เมื่อเข้ามาในรถตู้ มีสาวประเภทสองอีกสองคนรออยู่แล้ว ทั้งสองช่วยกันจัดการให้วาวไหมสวยที่สุดในชุดเจ้าสาว!
ระหว่างนั้น เอกวินเป็นคนอธิบาย
“วาวไหมจะต้องเข้าพิธีรดน้ำสังข์กับคุณทรงฤทธิ์ ลูกชายพ่อเลี้ยงรณชัย”
“ทำไมถึงต้องเป็นหนูล่ะคะพี่เอก”
“คืองี้ เจ้าสาวตัวจริงหนีไป โชคมันก็เลยตกมาที่วาวไหมไงล่ะ”
“ทำไมต้องหนีด้วยล่ะคะ”
“พี่ไม่รู้หรอกเรื่องนั้น แต่คงมีปัญหาอะไรกันนั่นแหละ เราอย่าไปใส่ใจเลย หน้าที่ของวาวไหมก็คือการเป็นเจ้าสาวให้กับคุณทรงฤทธิ์เท่านั้น อาจจะต้องเข้าหอ อาจจะ...มากกว่านั้นก็ทำไป ทำได้ไหม”
“หนูเลือกแล้วนี่คะพี่เอก”
“ดีจ้ะ พี่ว่าดีกว่าไหมไปเสี่ยงชีวิตในเมืองนอกอีก อย่างน้อย ๆ ที่นี่คือเมืองไทย”
“จริงค่ะพี่เอก แล้วเงินล่ะคะ”
หนึ่งในสองสาวประเภทสองหยิบเงินสดออกมาจากกระเป๋าส่งให้เอกวิน หนุ่มท้วมรับไปนับดูแล้วยื่นในส่วนของวาวไหมให้กับหล่อน
“แสนสามหมื่น พี่ขอเอาแค่สองหมื่นพอ”
เพียงแค่นี้ก็ต้องเรียกว่าได้ใจหญิงสาวไปเต็ม ๆ เงินหนึ่งแสนสามหมื่นใบใหม่เอี่ยมอยู่ในมือของหล่อน สำหรับหล่อน มันเหมือนฝันมากกว่า
คำถามมากมายผุดขึ้นมาหลังจากนั้น คุณทรงฤทธิ์รูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไรบ้าง ทำไมระดับลูกชายของพ่อเลี้ยงรณชัย เจ้าสาวถึงได้ตัดสินใจหนีจากไป มันต้องมีอะไรซุกซ่อนอยู่อย่างแน่นนอน แน่ละว่ามันไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ
วาวไหมสูดลมเข้าปอด เธอตัดสินใจแล้วจะต้องเดินหน้าต่อไป
“พี่เอกคะ ช่วยจัดการเรื่องเงินให้คุณแม่หนูได้ไหม”
“ได้สิ”
“ขอบคุณมากค่ะ”
เอกวินรับเงินจากมือของวาวไหมอีกครั้ง
“วาวไหมจะไม่เก็บไว้ใช้เองบ้างเหรอ”
“ไม่ค่ะ หนูยังพอมี เงินก้อนนี้อยากให้แม่เก็บไว้ใช้มากกว่า”
“อืม งั้นไม่ต้องห่วงนะ เดี๋ยวจัดการให้ เงินถึงมือแม่จะให้แม่โทร.บอกนะ”
“ขอบคุณค่ะพี่เอก”
โรงแรมกึ่งรีสอร์ตหรูหรา
รถยนต์ล้วนแล้วแต่ราคาแพงเกือบสิบคันที่จอดเรียงรายอยู่นั้น พอจะบอกได้ว่า มันมีงานสำคัญที่ถูกจัดขึ้นภายในตัวอาคารหลังใหญ่สุดของโรงแรม
หัวใจของวาวไหมเต้นรัว พยายามระงับความตื่นเต้นเอาไว้ หล่อนตื่นเต้นกว่าเมื่อครั้งที่ตัดสินใจจะออกจากบ้านเสียอีก ไม่เคยคิดและไม่คาดคิดว่าจะต้องมาใส่ชุดเจ้าสาวอย่างฉุกละหุก แค่เห็นชุด หล่อนอดคิดไปไกลลิบไม่ได้
มันเป็นมโน! แต่ใครบ้างล่ะจะไม่คิด ถึงจะรู้ดีว่าหนทางข้างหน้ามันไม่ได้สวยงามสักนิดเดียวเลย การไปต่างประเทศ งานแฝงแท้จริงก็คือขายตัว ส่วนการเป็นเจ้าสาวจำเป็นในไม่กี่นาทีข้างหน้านี้ ชะตากรรมเป็นอย่างไรไม่รู้
แอบถอนใจยาว ทว่าสุดท้ายแล้วหญิงสาวก็เปิดประตูก้าวออกจากรถ
“พี่เอกส่งหนูแค่นี้ก็พอค่ะ อย่าลืมจัดการเรื่องเงินให้แม่ด้วยนะคะ”
“สบายใจได้เลยจ้ะ”
หนุ่มร่างท้วมรับคำหนักแน่น อดนึกทึ่งไม่ได้เหมือนกันกับความเด็ดเดี่ยวของหญิงสาวคนนี้ ก็ได้แต่หวังว่า หล่อนจะไปได้ดี เขาไม่แน่ใจนักว่าเพราะเหตุใดเจ้าสาวของลูกชายพ่อเลี้ยงรณชัยถึงได้ตัดสินใจหนีในวินาทีสุดท้าย
ที่แน่ ๆ มันคงไม่ใช่เรื่องดีงามสักเท่าไหร่หรอก!
