ตกหลุมพราง 1.2

1227 คำ
  เช้าวันต่อมา           โจ๊กหมูทรงเครื่องคืออาหารเช้าของบ้าน คนทำอาหารเช้าทุกมื้อคือพวงชมพู ที่จะผลัดเปลี่ยนทำไม่ซ้ำกัน หรือทำตามความต้องการของปริญญากับนารถลดาที่อาจอยากกินอาหารอื่นเป็นพิเศษ พวงชมพูเพิ่งรู้ว่า ปราณปวิชไม่กินมื้อเช้า เขาจะดื่มกาแฟกับขนมปัง แต่ก็จะนั่งร่วมกินอาหารเช้ากับบิดาและมารดา พวงชมพูจึงทำแซนวิชทูน่าให้ปราณปวิชกินกับกาแฟ           พูดถึงปราณปวิช พวงชมพูนึกถึงเรื่องคืนที่ผ่านมา เธอตั้งใจว่ารอให้ปราณปวิชหลับสนิทจึงยกแขนขาเขาออกจากตัว แต่กลายเป็นว่า เธอหลับไปตอนไหนมิทราบได้ มารู้สึกตัวอีกทีตอนตีหนึ่ง พวงชมพูหน้าแดงเถือก เขินอายหนักมากเมื่อรู้ว่า ตนตะแคงตัวเข้าหาร่างสูงใหญ่ เปลี่ยนจากเขาเกยก่ายเป็นเธอทำเสียเอง แถมยังกอดเขาอีกด้วย พวงชมพูรีบนำพาตัวเองออกจากห้องนอนของปราณปวิชทันที ก่อนที่เจ้าของห้องจะตื่นมาเห็นว่า เธอเห็นเขาเป็นหมอนข้าง หลังจากกลับมาถึงห้องพวงชมพูนอนยิ้มอยู่บนเตียง หัวใจสาวเพ้อฝันห้วงคำนึงนึกถึงปราณปวิช กลิ่นกายเขายังอบอวลในจมูก อ้อมกอดเขาก็แสนอบอุ่น พอมานอนต่อที่ห้องเธอก็หลับฝันดี หลับสนิทจนถึงเช้า เจ้านายทุกคนในบ้านมารวมตัวกันบนโต๊ะอาหารเพื่อกินมื้อเช้า เอมอรไม่ได้นั่งประจำที่ แต่กลับยกอาหารเช้ามาวางไว้ตรงหน้าปริญญากับนารถลดา ทำหน้าที่แทนสาวใช้ซึ่งเป็นเรื่องที่เอมอรทำให้สองสามีภรรยาทุกมื้อเช้า ก่อนที่พวงชมพูจะยกถ้วยกาแฟวางไว้ข้างจานโจ๊กของปริญญา วางถ้วยชาใกล้มือนารถลดา คนสุดท้ายคือปราณปวิช เธอวางถ้วยกาแฟดำและจานแซนวิชเป็นมื้อเช้าให้เขา “แกจะเข้าบริษัทวันนี้ใช่ไหม” ปริญญาถามลูกชาย “ใช่ครับ” “พ่อจะไปตอนบ่ายนะ ตอนสายต้องพาแม่แกไปหาหมอที่โรงพยาบาล” คนเป็นพ่อบอกลูก “คุณแม่เป็นอะไรครับถึงต้องไปหาหมอ” “แม่ไม่ได้เป็นอะไรหรอกลูก ไปตามหมอนัดน่ะ” นารถลดาตอบลูกชาย “ให้ผมพาคุณแม่ไปหาหมอแทนคุณพ่อดีไหมครับ ผมไปเรียนต่อสองปีกว่าไม่ได้ดูแลคุณแม่เลย ผมรู้สึกผิดยังไงไม่รู้ วันนี้ที่เข้าบริษัทก็ไม่มีอะไรเร่งด่วน ก็แค่ไปศึกษาดูงานกระตุ้นสมอง แล้วผมก็อยากดูแลคุณแม่ด้วยครับ” ปราณปวิชรู้สึกตามที่พูดจริงๆ “ไม่เป็นไร แม่เข้าใจว่าปราบไปเรียน อีกอย่างโรคของแม่ก็ไม่ได้ร้ายแรงด้วย ปราบไปทำงานเถอะลูก” “ใช่ ปราบไปทำงานเถอะ พ่อตั้งใจว่าพาแม่ไปหาหมอเสร็จจะไปทำบุญที่วัดต่อ เรื่องของแม่เป็นหน้าที่พ่อเอง หน้าที่ของพ่อ พ่อไม่ให้ใครมาแย่งหรอก” ปริญญาทำหน้าที่สามีที่ดี ดูแลนารถลดาเสมอต้นเสมอปลาย แม้ว่าการกระทำบางอย่างไม่สมควรทำก็ตาม เรื่องที่ปริญญาทำให้นารถลดาเหมือนเอาใจใส่ แต่เหตุใดถึงได้มีภรรยาน้อย ข้อนี้เองที่ทำให้ปราณปวิชไม่เข้าใจ เหมือนคนเป็นพ่อมีความรักให้นารถลดา ทว่ากลับทำร้ายจิตใจด้วยการพาเมียน้อยเข้ามาอยู่ในบ้าน ปราณปวิชอยากถามบิดาตรงๆ ว่า แท้จริงแล้วในหัวใจปริญญามีนารถลดาอยู่หรือไม่ แต่ก็ไม่ถามเพราะการกระทำของบิดาเป็นคำตอบได้ดีที่สุด ปราณปวิชคิดว่า ที่ปริญญาทำเช่นนี้เพราะรู้สึกผิด จึงทำดีไถ่โทษ ปราณปวิชยิ่งสงสารมารดามากขึ้น การสนทนาหยุดลงเพียงแค่นี้ ทุกคนต่างกินมื้อเช้ากันจนเสร็จ ปริญญา นารถลดาและเอมอรเดินไปนั่งเล่นในห้องโถงของบ้านรอเวลาไปหาหมอ พวงชมพูเดินไปหยิบกระเป๋าที่วางอยู่ตรงโซฟารับแขกมาสะพายบ่า พนมมือไหว้ผู้ใหญ่ทั้งสามก่อนเดินออกไปจากบ้านไปยังโรงรถ “เอ๊ะ! ทำไมยางแบนได้ล่ะเนี่ย” ยังไม่ทันที่พวงชมพูจะเปิดประตูรถ สายตาพลันไปเห็นยางรถยนต์ด้านหน้าฝั่งคนขับแบนติดพื้น เธออดแปลกใจไม่ได้ว่า ยางแบนได้อย่างไร ทั้งที่ตอนขับมาจอดมันยังอยู่ในสภาพใช้งานได้ “รถเป็นอะไรหรอชม” พวงชมพูหันมาทางต้นเสียงที่เดินเข้ามาใกล้ “ยางแบนค่ะ ไม่รู้แบนได้ยังไง เมื่อวานยังดีๆ อยู่เลย” เธอตอบ “ไปเหยียบโดนตะปูหรือของมีคมหรือเปล่า เมื่อวานตอนขับรถมาจอดมันก็เลยปกติ มาแบนตอนไม่ได้ใช้งาน” เขาสันนิษฐาน “น่าจะใช่ค่ะ” พวงชมพูก็คิดตามเขาว่า “เดี๋ยวพี่บอกให้ลุงแม้นมาจัดการยางรถให้ก็แล้วกันนะ” ปราณปวิชทำตัวหวังดี “เดี๋ยวพี่ไปส่งชมที่มหาลัยล่ะกัน ลุงแม้นต้องขับรถให้คุณพ่อคงแยกร่างขับไปส่งชมไม่ได้ ก็มีแต่พี่นี่แหละที่ว่าง” “ชมเกรงใจน่ะค่ะ ชมนั่งรถเมล์ไปก็ได้ค่ะ” พวงชมพูกล่าวอย่างเกรงใจ อีกใจก็กลัวหัวใจตัวเองจะไหลไปหาเขามากขึ้น เพราะแค่นี้เขาก็แทบเข้าไปนั่งในหัวใจเกือบเต็มพื้นที่แล้ว “จะเกรงใจทำไม เราก็เหมือนครอบครัวเดียวกัน พี่ขับรถไปส่งชมที่มหาลัยก็ไม่เห็นแปลก ดีซะอีกเราสองคนจะได้สนิทกันเร็วๆ ไง” ปราณปวิชทำตัวเป็นพี่ชายที่แสนดี “ถ้าชมไม่ให้พี่ไปส่ง พี่ถือว่าชมรังเกียจพี่” เจอประโยคนี้เข้าไป พวงชมพูคงไม่มีทางปฏิเสธเขาได้ “ค่ะก็ได้ค่ะ” “งั้นไปกันเลยนะ” ไม่พูดเปล่า มือใหญ่ของปราณปวิชเอื้อมไปกุมมือเล็ก ก่อนพาเดินไปยังรถยนต์ของตนที่จอดถัดไปอีกสองคัน พวงชมพูหัวใจเต้นรัว ก้มมองดูมือเขาและเธอที่ประสานกันด้วยรอยยิ้ม ปราณปวิชกระตุกยิ้มเลือดเย็นขณะปรายตามองดวงหน้าหวานแล้วเห็นรอยยิ้มของเธอพอดี วินาทีนี้เขามั่นใจว่า เหยื่อหลงกลตนมากขึ้น           เมื่อทั้งคู่เข้ามานั่งในรถ พวงชมพูกำลังจะจับที่เข็มขัดนิรภัยมาคาด ทว่าเจ้าของรถยนต์กลับทำเรื่องหนึ่งที่ทำให้พวงชมพูตกใจไม่น้อย           “พี่คาดเข็มขัดให้นะ” ปราณปวิชไม่รอคำตอบ เขาเอี้ยวตัวมาเบาะที่พวงชมพูนั่งอยู่ จับสายเข็มขัดนิรภัยมาคาดให้พวงชมพูที่นั่งตัวแข็งใจเต้นถี่รัว เพราะจังหวะนั้นปราณปวิชหันมองหน้าพวงชมพู ส่งผลให้ใบหน้าของทั้งคู่ใกล้กันเหมือนเมื่อคืนไม่มีผิด ทว่าครั้งนี้ใกล้ยิ่งกว่า เมื่อริมฝีปากของทั้งคู่แตะสัมผัสกันบางเบา           “พี่ขอโทษ พี่ไม่ได้ตั้งใจล่วงเกินชมนะครับ” ปราณปวิชกล่าวขอโทษสาวหน้าแดงที่ใจเต้นระรัวยิ่งกว่าคนรัวกลองออกศึก ขยับตัวมานั่งหลังตั้งตรงบนที่นั่งของตน           “เอ่อ...ค่ะ ไม่เป็นไรค่ะ” เธอตอบกลับเสียงเบาแก้มร้อนผ่าว ไม่สบสายตาปราณปวิช ก้มหน้างุดหนีความเขินอาย
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม