2. ทำไปเพราะรัก

2540 คำ
เมื่อ 3 ปีที่แล้ว @คฤหาสน์ตระกูลตันติเวชกุล กรุงเทพฯ "เอ่อ สวัสดีค่ะคุณหนูใหญ่" เด็กรับใช้ที่ยืนทำความสะอาดอยู่เอ่ยขึ้นอย่างตกใจเมื่อเห็นเมษาเดินย่างกรายเข้ามายังคฤหาสน์ใหญ่ เมษา ตันติเวชกุล บุตรสาวคนโตและเป็นบุตรบุญธรรมของครอบครัวตันติเวชกุล ชีวิตของเธออยู่ที่อเมริกากับบิดามารดาบุญธรรมของเธอ มีเพียงน้องชายคนเดียวเท่านั้นที่ขอแยกตัวเองมาใช้ชีวิตที่เมืองไทยตั้งแต่อายุ 13 ขวบ แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็แวะเวียนมาหาน้องชายคนเดียวอยู่เสมอทั้งติดตามมากับมารดาบุญธรรมและมาเพียงลำพังคนเดียวอย่างเช่นตอนนี้ "คิมไม่อยู่เหรอ" เมษาหันไปถามคุณแม่บ้านใหญ่ที่รีบปรี่เข้ามาพร้อมเด็กรับใช้อีกหนึ่งคน "นายน้อยไม่ได้พักที่บ้านค่ะคุณหนูใหญ่ นานๆจะแวะเข้ามาบ้านที ส่วนใหญ่จะเป็นช่วงวันหยุด" คุณแม่บ้านรายงานให้เมษาฟัง โดยที่สายตาเธอมองไปรอบๆอย่างไม่วางตา "ที่นี่ยังเหมือนเดิมนะคะ แล้วคิมพักที่ไหนคะ" เมษาเอ่ยถามขึ้นมาทันทีเมื่อรู้ว่าน้องชายคนเดียวไม่อาศัยพักนอนที่บ้านนี้ "พักอยู่คอนโดกับเพื่อนๆ เอ่อ คุณภูผาและคุณวายุค่ะ แต่พักคนละห้องค่ะซึ่งก็อยู่ติดๆกัน" คุณแม่บ้านตอบคำถามเมษาอีกครั้ง พร้อมกับหันไปสั่งให้เด็กรับใช้เอากระเป๋าเมษาขึ้นไปเก็บ "ขอบใจนะ เพิ่งมาอยู่เหรอ มาครั้งที่แล้วรู้สึกไม่คุ้นหน้าเลย" เมษาเอ่ยถามเด็กรับใช้ที่มารับกระเป๋าเดินทางของเธออย่างใส่ใจ "เพิ่งมาอยู่ได้สี่เดือนแล้วค่ะ" เด็กรับใช้ตอบเมษาอย่างกล้าๆกลัวๆ แต่พอเห็นนายสาวยิ้มให้เธอจึงยิ้มตอบและเริ่มทำตัวผ่อนคลายขึ้น "แล้วคุณหนูใหญ่จะพักที่นี่กี่วันคะ" คุณแม่บ้านถามเมษาทันทีที่เด็กรับใช้ยกกระเป๋าของเธอขึ้นไปไว้ที่ห้องนอนประจำเมื่อเธอมาพักที่นี่ "สองอาทิตย์ค่ะ มาดูงานบริษัทให้คุณพ่อด้วย" เมษาตอบกลับพร้อมกับยิ้มให้บางๆ "รบกวนคุณแม่บ้านช่วยตามคุณธานุวัชให้มาพบเมที่ห้องทำงานคุณพ่อให้เมหน่อยนะคะ" เมษาบอกให้คุณแม่บ้านตามผู้ช่วยประธานใหญ่ที่ดูแลสาขาที่นี่ให้มาพบเธอ "ค่ะ คุณหนูใหญ่" จากนั้นเมษาก็เดินตรงไปยังห้องทำงานบิดาบุญธรรมทันที เวลาต่อมา @ห้องทำงานคฤหาสน์ตันติเวชกุล "เชิญค่ะคุณธานุวัช" เมษาเงยหน้าขึ้นมองไปยังประตูที่กำลังถูกเปิดออกหลังจากที่เจ้าของห้องอนุญาตให้เข้ามา "คุณหนูใหญ่เรียกหาผม มีอะไรหรือเปล่าครับ" คนตรงหน้าเอ่ยถามหญิงสาวที่กำลังนั่งอ่านรายงานของบริษัทอยู่ "ไม่มีอะไรมากหรอกค่ะ แค่คุณพ่อกับคุณแม่อยากทราบว่าคิมเป็นเด็กฝึกงานที่บริษัทเป็นอย่างไรบ้าง" เมษาปิดรายงานที่เพิ่งดูเสร็จก็มองหน้าอีกฝ่ายอย่างตั้งใจ "ทำหน้าที่เด็กฝึกงานดีมากครับ ส่วนด้านการบริหารงานของบริษัทในตำแหน่งประธานกรรมการยังต้องฝึกอีกเล็กน้อย แต่นายน้อยหัวไวมาก ผมคิดว่าอีกไม่นานก็ดูแลที่นี่แทนนายใหญ่ได้อีกไม่นานครับ" "ได้ยินคุณธานุวัชเอ่ยแบบนี้คุณพ่อคงสบายใจและเบาใจขึ้นเยอะเลยค่ะ ถ้ายังไงฝากคุณธานุวัชดูแลการทำงานของคิมด้วยนะคะ" เมษาเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนกับคนตรงหน้าอย่างเป็นมิตร "ครับ มันเป็นหน้าที่ที่ผมควรต้องทำอยู่แล้ว คุณหนูใหญ่ไม่ต้องห่วงนะครับ" คนตรงหน้าเอ่ยรับปากอย่างหนักแน่นพร้อมกับยิ้มให้อย่างจริงใจ "ครั้งนี้คุณหนูใหญ่มาอยู่กี่วันครับ" "สองอาทิตย์ค่ะ มาดูงานให้คุณพ่อด้วยเลยอยู่นานหน่อย" "แล้วนี่เจอกับนายน้อยหรือยังครับ" คำถามของคนตรงหน้าทำเอาเมษารู้สึกใจเต้นขึ้นมาอย่างตื่นเต้นเมื่อได้ยินชื่อของคนที่อยากเจอ "ยังเลยค่ะ คงได้เจอกันที่บริษัท เห็นคุณแม่บ้านบอกว่าคิมออกไปอยู่คอนโด" เมษาพยายามตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงปกติเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายรู้สึกผิดสังเกตกับอาการของเธอได้ "อ๋อ ใช่ครับ อันที่จริงนายน้อยไปพักอยู่คอนโดตั้งแต่มัธยมปลายแล้วครับ แต่ก็กลับมาบ้านบ่อย มีช่วงหลังมานี้นานๆจะเข้ามาที พวกเราเลยไม่ได้บอกให้คุณท่านทั้งสองและคุณหนูใหญ่ทราบว่านายน้อยใช้ชีวิตที่คอนโดซะส่วนใหญ่" "อืมม เข้าใจแล้วค่ะ เมไม่มีอะไรแล้ว เชิญคุณธานุวัชตามสบายเลยค่ะ" เมษาพยักหน้ารับรู้กับการรายงานของคนตรงหน้าอย่างเข้าใจ หลังจากที่คุยเรื่องของคิมหันต์จบ เมษาก็นั่งอยู่ห้องทำงานเพียงลำพังพร้อมกับหันไปมองรูปถ่ายที่เธอและเขาเคยถ่ายร่วมกันเมื่อตอนที่เจอจบการศึกษาระดับปริญญาตรีที่อเมริกา ภาพถ่ายนั้นยังตั้งอยู่บนโต๊ะทำงานไม่มีการเคลื่อนย้ายไปไหน โดยในภาพนั้นเธอมีสีหน้าดีใจที่ได้ถ่ายรูปร่วมกับเขา แต่เขาคนที่ถ่ายรูปร่วมเฟรมกับเธอกลับมีสีหน้าเรียบเฉยไม่ยินดียินร้ายกับอะไรเลย "กับตัวพี่ คิมคงไม่มีความรู้สึกดีๆให้เลยสินะ" เมษาพูดออกมากับรูปถ่ายตรงหน้าเพียงลำพังอย่างเศร้าใจ ห้าวันต่อมา @บริษัทตันติเวชกุล ตลอดเวลาที่เมษามาเหยียบผืนแผ่นดินที่เรียกว่าประเทศไทย เธอยังไม่มีโอกาสได้พบกับน้องชายคนเดียวของเธอเลย ทุกครั้งที่เธอเข้ามาบริษัทเขามักจะไม่เข้าและออกไปไซต์งานข้างนอกเสมอ ยิ่งบ้านแล้วพอรู้ว่าเธอมาเขายิ่งไม่ย่างกรายเข้ามาเลยสักนิด