ตอนที่ 4 โคตรเลว
เวียงพิงค์ ชื่อนี้อยู่กับเธอมา 24 ปี ตอนที่แม่ยังอยู่ชอบไปเที่ยวภาคเหนือสุด ๆ เลยตั้งชื่อนี้ให้ มันเหมือนเป็นสัญลักษณ์ที่คอยย้ำเตือนเธอว่าคนที่รักเธอที่สุดยังอยู่กับเธอไม่ไปไหน เวียงพิงค์ไม่ใช่คนดี เป็นคุณหนูอารมณ์ร้าย เหวี่ยง วีน เอาแต่ใจ ร้ายในชนิดที่ว่าคนชิดใกล้บึนปากผินหน้าหนีถ้าเจอหน้า ถูกเลี้ยงมาอย่างตามใจเพราะมารดาที่รักจากไปตั้งแต่เด็ก ผู้ชายอกสามศอกเลี้ยงเธอมากับพี่ชายอีกคน พ่อทิ้งไม่ได้สักทางทั้งงานเงินและลูก เธอรักพ่อแต่ก็ติดการตามใจมาตั้งแต่วัยรุ่น คิดแค่ว่าใช้เงินพ่อต่อไป อยากทำงานตอนไหนค่อยไปทำ ยังไงก็มีเงินให้ใช้ตลอด ทั้งหยิ่งผยอง ไม่เห็นหัวคนมีเงินน้อยกว่า นั่นแหละคุณหนูเวียงพิงค์ แต่ตอนนี้น่ะเหรอ...หึ
ไม่ต่างจากขอทานกระมัง
บ้านหลังใหญ่เงียบสงบคนพรรค์นั้นน่าจะออกไปทำงานตามปกติของเขา สองขาแทบสิ้นเรี่ยวแรงพยุงร่างกายขึ้นมายังชั้นสอง ก่อนที่จะได้คิดอะไรไปมากกว่านั้นกับชีวิตในตอนนี้ก็ขออาบน้ำลงไปกินข้าวก่อน เอื้อมมือไปแง้มประตูเปิดออก หัวคิ้วเริ่มขมวดตรงที่ผ้าม่านรอบห้องยังไม่ถูกเปิดออก หรือว่าผู้เป็นสามีแสนชั่วยังไม่ออกไปทำงาน ก็ได้แต่คิด หรือบางทีเขาอาจไม่ให้คนมายุ่มย่ามกับห้องนอนก็ได้ หรืออีกอย่างคือเขาไม่ได้กลับมานอนที่ห้องหลับนอนอยู่ที่ห้องทำงานเสมือนคนเบื่อขี้หน้าเมียจนไม่อยากร่วมเตียงเคียงหมอน
ปกติเป็นคนชอบความมืดแต่ชีวิตมืดมนมาเยอะแล้ว ขาเรียวสืบเท้าไปยังทางบานกระจกสั่งทำพิเศษ คาดเดาว่าปุ่มเปิดผ้าม่านน่าจะอยู่ตรงมุม เรื่องแบบนี้คุณหนูเวียงพิงค์จำเป็นต้องรู้แม่นยำด้วยเหรอ แค่พอเดาออกว่ามันอยู่ตรงไหน
หัวใจยังปวดหนึบไม่สิ้นความเจ็บปวด แต่ท้องมันร้อง หนังตามันหนัก เสียใจก็จริงแต่ร่างกายมนุษย์ยังต้องการปัจจัยทั้ง 4 อยู่ดี
ติ๊ด! จิ้มปุ่มไปหนึ่งทีผ้าม่านค่อย ๆ เคลื่อนออกพร้อมกับแสงสว่างจากพระอาทิตย์สาดส่องเข้ามาทายทัก ยกมือขึ้นมาลูบหน้าหมุนตัวไปทางเตียงนอนกลางห้อง ข่มใจไม่ทิ้งตัวลงนอน เพราะตอนนี้ควรไปล้างสิ่งสกปรกออกจากตัวก่อน
“ว้าย! คะ...คุณหนู”
!!!
ทุกอย่างหยุดนิ่งในตอนเลื่อนมือลงจากหน้า ตาสองข้างเบิกกว้างนัยน์ตาสั่นระริกหลังจากสมองประมวลผล คนตรงหน้าเธอคือผู้หญิงที่ถูกเลือกนอนกกกอดอยู่บนเตียงกับผู้เป็น...สามี
หนึ่งร่างไร้ซึ่งอาภรณ์ตามที่เนื้อตาเปล่ากำลังเห็น ไม่รู้ว่าพูดว่าดีได้ไหมที่ส่วนล่างของสามียังมีสิ่งห่อหุ้มไว้ ใบหน้าที่มีอาการตกใจ ลนลาน เหมือนจะทำอะไรไม่ถูก ร่างเปลือยดิ้นขลุกขลักอยู่บนเตียงนานเกินไปกระมังเลยทำให้คนที่กำลังนอนหลับใหลค่อย ๆ รู้สึกตัว
เวียงพิงค์มองดูภาพนั้นด้วยความรู้สึกว่างเปล่า เสียใจจนพูดไม่ออก ตกใจจนบอกไม่ถูก เลยกลายเป็นยืนอยู่นิ่ง ๆ เพราะความช็อก ไม่โวยวาย ไม่มีประโยคด่าทอ หรือเข้าไปจิกกัดคนชั่วทั้งสอง มือสั่นขาสั่น ในจังหวะที่สามียันตัวขึ้นพิงหัวเตียงเป็นจังหวะที่เมียแต่งทรุดลงไปนั่งกับพื้นด้วยความรู้สึกแทบขาดใจ
พันแสนยกมือขึ้นมานวดขมับกวาดตามองรอบห้อง นี่ไม่ใช่วิสัยของเขา ไม่เคยตื่นสายจนเสียการเสียงานขนาดนี้แล้วไอ้เรียวตะมันต้องรู้แล้วทำไมมันไม่มาปลุกเขา ตวัดสายตาไปมองผู้หญิงด้านข้างก่อนจะตกใจจนผงะ ไม่ใช่เวียงพิงค์!
นัยน์ตาเริ่มสั่นไหวค่อย ๆ ลากไปมองอีกฝั่งตามเสียงสะอื้น นั่นสิถึงเป็นเมีย คนที่กำลังก้มหน้าร้องไห้สะอื้นจนตัวโยน
“นะ...นาย ดิฉันไม่รู้เรื่องค่ะ ดิฉัน ดิฉัน!” มีนาเลขาฯ ของพันแสนละล่ำละลักส่ายหน้าไปมาจนผมเผ้าพันกันไปหมด
“ลงไปจากเตียงฉัน!”
น้ำเสียงเกี้ยวกราดทำเอาเลขาฯ สาวและเมียแต่งสะดุ้งเฮือก แต่คนที่ไม่เคยเจอเวอร์ชันร้ายของเจ้านายจัง ๆ ถึงกับผงะถอยร่นลงจากเตียงทั้งที่ไม่มีเสื้อผ้าติดตัวสักชิ้น พันแสนผินหน้าหนีไปเจอกับสายตาของเมียแทน เขาชะงัก นิ่งงัน พูดไม่ออก ไม่มีประโยคไหนผุดขึ้นมาในหัวเลยด้วยซ้ำในตอนนี้
“นายคะ คุณหนูคะ ดิฉันไม่ได้ตั้งใจจะขึ้นเตียงกับนาย ดิฉันไม่รู้เรื่องค่ะ นายและคุณหนูต้องเชื่อดิฉันนะคะ”
“หุบปาก!!” พันแสนตวาดลั่นด้วยความโกรธ มองผู้หญิงสองคนสลับกัน อีกคนอยู่ในชุดนอนของเมียก็ตอนที่หล่อนถอยลงไปมือควานหาอะไรมาใส่แต่ไม่รู้ทำไมถึงเป็นชุดนอนของเวียงพิงค์ตกอยู่ข้างเตียง แต่เมียกลับอยู่ในชุดเหมือนเก็บมาจากถังขยะข้างทาง
เวียงพิงค์น้ำตาไหลเป็นเขื่อนแตก เธอไม่สามารถทำอะไรได้เลยในตอนนี้นอกจากร้องไห้ออกมาจากใจที่แตกสลายไปแล้ว
“เลขาฯ กับเจ้านายคบชู้กัน พากันมาเอาถึงห้องหอของเมียแต่ง ฉันเคยคิดว่าความเลวของนายมันยังกู่กลับได้ แต่ไม่คิดว่านายจะโคตรชั่วเลยพันแสน!”
ผลัก! เรียวตะผลักประตูเข้ามาในห้องของเจ้านายก่อนที่ขาแข้งจะอ่อนแรง ไม่ต้องมีคนบอกเขาก็เดาสถานการณ์ในตอนนี้ออก เดินหายเข้าไปในห้องน้ำก่อนจะออกมาพร้อมกับชุดคลุมเดินเอาไปให้เจ้านายบนเตียง
พันแสนรับชุดคลุมมาสวมใส่ก่อนจะตวัดเรียวขาแกร่งลงจากเตียงสืบเท้าเดินออกไปจากห้อง ไม่สนใจว่าเมียแต่งจะความรู้สึกแหลกสลายแค่ไหน
“นายโดนวางยาครับ” เรียวตะเดินตามออกมาก่อนจะเอ่ยขึ้นนั่นทำให้เจ้านายตนหยุดชะงักก่อนจะหันกลับมา
“ใครที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้สืบมาให้หมด อย่าพึ่งฆ่า กูจะเค้นเอาคำตอบทีละคนเอง จับไปขังให้หมด แม่ง!”
“ครับนาย” เรียวตะมองหน้าเจ้านายนิ่ง ๆ มีคำถามแต่ไม่รู้ควรถามไหม อีกอย่างเขาก็ไม่กล้าถามด้วย
“ถามมา”
“นายได้กับเลขาฯ จริง ๆ เหรอครับ?”
“ได้เหี้ยอะไร แล้วมึงหายหัวไปไหนมา!”
“ผมโดนยาเหมือนกันครับ เราน่าจะเสียรู้ให้มีนาจริง ๆ สืบมาได้บ้างว่ามีสาวใช้ร่วมมือกับหล่อนครับ คนของเราในบ้านโดนวางยานอนหลับทั้งหมด”
“จัดการด้วย”
“ครับนาย”
พันแสนหมดคำจะพูดตวัดขาเดินออกไปเป้าหมายคือห้องทำงานของตัวเอง ในหัวเขาหนักอึ้งไม่สามารถประมวลผลได้เลยว่าเมื่อคืนความจริงคืออะไร เขาพลาดท่าเสียทีไปกับเลขาฯ แล้วหรือยัง หรือมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ แต่ที่แน่ ๆ เขามั่นใจว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น เวลาแค่ไม่นานนั่นไม่ใช่วิสัยเขา
เวียงพิงค์ยังนั่งร้องไห้เงียบ ๆ ความเจ็บปวดกำลังแผดเผาหัวใจอย่างหนัก รู้สึกถึงเงาใหญ่เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้านั่นทำให้เธอต้องเงยหน้าขึ้นมอง
“ฝากตัวด้วยนะคะ เมียแต่ง!”
“!!!”
“หึ แปลกนะคะ ถ้าเป็นคุณหนูเวียงพิงค์เมื่อก่อนคงสาดคำเหม็นเน่าเหมือนไม่มีใครสั่งสอนแถมยังด่าแหลกไม่ก็คงจิกหัวฉันตบไปแล้วที่แย่งสามีสุดรักของคุณหนูมาได้”
“...” เวียงพิงค์กำมือแน่นจนไหล่สั่น ขบเม้มริมฝีปากเป็นเส้นตรง ใช่! ถ้าเป็นเมื่อก่อนแค่มีเพศแม่เข้าใกล้พันแสนเธออาละวาดเละไปแล้วจริง ๆ แต่ตอนนี้เธอเหนื่อยเหลือเกิน เหนื่อยกับการรู้สึกรักแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
“ตอนนี้เราใช้ผู้ชายคนเดียวกัน มีผัวคนเดียวกัน ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ” มีนาแสยะยิ้มแกล้งค้อมศีรษะท้าทายอำนาจคุณหนูจอมหยิ่งผยอง ในสุดก็มีวันที่นางเสียหลัก
ก็เป็นธรรมดาของคนที่กำลังจะเสียผัว ร้ายแต่ไร้สมอง ที่ผ่านมาเธอได้แต่กัดฟันอดทน แค่เข้าใกล้ผัวนางนิดหน่อยโรคบ้าก็กำเริบ สมควรแล้วที่ถูกแย่งผัว
“โคตรภูมิใจเลยว่ะคุณหนูเวียงพิงค์” มีนาแสยะยิ้มเยาะเย้ย หล่อนฉลาดกว่า มีหน้าที่การงาน ยิงปืนได้ ต่อสู้เป็น ส่วนเรื่องหน้าตาเราสวยขึ้นได้อีกอยู่แล้ว มีอะไรที่สู้ผู้หญิงคนนี้ไม่ได้กัน “ดีใจไหม ผู้หญิงที่เธอเคยดูถูกว่านายไม่มีทางชายตาแล ตอนนี้เรากลับมีผัวคนเดียวกันแล้ว”
เวียงพิงค์ค่อย ๆ ช้อนตาขึ้นมองคนพูดช้า ๆ ขอบตาแดงก่ำเพราะผ่านการร้องไห้มาอย่างหนักติดต่อกัน ทุกประโยคจุกอยู่ในอก ได้ยิน เสียใจ เจ็บช้ำ แต่หล่อนไม่มีแรงแม้กระทั่งโต้เถียงออกไป หัวใจโทรมเลือดกลั่นหนองสลักคำว่า ‘โดนนอกกาย’ ลงไปในใจเป็นคำที่พาเธอดำดิ่งเข้าสู่ห้วงของความเจ็บปวด
แต่แล้วยังไง สองคนนี้ทำเลวกับเธอไม่ต่าง พวกมันยังร้ายได้เลย แล้วทำไมเธอจะลุกขึ้นมาเอาคืนไม่ได้
“ได้สิมีนา เข้าใจแหละว่าผัวคนอื่นมันแซ่บสำหรับผู้หญิงง่าย หน้าตาดูภูมิใจจังนะ เขาไม่เรียกสวยหรือมีวุฒิภาวะหรอก เขาเรียกของฟรีจ้าหล่อน” คว่ำปากใส่คนตรงหน้าอย่างนึกรังเกียจ คอยดูเถอะ เธอจะไม่เจ็บคนเดียวแน่
“อีเวียง!”
เพียะ! ฝ่ามือหนัก ๆ หวดเข้าที่แก้มเลขาฯ จนเซล้มลงไปนั่งกับพื้น มีนากำมือแน่นมองเมียแต่งเดินทำหน้าเฉยชาออกไปจากห้องราวกับไม่ทุกข์ร้อนใด ๆ กับเรื่องที่เกิดขึ้น