พ่อเลี้ยงรณชัยยกข้อมือมองเวลาอย่างกระวนกระวายใจ แต่เมื่อลูกน้องคนสนิทที่สามารถจัดการปัญหาให้ได้ทุก ๆ เรื่องก้าวเข้ามากระซิบ สีหน้าก็เปลี่ยนไป
“เจ้าสาวมาแล้วครับ”
“อย่าทำให้ฉันขายหน้านะ”
“รับรองครับ แม้แต่คุณทรงฤทธิ์อาจจะตกตะลึง”
“ก็ดี จะได้เริ่มพิธีเลย เกรงใจผู้หลักผู้ใหญ่จะแย่อยู่แล้ว”
พ่อเลี้ยงรณชัยเดินเข้าไปหาลูกชายที่กำลังนั่งอัดควันบุหรี่อยู่ในห้องน้ำ ต่อให้โกรธลูกอย่างไร เขาก็คือสายเลือดเพียงหนึ่งเดียว
ถอนใจยาว แล้วขยับก้าวเข้าไปหา เอื้อมมือตบไหล่นั้นเบา ๆ
“ไปเถอะทรงฤทธิ์ เจ้าสาวมาแล้ว”
“คุณพ่อหมายถึง...”
“ชั่วคราวน่ะ ให้พิธีผ่านไปก่อน”
“ผมขอโทษครับ”
“อืม”
พ่อเลี้ยงรณชัยจัดแจงขยับเสื้อผ้าของทรงฤทธิ์ด้วยตัวเอง หลังจากนั้นสองพ่อลูกก็ก้าวออกมาพร้อมกัน
ณ ห้องโถงพิธี
สองพ่อลูกเดินเข้าไป ยกมือไหว้แขกผู้ใหญ่คนสำคัญฝ่ายเจ้าบ่าวที่มารอเป็นสักขีพยานแล้วนั่งรออยู่ เพียงครู่เดียว คนสนิทของพ่อเลี้ยงรณชัยก็ก้าวออกมาจากอีกด้าน แต่ที่ทำให้ทั้งหมดในนั้นให้ความสนใจไม่ใช่คนสนิทของพ่อเลี้ยงรณชัย หากเป็น...หญิงสาวในชุดเจ้าสาวมากกว่า
ทรงฤทธิ์ตาโตขึ้น แม้ว่าความสวยของเจ้าสาวกำมะลอ จะทำให้เขาหวั่นไหวอยู่บ้าง แต่ก็คิดแบบเหยียด ๆ ตามประสาว่า สวยขนาดนี้ น่าจะผ่านมาร้อยเอ็ดเจ็ดย่านน้ำแล้ว
สำหรับเจ้าสาวจำเป็นอย่างวาวไหม พอได้มาเห็นว่าห้องโถงนั้นเตรียมการรอพิธีหมั้นหมายดูเป็นทางการ มีแขกผู้ใหญ่หลายคนเป็นสักขีพยาน เธอก็ยิ่งประหม่าจนไม่กล้าสู้สายตาของใคร
“หนู” เสียงทุ้มของใครคนหนึ่งดังขึ้นดึงสติของหญิงสาวให้กลับคืนมาบ้าง
“คะ” หญิงสาวแทบไม่ได้ยินเสียงของตัวเองด้วยซ้ำ
“ฉันชื่อรณชัยนะ เป็นพ่อของทรงฤทธิ์ ขอบใจหนูมากนะ” นั่นคือการแนะนำตัวครั้งแรกที่ทำให้หญิงสาวรู้สึกดีขึ้น ในท่ามกลางคนแปลกหน้าทั้งหมด
หล่อนไม่ได้นึกอดสูใจเท่าไรนัก แม้ว่าในความเป็นจริง หล่อนจะถูกซื้อตัวมาในราคาหลักแสน คนเสียเงินจะทำอย่างไรกับหล่อนก็ได้