“มึงถามกูเหรอ?” พี่ไวท์ชี้หน้าตัวเองอย่างสงสัยแต่ฉันรีบก้มหน้าหลบทันทีเพราะกลัวเฮียแสบดุ แต่เหมือนจะไม่ทันแล้วเพราะเฮียแสบและมองหน้าฉันอย่างไม่วางตา
“ไม่ใช่มึง!”
“เอ้า! หรือว่า...” พี่ไวท์หันมองฉัน
“แหะๆ เฮียขา~” ฉันเดินไปอ้อนเฮียแสบอย่างไวเพราะฉันมีความรู้สึกว่าระเบิดจะลง
หมับ!!
“อ๊ากกก จะเจ็บๆๆ” เฮียแสบเอามือมาบีบแก้มฉันอย่างแรง
“เฮ้ยๆ ไอ้แสบมึงจะไปบีบหน้าน้องทำไมว่ะ!?”
“เข้าไปรอกูในห้องทำงาน” เฮียแสบเมินคำพูดของพี่ไวท์และบอกฉันด้วยน้ำเสียงเย็นชา ฮือออ ไม่ชินเลย
“ค่ะ...” ฉันรับคำและเดินกลับไปที่ห้องทำงานของเฮียแสบที่เคยเข้าไปเมื่อกี้
PART: แสนแสบ
ผมมองหนูซ่าที่กำลังเดินคอตกเข้าไปด้านในร้านสักของผมเพื่อให้ไปรอในห้องทำงาน ซึ่งตอนนี้ผมกำลังโคตรหงุดหงิดเลยให้ไปซื้อข้าวแค่แปบกลับมาพร้อมรอยฝ่ามือบนหน้าแม่ง!!
“ห่วงน้องแล้วไปดุทำไมว่ะ?” ไอ้ไวท์เพื่อนผมตั้งเด็กถามผม
“เสือก! มึงกลับไปได้แล้ว” ผมไล่มันไม่รู้จะมาทำห่าอะไรทุกวันก็เจอกันอยู่ป่ะจะเสร่อมาหาเพื่อ?
“เอ้า! ก็วันนี้ก็ว่างอ่ะเลยอยากมาเล่นด้วย”
“เล่นเหี้ยอะไรไร้สาระกูจะทำงาน” วันนี้ผมมีสักทั้งหมด 3 คิว เสร็จไปแล้วหนึ่งเมื่อกี้นี้และไล่กลับไปแล้วอีกหนึ่งสรุปคือเหลืออีกหนึ่งแต่มันเป็นลายเล็กของผู้หญิงน่าจะใช้เวลาไม่นานเท่าไหร่
“กูกลับก็ได้เพราะว่าคุ้มเพราะได้รับรู้ว่าเพื่อนกูซ่อน...เด็ก ไปบอกไอ้เอสดีกว่า!!!” และมันก็วิ่งออกไป
ผมส่ายหัวให้มันเล็กน้อยก่อนจะเข้าไปทำงานต่อ แต่ไม่ลืมที่จะมองไปที่ประตูห้องทำงานที่ตอนนี้กำลังมีเด็กซนนั่งรออยู่ข้างใน
“ช่างแสนค่ะ เริ่มได้เลยไหมคะ?” คิวสุดท้ายของวันนี้เป็นผู้หญิงซึ่งที่จริงผมไม่ค่อยชอบสักผู้หญิงเท่าเพราะพวกชอบร้องครางทั้งๆที่มันไม่ได้เจ็บขนาดนั้นสักหน่อย แต่ผมรู้จุดประสงค์ของเธอดี หึ
“ครับ...”
“เบลอยากสักตรงนี้อ่ะค่ะ...” เธอถอยเสื้อและเปิดใต้ราวนมให้ดูว่าเธอต้องการสักตรงนั้น เหอะ! ถ้าติดเด็กแสบข้างในผมคงจัดการเธอไปแล้วร่านซะขนาดนั้น
“ใส่เสื้อและนอนจับเสื้อไว้” ผมบอกตอนนี้ไม่อารมณ์มาดูนมใครเพราะกำลังโมโหหนูซ่าที่ทำให้ตัวเองเจ็บตัวอีกแล้ว
“แต่ว่าแบบนี้เบลถนัดกว่า”
“แต่ผมไม่ถนัด... ถ้าไม่พร้อมก็ออกไป” เป็นอีกครั้งของวันนี้ที่ผมไล่ลูกค้า
“ก็ได้ค่ะ” เธอจำใจใส่เสื้อและเปิดแค่ช่วงใต้ราวนมให้ผมแทน
“เริ่มแล้ว...” ผมบอกหลังจากเตรียมอุปกรณ์ทุกอย่างเรียบร้อย
“ค่ะ อ่าส์” จึกกก~ ผมเริ่มลงเข็มและไม่สนใจเสียงร้องของเธอและตั้งใจทำงานเพื่อให้เสร็จเร็วๆและจะได้เข้าไปจัดการเด็กดื้อสักหน่อย
1 ชั่วโมงต่อมา...
“อ่าส์ ซี๊ดดดดด”
“เสร็จแล้ว...” ไม่รู้จะร้องทำไมเพราะผมยกเข็มขึ้นมาแล้ว น่ารำคาญฉิบหาย!
“อะอ้าว เหรอคะ?”
“อืม เท่าหมดหมื่นหนึ่ง” ถึงลายมันจะไม่ใหญ่แต่ก็ละเอียดเยอะอยู่เหมือนกัน
“เอ่อ พอจะมีอะไรลดค่า...” เธอเลื่อนมือมาลูบแขนผม
“ไม่มีและจ่ายเงินเร็วๆ”
“เอ่อ ค่ะๆ” เธอจ่ายเงินและเดินออกไป เห้ออ~ ไปสักที
ผมจัดการเก็บของและทำความสะอาดอุปกรณ์ทุกชิ้นก็ใช้เวลาไปเกือบครึ่งชั่วโมงแล้ว ผมเดินเข้ามาในห้องทำงานที่ตอนนี้กำลังมีเด็กกำลังหลับอยู่และร่องรอยที่กินข้าวไปแล้ว กินแล้วก็นอน เห้อออ~ ผมมองแผลที่หน้าก่อนถอยหายใจออกมา ทั้งๆที่เคยบอกไปแล้วแท้ว่าให้ระวังตัว
“ดื้อ!” ผมมองหนูซ่าที่กำลังหลับอยู่ที่โซฟาตัวยาว และไม่ลืมที่จะเอายามาทาแผลที่หน้าผมพยายามทาให้เบาที่สุดเพราะไม่อยากให้คนที่หลับอยู่ตื่นขึ้นมา
“เฮียขา~” ผมว่าทำเบาๆแล้วนะ หนูซ่ายังลืมตาขึ้นมามองหน้าผมได้อีกแถมยังหน้าอ้อนๆอีก
หนูซ่า...เป็นคนแรกที่ผมปล่อยให้เธอเข้ามาในชีวิตได้มากขนาดนี้ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม แค่อยากดูแลและปกป้องเธอแค่นั้น และผมก็ไม่ชอบเลยที่หนูซ่าต้องเกิดแผลแบบนี้
“อะไร?” ผมทำเสียงดุๆเพราะเธอรู้ตัวว่ามีความผิด
“กินข้าวหรือยังคะ? หนูซ่าซื้อข้าวกับขนมมาฝากด้วย” พรึ่บ! หนูซ่าลุกขึ้นและจัดแจงอาหารทั้งหมดให้ผม ที่ทำก็เพื่อถ่วงเวลานั่นแหละไม่อยากโดนผมดุล่ะสิ แต่ไม่เป็นไรค่อยคุยที่เดียว
ผมกินข้าวำที่หนูซ่าซื้อมาให้โดยมีหนูซ่าที่คอยพูดและอธิบายถึงอาหารต่างๆ ที่ซื้อมา เช่น ซื้อมาจากไหนราคาเท่าไหร่ ต่อแถวนานก็ยังเล่าให้ฟัง แต่ไม่เล่าถึงเรื่องไปโดนใครตบมา แปลกที่ผมฟังหนูซ่าโดยไม่รำคาณและไม่เบื่อเลยออกจะลื่นหูดีด้วยซ้ำ ถ้าไม่มีวันหนูซ่าในไหนผมคงเงียบหูมากแน่ๆ
“อร่อยไหมคะ?” ถามและทำหน้าตาอย่างลุ้นๆทั้งที่ไม่ซื้อเขามาแท้
“ไม่ได้ทำเองสักจะตื่นเต้นอะไรขนาดนั้น”
“เอ้า! ก็ถ้าไม่อร่อยคราวหน้าหนูซ่าก็จะไม่ซื้อมาให้เฮียแสบกินแล้วไง?” ใส่ใจ... นี้เป็นคำแรกที่เด้งเข้ามาในหัว และผมอยากให้เธอเป็นแบบนี้กับผมแค่คนเดียว
“อย่าไปเป็นแบบนี้กับใคร” สุดท้ายผมก็บอกออกไป
“เป็นอะไรคะ?”
“ใส่ใจ...” ถ้าเธอทำแบบนี้กับทุกคนผมคงต้องบ้าตายแน่ๆ
“หนูซ่าทำแค่เฮียแสบคนเดียวอยู่แล้ววว^-^”
“หึ งั้นแผลนี้ไปได้มาไงตอบกูสิ” ผมลูบหัวหนูซ่าอย่างเอ็นดู ก่อนถามปัญหาคาใจ
“ง่ะ คิดว่าลืมไปแล้วซะอีกกกกก”
“แดงไปครึ่งหน้าขนาดนั้นกูคงลืมมั้ง!”
“ชิ! อ่ะๆเล่าก็ได้เห็นเป็นเฮียแสบนะเนี่ยยยย” ลูกเล่นเยอะจริงๆ หึ
“ไม่ตลก” ต้องขู่กันบ้างเดียวได้ใจ
“บู้ๆไม่สนุกเลย โอเคๆ เล่า...คือว่าคุณจีจี้ที่เป็นลูกค้าเฮียแสบนั่นแหละมาตบหนูบอกว่าเป็นสาตุทำให้เขาไม่ได้สักกับเฮีบแสบอ่ะ แต่ไม่ใช่ความผิดของหนูซ่าสักหน่อยจริงมั้ย? แต่ว่าหนูซ่าไม่ยอมโดนคนเดียวหรอกนะ เชอะ!!”
“ตัวแค่นี้ทำอะไรเขาได้หรือไง?”
“ได้สิ เพราะหนูซ่ากระโดดกระชากหัวคุณจีจี้เลยล่ะ” พูดแล้วทำท่าทางกระโดดกระชากผมเขาอย่างออกรส
“จริง?” ผมแกล้งอย่างไม่เชื่อเพื่อปฏิกิริยาของคนตัวแสบ
“จริง!!!ถ้าไม่เชื่อไปถามพี่ไวท์ได้เลยเพราะพี่เขาเข้ามาเห็นพอดีมือหนูยังจิกหัวคุณจีจี้อยู่เลย!” ผมมองท่าทางมุ่งมั่นนั้นอย่างขำๆ แต่หนูซ่าไม่เห็นหรอกเพราะกำลังแสดงเหตุการ์ณที่เกิดขึ้นอยู่
“ซ่าสมชื่อ”
“ฮะหะ แล้วเฮียแสบโกธรหนูไหม?” มาแล้วสายตาอ้อนๆ ที่โคตรมีอิทธิพลต่อผม
“ไม่โกธรที่หนูมีเรื่อง แต่ไม่ชอบที่หนูมีแผล”
“งั้นจากนี้หนูซ่าจะระวังตัวมากๆ ไม่ให้เฮียแสบเป็นห่วง”
“ใครห่วงมึง?”
“ก็เฮียแสบบบบบบไง~”
“มั่วจริงๆเลย” ที่จริงก็ห่วงนั่นและแต่อยากแกล้งเด็กมันเฉยๆ
“ไม่มั่วสักหน่อยยยย อ่อ หนูถามหน่อยสิ”
“อะไร?”
“ทำไมลูกค้าเรียกเฮียว่าแสนอ่ะไม่เรียกแสบเหรอ?” น่าตาสงสัยแบบนี้มันดึงดูดแปลกๆแหะ
“แสบให้คนสนิทเรียกเท่านั้นมีแค่ 3 คน ส่วนแสนจะเป็นพวกลูกค้าหรือคนอื่นที่ไม่สนิท” ช่างแสนพวกลูกค้าชอบเรียกแบบนั้น แต่ถ้าไม่ใช่ก็เรียกแสนแสบบ้าง แสนบ้างแต่ผมไม่อนุญาตให้เรียกแสบ
“ใครบ้างอ่ะแล้วมี...หนูซ่าอยู่ในนั้นหรือเปล่า?” แววตาที่แฝงไปด้วยความหวัง
“มีเพื่อนสองคนคือไอ้เอสกับไอ้ไวท์ ส่วนอีกคน...ก็มึงไงเรียกอยู่ทุกวันไม่ใช่มึงแล้วจะใคร ยัยบ๊อง!”
“คิคิ ดีใจจัง^^ โอ๊ะ! อยู่เพลินไปหน่อยใกล้เวลาไปทำงานแล้ว”
“งานอะไร?” เข้าตอนค่ำเลิกงานตอนดึกแทบสภาพอย่างกับหมาตอนเจอเมื่อคืน
“อ๋อ ลืมเลยว่าจะเล่าให้ฟังเป็นพนักงานเสริฟ์อยู่ที่ร้านเหล้าชิวๆค่ะ และตอนนี้ก็ใกล้เวลาแล้วด้วย”
“ทำไมต้องทำไม่มีครอบครัวส่งเสียหรือไง?” ตัวแค่นี้ต้องมาทำงานกลางคืนเนี่ยนะ?
“เอ่อ ไม่มีค่ะ...หนูไปก่อนนะคะ” แววตาเศร้าที่ถูกส่งมาทำเอาผมใจหายไปเลย
“เดี๋ยว..หนูซ่า!!” แม่งเอ้ย!! น่าเอาปืนมายิงปากตัวเองฉิบหาย!