปด้วยความอ่อนเพลีย
"พี่ต้นน้ำหลับแล้วเหรอลูก"
"ครับ ว่าแต่แม่ยังไม่ได้ตอบกล้าเลยนะครับว่าพี่ต้นน้ำเป็นอะไรทำไมถึงได้มีสภาพเช่นนี้"จริญามองสีหน้าเคร่งเครียดของลูกชายพลางถอนหายใจด้วยความคับแน่นในอก
"แม่เองก็ไม่รู้เหมือนกันต้นกล้า"ตอนนี้ไม่มีใครทราบถึงเรื่องราวที่ต้นน้ำหายตัวไปไม่เข้าโรงเรียนเพราะถ้าหากทางโรงเรียนไม่ส่งจดหมายมาทางที่บ้านก็ไม่รู้เลยว่าลูกสาวของตัวเองนั้นขาดโรงเรียนบ่อยติดต่อกันถึงสามเดือนเข้าด้วยกัน แต่ถึงอย่างนั้นตอนเช้าลูกสาวก็ยังแต่งตัวไปโรงเรียนตามปกติแม้ตอนเย็นจะกลับช้าหลังจากพ่อแม่เลิกงานบ้างแต่มันก็ไม่ได้เป็นที่น่าสงสัย
มันนาน นานมากจนผิดสังเกตและถ้าอยากจะรู้ความจริงก็คงต้องรอให้เจ้าตัวฟื้นถึงจะสอบถามอีกครั้งได้ว่ามีเหตุผลอะไรทำไมถึงต้องทำแบบนี้ และมันก็น่าแปลกที่ต้นน้ำขาดโรงเรียนถึงสามเดือนทำไมจดหมายถึงพึ่งจะโผล่มา
"อืม"เสียงร้องครางในลำคอเบา ๆ ผ้าสีขาวซับน้ำหมาด ๆ เช็ดไปตามใบหน้าร่างกายของลูกสาวความเย็นชื้นจากผ้าสีขาวบางปลุกสติของต้นน้ำให้ฟื้นตื่นขึ้นมา เปลือกตาบางกะพริบถี่เมื่อเห็นร่างของผู้เป็นแม่นั่งอยู่บนเตียงนอนด้านข้างสาละวนอยู่กับการเช็ดเนื้อตัวให้เธอ
"มะ...แม่คะ"
"ต้นน้ำ ตื่นแล้วเหรอลูก"เมื่อได้ยินน้ำเสียงแหบแห้งของลูกสาวดังขึ้นจริญารู้สึกดีใจอยู่ไม่ต้องดวงตาแสดงถึงความดีใจสองมือยื่นไปช่วยโอบประคองร่างของลูกสาวที่พยายามหยัดกายลุกขึ้นนั่งใช้หมอนรองแผ่นหลังพิงกับผนังหัวเตียง
"เป็นยังไงบ้างลูก ยังรู้สึกเวียนหัวอยู่ไหม"
"นิดหน่อยค่ะ ขอบคุณนะคะที่แม่มาดูแลหนู"
"ขอบคุณอะไรกัน ลูกสาวของแม่ไม่สบายแม่ก็ต้องมาดูแลสิ"นัยน์ตาเอ่อท้นของผู้เป็นแม่เต็มไปด้วยความรู้สึกรักใครและเอ็นดู ยามเมื่อลูกไม่สบายเจ็บป่วยได้ไข้ถ้าแลกด้วยกันได้พ่อแม่ขอเจ็บไข้แทนเสียดีกว่า
"แม่ทำข้าวต้มกุ้งร้อน ๆ ของโปรดหนูมาให้ ทานเสียเถอะนะลูกจะได้ทานยา"จริญาหยัดกายลุกขึ้นยืนหมุนตัวกลับหมายจะไปยกถาดข้าวต้มแต่กลับถูกฝ่ามือนุ่มนิ่มของลูกสาวคว้าท่อนแขนของเธอเอาไว้
"มีอะไรเหรอลูก หรือลูกอยากได้อะไรเพิ่มแม่จะได้ไปทำให้"
"เปล่าค่ะ หนูไม่คิดอยากได้อะไรเพิ่ม"ต้นน้ำส่ายหน้าไปมาน้ำตารื้นความรู้สึกผิดมันติดอยู่ในใจจนยากจะพูดออกมา ทุกคนคงผิดหวังในตัวของเธอมากถ้าหากรู้ว่าเธอทำในสิ่งที่ไม่น่าให้อภัย
"หนูแค่อยากจะบอกแม่ว่า หนูรักแม่นะคะ"จริญายิ้มกว้างพร้อมกับหมุนตัวกลับมามอบสัมผัสแห่งความรักลงบนแก้มนุ่มนิ่มของลูกสาวทั้งสองข้าง
"แม่ก็รักลูกนะ ต้นน้ำ"
"ดวงใจของแม่"