กรี๊ด!!!
เสียงกรีดร้องของทองกวาวดังลั่นเพราะตกใจแบบสุดขีด ยืนดำทะมึนอยู่อย่างนั้นจะให้เธอคิดว่าเป็นอะไรได้อีกนอกจากผี
"อีทองกวาว!"
"ฮึก ฉันก็อยู่ของฉันดีๆ ไม่ได้ไปทำอะไรให้ใครเลยนะ มาหลอกฉันทำไม"
ฟึบ~
มือที่เย็นเยียบจับที่แขนของทองกวาวอย่างระมัดระวัง ก่อนที่น้ำเสียงน่าขนลุกจะกระซิบแผ่วเบาตรงหน้าของเธอ
"กูจะหักคอมึง เพราะมึงมันทำชั่ว โป้ปดชาวบ้าน ฮื้ม!!"
"กรี๊ด!!"
พลั่ก!!~
ผีก็ผีเถอะวะ เล่นมาแบบนี้มันก็ต้องปกป้องตัวเองกันบ้างแหละ ถีบโดนตรงไหนไม่รู้แต่ที่รู้ๆ คือเต็มตีน เสียงดังโครม บ้านสะเทือนทั้งหลังตามติดมาด้วยเสียงร้องโอดโอยของใครบางคน
"อีทองกวาว อีห่า! มึงถีบกูทำไม!"
"พะ พี่สมิงเหรอ?"
"เออ!"
"มะ ไม่จริง"
เห็นกับตาว่าเขาออกไปพร้อมกับลูกสมุนที่ชื่อว่าจุกก่อนจะพลบค่ำ แล้วก็ยังบอกอีกว่าจะกลับอีกทีก็ตอนพรุ่งนี้ มันเป็นไปไม่ได้หรอกที่จะกลับมาตอนนี้น่ะ
"ถ้ากูเป็นผี กูหักคอมึงตายห่าไปละ"
"....." ทองกวาวได้แต่นั่งสั่นกลัว ยังไม่เชื่อหรอกว่าคนตรงหน้าเป็นคนจริงๆ
"มึงร้องดังปานนั้น ชาวบ้านคงพากันคิดว่ากูชำเรามึงอยู่แล้วล่ะป่านนี้"
ตึก ตัก ตึก ตัก
หัวใจของทองกวาวเต้นแรงมาก เพราะเธอเริ่มแน่ใจแล้วว่าคนตรงหน้าไม่ใช่อย่างที่เธอคิดในตอนแรก แต่ก็ยังสองจิตสองใจอยู่ จะเป็นเขาจริงๆ หรือผีจำแลงกายมา
"ผีมันขึ้นเรือนกูไม่ได้หรอก"
นั่นน่ะสินะ บ้านนี้เป็นบ้านหมอผีเชียวนะ หากผีเร่ร่อนจะเข้ามาได้อย่างนั้นมันก็คงจะหยามกันสุดๆ แล้วล่ะ
"ฮึก พี่อ่ะใจร้าย ทิ้งฉันให้อยู่คนเดียว"
"เฮ้ยๆ ตะกี้ยังถีบกูอยู่เลย มึงเปลี่ยนอารมณ์มาร้องไห้แล้วรึอีทองกวาว"
"ฉันกลัว ฉันบอกว่าฉันกลัวพี่ก็ไม่ฟัง ขอนอนด้วยพี่ก็ไม่ให้นอน ใจร้ายที่สุดเลย"
พ่อหมอสมิงทั้งงงทั้งสับสนทำตัวไม่ถูกเมื่อมีหญิงสาวมาร้องไห้ต่อหน้าอย่างนี้ ไม่รู้จะต้องเข้ามาปลอบใจอย่างไรดีเหมือนกัน
"เออๆ งั้นคืนนี้กูจะนอนกับมึงก็แล้วกัน หยุดร้องเสีย"
"ฮึก..."
