ภาพอดีต 1.3

2003 คำ
การพบหน้ากันครั้งแรกระหว่างปราณปวิชกับเอมอรและพวงชมพู ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่ปริญญาเป็นกังวล ก่อนหน้าลูกชายกลับมาเมืองไทย ปริญญาโทรศัพท์ไปหาปราณปวิชหลายครั้งเพื่อพูดคุยเรื่องนี้ ทว่าลูกชายไม่รับสายเขาเลยสักครั้ง เขาอดหวั่นใจไม่ได้ว่า ปราณปวิชต้องอาละวาดบ้านแตก แล้วยิ่งมารู้ว่า บุตรชายกลับมาเมืองไทยโดยไม่ได้บอกล่วงหน้า ความวิตกกังวลและความกลัวเพิ่มขึ้นหลายเท่า และวินาทีที่ปริญญากังวลใจเป็นที่สุดก็มาถึง ใจคนเป็นพ่อเต้นแรงมาก กำลังจะอ้าปากพูดกับลูก ทว่ากลับต้องแปลกใจกับการกระทำของปราณปวิช             “สวัสดีครับน้าอร” ปราณปวิชยกมือไหว้เอมอร ที่ยกมือรับไหว้ ก่อนที่เขาจะหันมาส่งยิ้มให้พวงชมพูที่พนมมือไหว้เขา ปราณปวิชทำตัวราวกับว่า ไม่แค้นเคืองสองแม่ลูก             “สวัสดีค่ะคุณปราบ”             หัวใจพวงชมพูเต้นแรงเมื่อเห็นใบหน้าอันหล่อเหลาและรูปร่างอันสมาร์ทของเขาด้วยตาตัวเองแล้วใจสั่น เขาหล่อและดูดีกว่าในรูปมาก ในรูปยามมองยังเพ้อฝัน มาเจอตัวจริงหัวใจสาวถึงกับปลิดปลิว เคลิบเคลิ้ม รอยยิ้มของเขาเป็นอีกอย่างที่ทำให้ใจสาวกระตุก รอยยิ้มเขามีเสน่ห์เหลือเกิน ส่งผลให้ความหล่อพุ่งพรวด ไม่แปลกที่ปราณปวิชจะมีสาวๆ มารุมล้อม             ปราณปวิชมองดวงหน้าหวานสวยของพวงชมพูด้วยความพอใจ เธอมีความสวยและความน่ารักอยู่บนเครื่องหน้า ใบหน้าธรรมชาติที่ไร้เครื่องสำอางแต่งแต้ม ทำให้เธอดูมีเสน่ห์ เขาไม่คิดว่า หญิงสาวที่ไม่มีชาติตระกูล ไม่ไฮโซโก้หรูจะมีผิวกายสวย ผิวเธอขาวอมชมพูดูเปล่งปลั่ง มีน้ำมีนวลราวกับผู้หญิงที่ดูแลสุขภาพผิวมาตั้งแต่เยาว์วัย ส่งผลให้ชั่วขณะหนึ่งเขาอยากสัมผัสผิวกายเธอ ลูบไล้และจูบซับ             แน่นอน...เขาต้องได้ทำในสิ่งที่ต้องการ เขาจะเชยชมให้สมใจ             “สวัสดีครับน้องชม” ปราณปวิชทักทายกลับ คลี่ยิ้มส่งให้ “อย่าเรียกพี่ว่าคุณเลยนะ เรียกว่าพี่ก็ได้ ดูเป็นกันเองดี”             ปราณปวิชทำให้ปริญญา เอมอรและพวงชมพูตายใจได้อย่างแนบเนียน ส่วนนารถลดาแม้รู้ว่า ลูกชายฝืนใจทำเพื่อตน แต่ก็ไม่คิดว่า ปราณปวิชจะมีแผนร้ายแก้แค้นสองแม่ลูก             บนโต๊ะอาหารมื้อแรกที่อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาของครอบครัวพันธ์ภวัฒน์เป็นไปด้วยดี ปราณปวิชที่นั่งติดกับพวงชมพูคอยตักอาหารให้ลูกเมียน้อยเนืองๆ ตักไปส่งยิ้มให้เธอไป ทำให้ปริญญา นารถลดา เอมอรและพวงชมพูรู้ว่า เขายอมรับเอมอรกับลูกเข้ามาอยู่ในบ้าน