“แกทำงานได้ดีมาก ...เชิด...” ริมฝีปากอวบอิ่มสีแดงสดเผยอยิ้มขึ้นอย่างสะใจ ภายใต้ขนตาตกแต่งดัดงอนงาม ฉายแสงเจิดจ้าด้วยแรงแห่งไฟริษยาไม่อาจปิดบังซ่อนเร้น เหตุใดไร่ราชพยัคฆ์ถึงได้ต้องการเพียงแม่บ้านก้นครัวแสนต่ำต้อยไปยกย่องเชิดชูให้เป็นนายหญิงของไร่ราคามหาศาลเช่นนั้นได้
หึ...ทำไมถึงไม่เป็นลูกคุณหนูผู้เพียบพร้อมไปหมดทุกอย่างดั่งเช่นตัวเธอเอง ยิ่งคิดก็ให้ยิ่งเจ็บใจ ยิ่งรู้สึกเกลียดชังนิดาเพิ่มมากขึ้นเป็นเท่าทวีคูณ
ปลายเล็บเคลือบสีสดจิกลงบนเครื่องมือสื่อสาร เมื่อนึกถึงวันนั้นขึ้นมาทีไร ดวงใจของสุดาพรรณก็ให้ยิ่งเดือดดาลขึ้นมาทุกที ทั้งที่วันนั้นเธอได้ให้บิดาบอกปฏิเสธไม่ยอมยกนิดาให้แล้วแท้ๆ และเธอขออาสาเป็นผู้เสียสละยอมแต่งงานแทนนิดา แต่ทางไร่ราชพยัคฆ์ยังคงยืนยันเสียงแข็ง ถ้าหากไม่ใช่นิดา สัญญาก็เป็นอันโมฆะ ทางบ้านของเธอต้องชำระหนี้สินมากมายพร้อมดอกเบี้ยคืนให้กับทางไร่ทันทีเมื่อทางบิดาของเธอไม่อาจทำตามสัญญาโดยยกนิดาให้ได้...
“ฮึ...อยากจะรู้นัก ถ้าหากทางไร่ราชพยัคฆ์มันรู้ว่าลูกสะใภ้ที่มันต้องการนักต้องการหนานั้น มีราคีติดตัว มันยังจะต้องการอยู่อีกหรือไม่...” สุดาพรรณคิดในใจ เมื่อแผนการบางอย่างดำเนินไปในทิศทางดั่งใจหวังได้สำเร็จ ไม่เสียแรงเลยจริงๆที่เธอยอมลงทุนกับเงินเพียงก้อนหนึ่งเพื่อแลกกับความซะใจในการเอาคืนทางไร่ราชพยัคฆ์ แถมยิงปืนนัดเดียวยังได้นกถึงสองตัว เพราะนกอีกตัวหนึ่งก็คือนิดา ไม่รู้ว่าป่านนี้จะโดนไอ้พวกนั้นมันทำปู้ยี่ปู้ยำพาลงนรกไปไหนต่อไหนแล้วก็ไม่รู้ แต่ก็ช่างประไร ในเมื่อเธอต้องการคิดกำจัดเสี้ยนหนามหัวใจไปให้พ้นหูพ้นตามานานแล้ว ที่เธอยังใจดีไม่ทำอะไรกับนิดามากไปกว่าตบตีทำร้ายร่างกาย เพียงเพราะตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา นิดายังพอมีประโยชน์ให้เธอได้จิกใช้ หรืออีกทั้งได้ระบายอารมณ์ร้ายๆ ยามเธอโมโหแล้วไม่รู้จะลงกับใคร เธอก็มักจะไปลงกับนิดาให้ตัวเองได้ใจสงบขึ้นมาบ้าง
ถึงจะมีบางครั้ง ที่นิดาทำตัวให้เธออยากจะกำจัดมันไปให้พ้นหูพ้นตาใจแทบขาด โดยเฉพาะในยามเมื่อเพื่อนชายมาหาหรือมาเที่ยวเล่นบ้านของเธอ เพื่อนชายเหล่านั้น มีอันต้องให้ความสนใจแม่คนใช้ก้นครัวอย่างนิดาทุกครั้งไปสิน่า ต้องเซ้าซี้ถามเธอถึงนิดาเป็นใครมาจากแทบจะทุกคน ยิ่งคิดก็ให้ยิ่งอารมณ์เสีย จนอยากจะฉีกเนื้อหนังของนิดาออก เป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยแล้วโยนให้ไก่กามันกิน เพื่อดับอารมณ์งุ่นง่านของตัวเองนัก...
“อืม! เดี๋ยวฉันจะโอนเงินส่วนที่เหลือไปให้แกก็แล้วกันเชิด แล้วก็ช่วยปิดเรื่องนี้ไว้เป็นความลับด้วย หวังว่าแกคงจะเป็นมืออาชีพพอนะ...” เมื่อจบการสนทนา สุดาพรรณจึงกดวางสาย เงยใบหน้าสวยเฉี่ยวไม่เป็นสองรองใคร ส่งยิ้มให้มารดา คุณหญิงเพียงใจนั่งโบกพัดในมือไปมา เพื่อรอฟังเรื่องสำคัญของลูกสาวคนโปรด
“สำเร็จแล้วค่ะคุณแม่ คนที่หนูแพรจ้างมันให้ไปทำร้ายนังนิดาโทรมาบอกว่ามันทำงานสำเร็จ มันจัดการข่มขืนนังนั้นเรียบร้อยแล้วค่ะคุณแม่ขา...”
“จรืงหรือจ๊ะหนูแพรลูกแม่ ต๊าย ทำไมมันถึงได้สำเร็จง่ายดาย ฮึ...แต่ก็สมน้ำหน้านังนิมันนะ ไม่รู้มันจะไปลงนรกแล้วหรือยังตอนนี้...” คุณหญิงเพียงใจอดพลอยยินดีไปกับบุตรสาวไม่ได้กับสิ่งที่ได้ฟัง
“มันก็คงจะทั้งขึ้นสวรรค์พร้อมๆกับลงนรกนั่นแหละค่ะ คุณแม่...”
“ฮึ... ดีจริงค่ะลูก...งั้นเดี๋ยวคุณแม่จะเป็นคนไปเล่าให้คุณพ่อของหนูแพรฟังก็แล้วกันนะคะ ท่านจะได้รีบแจ้งไปกับทางนั้น ว่านังนิมันหนีตามผัวมันไปแล้ว...คราวนี้หนูแพรของแม่ ก็จะได้เป็นนายหญิงแห่งไร่ราชพยัคฆ์สมใจ... แบบนี้มันถึงจะถูกต้อง จริงไหมคะลูกแพรของแม่ขา...” คุณหญิงเพียงใจยกมือทาบอกหัวเราะร่วน อะไรที่ทำให้ลูกสาวคนเดียวของนางมีความสุขได้ นางก็มักจะเห็นดีเห็นงามไปกับทุกเรื่อง ไม่ว่าเรื่องนั้นจะถูกหรือผิด ถ้าหากสุดาพรรณ ต้องการ นางก็พร้อมจะส่งเสริมเสมอ...
“จริงที่สุดเลยค่ะคุณแม่ขา งั้นหนูแพรไปเข้าสปาขัดผิวขัดหน้ารอคุณน่านพยัคฆ์มาหาดีกว่า... หนูแพรมั่นใจค่ะ ถ้าหากคุณน่านพยัคฆ์ได้มาเห็นหนูแพรเมื่อไหร่ เขาจะต้องตกหลุมรักหนูแพรตั้งแต่แรกเห็นอย่างแน่นอน คุณแม่ก็ทราบนี่คะ ลูกสาวของคุณแม่คนนี้ หากชะม้ายชายตาแลใคร เป็นอันต้องตกหลุ่มรักหนูแพรกันแทบทุกคน และก็คงไม่มีข้อยกเว้นสำหรับชายหนุ่มบ้านนอก แต่ก็หล่อรวยสุดๆอย่างคุณน่านพยัคฆ์ด้วยคะ...” สุดาพรรณยิ้มกว้างแววตาสวยเคลิ้มฝัน เมื่อนึกถึงใบหน้าหล่อคมคายของชายหนุ่มในรูปภาพบนโต๊ะทำงานของบิดา ผู้ชายคนนี้ช่างถูกใจเธอเสียจริงๆ อีกทั้งรูปร่างหน้าตาก็สมบูรณ์เพอร์เฟ็คท์เสียขนาดนั้น แถมเขายังร่ำรวยมหาศาล หากเธอได้เขามาครอบครอง เธอต้องกลายเป็นผู้หญิงที่ใครหลายๆคนต้องอิจฉาอย่างแน่นอน...
“ค่ะ...คุณแม่เห็นด้วยที่สุด” ความคิดเข้าข้างตัวเองยังคงได้รับการสนับสนุนจากมารดาอีกเช่นเคย
“ว่าแต่นี่คุณพ่อจะกลับมาวันไหนหรือคะ หนูแพรจะได้เตรียมตัวจัดกระเป๋า”
“จัดกระเป๋าไปไหนหรือคะหนูแพร...” คุณหญิงเพียงใจขมวดคิ้ว แล้วนี่ลูกสาวของนางจะจัดกระเป๋าไปเตรียมไปไหนอีก ในเมื่อสุดาพรรณเพิ่งจะกลับเข้าบ้านมาได้เพียงอาทิตย์กว่าเท่านั้น ลูกสาวคนโปรดของนาง จะมีโปรแกรมไปนอนค้างอ้างแรมกับเพื่อนที่ไหนอีกแล้วล่ะเนี่ย สุดาพรรณพอจะเห็นแววตาสงสัยของมารดา หญิงสาวจึงรีบเฉลยให้ท่านหายสงสัย...
“ก็จะไปไร่ราชพยัคฆ์ยังไงล่ะคะ...หนูแพรเชื่อค่ะ ถ้าหากทางไร่นั้นรู้เรื่องนังนิดาเข้า ก็คงต้องเปลี่ยนเป้าหมายมาที่หนูแพร เพราะฉะนั้น เราจะต้องเตรียมตัวกันเอาไว้ก่อนล่วงหน้า บางทีเขาอาจจะรีบขึ้นมารับหนูแพรทันทีที่ได้รับข่าวจากทางเราก็ได้นะคะ...” เมื่อนึกไปถึงวันนั้น หัวใจของสุดาพรรณก็เต้นตึกตักด้วยความตื่นเต้น แอบหลงเข้าข้างตัวเอง คงไม่มีผู้ชายหน้าโง่คนไหน ถ้าได้เห็นหน้าเธอแล้วจะปฏิเสธได้ลงคอ ก็เธอออกจะสวยและเพียบพร้อมไปเสียหมดแบบนี้ ใครเห็นใครก็ต้องตกหลุมรักอยู่วันยังค่ำ และน่านพยัคฆ์ก็คงไม่น่าจะผิดแปลกไปจากผู้ชายทั่วๆไปที่เธอเคยคลุกคลีมาก่อน...
น่านพยัคฆ์เป็นผู้ชายหน้าตาหล่อเหลาอย่างหาตัวจับยาก อีกทั้งรูปร่างของเขาก็ออกจะสูงใหญ่ดูมีอำนาจอยู่ในตัว ช่างเหมาะสมกับเป็นเจ้าของไร่ส้มอันดับหนึ่งของเมืองเหนือเหลือเกิน และที่สำคัญ เหมาะที่จะมาเป็นสามีของเธอมากที่สุดอีกด้วย เมื่อคิดถึงชายหนุ่มเจ้าของไร่ส้มอันใหญ่โต หัวใจของคนริษยาก็พาลจะอิ่มเอม จนรู้สึกพองโตขึ้นคับอก โดยไม่เฉลียวใจสักนิด แผนการที่คิดว่าสำเร็จนั้น เป็นเพียงคำลวงของคนถูกว่าจ้างเท่านั้นเอง...
“ดีคะลูกแพร ลูกต้องรีบไปเตรียมตัวเอาไว้ก่อน ถ้าหากทางไร่นั้นลงมาหาปุ๊บปั๊บ เราจะได้ไม่เสียเวลามากไงค่ะ คุณแม่เห็นด้วยมากถึงมากที่สุดเลย ก็ในเมื่อลูกสาวของแม่ ออกจะสวยปานนางฟ้านางสวรรค์ถึงเพียงนี้ ไม่มีผู้ชายตาถั่วคนไหนจะไม่ตกหลุมรักลูกสาวคนดีของแม่ตั้งแต่แรกเห็นหรอกจ้ะ...” คุณเพียงใจเยินยอลูกสาว ยิ้มเล็กยิ้มน้อยเมื่อนึกถึงอนาคต เพราะนางรู้จากสามี ถึงฐานะการเงินของเจ้าหนี้รายนี้ ร่ำรวยมหาศาลแค่ไหน ถ้าหากลูกสาวนางได้ตกเป็นภรรยาของเจ้าของไร่นั้นขึ้นมาเมื่อไหร่ ก็คงจะสุขสบายไปตลอดทั้งชาติก็ว่าได้...
และบทสนทนาของสองแม่ลูก ได้ซึมผ่านเข้าไปในจิตใจของผู้ยืนฟังอยู่หลังม่าน สองมือลู่ลงข้างลำตัวอย่างคนหมดเรี่ยวแรง ความรู้สึกเสียใจตีตื้นขึ้นมาจนอกแทบระเบิด ดวงตาแดงก่ำเนื่องจากผ่านการร้องไห้อย่างหนักหน่วงมาก่อนหน้าถึงสองวัน เริ่มมีหยาดน้ำใสคลังคลออยู่ตรงหน่วยหางตา...
นิดาได้แต่ยืนนิ่งเหมือนถูกสาป ความรู้สึกในตอนนี้ มันช่างแสนปวดร้าวกับสิ่งที่ได้ยินเหลือเกิน ทำไมสองแม่ลูกคู่นี้ถึงได้ใจร้ายใจดำกับเธอไม่สิ้นสุด ทั้งๆที่เธอเองก็ไม่เคยไปทำอะไรให้กับสองแม่ลูกคู่นี้เลยสักครั้ง ตลอดเวลา เธอมีแต่ยอมกับยอม ในเมื่อตระหนักดี เธออยู่ในฐานะอะไรในบ้านหลังนี้...
บ้านที่ครั้งหนึ่งมันเคยเป็นของบิดาและมารดาผู้ล่วงลับไปแล้วของเธอมาก่อน...
หญิงสาวคิด บางที การถูกทำร้ายทางร่างกายให้เจ็บปวด ยังจะดีเสียกว่า การส่งเธอไปสังเวยให้กับชายใจเลวคนนั้น การถูกข่มขืนโดยไม่รู้ด้วยซ้ำว่าผู้ชายเลวทรามคนนั้นเป็นใคร มันทำให้เธอเกือบคิดสั้น ฆ่าตัวตาย หากไม่ได้พี่สาวใจดีเข้ามาห้ามไว้ได้ทัน ป่านนี้เธอเองคงได้ไปอยู่กับบิดามารดาที่รักของเธอในอีกโลกหนึ่งแล้วก็อาจเป็นได้...
หญิงสาวหลับตาลงเพื่อตั้งสติ แต่ทุกครั้งที่หลับตา มันกลับยิ่งทำให้เธอรู้สึกเจ็บร้าวในทรวงอก เมื่อนึกถึงร่องรอยบนร่างกาย กับความเจ็บปวดตรงจุดนั้น ยิ่งเป็นตัวตอกย้ำ สิ่งมีค่าที่เธอหวงแหนมากที่สุดในชีวิตได้จากเธอไปแล้ว เธอไม่หลงเหลืออะไรให้ภาคภูมิใจได้อีกต่อไป ยิ่งนึกถึงน้ำตาก็ยิ่งพาลจะไหล ร่างงามจึงตัดสินใจ เดินหันหลังออกมาจากห้องรับแขกด้วยจิตใจแสนบอบช้ำ ริมฝีปากอวบอิ่มเม้มเข้าหากันเป็นเส้นตรง เธอคงอยู่บ้านหลังนี้ต่อไปอีกไม่ได้ คงต้องหางานทำกับที่อยู่ใหม่ เพื่อความปลอดภัยของตัวเองในอนาคตข้างหน้า...
เมื่อตัดสินใจดีแล้ว นิดาจึงค่อยๆแอบย่องเข้าห้องพักของตัวเอง รีบยกกระเป๋าใบเก่าขนาดย่อมออกมาจากบนหลังตู้ จับเสื้อผ้ากับของใช้จำเป็นเพียงไม่กี่ชิ้นยัดลงไปในนั้น หญิงสาวมองเงินเก็บในบัญชี ถึงมันจะมีไม่มากมายอะไร แต่ก็คงพอยื้อเวลาให้เธอหางานกับที่อยู่ใหม่ได้ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง...
เมื่อเก็บของใช้สำคัญกับเสื้อผ้าเสร็จ นิดาจึงรีบสาวเท้าเดินออกจากห้องพักทันที ถึงแม้ภายในใจจะนึกกลัวแสนกลัวกับอนาคตข้างหน้า หากต้องจากบ้านเกิดหลังนี้ไป เพราะตั้งแต่เล็กจนโต ไม่เคยมีเลยสักครั้ง เธอจะไปไหนห่างจากบ้านหลังนี้ แต่ตอนนี้ชีวิตเธอไม่ปลอดภัยอีกต่อไปแล้ว ถึงจะกลัวอนาคตข้างหน้ามากแค่ไหน เธอก็ไม่อาจทนอยู่บ้านหลังนี้ได้อีกต่อไป...
นิดาเลือกเดินออกมาทางด้านหลังของตัวบ้าน สายตาหวานปานน้ำผึ้ง คอยมองสำรวจรอบๆ เธอไม่อยากให้ใครมาเจอ จึงเลือกเส้นทางด้านหลังของตัวบ้านแทนเส้นทางด้านหน้า เส้นทางนี้จะเชื่อมต่อกับประตูรั้วของบ้านนาวิน มันสามารถใช้เดินไปยังถนนใหญ่ได้ โดยไม่มีใครมาพบเข้าเสียก่อน
***********************
นิดาเลือกห้องเช่าเล็กๆได้ในช่วงตอนเย็น ค่าเช่าไม่แพงมากนักอย่างที่เธอต้องการ หญิงสาววางแผนขั้นต่อไปคือการหางานทำ หากได้งานทำมั่นคง เธอค่อยหาที่อยู่ใหม่ให้ดูน่าปลอดภัยมากกว่านี้
“หนูจ๊ะ ตลาดอยู่ตรงหัวมุมทางด้านขวาของตึกนี่นะ ถ้าหิวหรืออยากได้ของใช้ก็เดินตรงไปทางนั้นได้เลย ราคาไม่แพงและก็ไม่อันตรายด้วยจ้ะ...” ป้าเจ้าของห้องเช่าบอกหญิงสาวก่อนยื่นกุญแจห้องพักให้
“ขอบคุณค่ะ” นิดาจึงยกมือไหว้ขอบคุณ
“ถ้าหนูมีปัญหาอะไรก็บอกป้าได้นะ ไม่ต้องเกรงใจอะไร ป้าเห็นหนูมาตัวคนเดียว บอกตามตรงอดเป็นห่วงไม่ได้ แต่ก็ไม่ต้องกลัวอะไรหรอกนะ คนในตึกนี้อยู่กันมานาน ห้องนี้ที่ว่างก็เพราะเขาย้ายไปซื้อบ้านหลังใหม่กัน นี่ถ้าไม่ใช่หนู ป้าก็คงจะต้องสืบประวัติกันนานพอดู...”
นิดารู้สึกใจชื้นขึ้นมาบ้างเมื่อได้ยินสิ่งที่ป้าเจ้าของห้องเช่าเล่าให้ฟังถึงความปลอดภัย
“ขอบคุณมากๆเลยค่ะป้า...” นิดายิ้มรับไมตรีจิตของป้าเจ้าของห้องเช่า อย่างน้อยๆในโลกกลมๆใบนี้ก็ยังพอจะมีคนจิตใจดีหลงเหลืออยู่บ้าง ไม่ได้มีเฉพาะแต่คนใจร้ายอย่างเช่นครอบครัววนาสินธ์เสมอไป
หลังจากเก็บทำความสะอาดห้องเช่าเสร็จ นิดาก็เดินออกมาหาอะไรทานตามคำบอกกล่าวของป้าเจ้าของห้องเช่า ดีหน่อยห้องเช่าตึกนี้อยู่ไม่ไกลจากตลาดมากนัก แถมผู้คนยังเดินกันขวักไขว่อยู่ตลอดเวลา ดูไม่น่ากลัวอะไร เมื่อสั่งอาหารตามสั่งทานจนหมด หญิงสาวก็ไม่ลืมแวะเข้าร้านสะดวกซื้อ เพื่อเลือกหาหนังสือรับสมัครงานติดมือกลับไปยังห้องพักด้วยฉบับหนึ่ง เมื่อนิดากลับถึงห้องเช่าได้ เธอก็หลับสนิทด้วยความเหนื่อยล้ามาตลอดทั้งวันทันที...
*****************************