หลังจากนั้นพ่อหมอก็กางมุ้งนอนใกล้ๆ กับทองกวาว ครั้งนี้เธอยอมดับตะเกียงนอน จากที่กลัวก็ค่อยๆ ผ่อนคลายลง และหลับไปในที่สุด
.
.
เช้ามืดวันต่อมา
ทองกวาวตื่นแต่เช้ามาทำครัวเฉกเช่นที่เคยทำตอนอยู่กับผู้เป็นแม่ ส่วนพ่อหมอสมิงนั้นก็ตื่นแต่เช้าตรู่เช่นกัน
"เมื่อวานพี่ไปไหนมาหรือจ๊ะ?"
"มึงจะรู้ไปทำไม"
"ก็ทีแรกพี่บอกว่าจะกลับตอนเช้า แต่พี่เล่นมาตอนดึกอย่างนั้น ฉันกลัวเกือบตายแน่ะ นึกว่าผี"
"หมู่บ้านโน้นมีคนโดนของ เขาให้กูไปช่วย แต่กูช่วยไม่ทัน ของในตัวมันกัดกินร่างกายจนหมดสิ้นแล้ว หมดหน้าที่กูก็เลยต้องกลับ"
"อ๋อ..."
"แล้วคนที่ชื่อจุก เขาเป็นคนบ้านไหน ทำไมฉันไม่เคยเห็นหน้าเลย คนในหมู่บ้านเราก็มีแต่คุ้นหน้าคุ้นตากันทั้งนั้น" ที่ถามเพราะไม่เคยเห็นหน้า ไม่รู้จักเลย และก็ไม่เคยเห็นใครหน้าตาแบบนั้นมาก่อน
"มันติดตามกูมาตอนที่กูเข้าป่าข้ามเขาไปอีกฟากนึง ก่อนตายพ่อแม่มันฝากฝังให้มันอยู่กับกู"
"อ๋อ"
"แล้วนี่มึงจะเข้าป่าอีกตอนไหน"
"สักพักล่ะ"
"แล้วช้างมึงมันไม่เตลิดเข้าป่าลึกรึ?"
"ไม่หรอกจ้ะ เดี๋ยวพลายสายผาก็กลับมา" ที่ไม่ได้เดือดเนื้อร้อนใจก็เพราะว่ามันเป็นเรื่องปกติ ทองกวาวมักจะปล่อยช้างพลายของตัวเองเข้าป่าอยู่บ่อยครั้ง ถึงแม้จะเป็นช้างเลี้ยงแต่ด้วยความที่อยู่ในป่าเขา มันก็ไม่แปลกที่ช้างจะเข้าป่าเพื่อหากินตามประสา
"ฉันขอนอนกับพี่อีกได้ไหม?"
"กูเคยบอกแล้วว่าไม่"
"พี่หมิงจ๋า.."
"อีทองกวาว มึงอย่าหาพูดแบบนี้!"
"ก็ละทำไมถึงไม่ให้ฉันเข้าไปนอนด้วยล่ะ กลัวฉันไปปลุกปล้ำหรือไง ตัวใหญ่กว่าฉันอีก ถ้าฉันทำอย่างนั้นจริงๆ ก็จับฉันมัดติดกับเสาไปเลยสิ"
"แค่กูนอนด้วยแค่คืนเดียว มึงอย่าสำคัญตัว"
"ฉันไม่ได้สำคัญอะไรหรอก แต่เราเป็นผัวเมียกันแล้ว ถึงจะยังไม่ได้จิ้มกันก็เหอะ"
"......" พ่อหมอสมิงทำหน้าขึงขังโกรธเกรี้ยว ก่อนจะหันหลีกไปอีกทางเพราะไม่อยากมองหน้า
"พี่หมิง..."
"มึงเรียกกูให้มันดีๆ"
"ก็ฉันจะเรียกอย่างนี้ มันไม่ดีตรงไหน เพราะดีจะตาย"
"......"
