"ยะ อย่ามามองหน้าอกของหนูแบบนี้นะ"
"ก็แต่งตัวมายั่วเอง ถ้าฉันจะมองแล้วเธอจะทำไม"
"คุณ!"
"ทำไม โกรธขนาดนั้น ฉันเป็นผู้ชายที่มอบจูบแรกให้เธอเหรอ?" ซาเฟียร์เบิกตาโพลง ขณะที่ก้อนเนื้อทางอกด้านซ้ายเต้นแรงขึ้นมาอย่างบ้าคลั่ง
"ไม่ใช่ นี่ไม่ใช่จูบแรกของหนู จูบของคุณมันก็แค่จูบห่วยๆ ที่หนูพึ่งเคยเจอ"
"ปากดี สงสัยวันนี้เธอคงอยากเสียตัว"
"ไม่ อย่า!" คนตัวเล็กพยายามดิ้นลงจากหน้าตักแกร่ง แต่เหมือนว่ายิ่งดิ้น ยิ่งเป็นการเปิดทางให้คนตัวโตจัดแจงท่าทางของเธอให้มันอยู่ในท่าที่ล่อแหลมมากกว่าเก่า
"ปล่อย หนูไม่อยากอยู่ตรงนี้"
"เกิดกลัวขึ้นมาซะสิ ไม่ปากดีอีกล่ะว่ามันยังมีคนอื่นที่เคยจูบเธอก่อนฉัน"
"มันไม่เกี่ยวอะไรกัน"
"ถ้าเทียบกับคนอื่นแล้วจูบจากฉันมันเป็นแค่จูบห่วยๆ งั้นช่วยวัดเอวหน่อยเป็นไง จะได้รู้ว่าใครมันจะแน่ไปกว่ากัน"
"คุณ" ซาเฟียร์ยกกำปั้นเล็กฟาดลงบนท่อนแขนแกร่งอย่างแรง นิ้วเท้าจิกเกร็งกับโซฟาหนังขณะที่เขาบังคับให้เธอนั่งคร่อมอยู่บนหน้าตักของเขาอยู่แบบนั้น
ความหล่อเหลาที่หาตัวจับได้ยาก รอยยิ้มบนมุมปากที่ไม่ว่าใครมีโอกาสพบเจอเป็นต้องหลงใหล ซาเฟียร์รู้ดีว่าในตอนนี้จิตใจของเธอมันไม่ได้อยู่กับเนื้อกับตัวเท่าไหร่เลย
เธอและเขาใกล้ชิดกันมากเกินไป มากจนได้กลิ่นลมหายใจของกันและกัน
"ทำไมต้องหลบตาฉัน"
"ปล่อยหนู"
"ไม่ปล่อย และจะไม่ปล่อยจนกว่าฉันจะพอใจ"
"ใครกันแน่ที่เอาแต่ใจตัวเอง หนูจะฟ้องเฮียซานย์ว่าคุณ..."
"ทำไม ฉันทำไมเหรอ?" มือหนาเลื่อนมาคว้าหมับที่คางมน บังคับให้ใบหน้าจิ้มลิ้มที่ลงตัวราวกับตุ๊กตารูปปั้นจ้องมองเขาแบบที่เขามองเธอ
"จะฟ้องพี่เธอว่าโดนฉันจูบปากน่ะเหรอ"
"นี่!"
