ซาเฟียร์มองตามแผ่นหลังแกร่งไปจนสุดสายตา กลิ่นน้ำหอมราคาแพงที่หอมฟุ้งผ่านหน้าเมื่อสักครู่เริ่มจางหาย ไม่นานเกินรอก็มีกลิ่นหอมของอาหารที่ลอยมาแตะจมูกแทน
คนหิวลอบกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ ขาสวยก้าวออกไปที่เบื้องหน้าอัตโนมัติ หิวเกินกว่าจะปากแข็งและทนหิวได้จริงๆ
หนุ่มหล่อปรายตามองคนตัวเล็กเพียงนิดขณะหยิบถ้วยข้าวสวยออกมาจากตู้เย็น เปิดฝาก่อนจะนำเข้าไมโครเวฟ จากนั้นก็หันไปจัดการกับไข่เจียวบนกระทะที่สุกและฟูได้ที่ ส่งกลิ่นหอมอบอวลไปทั้งห้องครัว
"ซานย์ทำอาหารเก่ง หมอนั่นคงทำให้เธอกินอยู่บ่อยๆ" ซาเฟียร์พยักหน้าน้อยๆ เมื่อเขาเอ่ยถึงพี่ชายของเธอ
"เฮียซานย์เก่งทุกอย่าง เป็นหมอผ่าตัดที่เก่งมาก และเป็นผู้บริหารของโรงพยาบาลที่ไม่เคยเอาเปรียบใครเลย ทุกคนรักเฮียและชื่นชมเฮีย เฮียมักช่วยคนอยู่เสมอ"
"เธอก็ควรเอาแบบอย่างพี่ชายของเธอ ซานย์เล่าเรื่องราวในครอบครัวให้ฉันฟังอยู่บ้าง ในเมื่อคนเราไม่สามารถฆ่าแกงกันให้ตายเหมือนผักปลาได้ง่ายๆ เธอก็ควรเข้มแข็งและดูแลตัวเองให้ดี เพราะหากเธอเก่งและแกร่งได้แบบนั้น ซานย์คงจะสบายใจขึ้นเยอะเลย"
"..."
"นี่ข้าวของเธอ" ข้าวสวยร้อนๆ ถูกเทใส่จานกระเบื้องอย่างดี ขณะที่อีกจานเป็นไข่เจียวหอมๆ วางตรงหน้า
"ขอบคุณค่ะ มีพริกน้ำปลาด้วยไหมคะ" คนฟังปรายตามองเพียงนิด ก่อนจะหมุนตัวกลับไปที่ตู้เย็นตามเดิม
"มีแต่แบบซองสำเร็จรูป ฉันไม่เคยทำอาหารที่นี่ อาหารพวกนี้ฉันซื้อมาไว้เผื่อเธอ แต่เท่าที่เห็น เธอคงไม่คิดที่จะแตะต้องมัน"
คุณหนูไฮโซ น้องสาวมาเฟียใหญ่ที่เคยมีใครต่อใครเอาอกเอาใจและดูแล หากซาเฟียร์ไม่ใช่น้องสาวของซานย์ เพื่อนรักที่เคยคบหากันมานาน ซ้ำล่าสุดเมื่อไม่นานมานี้เขาพึ่งจะขอความช่วยเหลือจากซานย์ เรื่องห้องพักที่ดีที่สุดของโรงพยาบาลชื่อดังที่รักษาเฉพาะทางในโรคที่พ่อของไอติม ซึ่งเป็นแฟนภูพิงค์น้องชายของเขาเป็นอยู่ บางทีเขาและเธออาจจะไม่ได้เจอกัน
เขาดันขอความช่วยเหลือจากเพื่อน ในตอนที่เพื่อนกำลังมีปัญหา หรือแท้ที่จริงซานย์เลือกเขาให้เป็นคนที่รับฝากน้องสาว อันนี้เขาเองก็ไม่รู้เหมือนกัน!
"เอาเป็นว่าเรื่องอาหารหนูจะไม่ทำให้คุณลำบาก หนูจะแก้ปัญหาให้กับตัวเองก็แล้วกัน ขอบคุณสำหรับอาหารวันนี้ค่ะ" คำพูดประชดประชันและน้ำเสียงเย่อหยิ่งส่งผลให้คนฟังเค้นเสียงหัวเราะในลำคอเบาๆ
เอาเถอะ เอาที่เธอสบายใจ!
ภพนิพิฐขยับเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามกับหญิงสาวก่อนจะหย่อนสะโพกลงนั่ง
'ออสติน' ลูกติดของเมียใหม่พ่อของซานย์และซาเฟียร์ถึงกับคลุ้มคลั่งเมื่อหญิงสาวผู้เป็นเป้าหมายหายไป
ซานย์ย้ำชัดเจนก่อนที่เขาจะส่งโทรศัพท์ให้ซาเฟียร์ว่าออสตินไม่มีทางยอมแพ้ ในเมื่อพ่อแท้ๆ ของซานย์และซาเฟียร์ไฟเขียวในความต้องการที่ออสตินมีต่อซาเฟียร์ ออสตินคงพร้อมที่จะทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้ตัวซาเฟียร์กลับไป
กวางน้อยเนื้อหอมที่พร้อมทั้งรูปลักษณ์และสมบัติ ไม่แปลกหากเธอจะเป็นที่ต้องการของมาเฟียอย่างออสติน!
"กฎข้อที่หนึ่งระหว่างที่ฉันยังต้องดูแลเธอ ห้ามเธอไปไหนโดยที่ไม่บอกให้ฉันรู้เป็นอันขาด" ขนตางามงอนที่โอบล้อมลูกตากลมสวยตวัดขึ้น แม้จะไม่พอใจที่เวลาที่เธออยากทำอะไรเธอจำเป็นต้องรายงานเขาทุกอย่าง แต่เพียงแค่คิดว่าสิ่งเหล่านี้มันอาจจะเกิดขึ้นเพียงแค่เวลาสั้นๆ หญิงสาวตอบตกลงทันที
"ค่ะ"
"กฎข้อที่สอง เชื่อฟังฉัน เพราะซานย์ให้สิทธิ์ฉันเป็นผู้ปกครองของเธอแต่เพียงผู้เดียว"
"ค่ะ" ตอบออกไปก่อนจะก้มหน้างุด ตักไข่เจียวหอมๆ คลุกข้าว เป่าเบาๆ ก่อนจะยัดเข้าปากในเวลาต่อมา
"ข้อที่สามเป็นข้อสุดท้าย เธออาจจะมีเวลาอยู่ที่นี่ไม่นาน ไม่จำเป็นต้องไปทำความรู้จักกับใครให้ลึกซึ้งนัก เพราะเธอไม่รู้ว่าคนเหล่านั้นที่เธอเพิ่งรู้จักแท้จริงแล้วเขาต้องการอะไร ในเมื่อเธอมาอยู่ที่นี่แค่ชั่วคราวเท่านั้น ก็ไม่มีความจำเป็นต้องสนิทสนมและอยากรู้จักใครให้มากมาย ทั้งฉันและซานย์คงไม่สนุกหากเธอถูกคนที่พึ่งรู้จักหลอกขึ้นมา"
"รับทราบค่ะ หนูจะไม่ไว้ใจใครง่ายๆ"
"ดี หวังว่าคืนแรกของการไม่มีพี่ชายนอนอยู่ด้วยของคนที่บอกว่าตัวเองไม่เด็กแล้วจะราบรื่นโดยไม่ติดขัดอะไร" เป็นอีกครั้งที่ซาเฟียร์สบตากับเจ้าของดวงตาคมกริบมีเสน่ห์คู่นั้น
เมื่อไม่มีทางเลือก สุดท้ายหญิงสาวก็เลือกที่จะตอบรับออกไปเบาๆ
วันต่อมา
ปิ๊งป่อง~ ปิ๊งป่อง~
เสียงหน้าห้องส่งผลให้คนที่ตื่นเช้าเพราะเสียงนาฬิกาปลุกมองไปยังประตู ขาสวยก้าวออกไปที่เบื้องหน้าอัตโนมัติ ในยามที่มองผ่านช่องตาแมวเล็กๆ ที่ประตูแล้วพบหญิงสาวในชุดเรียบร้อยที่เป็นแบบฟอร์มของร้านอะไรสักอย่าง ซาเฟียร์กระชากประตูให้เปิดออกทันที
"สวัสดีค่ะ" หญิงสาวตรงหน้าประตูทักทายด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ซาเฟียร์แจกจ่ายความสดใสด้วยการส่งยิ้มกลับไป
"ดิฉันมาจาก Uniform by suda ค่ะ คุณซานย์ให้ส่งเสื้อผ้าพวกนี้ให้คุณซาเฟียร์ค่ะ"
"อ๋อ..." ชื่อพี่ชายของเธอที่ได้ยิน ส่งผลให้ความเงียบเหงาที่พบเจอตลอดค่ำคืนที่ผ่านมาจางหายไปชั่วขณะ มือเรียวยื่นออกไปรับของอย่างรวดเร็ว
"นี่เป็นนามบัตรของทางร้าน หากคุณซาเฟียร์ต้องการอะไรเพิ่มเติม ติดต่อกลับไปได้เลยนะคะ"
"ขอบคุณมากนะคะ" เจ้าของคำพูดยิ้มกว้าง รอยยิ้มมีเสน่ห์และลักยิ้มเล็กๆ บนมุมปาก แม้ผู้หญิงด้วยกันยังแอบอิจฉาความสวยราวกับตุ๊กตารูปปั้นของซาเฟียร์
"...จะมีใครบ้างน๊าที่รู้ใจหนูได้เท่าเฮีย" ซาเฟียร์ตรวจสอบของที่ถูกส่งมา
ชุดนักศึกษาหลายต่อหลายตัวพร้อมทั้งรองเท้า ไซส์ของเธอพอดิบพอดี ความสั้นความยาวแบบที่เธอชอบเป๊ะ เฮียไม่เคยลืมว่าเธอชอบอะไร แม้ในตอนที่ไม่ได้ไปซื้อด้วยกันก็ยังเลือกได้ถูกใจ
คนตัวเล็กเผลอคิดถึงพี่ชายจนน้ำตาคลอเบ้า แต่พอบอกตัวเองว่าไม่นานเกินรอทุกอย่างจะกลับไปเป็นเหมือนเดิม ซาเฟียร์สะบัดศีรษะเพื่อขับไล่ความรู้สึกท้อ เธอจะรออยู่ตรงนี้อย่างเข้มแข็ง จะไม่ปล่อยให้ตัวเองเสียใจเพราะที่ผ่านมา พี่ชายของเธอไม่เคยปล่อยให้เธอไปเผชิญกับความรู้สึกนั้นเลย!
แกร๊ก~
เสียงปลดล็อกประตูเข้ามาโดยไม่ขออนุญาตส่งผลให้คนตัวเล็กที่กำลังกรีดอายไลเนอร์บนขอบตาถึงกับชะงัก
ความเคยชินที่เข้าออกห้องชุดคอนโดนี้เป็นประจำทุกวันทำให้ผู้มาใหม่ลืมตัวเช่นกัน
"โทษที คราวหลังฉันจะรอให้เธอมาเปิดประตูให้ก็แล้วกัน" คนฟังเม้มปาก ลิปกลอสบนกลีบปากนุ่มช่วยเพิ่มสีสันจางๆ ทว่าลงตัวบิดไปมาเบาๆ
"ชุดนักศึกษาพวกนี้..."
"เฮียซานย์สั่งจากทางร้านและให้นำมาส่งที่นี่ค่ะ" หางคิ้วเข้มกระตุกเบาๆ แวบหนึ่งที่หนุ่มหล่อปรายตามองกระโปรงทรงเอที่สั้นเพียงต้นขากับเสื้อนักศึกษาที่ฟิตจัด รองเท้าผ้าใบสีขาวที่เธอสวมใส่มันทำให้เขาแยกไม่ออกว่าสรุปยัยเด็กนี่เป็นคนแบบไหนกันแน่
"หนูจะจำกฎที่คุณให้ไว้ให้ขึ้นใจ หนูจะใช้ชีวิตของหนูโดยที่ไม่ผิดกฎของคุณ"
"เธอเข้าใจอะไรง่ายขึ้นนะ"
"เฮียซานย์อยากให้หนูอยู่ตรงนี้ หนูก็จะอยู่แบบไม่ดื้อ เชื่อว่าไม่นานเฮียซานย์ก็จะมารับหนูกลับไป หนูจะพยายามไม่ทำให้คุณรู้สึกรำคาญ แต่ถ้าวันไหนรำคาญ คุณก็ทนเอาหน่อยก็แล้วกัน" คนฟังตวัดสายตาขึ้นจ้อง สุดท้ายก็เป็นคนตัวเล็กที่เบือนหน้าหลบสายตา
ซาเฟียร์โน้มตัวไปคว้ากระเป๋าสะพายข้างขึ้นมาคล้องบ่า ไม่นานก็หันกลับมาหาคนตัวโตตามเดิม
"หนูเรียบร้อยแล้วค่ะ"
"กินข้าวแล้ว?"
"ยังค่ะ แต่เดี๋ยวหนูจะจัดการตัวเอง" ภพนิพิฐไม่ได้ตอบรับอะไรต่อจากนั้น แต่เลือกที่จะหมุนตัวเดินออกจากห้องแล้วเดินนำไปที่ลิฟท์ มุ่งตรงไปยังที่จอดรถเพื่อไปมหาวิทยาลัย
รถยนต์ของภพนิพิฐบ่งบอกว่าฐานะของเขาคงดีอยู่ไม่น้อย การแต่งกายดูภูมิฐาน อีกทั้งความลงตัวของใบหน้ายังดูดีมาก แทบไม่อยากเชื่อว่าเขาจะไม่มีใคร
"นี่คือโทรศัพท์เครื่องใหม่ของเธอ ในนี้มีเบอร์โทรของฉัน เธอสามารถกดโทรออกได้ตลอด"
"ขอบคุณค่ะ" ซาเฟียร์รับโทรศัพท์เครื่องใหม่มากุมเอาไว้ด้วยรอยยิ้มสดใสประดับใบหน้า เพียงแต่คิดถึงใบหน้าของพี่ชาย คำสั่งก็ลอยมาทันที
"อย่าคิดที่จะโทรหาซานย์เด็ดขาด ถ้าอยากคุย ต้องรอให้หมอนั่นติดต่อกลับมาเอง"
"หมายความว่าโทรศัพท์เครื่องนี้หนูใช้โทรหาคุณได้แค่คนเดียวงั้นเหรอคะ" ไร้เสียงตอบรับ มีเพียงรถหรูที่กำลังเคลื่อนตัวออกไปอย่างเชื่องช้า ใบหน้าหล่อเหลายังคงราบเรียบตามเดิม