แต่หารู้ไม่ว่า ปราณปวิชซ่อนความร้ายกาจเอาไว้ภายในเต็มที่ และรู้ด้วยว่า ต้องทำอย่างไรให้เอมอรเจ็บจนหัวใจระบม             หลังจากมื้อเย็นผ่านพ้นไป ทุกคนก็แยกย้ายขึ้นไปพักผ่อนบนห้อง จนเวลาสองทุ่มพวงชมพูเดินมาเคาะประตูห้องนารถลดา ก่อนเปิดประตูเข้าไปเมื่อเจ้าห้องกดปุ่มให้ประตูห้องคายล็อค หญิงสาวรู้หน้าที่เดินเข้าไปในห้องน้ำ ผสมน้ำอุ่นในอุณหภูมิที่ต้องการ จากนั้นก็ถือกะละมังใส่น้ำอุ่นมาวางบนพื้นตรงโซฟาปลายเตียงที่มีร่างเจ้าของนั่งอยู่ นารถลดาหย่อนขาลงไปแช่ในน้ำอุ่น โดยมีพวงชมพูบีบนวดฝ่าเท้าให้             “คุณป้าปวดเมื่อยตรงไหนไหมคะ ชมจะได้นวดให้” พวงชมพูเงยหน้าถามนารถลดา             “รู้สึกปวดตรงท้ายทอยน่ะ สงสัยก้มหน้าอ่านหนังสือมากไปหน่อย เส้นเลยยึด” นางตอบ             “ค่ะ เดี๋ยวชมนวดให้นะคะ” พวงชมพูเป็นเด็กดี เป็นเด็กน่ารัก กิริยามารยาทเรียบร้อยราวกับถูกอบรมสั่งสอนมาดี มีสัมมาคาราวะ เจียมเนื้อเจียมตัว นางเอ็นดูพวงชมพูเหมือนลูกหลานคนหนึ่ง แม้ว่าเธอจะเป็นลูกภรรยาน้อยของสามีตนก็ตาม             “เธอมาดูแลฉันแบบนี้ อรไม่ว่าเหรอ เอาเวลาไปดูแลแม่ตัวเองบ้างนะ”             “แม่ไม่ว่าค่ะ แม่เต็มใจให้ชมมาดูแลคุณป้าค่ะ แล้วชมก็เต็มใจทำให้คุณป้าค่ะ” พวงชมพูตอบจากใจ และนารถลดาไม่คิดว่าอีกฝ่ายเสแสร้ง หนึ่งปีที่ผ่านมานี้ สองแม่ลูกเสมอต้นเสมอปลายกับตนและทุกคนในบ้าน ไม่ถือตัวว่าเป็นคนโปรดของปริญญา ไม่เคยพูดให้ตนเจ็บช้ำน้ำใจ ออกจะเกรงใจและเคารพด้วยซ้ำไป “คุณป้าบอกว่าก้มหน้าอ่านหนังสือมากเกินไป ครั้งหน้าให้ชมอ่านให้ฟังดีไหมคะ คุณป้าแค่นั่งหรือนอนฟังเฉยๆ ฟังเพลินๆ บางทีอาจเผลอหลับด้วยนะคะ”             “อย่าเลย หนังสือที่ฉันอ่านเป็นหนังสือเกี่ยวกับธรรมะซะส่วนใหญ่ ฉันกลัวว่าเธอจะเบื่อและไม่อยากกวนเวลาเธอด้วย ปีนี้เรียนปีสุดท้าย ไหนจะต้องฝึกงานอีก ทุ่มเวลาไปกับการเรียนดีกว่านะ”             “วันเสาร์อาทิตย์ไงคะ เวลาว่างเยอะแยะ ชมทำให้คุณป้าได้ค่ะ ต่อให้เรียนไม่จบ เสียเวลาเรียนไปปีนึง ชมก็ยอมค่ะ” นารถลดายิ้มกับคำพูดที่ได้ยิน มือเหี่ยวย่นตามวัยลูบเส้นผมอีกฝ่ายเบาๆ             “เป็นเด็กดีเหลือเกินนะเราน่ะ ฉันขอให้เธอพบเจอกับคนดีๆ เป็นสามีและพ่อของลูกที่ดีนะ” นารถลดาอวยพร “แล้วมีใครมาจีบหรือมีชายในดวงใจหรือยังล่ะ”             พวงชมพูหัวใจเต้นรัว แก้มสุกปลั่งกับคำถามของนารถลดา ก้มหน้างุดหนีความจริงที่ปกปิด             “ไม่มีค่ะคุณป้า ชมยังไม่คิดเรื่องนั้นค่ะ ชมอยากเรียนให้จบก่อน ทำงานตอบแทนบุญคุณคุณลุงกับคุณป้าและก็แม่ค่ะ เรื่องคู่ครองชมไม่รีบค่ะ” ปากก็บอกว่าไม่มี ทว่าหัวใจกลับมีชายคนหนึ่งนั่งกลางใจนานแล้ว เธอไม่กล้าเปิดเผยความจริงในใจ เพราะเกรงว่าอีกฝ่ายจะรับไม่ได้หากรู้ว่า ตนแอบปลื้มปราณปวิช “ดีแล้วที่คิดเรื่องเรียนก่อน การศึกษาสมัยนี้ถือว่าสำคัญ เรียนจบปริญญาตรีแล้วต่อโทก็ดีนะ ไปทำงานที่อื่นทำไม บริษัทของเราก็ใหญ่โต เข้าไปช่วยคุณลุงกับปราบทำงานน่ะดีที่สุดแล้ว” นารถลดาแนะนำ “ชมแล้วแต่ความกรุณาของคุณลุงกับคุณป้าค่ะ” ขณะที่พวงชมพูกำลังนวดเท้าให้นารถลดา บานประตูห้องเปิดขึ้นอีกครั้ง ร่างสูงใหญ่ของปราณปวิชยืนจังก้าอยู่หน้าประตู ก่อนเดินเข้าไปในห้อง “ทำอะไรกันอยู่ครับคุณแม่” ปราณปวิชถามขณะทรุดกายนั่งข้างมารดา หลุบตามองพวงชมพูที่นั่งนวดเท้านารถลดาแล้วเบ้ปาก เพราะคิดว่าเรื่องที่พวงชมพูทำคือการสร้างภาพ “ชมมานวดเท้าให้คุณแม่หรือครับ” “ใช่จ้ะ มานวดให้ทุกวันเลย แม่เลยไม่ปวดเท้า เท้าก็ไม่ชาตอนเช้าด้วย ไม่เพียงแค่นวดเท้านะ ชมยังนวดตัวเก่งอีกด้วย เวลาแม่เมื่อยก็ได้ชมนี่แหละคอยบีบนวดให้” คำบอกเล่าที่ได้ยิน ทำให้ปราณปวิชนึกแผนด่วนขึ้นมาได้ทันใด “พูดถึงเรื่องนวด ผมกะว่าวันนี้ช่วงบ่ายจะไปนวดซะหน่อย นั่งเครื่องบินมาสบกว่าชั่วโมงหลังรู้สึกร้าวยังไงไม่รู้ ปวดเนื้อเมื่อยตัวไปหมด แต่พอหัวถึงหมอนกลับหลับซะงั้น สงสัยพรุ่งนี้คงต้องไปหาร้านนวดดีๆ สักร้าน” ปราณปวิชพูดไปก็บิดตัวไป ราวกับว่าปวดเมื่อยจริงๆ “ชมนวดได้นี่ลูก นวดดีกว่าหมอนวดซะอีกนะ” นารถลดาพูดแบบนี้ก็เข้าทางคนเป็นลูก “ผมไม่กล้ากวนชมหรอกครับ นวดให้คุณแม่แล้วก็ต้องมานวดให้ผมอีก ผมทนได้แค่คืนเดียวเอง พรุ่งนี้จะไปนวดที่ร้าน” ปราณปวิชออกตัวเป็นพิธี ลุ้นอยู่ว่า นารถลดาหรือพวงชมพูจะเอ่ยคำใด ในหัวก็คิดแผนสำรองไว้ด้วย “ชมนวดให้พี่ปราบได้นะคะ อาจจะไม่ดีเท่าหมอนวดที่เคยนวดพี่ปราบ แต่ก็เชื่อว่าช่วยให้พี่ปราบหายเมื่อย นอนหลับสบายค่ะ” พวงชมพูไม่ขัดข้อง เธอเต็มใจทำให้ครอบครัวปริญญา ถือว่าตอบแทนบุญคุณไปในที “แม่รับรองว่า ปราบจะต้องหลับสบายยันเช้าแน่นอนจ้ะ” นารถลดากล่าวเสริม “คุณแม่พูดแบบนี้ ผมคงไม่ลองไม่ได้” ปราณปวิชยิ้มในใจที่แผนสำเร็จ “ขอบใจชมล่วงหน้านะที่จะนวดให้พี่” “ชมยินดีค่ะพี่ปราบ” พวงชมพูยิ้มให้ปราณปวิช และเมื่อเขาเห็นรอยยิ้มของเธอ เขาอึ้งไปชั่วขณะหนึ่ง ราวกับว่าตกอยู่ในมนต์สะกดอย่างไรอย่างนั้น ทั้งที่รอยยิ้มนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่เห็น แต่เหตุใดใจมันกระตุกก็มิทราบได้ หรืออาจเป็นเพราะ เป็นรอยยิ้มบริสุทธิ์บนใบหน้าที่ไร้การปรุงแต่ง มันจึงสวยสดงดงามจับใจ เขารีบสะบัดความรู้สึกนั้นให้หลุดไปจากสตินึกคิด เขาจะโอนอ่อนคล้อยตามความสวยงามตรงหน้าไม่ได้ มันคือการเสแสร้ง เป็นมายาของลูกผู้หญิงแพศยาแย่งสามีมารดาตนไป “ขอบใจอีกครั้งนะ” เป็นคำพูดที่ซ่อนความร้ายกาจไว้เต็มที่ “คุณป้ารอชมแปปนึงนะคะ ชมไปเอาน้ำมันนวดที่ห้องก่อน ชมเพิ่งซื้อมาเมื่อวานซืนค่ะ ใช้น้ำมันนวดกลิ่นของมันจะทำให้คุณป้านอนหลับสบายค่ะ” พวงชมพูพูดจบก็ยกกะละมังน้ำไปเทในห้องน้ำ ก่อนเดินออกไปจากห้องเพื่อไปหยิบของที่ต้องการ “ชมเป็นเด็กดีนะลูก น่ารัก นิสัยก็ดี ตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ ชมก็มานวดให้แม่ทุกวัน ดูแลแม่อย่างดีเลยนะ” ปราณปวิชแปลกใจกับคำชื่นชมจากปากมารดา พวงชมพูเป็นลูกเอมอรภรรยาน้อยสามีที่ควรจะไม่ให้เข้าใกล้หรือพูดให้รู้สึกได้ว่า ให้ความรักความเมตตา แต่สำหรับปราณปวิช เขาคิดว่าการกระทำของพวงชมพูคือการเสแสร้งแกล้งทำเป็นดีด้วย เพื่อกลบความผิดของมารดา “ดูเหมือนคุณแม่จะรักและเมตตาชมมากเลยนะครับ ทั้งที่ชมเป็นลูกของน้าอร เมียน้อยคุณพ่อ” “ก็ชมเป็นเด็กดีจริงๆ นี่ลูก อีกอย่างแม่ก็ยอมให้อรกับชมเข้ามาอยู่ในบ้าน แม่ก็ต้องยอมรับอรกับชมไม่ใช่หรือลูก” นารถลดาตอบบุตรชาย “แม่อยากให้ปราบมองอีกมุมของอรกับชมนะลูก สองแม่ลูกคู่นี้เป็นคนดี แม่สัมผัสด้วยตัวเองแม่เลยพูดได้” ‘คนดีของคุณแม่เป็นเมียน้อยคนอื่นนี่น่ะครับ สำหรับผม ผมถือว่าเป็นคนเลว’ เป็นคำพูดโต้แย้งในใจ ทว่าคนเป็นลูกไม่คิดเช่นนั้น ปราณปวิชเกลียดชังสองแม่ลูกมากกว่าจะมองเห็นด้านดี แต่ที่ไม่อาละวาด ไม่ใช้ถ้อยคำรุนแรงเพราะต้องการแก้แค้นเงียบๆ ให้เอมอรกับลูกเจ็บจนกระอัก “ผมจะพยายามทำเพื่อคุณพ่อกับคุณแม่ครับ” เขาต้องพูดดีไว้ก่อน “อีกอย่างจะค้านหรือทำอะไรตอนนี้คงไม่มีประโยชน์ สู้ยอมรับเรื่องที่เกิดขึ้นดีกว่าครับ”   “แม่ดีใจนะที่ปราบคิดอย่างนี้ และขอบใจลูกมาก” การสนทนาของสองแม่ลูกยุติลงเมื่อพวงชมพูเดินกลับเข้ามาในห้องพร้อมกับน้ำมันนวดตัว “ผมไปรอชมที่ห้องนะครับ จะได้อาบน้ำเลย เผื่อผมหลับตอนชมนวด” ปราณปวิชขอไปเตรียมตัว “จ้ะลูก” นารถลดารับคำลูกชาย พวงชมพูบีบนวดให้เจ้าของห้องอย่างไม่รีบร้อน ซึ่งใช้เวลาราวสามสิบห้านาทีการนวดจึงเสร็จสิ้น จากนั้นหมอนวดจำเป็นเดินออกจากห้องนารถลดา ไปยังห้องของปราณปวิชคนที่ตนต้องนวดเป็นคนต่อไป
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม