“เจ้าสาวหายตัวไป”
“อะไรนะ!?”
กลายเป็นเสียงถามเคร่งเครียด เพราะพิธีกำลังจะเริ่มอยู่แล้วในอีก 2 ชั่วโมงข้างหน้า
เจ้าบ่าวกับแขกเหรื่อกำลังนั่งรอ ล้วนแล้วแต่เป็นคนสำคัญที่ทางพ่อเลี้ยงเชิญมาด้วยตัวเอง นี่เป็นงานแต่งที่ต้องเรียกว่า รวบรัด แต่ตั้งใจเอาไว้ว่าจะมีพิธีอีกครั้งเป็นการเป็นงานหลังจากนี้
“เกิดปัญหาอะไร ฮึ ทรงฤทธิ์” พ่อเลี้ยงรณชัยหันมาทางลูกชาย ในชุดสูท ชายหนุ่มหลบสายตาผู้เป็นพ่อนิดหนึ่ง
“เราทะเลาะกันครับ”
“แค่นั้นเหรอ”
ชายหนุ่มก้มหน้างุด เวลานี้คงจะรู้แล้วว่า ว่าที่เจ้าสาวของเขาทำอย่างที่พูดจริง ๆ นั่นคือ ไม่คิดจะร่วมหัวจมท้ายใด ๆ กับเขาอีกแล้ว หล่อนไม่ได้ขู่
“ผมทำร้ายเธอ”
ทรงฤทธิ์หลุดปากออกมา
พ่อเลี้ยงรณชัยมีสีหน้าเคร่งเครียด ทว่า...ไม่มีคำพูดใด ๆ เล็ดลอดออกมา และท่าทีแบบนี้นั่นเองที่ทำให้ทรงฤทธิ์นึกหวาดหวั่น เพราะมันแปลความหมายได้ว่า พ่อกำลังโกรธสุด ๆ
“พ่อเลี้ยงครับ” คนสนิทก้าวเข้ามากระซิบ “เพื่อให้พิธีดำเนินต่อไปได้ หาเจ้าสาวซักคนมาแทนไปก่อนสิครับ”
“อืม...” พ่อเลี้ยงรณชัยเสียเวลาคิดเพียงแค่ชั่วครู่ ก่อนจะหลุดปากออกมาอย่างรวดเร็ว “รีบไปจัดการมา”
“ได้ครับพ่อเลี้ยง”
คนของพ่อเลี้ยงรณชัย ทำงานรับใช้มานาน สามารถจัดการปัญหาทุกอย่างให้กับเจ้านายได้ ไม่ว่าเรื่องยากเย็นแค่ไหนก็ตาม
การหาผู้หญิงสักคนมาทำหน้าที่เป็นเจ้าสาวแทน ภายในเวลาไม่เกิน 2 ชั่วโมง อาจดูเหมือนเป็นงานยาก แต่ก็ไม่เกินความสามารถ เพราะที่ยากกว่านี้ยังทำมาแล้ว
ทรงฤทธิ์ ผู้สร้างปัญหา ได้แค่ก้มหน้างุด ความกล้าหาญที่เคยมีและมักแสดงออกกับผู้หญิงเวลานี้ไม่ได้มีหลงเหลืออยู่อีกเลย
พ่อเลี้ยงรณชัยสามารถเก็บอารมณ์เอาไว้ได้อย่างดี จะว่าไป... โทษใครไม่ได้ ทรงฤทธิ์เป็นสายเลือดของเขา เป็นสายเลือดเพียงหนึ่งเดียว เพราะฉะนั้นการเลี้ยงดูแต่เด็กก็มีส่วนทำให้เขากลายเป็นคนแบบนี้
การเลี้ยงลูกให้เติบโตมาเป็นคนดี มีความเป็นสุภาพบุรุษ ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ เลย
พ่อเลี้ยงรณชัยไม่เคยโทษคนอื่น นอกจากตัวเอง เมื่อก่อนทุ่มเททุกอย่างอยู่ที่งาน ยิ่งประสบความสำเร็จมากเท่าไหร่ เขาก็ใช้เวลาทั้งหมดให้กับการงานมากเท่านั้น
คิดเพียงอย่างเดียวว่า ทำเพื่อลูก เพราะทั้งหมดที่มีอยู่ คนที่จะสืบทอดต่อก็คือ ทรงฤทธิ์ แต่เพียงผู้เดียว
ตั้งแต่สูญเสียภรรยา ขณะที่ทรงฤทธิ์เพิ่งอยู่ ม. ต้น พ่อเลี้ยงรณชัยก็ยิ่งตามใจลูกชายคนนี้ เพราะสงสารที่ลูกกำพร้าแม่
พ่อเลี้ยงรณชัย ไม่คิดจะมีใครอีกคนเข้ามาในชีวิตอย่างจริงจัง เพราะไม่เคยเชื่อเลยว่าจะมีผู้หญิงคนไหนรักทรงฤทธิ์เหมือนที่แม่ของเขาเคยรัก
แต่ทั้งหมดทั้งมวลล้วนเป็นผลร้ายหล่อหลอมนิสัยใจคอของทรงฤทธิ์ให้กลายเป็นชายหนุ่มแบดบอย ไม่เห็นค่าของผู้หญิงซักคน
กี่รายมาแล้วที่ผ่านเข้ามาในชีวิต
กับหญิงสาวคนล่าสุด พ่อเลี้ยงรณชัยต้องการให้ทรงฤทธิ์เป็นฝั่งเป็นฝา เขาเองก็ดูจริงจัง ประคบประหงมประคับประคองความรักผ่านพ้นมาเกือบปี จนตัดสินใจเข้าหาผู้หลักผู้ใหญ่ฝ่ายหญิง
ทุกอย่างอาจจะฉุกละหุกไปบ้าง แต่ไม่คิดว่ามันจะลงเอยแบบนี้อีกครั้งหนึ่ง
ใบหน้ารูปไข่พริ้มเพราเหมือนตุ๊กตา ถ้าหากไม่กะพริบตาแทบจะดูไม่ออกด้วยซ้ำว่ามีชีวิต รูปร่างเพรียวบาง ส่วนสูงประมาณ 168 ต้องเรียกว่าสูงมากสำหรับสาวไทยด้วยกัน ผิวขาว ในชุดเดรสคลุมเข่า ข้างกายมีกระเป๋าเดินทางใบใหญ่
หล่อนมาถึงที่นี่ตามนัดหมาย
สำนักงานใหญ่ของบริษัทส่งออกแรงงานมีฝีมือไปยังต่างประเทศ เน้นเฉพาะตะวันออกกลาง
หล่อนรู้ดีว่า เมื่อไปถึงต่างประเทศนั้น งานจะเป็นแบบใด ที่นี่ไม่มีการหลอกลวง ทุกคนที่เข้ามา หมายถึงว่าได้เตรียมแล้วว่าจะต้องเผชิญหน้ากับอะไรบ้าง
วาวไหม ความรู้แค่มัธยมปลาย กับภาระที่หญิงสาวต้องแบกเอาไว้ คือ หนี้สินของครอบครัว หลังพ่อเสียชีวิตด้วยโรคเครียด มรสุมรุมเร้า เหลือแม่กับพี่ชายที่ยังไม่พร้อมจะช่วยเหลืออะไรได้มาก เพราะเขาเองก็มีครอบครัวต้องดูแล
เพื่อนของเพื่อน เป็นคนแนะนำวาวไหมให้รู้จักกับบริษัทที่จัดส่งแรงงานหญิงไทยไปต่างประเทศ ด้วยเจตนาซ่อนเร้น ซึ่งรู้ ๆ อยู่ว่างานอะไร
“น้องวาวไหม”
เสียงทุ้มนั้นทำให้หญิงสาวไหวตัว หันไปมอง รอยยิ้มผุดขึ้น “คะ”
“เราต้องคุยกันหน่อยนะ พอดีมีเรื่องยุ่ง ๆ”
เห็นท่าทางร้อนรนของชายหนุ่มร่างท้วม คนที่พาเธอมาที่นี่ ทำให้สีหน้าของวาวไหมเปลี่ยนไป
“มีปัญหาเหรอคะ”
“ก็ไม่เชิงปัญหา แต่เอ้อ...มีคนต้องการตัววาวไหม เขาพร้อมจ่ายให้ทันทีแสนนึง เอ้อ...จริง ๆ แสนห้าแหละ แต่เป็นในส่วนของพี่ห้าหมื่น”
“ตั้งแสน!”
ดวงตาคู่สวยเบิกกว้างขึ้น เห็นชัดว่าสีหน้าของหญิงสาวดูตื่นเต้น
“ใช่”
“แล้วปัญหาคืออะไรคะ”
“วาวไหมไม่ต้องเดินทางไปต่างประเทศไง แต่อยู่ที่เมืองไทยนี่แหละ คนที่ต้องการตัววาวไหมคือพ่อเลี้ยงรณชัย... คืองี้นะ ถ้าวาวไหมตกลง เราจะไปกันเดี๋ยวนี้เลย”
“ไม่ต้องไปต่างประเทศ...เงินแสนนึง...”
“ใช่ครับ จ่ายสด แค่ตกลงเท่านั้น”
หญิงสาวแทบไม่เสียเวลาคิด... “ทำไมพี่คิดว่าหนูจะไม่ตกลงล่ะคะ”
“โอย ดีใจมาก ๆ ห้าหมื่นของพี่ เอ๊ย...ถ้างั้นก็ไปกันเถอะ รถมารอแล้ว”
“เร็วขนาดนี้เลยเหรอคะพี่”
“ใช่สิ งานด่วน”
“งานด่วน...”
“ใช่ครับ ถ้าไม่รีบด่วน คงไม่ได้ พี่ว่าอาจจะเป็นโชคดีของวาวไหมด้วยแหละ”
“พ่อเลี้ยงรณชัยคือใครกันคะ”
“พ่อเลี้ยงทางเหนือ เจ้าของธุรกิจโรงแรม มีสาขาอยู่ในชานกรุงเทพฯ เราจะไปที่นั่น”
สำหรับวาวไหมแล้ว เวลานี้ไม่มีอะไรจะเสีย เพราะนับตั้งแต่ตัดสินใจว่าจะเดินทางไปทำงานต่างประเทศ โดยมอบหมายให้ เอก หนุ่มร่างท้วมเป็นคนดำเนินการให้ทุกอย่าง มันก็ต้องเรียกว่าเกินเสี่ยงแล้ว