"พี่หมิง..."
"อีทองกวาว!"
พ่อหมอสมิงถึงกับหมดความอดทน ร่างสูงกำยำเดินออกไปจากตรงที่นั่งอยู่ ทองกวาวนั้นได้แต่มองแผ่นหลังของเขา เมื่อคืนตกใจแทบตายก็เพราะร่างกายที่สูงกำยำเนี่ยแหละ
อยู่ที่นี่มันก็ไม่ได้แย่อะไรขนาดนั้นนะ ถ้าไม่นับเรื่องความน่ากลัวอะไรต่างๆ น่ะ แต่มันคงเป็นเพราะเธอยังปรับตัวไม่ได้ ยังไม่ชินกับสถานที่ใหม่ ถึงมันจะเป็นในป่าเหมือนกัน แต่ที่บ้านของแม่เธอนั้นก็มีบ้านของคนอื่นๆ อยู่ใกล้ๆ กัน อย่างน้อยก็ไม่ใช่บ้านหลังเดียวชายป่าอย่างนี้
"พี่สาว..."
"!?" ทองกวาวสะดุ้งเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้ตกใจเหมือนกับเมื่อวาน เพราะได้รู้จักกับคนคนนี้แล้ว มันชื่อว่าเจ้าจุก
"พ่อหมอล่ะจ๊ะ อยู่ไหม"
"ตะกี้ยังอยู่ แต่ไม่รู้เดินหายไปไหนแล้ว เอ็งไปตามหาเองก็แล้วกัน"
"พี่สาว...มาอยู่กับพ่อหมอได้ยังไงจ๊ะ"
"ทำไมจะอยู่ไม่ได้ ก็ฉันเป็น..."
"ไอ้จุก มึงมาทำอะไรตรงนี้!?"
ยังไม่ทันที่ทองกวาวจะได้พูดจบ พอหมอสมิงก็เดินเข้ามาขัดซะก่อน ราวกับรู้ว่าทองกวาวจะพูดอะไรออกไป
"พ่อหมอ"
"มึงมาหากูไม่ใช่รึ เดินออกมาตรงนี้"
"จ้ะๆ จะรีบไปเดี๋ยวนี้แหละ"
ทองกวาวมองสองคนนั้นเดินออกไปพร้อมกัน ก่อนที่เธอจะหันกลับมาแล้วถอนหายใจกับตัวเอง
ความจริงเธอก็ไม่ใช่คนที่จะยอมให้ใครโขกสับได้ง่ายๆ หรอก ยิ่งมาพูดจิกกบาลใส่กันแบบนี้ คนอย่างทองกวาวไม่ยอมง่ายๆ หรอก นี่แค่ยืนลองหยั่งเชิงต่างหาก รู้จักคนอย่างอีทองกวาวน้อยไปซะแล้ว
คุยกันดีๆ ก็ได้นี่นา ไม่เห็นจะต้องเรียกจิกกบาลเลย
หวงนักเหรอพรหมจรรย์ที่ว่าน่ะ อยากจะลองทำลายพรหมจรรย์ของพ่อหมอซะแล้วสิ เธอรู้ไม่ใช่ไม่รู้ว่าชายหญิงเขาร่วมรักกันเช่นไร
"พ่อหมอสมิง รู้จักคนอย่างอีทองกวาวน้อยไปซะแล้ว ถ้าพูดดีๆ กันไม่ได้ คนอย่างอีทองกวาวจะพยศให้ดู คอยดูเถอะพ่อหมอสมิง"
แม่และป้ารวมถึงคนสนิทที่รู้จักกันดี จะรู้ว่าทองกวาวไม่ใช่หญิงสาวเรียบร้อยอะไรหรอก เป็นม้าดีดกะโหลกมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว พอโตเป็นสาวก็พยศยิ่งกว่าอะไรดี ไม่สมกับหน้าตาที่ตัวเองมีเลย