หลายวันผ่านไปไวเหมือนโกหก วันนี้เป็นงานเลี้ยงบริษัท มีบริษัทในเครือหลายแห่งมาร่วมงานด้วย จำนวนคนที่มาในงานจึงมีจำนวนนับพัน ธันวามาถึงที่งานพร้อมอรดีก่อนหน้านี้เขาแวะรับอรดีที่คอนโดด้วย
เมื่อมาถึง ทุกสายตาต่างจับจ้องไปที่เขา ประธานหนุ่มวัย27 สูง180 หน้าตาคมคาย จมูกสันได้รูป ผิวขาวผ่องสง่าราศรีเหมือนนายแบบไม่มีผิด ข้างกายมีหญิงสาวตัวเล็กบอบบางควงแขนเข้ามาในงาน เธอใส่เดรสเปิดไหล่สีชมพูอ่อน มีริบบิ้นผูกที่เอว ผมตรงสีดำยาวถึงกลางหลัง ดวงตากลมโต ใบหน้าเล็กๆ ปากจิ้มลิ้มเคลือบด้วยลิปสติกสีชมพู ทำให้หน้าตาน่ารักไร้เดียงสา
ทุกคนต่างพากันมองด้วยสายตาสงสัย ว่าผู้หญิงคนนี้เป็นใครกัน ทำไมถึงกล้าควงธันวามางานนี้ ทั้งที่ภรรยาตัวจริงของธันวาคืออัยญดาทายาทเศรษฐีตระกูลดัง ด้วยกิตติศัพท์คุณหนูเอาแต่ใจตามหึงหวงสามีไปทั่ว ทำไมวันนี้ถึงปล่อยให้ธันวาควงหญิงอื่นมาได้
" แก นั่นใครวะ ไม่ใช่คุณอัยหนิ "
" นั่นสิ แล้วคุณอัยไปไหนหรือว่าไม่มา"
" หรือว่าไม่มีใครบอกเธอว่าวันนี้มีงานเลี้ยง "
" ต้องใช่แน่เลย คงกลัวเธอจะมาอาละวาดในงาน แล้วไม่ได้ควงแม่นั่นมาแน่ๆ"
" ผู้หญิงสมัยนี้ก็แปลกนะ รู้ทั้งรู้ว่าเขามีเมียอยู่แล้วก็ยังจะหน้าด้านอยากแย่งอยากได้ "
อรดีได้ยินทุกคำนินทา จากกลุ่มผู้หญิงที่ยืนอยู่ไม่ไกล นอกจากจะพูดเสียงดังให้เธอได้ยินแล้ว ยังพากันมองมาที่เธอด้วยสายตาที่รังเกียจและดูถูกอีก ธันวาตวัดสายตามองไปที่ผู้หญิงกลุ่มนั้น ส่งสายตาอำมหิตไปให้ ทำให้ผู้หญิงกลุ่มนั้นหน้าสลดพากันเดินไปทางอื่น
" ไม่ต้องไปสนใจคำพูดของใครทั้งนั้น ในเมื่อเราไม่ได้เป็นอย่างที่เขาพูด คุณไม่ต้องคิดมาก "
" อือ ฉันรู้แล้ว "
มีเสียงฮือฮาเกิดขึ้น ธันวากับอรดีหันไปดู ก็พบอัยญดาเดินควงแขนตุลาเข้ามาในงาน พร้อมกับพ่อของเขาและพ่อของเธอ ตุลาเป็นน้องชายของเขา หลังจากที่พ่อกับแม่ได้หย่ากัน เขาก็อยู่กับแม่ ส่วนตุลาอยู่กับพ่อ ตุลาเป็นทนายความชื่อดังอยู่ในสำนักทนายความที่มีชื่อเสียง เป็นเพื่อนสนิทในกลุ่มอัยญดา อายุ24เท่ากันกับเธอ เขาไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงได้มางานนี้พร้อมกับตุลาได้
ํธันวาพาอรดีเดินเข้าไปทักทายทุกคน
" สวัสดีครับคุณพ่อ "
ธันวายกมือไหว้ทั้งพ่อตัวเองและพ่อของอัยญดา ทั้งสองรับไหว้แล้วปรายตามองไปที่อรดีพร้อมกัน
" นี่อรดีครับเธอเป็นเลขาคนใหม่ของผม มาแทนคนเก่าที่จะลาคลอด "