"หึ ฟ้องดิ เชิญฟ้องได้เลยตามสบาย อ้อ...แต่ก่อนจะฟ้อง ควรมีปัญญาลงจากตักของฉันให้ได้ก่อนล่ะ"
"คนแก่รังแกเด็ก หนูเกลียดคุณ"
"แก่! อย่างฉันน่ะเหรอแก่?" ภพนิพิฐเลิกคิ้วถาม เขาไม่ได้สนใจอะไรเมื่อได้ยินคำพูดแบบนั้น เพราะสุดท้ายแล้วไม่ว่าตอนนี้เขาจะอายุเท่าไหร่ มีอะไรบนร่างกายที่เปลี่ยนแปลงไปบ้าง แต่ความฮอตและแรงดึงดูดที่เขามั่นใจว่าเขามี มันทำให้เขาไม่รู้สึกแยแสกับอายุที่เพิ่มมากขึ้นทุกวันนี้เลย
"หนูอายุแค่ยี่สิบปี ส่วนคุณสามสิบสาม อายุของคุณมันมากกว่าหนูตั้งสิบปี ถ้าหนูจะมองว่าคุณแก่มันก็คงไม่ผิดอะไร"
"อายุมันเป็นเพียงตัวเลข แต่มันไม่เคยมีผลต่อแนวนอน เผื่อเธอไม่รู้"
ปึก~ ปึก~
กำปั้นเล็กฟาดลงบนท่อนแขนแกร่งรัวๆ เมื่อคนตัวโตไม่มีท่าทีว่าจะหยุดใช้คำพูดแบบนี้กับเธอ
ผู้ถูกกระทำกดยิ้มที่มุมปาก มือเล็กที่จะพยายามมุ่งทำร้ายเขา ไม่ได้ทำให้เขารู้สึกอะไรเลย
มิหนำซ้ำ การกระทำของเธอมันยิ่งส่งผลให้ทุกอย่างเข้าทางเขาไปหมด
"คนบ้า คนแก่รังแกเด็ก คุณมันไม่น่ารักเหมือนเฮียซานย์ ไม่มีอะไรสู้เฮียหนูได้เลยสักอย่าง"
"ชอบผู้ชายอ่อนโยน แต่ตัวเธอกลับรุนแรงกับฉันตลอดเวลานี่นะ ย้อนแย้งว่ะ สิ่งที่เธอทำมันกำลังทำให้ฉันรู้สึกว่า...เธอกำลังให้ท่าฉันจริงๆ"
พรึ่บ~
ผ้าขนหนูสะอาดที่มีกลิ่นหอมประจำตัวคนใช้งานติดอยู่บนนั้นหลุดร่วงเพราะแรงเคลื่อนไหวของคนตัวเล็ก
ดวงตาคมกริบกดลงต่ำพร้อมทั้งลิ้นสากที่ดันเข้าหากระพุ้งแก้ม หัวใจของซาเฟียร์เต้นแรงราวกับจังหวะของเพลงสามช่า มือบางพยายามไขว้คว้าผ้าขนหนูขึ้นมาพันกายเอาไว้ใหม่ สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่มันยิ่งทำให้ซาเฟียร์ไม่เป็นตัวของตัวเอง
"ปล่อยหนูสิ คุณซื้อแตงโมเพื่อที่จะเอาไปฝากคนสำคัญของคุณนี่่ ทำไมไม่รีบไปล่ะ ปล่อยหนูลงสักทีสิ"
"ก็ไม่คิดนี่ว่าเธอจะมาเปิดแตงโมของเธอให้ฉันดู"
"ระ รู้รึเปล่าว่าพูดอะไรออกมา หนูเป็นน้องเฮียซานย์นะ เฮียบอกให้คุณมาคอยดูแลหนู ไม่ใช่ให้มาพูดจากับหนูแบบนี้"
"ฉันมั่นใจว่าตั้งแต่วันแรกที่เธอมาอยู่ที่นี่ฉันก็ดูแลเธอมาโดยตลอด และเธอก็ดื้อตลอดเหมือนกัน"
"คุณ"
"เรียกพี่"
"ปล่อยสิ"
"กลับมาเรียกฉันว่าพี่ อายุห่างกันแค่สิบปี มันไม่ได้มากมายอะไรเลย"
"ต้องการอะไรกันแน่"
"แค่เลิกพยศ เลิกดื้อ เลิกทำตัวเหมือนเด็กสามขวบ แล้วฉันจะปล่อยเธอ" แม้จะพูดออกมาแบบนั้น แต่ท่อนแขนแกร่งก็ยังรั้งเอวคอดกิ่วเอาไว้ไม่ยอมปล่อย
"หนูไม่ได้พยศใส่คุณ"
"บอกให้เรียกพี่"
"อคติกับหนูตลอด ทำท่ารำคาญ ชอบดุ ชอบมองแบบไม่พอใจ ไหนจะคำพูดของวันนี้อีกที่คุณทำหนูร้อง...อื้ออ" ไม่ทันมีโอกาสได้พูดจนจบประโยคด้วยซ้ำ หนุ่มหล่อกดริมฝีปากประกบทับ บดจูบที่กลีบปากนุ่มพลางสอดลิ้นสากเข้าไปในโพรงปากบางอย่างรวดเร็ว
สัมผัสครั้งที่สอง คนตัวโตตวัดปลายลิ้นควานลึกคล้ายกำลังดูดซับกลิ่นชาเขียวนมที่ยังเจือความหวานจางๆ จนทำให้รู้สึกดี
รสสัมผัสที่อ่อนโยนกว่าเก่า ผสานกับกลิ่นน้ำหอมราคาแพงจากร่างกายที่แข็งแรงกว่า ความมึนงงแทรกผ่านจนคนตัวเล็กเกิดความลังเลว่าความทำแบบไหน
ผลักออกให้สุดแรง! ใช่ เธอควรทำแบบนั้น แต่อยู่ดีๆ เปลือกตาบางมันก็รู้สึกหนักอึ้ง หนักจนต้องหลับตา เผยอปากเปิดทางให้ลิ้นสากรุกล้ำเข้ามาทักทาย
ขณะที่ปากประกบปาก ภพนิพิฐหรี่ตามองดวงหน้างดงามที่ประกบแนบชิด ตลอดชีวิตของคนอย่างภพนิพิฐ เขาไม่เคยทำแบบนี้กับผู้หญิงคนไหน ไม่เคยเปิดโอกาสให้ใคร
แต่ทำไมน้องสาวมาเฟียถึงเป็นข้อยกเว้น!