ทำเหมือนกับว่าพยายามหลบหน้าเธออย่างเห็นได้ชัด จนสามวันก่อนคิมหันต์ได้ลงไปดูงานที่ภูเก็ตโดยที่เธอมารู้ทีหลังเขาก็ไปได้สองวันแล้ว ทำให้เธออดที่จะรู้สึกแย่กับการหลบหน้าของน้องชายคนเดียวไม่ได้ จนสุดท้ายวันนี้เธอจึงบุกไปหาเขาที่คอนโดในเวลาเลิกงาน เมื่ออีกฝ่ายหลบหน้าเธอขนาดนี้ เธอจึงบุกไปหาเขาเองให้รู้แล้วรู้รอดไป เวลา 01.00 น. @คอนโดของคิมหันต์ ติ๊ด (เสียงเปิดประตูห้องเข้ามา) "คิม" เมษาที่นั่งรอในห้องของคิมหันต์ตั้งแต่เลิกงานเจ้าของห้องก็ยังไม่มีวี่แววจะกลับมาเลย จนเธอถือวิสาสะทำตัวเป็นเจ้าของห้องนั่งรอเจ้าของห้องตัวจริงกลับมา "อือ..ใคร" เจ้าของห้องตัวจริงกลับมาในสภาพที่เมามายอย่างหนักจนเกือบจะทรงตัวเอไม่อยู่ ทำให้เมษาต้องรีบวิ่งไปประคองให้เขามานั่งที่โซฟาแล้วไปน้ำใส่กะละมังใบเล็กพร้อมผ้าขนหนูผืนเล็กมาเช็ดหน้าเช็ดตัวให้อีกฝ่ายได้สบายตัวขึ้น "คิม..พี่เอง" เมษาเอาผ้าชุบน้ำหมาดๆพร้อมกับประคองหน้าชายหนุ่มให้หันมาซบที่หน้าอกเธอเพื่อทำการเช็ดหน้าให้เขา เมื่อชายหนุ่มได้สัมผัสผ้าเย็นลงบนใบหน้าก็ทำให้พยายามปรือตามองว่าคนที่อยู่ข้างกายเขาคือใคร "เขียน" คิมหันต์เรียกชื่อผู้หญิงอีกคนออกมา ทำให้เมษาที่ได้ยินชื่อนั้นจากปากชายหนุ่มตรงหน้าถึงกับชะงักพร้อมกับมือที่ถือผ้าขนหนูผืนเล็กเพื่อจะเช็ดหน้าให้เขาถึงกับร่วงลงไป คิมหันต์เอื้อมมือมาจับที่ใบหน้าของหญิงสาวตรงหน้าที่เขาคิดว่าเป็นเพื่อนสาวคนเดียวในกลุ่มที่เขารักอย่างอ่อนโยนก่อนจะโน้มใบหน้าลงมาใกล้อีกฝ่ายจนริมฝีปากของเขาประทับลงมาที่ริมฝีปากเรียวบางของอีกฝ่าย ปลายลิ้นเริ่มเข้ามาซุกซนในโพรงปากของหญิงสาวอย่างง่ายดายเมื่ออีกฝ่ายเปิดปากรับอย่างยินดี สัมผัสที่อ่อนหวานและรุนแรงในคราวเดียวกันทำให้หญิงสาวตรงหน้าเขาใจเต้นแรงจนเขารู้สึกได้ "อื้อ" มือของคิมหันต์ล้วงเข้าไปในเสื้อเชิ๊ตของเขาที่หญิงสาวหยิบมาใส่อย่างถือวิสาสะ ก่อนจะลูบไล้วนอยู่อย่างนั้น จนหญิงสาวเกร็งตัวไปตามสัมผัสที่ชายหนุ่มมอบให้อย่างห้ามไม่อยู่ คิมหันต์จูบเมษาอยู่นานพร้อมกับมือของเขาที่ลูบวนบริเวณหน้าอกตลอดเวลาที่จูบอีกฝ่าย จากนั้นใบหน้าของเขาก็เลื่อนมาซุกไซ้ที่ซอกคอของเธอ จนเธอรู้สึกเจ็บแต่ไม่ร้องออกมาให้อีกฝ่ายได้ยินเมื่อเขาได้ทำร่องรอยทิ้งไว้ตามร่างกายของเธอ ก่อนจะกดจูบลงบนบริเวณหน้าอกอวบอิ่มขณะที่เสื้อเชิ๊ตถูกปลดออกจนเจ้าตัวยังไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ "อื้อ..