" สวัสดีค่ะ "
อนันต์กับภาคภูมิรับไหว้แบบไม่เต็มใจนัก เพราะรู้มาก่อนหน้านี้แล้ว ว่าผู้หญิงคนนี้เป็นใคร อนันต์ยิ่งรู้สึกไม่พอใจ ก่อนมาที่นี่ลูกสาวของเขาได้บอกแล้วว่าจะหย่ากับธันวา พอเห็นสายตาและท่าทางที่กางปีกปกป้องผู้หญิงคนนั้น เขาก็ยิ่งอยากให้ลูกสาวของเขาหย่าซะตอนนี้เลย
" อัยไปทางนู้นกัน พวกนั้นโบกมือเรียกแล้ว "
ตุลาชวนอัยญดาพร้อมชี้มือไปที่มุมหนึ่ง กลุ่มเพื่อนของพวกเขารออยู่
" อัยไปหาเพื่อนก่อนนะคะคุณพ่อคุณลุง "
" ไปเถอะลูก "
ธันวามองตามอัยญดาที่เดินเคียงคู่ตุลาออกไป เธอไม่แม้แต่จะมองหน้าหรือทักทายเขาเลย แล้วเมื่อกี้เธอเรียกพ่อเขาว่าลุงไม่เรียกพ่อเหมือนที่ผ่านมา หรือว่าเธอคิดจะหย่ากับเขาจริงๆ
" ธันคะ ฉันไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ "
อรดีรู้สึกอึดอัดเลยปลีกตัวออกมา
" นั่นหน่ะเรอะเมียน้อยผัวแก "
ทัศนีย์พยักเพยิดหน้าไปที่อรดี
" อือ" อัยญดามองตามร่างบางของอรดีที่เดินไปมุมหนึ่งของงาน
" แกคิดดีแล้วใช่ไหม ที่จะหย่า "
ภาคินัยถาม
" โอ้ย ไม่ต้องคงต้องคิดแล้ว หย่าๆไปเถอะผัวแบบนี้ มีอย่างที่ไหนสนใจแต่แฟนเก่า ละเลยเมียตัวเอง " พิริญาพูดใส่อารมณ์
" ไม่ต้องห่วงมีฉันอยู่ทั้งคน ถ้ามันไม่ยอมหย่าดีๆ ด้วยหลักฐานที่มี ยังไงก็ฟ้องหย่าได้แน่นอน "
ตุลาบอกอัยญดา แม้จะเป็นพี่น้องกันแท้ๆกับธันวาแต่เขาก็ไม่เคยเข้าข้าง เขารู้ว่าตอนนั้นธันวาคบอยู่กับอรดี แต่เพราะบริษัทที่พ่อยกให้แม่กับธันวา โดยมีธันวาเป็นผู้บริหารมีปัญหา บริหารผิดพลาดจนขาดสภาพคล่อง พ่อของเขาที่ผันตัวไปทำสวนอยู่ต่างจังหวัด จึงเข้ามาช่วยแก้ไขแต่เงินเยอะเกินไม่รู้จะหาจากที่ไหน ส่งเรื่องกู้ไปก็ไม่ผ่าน พ่อของเขาเห็นว่าอัยญดากับธันวาหมั้นกันมานานแล้ว เลยเสนอกับอนันต์พ่อของอัยญดา จากนั้นงานแต่งก็เกิดขึ้นพร้อมกับเงินทุนก้อนใหญ่ที่เข้ามากอบกู้บริษัท อีกทั้งอนันต์ยังหาคอนเนคชั่นมาให้ ทั้งยังส่งต่อโปรเจคดีๆใหญ่ๆมาให้อีกหลายโครงการ บริษัทถึงได้เติบโตแบบก้าวกระโดด เขารับรู้ว่าตอนนี้อรดีกลับเข้ามาในชีวิตธันวาอีก แถมธันวายังดูแลเอาใจใส่จนไม่สนใจอัยญดา เขาก็โมโหแทนเพื่อน ถึงอัยญดาจะขี้หึงขี้หวง แต่เธอก็หวงสามีตัวเอง เธอผิดตรงไหน
" แก ไปหาอะไรกินกันดีกว่า "
ทัศนีย์ชวนทุกคนแล้วจูงมืออัยญดานำหน้าไป ระหว่างกำลังเลือกอาหารใส่จาน คนที่ไม่อยากเจอก็เดินเข้ามาหาเธอ
" คุณอัย ฉันขอโทษนะคะ วันนั้นเป็นเรื่องเข้าใจผิดจริงๆฉันจะล้มธันเลยคว้าตัวฉันเอาไว้ ฉัน "
" พอ ไม่ต้องพูด ไม่ต้องอธิบายอะไรทั้งนั้น เธอกับเขาจะทำอะไรก็แล้วแต่เลย ฉันไม่สนใจอีกต่อไปแล้ว "
" คุณอัยหมายความว่ายังไง"
" ก็หมายความตามที่พูดนั่นแหละ ฉันยกธันวาให้ ไม่สิฉันคืนเขาให้เธอ เขาเป็นของเธอมาก่อนนี่ ฉันกับเขากำลังจะหย่ากัน "
อรดีได้ยินแบบนั้นก็ยิ่งรู้สึกผิด คิดว่าตัวเองเป็นต้นเหตุ จึงเดินตามอัยญดาไปเพื่ออธิบาย
" คุณอัย คุณอัย รอก่อนค่ะ อย่าโกรธธันเลยนะ ฉันผิดเองที่ฉันกลับมา ฉันไม่รู้จะไปไหนจริงๆถึงได้ไปของานเขาทำ ถ้าคุณอัยไม่พอใจงั้นฉันจะลาออกก็ได้ "
" ก็เอาสิ " อัยญดาท้าทาย
" ไม่มีใครลาออกทั้งนั้น "
ธันวาเดินตามหาอรดีเมื่อเห็นว่าไปห้องน้ำนาน จนมาเจอทั้งคู่คุยกันและเขาได้ยินประโยคก่อนหน้าพอดี เขาเข้าไปยืนต่อหน้าอัยญดาจ้องตาเธอเขม็ง
" ผมเป็นเจ้าของบริษัท จะให้ใครอยู่หรือไปมันเป็นสิทธิ์ของผมคนเดียว "
" ธัน "
อรดีดึงเสื้อธันวา ส่ายหน้าให้เขาหยุดพูด
" เธอเป็นคนบอกว่าจะลาออกเอง ฉันไม่ได้บังคับเธอซะหน่อย "
" คุณมันก็แค่คุณหนูเอาแต่ใจ วันๆดีแต่ใช้เงิน เคยคิดบ้างไหมว่าถ้าคนๆหนึ่งเขาตกงานไม่มีเงินเขาจะใช้ชีวิตยังไง ไม่พอใจใครเอะอะก็ให้ออก อรดีเขาไม่ได้เกิดมาบนกองเงินกองทองเหมือนคุณหรอกนะ "
" แหมปกป้องกันดีจังนะ ทีกับเมียตัวเองไม่เห็นปกป้องแบบนี้บ้าง"
ตุลาพูดแขวะมาแต่ไกล เขาเดินมาหยุดยืนข้างอัยญดา เมื่อกี้มีคนมาชวนคุยเลยไม่ได้เห็นว่าอัยญดากับอรดีมีเรื่องอะไรกัน ส่วนพิริญากับทัศนีย์ที่อยู่ใกล้ๆ อัยญดาก็สั่งไม่ต้องพูดเธอจัดการเอง
" เรื่องของฉันนายไม่ต้องเสือก "
" ก็พอดีว่าไอ้ฉัน มันเป็นคนรักความยุติธรรมซะด้วยสิ"
" เฮอะ งั้นนายก็กำลังเข้าข้างคนผิดแล้วแหละ "
" แล้วต้องเข้าข้างใครหล่ะ เมียน้อยนายเรอะ พึ่งเคยได้ยินนะนี่ ว่าผู้หญิงที่แย่งสามีคนอื่นไม่ผิด "
ตุลาปรายตามองอรดีที่ยืนก้มหน้าน้ำตาคลอ ทำหน้าตาน่าสงสาร
" หยุดปากเน่าๆของแกซะ อรไม่ใช่เมียน้อย ถ้าขืนแกยังกล้าว่าอรอีกคำเดียว ฉันจะซัดหน้าแก ไม่สนว่าแกจะเป็นน้องของฉัน "
" ก็เอาสิ คิดว่าฉันสนเรอะ มีพี่ชายไม่รู้จักแยกแยะผิดชอบชั่วดี ฉันก็ไม่อยากมีหรอก "
" แก "
" เข้ามาสิ"
ธันวากับตุลาต่างคนต่างเงื้อหมัดใส่กัน อรดีดึงธันวาไว้ ส่วนตุลาก็ถูกทัศนีย์กับพิริญาดึงไว้
" พอทั้งคู่นั่นแหละ "
อัยญดาตวาดเสียงดังลั่นจนคนในงานพากันมองมา