ถึงจะสวย แต่ก็ดื้อ! แต่ทำไมในความดื้อรั้นมันถึงมีความออดอ้อนซ่อนอยู่!
ทำไมตัวเธอมันถึงคล้ายกับมีกระแสไฟที่พอเข้าใกล้แล้วต้องเกิดความรู้สึกสับสน เขาไม่เข้าใจ!
"อื้อ..." คนตัวเล็กเริ่มต่อต้านเมื่อมือหนาคว้าหมับที่ก้อนเนื้ออ่อนไหว นิ้วยาวบีบเคล้นที่ประทุมถัน ขณะที่ริมฝีปากประกบกันกระทั่งน้ำลายใสเปรอะเปื้อนมุมปากโดยไม่รู้ตัว
ซาเฟียร์บิดตัวหนี ร่างกายสะอาดสะอ้านที่ไม่เคยผ่านมือชายใดมา อยากจะเบือนตัวหนีในตอนที่คนตัวโตหนักมือ แต่ในยามที่ความอ่อนโยนเข้ามาแทนที่ ความอยากรู้อยากลองก็แทรกเข้ามาเช่นกัน
"อ๊ะ! หนูเจ็บ" ซาเฟียร์เชิดหน้าครางลั่นเมื่อนิ้วยาวเผลอลงน้ำหนักมือขณะที่ใบหน้าคมคายซุกเข้าหาซอกคอขาว
กลิ่นหอมสะอาดสะอ้าน กลิ่นกายสาวที่กระตุ้นความกระสันที่คนอย่างภพนิพิฐไม่เคยมีให้ใครทั้งนั้นมันกำลังเกิดประกายรอจังหวะลุกโชน
"ยะ อย่า อ๊ายย!" มือหนากระตุกผ้าขนหนูลงต่ำ ความอวบอิ่มปรากฏสู่สายตาไม่นาน ริมฝีปากร้อนประกบเข้าทักทายอย่างรวดเร็ว
"อย่า อ๊าส์!" ดวงตาคมตวัดขึ้นมองเมื่อซาเฟียร์เริ่มควบคุมตัวเองไม่ได้ ปากร้อนขบเม้มที่จุกหวานก่อนจะตวัดปลายลิ้นสากทักทายปลายถันสลับกับการดูดกระชากอย่างตะกละตะกลาม
"หนูเสียว พอ อ๊าส์! พอที" ซาเฟียร์กดฝ่ามือลงที่ศีรษะใหญ่ ขยุ้มผมดกเส้นอย่างแรงเพื่อระบายความเสียวซ่าน ใบหน้าสะสวยที่แดงก่ำ ความสาวความสวยที่ล่อตาล่อใจกระตุ้นให้ปากร้อนทักทายปลายถันสลับกันไปมาทั้งสองข้าง
ซาเฟียร์บิดกายกลั้นความเสียวซ่านอย่างหนัก ในจังหวะที่เกือบทนไม่ไหว ท่อนแขนแกร่งสอดเข้ามารั้งที่ต้นขาสวยและสะโพกขาวผ่องก่อนจะหยัดตัวลุก
การเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วส่งผลให้ดวงตาสวยเบิกโพลง แขนเรียวตวัดเกี่ยวที่ลำคอหนาอัตโนมัติ ใบหน้าคมคายที่คลอเคลียพวงแก้มเนียนไม่ห่าง แม้จะไม่เคยผ่านมือชายใดมา แต่ทว่า ซาเฟียร์เข้าใจทุกอย่างเป็นอย่างดี
"หนูไม่อยากทำแบบนั้น..."