อ่าส์" เสียงครางที่เล็ดลอดออกมาจากคนใต้ร่างเมื่อคิมหันต์ได้กดหญิงสาวนอนลงพร้อมกับจัดการเสื้อผ้าบนตัวเธอออกไปหมด พร้อมกับสัมผัสที่เขามอบให้เธออย่างทะนุถนอม คิมหันต์ขบเม้มไปตามบริเวณรอบๆหน้าอกอวบอิ่มของเมษาเบาๆและไปหยุดที่ยอดอกของเธอ พร้อมกับดูดดันเหมือนเด็กหิวนมจนหญิงสาวต้องแอ่นตัวขึ้นมาเพราะความเสียวซ่านจากสัมผัสของชายหนุ่ม "อื้อ..คิม..อ่าส์" ยิ่งเสียงครางอันใสหวานของเมษาที่ดังออกมามันยิ่งทำให้คิมหันต์เลียยอดอกของหญิงสาวใต้ร่างอย่างรัวเร็วมากขึ้น มืออีกข้างของเขาก็ทำหน้าปลดกระดุมและรูดซิปกางเกงของตัวเองออก แล้วจึงมาจัดการแพนตี้ตัวบางของหญิงสาวในเวลาต่อมา "อ๊ะ..อ๊า..คิม" คิมหันต์ก้มหน้าลงไปยังใจกลางกายสาวของเมษาแล้วค่อยๆใช้ลิ้นเลียรอบๆ บริเวณนั้น และใช้นิ้วมือค่อยๆแหวกกลีบที่ปิดสนิทของหญิงสาวที่เขาคิดว่าคือคนที่เขารักให้เปิดและเผยออก "อ่าส์..คิม..พะ..พี่..เสียว" คิมหันต์ไม่สนใจกับเสียงที่ดังออกมาและการแทนตัวของคนใต้ร่างเลยสักนิด เขายังคงตั้งหน้าตั้งตามอบบทรักที่เขาทำให้อย่างตั้งใจให้กับหญิงสาวตรงหน้าที่เขาคิดว่าคืออีกคน เมื่อเห็นว่านิ้วมือที่สอดแทรกเข้าออกในร่องรักของคนตรงหน้าเปียกชุ่มดีแล้ว คิมหันต์จึงเลื่อนใบหน้าลงไปจูบหนักๆที่ริมฝีปากบางอีกครั้ง เพื่อให้เธอได้พร้อมมากขึ้นกับสิ่งที่เธอจะเจออีกไม่กี่วินาทีข้างหน้า ส่วนคนตรงหน้าก็จูบตอบอย่างไม่ค่อยเป็นเท่าไรนักพร้อมเอามือขึ้นมาคล้องคอเขาไว้หลวมๆ อย่างเผลอตัวตามอารมณ์ที่กำลังเป็นไป คิมหันต์ค่อยๆดันแก่นกายเข้าไปในร่องรักของเมษาอย่างช้าๆเพื่อให้เธอได้ปรับตัว เมื่อรับรู้ถึงการตอดรัดของร่องรักที่แน่นมากขึ้นเขาจึงต้องขยับแก่รกายเพื่อให้ความทรมานทั้งเขาและเธอได้ลดลง พั่บ! พั่บ! พั่บ! พั่บ! คิมหันต์กระแทกแก่นกายเข้าออกอย่างช้าๆแต่หนักหน่วง จนคนใต้ร่างเจ็บปวดทรมานแทบจะทานทนไม่ไหวแต่ไม่ยอมร้องออกมา เลือดที่ไหลลงมาอาบหน้าขาขณะที่อีกฝ่ายยังคงกระแทกเข้าออกไม่หยุด "อ่าส์..เขียน..อย่ารัดเราแน่น เดี๋ยวแตก" หลังจากที่คิมหันต์ร้องบอกคนใต้ร่างจบ เขาก็ก้มลงไปดูดยอดอกของหญิงสาวอย่างหื่นกระหายเพื่อระบายความเสียวซ่านจากการบีบรัดของร่องรักเธอที่บีบรัดไม่หยุดและเริ่มจะถี่รัว พั่บ! พั่บ!ๆๆๆๆๆๆๆ คิมหันต์กระแทกแก่นกายอย่างรัวเร็วไม่ยั้งเมื่อสัมผัสได้ถึงร่องรักของหญิงสาวตอดรัดเขาแรงมากและถี่รัวจนรับรู้ได้ว่าเธอใกล้จะถึงจุดหมายที่จะไปถึงแล้ว โดยที่คนใต้ร่างกัดเสื้อที่วางข้างๆไม่ยอมร้องออกมาจนทนไม่ไหว "อ๊ะ..อ๊า..คิม..อร๊าย" เสียงร้องครางอย่างดังของหญิงสาวที่เก็บกักไว้ได้ออกมาเมื่อร่างกายของเธอกระตุกเกร็ง ตอดรัดแก่นกายจนชายหนุ่มรู้สึกปวดไปหมด "อืมม..อ่าส์" คิมหันต์ครางออกมาเบาๆ หลังจากที่เขากระแทกแก่นกายเข้าออกร่องรักหญิงสาวใต้ร่างอีกสามสี่ครั้งพร้อมกับปล่อยน้ำอุ่นๆเข้าไปในตัวเธอในเวลาต่อมาทันที "คิมรักเขียนนะ" คิมหันต์พูดขึ้นมาทั้งที่ยังหลับตาบอกกับคนใต้ร่างแล้วเขาก็ซบหน้าลงที่หน้าอกเธอในเวลาต่อมา "อึก..ฮื้อๆ" เมษาร้องไห้ออกมาเบาๆเมื่อแน่ใจว่าคนที่นอนทาบทับบนตัวเธอได้หลับสนิทไปแล้วจากเสียงลมหายใจที่ดังสม่ำเสมอที่ข้างหูเธอ เมษาพยายามผลักชายหนุ่มบนตัวเธอให้ล้มตัวลงนอนด้านข้างอย่างทุลักทุเล เพราะนอกจากร่างกายของชายหนุ่มที่ทาบทับบนตัวเธอแล้ว ก็มีแก่นกายของเขาที่ยังฝังอยู่ในร่องรักของเธอ เวลาต่อมา @คอนโดของคิมหันต์ "อื้อ" เสียงร้องออกมาอย่างรำคาญของคิมหันต์เมื่อโดนผ้าขนหนูผืนเล็กลากผ่านไปตามใบหน้าและลำตัวที่เปลือยเปล่าด้วยการกระทำจากเมษาที่ตอนนี้อยู่ในสภาพที่เรียบร้อยด้วยเสื้อเชิ๊ตของคิมหันต์ "ร่างกายและหัวใจของพี่จะเป็นของคิมคนเดียว คิมจะรู้มั้ยว่าพี่ทำไปเพราะรัก" เมษาพูดออกมาด้วยน้ำเสียงสั่นเครือเล็กน้อยกับชายหนุ่มที่นอนหลับใหลไม่ได้สติ แล้วหลังจากนั้นเธอก็ล้มตัวลงนอนกอดเขาอยู่ข้างๆตลอดทั้งคืน เช้าวันต่อมา @คอนโดคิมหันต์ "อื้อ" เสียงร้องครางอย่างรำคาญเมื่อแสงแดดสาดเข้ามาให้ห้อง ทำให้คิมหันต์ต้องลืมตาตื่นขึ้นมาพร้อมกับหันไปมองคนตัวเล็กอยู่ข้างๆใต้ผ้าห่มบนโซฟาใหญ่ "เมษา!" คิมหันต์ร้องออกมาอย่างตกใจเมื่อเห็นว่าผู้หญิงที่เขาหลับนอนด้วยทั้งคืนคือเธอ ไม่ใช่ผู้หญิงอีกคนที่เขาละเมอหา "อื้อ..ตื่นแล้วเหรอ" เมษาขยี้ตาเบาๆอย่างงัวเงียไม่อยากตื่นพร้อมกับซุกหน้าเข้ามาที่อกแกร่งของเขา โดยที่อีกฝ่ายนอนนิ่งไม่ได้ผลักไสหรือขยับหนี "มาได้ยังไง" คำถามสั้นๆแต่น้ำเสียงเย็นชาทำให้เมษาเงยหน้ามามองเขาพร้อมกับลุกขึ้นนั่งทันที "ไม่ต้องห่วงเรื่องเมื่อคืน จะไม่มีใครรู้ พี่ไม่พูด คิมไม่พูด มันก็จะเป็นเหมือนเรื่องที่ไม่ได้เกิดขึ้นตลอดไป" เมษาเลือกที่จะไม่ตอบคำถามของคิมหันต์ แต่กลับพูดบางอย่างที่อีกฝ่ายต้องการที่อยากจะได้ยินออกมา ก่อนที่จะเดินเข้าไปยังห้องน้ำโดยไม่ได้หันไปสนใจมองชายหนุ่มที่จ้องมองเธออย่างไม่วางตาด้วยความสงสัย นั่นไม่ใช่ครั้งแรกและครั้งสุดท้าย แต่มันคือจุดเริ่มต้น..ที่ทำให้พวกเขาสองคนมีความสัมพันธ์แบบนี้เรื่อยมาในทุกครั้งที่หญิงสาวกลับมาที่ไทย
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม