อำภาจ้องหน้าลูกชาย มองเข้าไปในดวงตาว่าพูดจริงหรือเปล่า ธันวาแค่นหัวเราะ
" เฮอะ พูดไปคุณแม่ก็ไม่เชื่ออยู่ดี แล้วจะมาถามผมทำไม "
" ผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร "
" อร "
" อรไหนอย่าบอกนะว่า "
" ครับ เธอลำบากผมต้องช่วยเธอ ตอนนี้ผมให้เธอทำงานเป็นผู้ช่วยวิมล เดือนหน้าวิมลก็ลาคลอดแล้ว ทุกวันนี้เวลาออกไปพบลูกค้าเธอเคลื่อนไหวไม่สะดวก ผมเลยให้อรไปแทน "
" หนูอัยรู้เรื่องนี้รึยัง "
" ขนาดไม่รู้ วันนี้เธอยังไปตบตีอรจนน่วมไปหมด อรตัวเล็กบอบบางแบบนั้น จะไปสู้ลูกสะใภ้คนโปรดคุณแม่ได้ยังไง "
ธันวานึกถึงภาพที่อัยญดาขึ้นคร่อมตบอรดี อรดีสู้เธอไม่ได้เลย รูปร่างก็ต่างกันชัดเจน อัยญดาสูง167รูปร่างอวบไปทุกสัดส่วนแน่นทุกจุด ต่างกับอรดีที่ตัวเล็กผอมบางสูงแค่155 ยิ่งนึกภาพที่เธอถูกชายสารเลวที่เป็นสามีเธอทำร้าย เขาก็โกรธขึ้นมา มันหน้าตัวเมียจริงๆ ทำร้ายได้กระทั่งผู้หญิงตัวเล็กๆ
" ขึ้นไปดูหนูอัย เธอไม่ยอมไปร.พไม่ยอมทำแผล ขังตัวเองอยู่ในห้องตั้งนานละ ไม่ยอมออกมากินข้าวกินปลา แกรีบไปดูเมียแกเดี๋ยวนี้เลย "
ฮึ ถึกขนาดนั้นคงไม่เป็นอะไรหรอกมั้ง ธันวาคิดในใจแล้วก็เดินขึ้นบันไดไป
ก็อก ก็อก ก็อก
" เปิดประตู "
" อัยเปิดประตูเดี๋ยวนี้ อัย"
เงียบไม่มีเสียงตอบรับ ธันวาเคาะเรียกอยู่นาน จนต้องไปเรียกแม่บ้านให้เอากุญแจมาเปิด แกร็ก ธันวามองหาทั่วห้องก็ไม่เห็นอัยญดาหรือว่าเธอจะอยู่ในห้องน้ำ เขารีบไปดูทันทีก็ปรากฎว่าประตูถูกล็อค
ก็อก ก็อก ก็อก
" อัย อัย "
ธันวาเอากุญแจมาเปิดไขเข้าไป ก็เจออัยญดานอนแช่อยู่ในอ่างน้ำหลับตาพริ้ม เลือดที่หัวยังไหลซึมออกมาอยู่ เขาตกใจรีบเข้าไปอุ้มเธอขึ้นมา อัยญดาลืมตาขึ้นมาดีดดิ้น
" ปล่อย บอกว่าให้ปล่อยไง "
ธันวาโยนเธอลงบนเตียง ตุ๊บ โอ้ย
" ทำไมไม่ทำแผล หรือเรียกร้องความสนใจ"
อัยญดาเมินเฉย ตั้งแต่กลับมาเธอเข้าไปแช่ตัวในอ่างน้ำ คิดทบทวนเรื่องระหว่างเธอกับเขา เธอร้องไห้ปล่อยน้ำตาให้ไหลออกมาให้หมด บอกตัวเองว่าต่อไปนี้ เธอจะไม่ร้องไห้ให้กับผู้ชายที่ชื่อธันวาอีกต่อไป เธอจ้องหน้าเขา
" เราหย่ากันเถอะ "
ธันวากระตุกยิ้มมุมปาก
" ต้องการอะไร คิดว่าเรียกร้องความสนใจแบบนี้แล้วผมจะหันมาสนใจคุณ คิดว่าผมไม่กล้าหย่าเหรอ "
" ฉันพูดจริง ในเมื่อคนรักคุณกลับมาแล้วคุณเองก็คงอยากหย่าให้เร็วที่สุด ไม่ใช่เหรอ ฉันเองก็เบื่อแล้วเหมือนกันที่ต้องวิ่งตามคุณ ฉันพอแล้ว "
ธันวาเห็นแววตาแน่วแน่ของเธอ ก็วูบไหวในใจ เขาคิดว่าเธอแค่ขู่ เธอรักเขามากไม่กล้าหย่ากับเขาหรอก
" เลิกล้อเล่นได้แล้ว ผมไม่สนุกด้วย ไปทำแผล อยากให้แม่ผมด่าผมนักรึไง "
อัยญดาสะบัดข้อมือที่เขาจับจูงออก ที่แท้ที่เขามาก็เพราะแม่ของเขาให้มา เธอก็แอบคิดว่าเขาจะเป็นห่วงเธอบ้าง เธอมันเพ้อเจ้อจริงๆ
" ออกไป ฉันอยากอยู่คนเดียว แผลแค่นี้ไม่ตายหรอก ฉันมันถึกเหมือนวัวเหมือนควาย "
เห็นธันวายืนนิ่งไม่ออกไปสักที เธอเลยคว้ากระเป๋ากับกุญแจรถออกไป
" จะไปไหน "
" เรื่องของฉัน "
" จะไปทั้งที่เปียกไปทั้งตัวแบบนี้เนี่ยนะ "
" เรื่องของฉัน "
" _ "
อัยญดาเดินไปที่ประตูธันวารีบเข้าไปขวางหน้า ถอนหายใจเฮือกใหญ่
" ไปเปลี่ยนเสื้อผ้า จะได้มาทำแผล เปียกแบบนี้เดี๋ยวไม่สบาย "
" ฉันบอกแล้วไง ว่าคนอย่างฉันมันถึกมันทนฉันไม่ได้อ่อนแอบอบบาง เหมือนคนรักของคุณหรอก "
" เลิกประชดได้แล้ว ผมกับอรไม่มีอะไร มันไม่ได้เป็นอย่างที่คุณเห็น อรเขาจะล้มผมเลยรับเขาไว้ เขาก็กอดผมเอาไว้เพื่อไม่ให้ล้มก็แค่นั้น "
" _ "
" เข้าใจแล้วใช่ไหม งั้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้า หรือจะให้ผมถอดให้ "
อัยญดาขืนตัวออกจากอ้อมกอดเขา เธอนึกถึงภาพที่เขากอดผู้หญิงคนอื่นก็รังเกียจ
" ไม่ต้องมาทำดีกับฉันเพราะแม่ของคุณสั่ง คุณกลับไปห้องของคุณเถอะ เรื่องของฉันฉันจัดการเองได้ "
ธันวายอมแพ้ยอมกลับออกไป เขากับเธอแยกห้องกันอยู่มา2เดือนแล้ว เพราะเธอไปอาละวาดตบตีมนัญญา ซึ่งเป็นลูกค้าที่เขานัดคุยงานที่ร้านอาหาร ตอนนั้นพูดอะไรเธอก็ไม่ฟัง เอาอาหารในโต๊ะเทราดหัวมนัญญา เอาน้ำมะพร้าวสาดหน้าเธออีกต่างหาก วันนั้นมีคนแอบถ่ายคลิปไปลงด้วย กว่าเขาจะจัดการปิดข่าวได้ กว่าจะเคลียร์กับมนัญญาไม่ให้เอาเรื่องเธอ เขาต้องเสียเงินไปเยอะเลยทีเดียว อัยญดาไม่รับรู้อะไร เอาแต่ตามหึงหวงเขาหน้ามืดตามัว นอกจากเขาจะเสียเงินเพื่อจบเรื่องช่วยเธอแล้ว ทำให้เขาต้องเสียโปรเจคงานใหญ่ไปอีก เขาหมดความอดทนกับเธอ จนต้องขอแยกห้องนอนออกมา หวังว่าเธอจะทบทวนพฤติกรรมตัวเองบ้าง แต่ดูเหมือนว่าจะเหมือนเดิม
อัยญดาโทรหาทนาย เตรียมเรื่องฟ้องหย่า เธอส่งคลิปและภาพของธันวากับอรดีที่ร้านอาหาร กับก่อนหน้าที่ให้คนตามทั้งสองไปและได้ภาพที่ธันวากำลังเข้าไปในคอนโดกับอรดีด้วยกัน
เช้าวันรุ่งขึ้น เธอลงมาทานข้าว ไม่คิดว่าเขายังอยู่ไม่ไปทำงานเหรอ เธอไม่สนใจเลื่อนเก้าอี้นั่งลง ก้มหน้าก้มตากินข้าวต้มกุ้งหอมฉุยในถ้วย ก็ดีเหมือนกันจะได้พูดเรื่องหย่ากับเขา เมื่อคืนเขาคิดว่าเธอเรียกร้องความสนใจซะงั้น เขาคงคิดว่าเธอรักเขามากจนไม่กล้าหย่า ฮึ คนอย่างอัยญดารักได้ก็เลิกรักได้
" อร่อยไหมค่ะคุณอัย ทานเยอะๆนะคุณธันลงมือทำเองตั้งแต่เช้าเลยนะคะ ไม่ยอมให้ป้าช่วยด้วย "
อัยญดาวางช้อนลงรู้สึกอิ่มขึ้นมาทันที เธอหยิบแก้วน้ำมาดื่ม
" ป้าใจค่ะแล้วคุณแม่หล่ะค่ะ "
" คุณผู้หญิงมีนัดกับเพื่อนค่ะ ออกไปก่อนคุณอัยลงมาแป๊บเดียว "
" คุณว่างใช่ไหมวันนี้ "
" อือผมหยุด"
" งั้นก็ดี "
ธันวาขมวดคิ้ว อัยญดาส่งยิ้มมาให้
" เราไปหย่ากัน "
" คุณยังไม่เลิกทำตัวเป็นเด็กอีกเหรอ ตอนอยากแต่งก็ร้องจะแต่ง พอไม่พอใจก็บอกจะหย่า "
" ใช่ฉันมันชอบทำตัวเป็นเด็กเอาแต่ใจ ที่ไม่ชอบให้ใครมาวุ่นวายกับผัวตัวเอง ฉะนั้นเมื่อเราหย่ากันแล้ว ก็จะไม่มีใครมากวนใจคุณอีก คุณอยากจะไปที่ไหน หรือทำอะไรกับผู้หญิงคนไหนก็เรื่องของคุณเลย "
" จะเอาแบบนี้ใช่มั๊ย ได้ แต่หลังจากงานเลี้ยงบริษัทผ่านไปก่อน "
อัยญดาไม่เข้าใจว่าทำไมต้องรอด้วย หย่าตอนนี้ พอวันงานเลี้ยงเขาก็จะได้เปิดตัวคนใหม่ไปเลยไม่ดีเหรอ แต่พอคิดอีกทีเขาคงกลัวจะเสียภาพลักษณ์หล่ะมั้ง ช่างเถอะงานเลี้ยงบริษัทอาทิตย์หน้าแล้ว ก็แค่อีกอาทิตย์เดียวจะเป็นไรไป
" อือตกลงตามนั้น หลังงานเลี้ยงเราไปเจอกันที่เขตเลย "
พูดเสร็จก็เดินขึ้นบันไดเข้าห้องไป ธันวามองตามด้วยความหนักใจ เมื่อคืนเธอพูดเรื่องหย่า เขาคิดว่าเธอคงแค่ประชดเขา แต่พอเช้านี้เธอพูดเรื่องหย่าขึ้นมาอีก เขาก็รู้สึกแปลกๆ ทั้งน้ำเสียงและแววตาบอกว่าเธอไม่ได้พูดเล่น เขาเลยถ่วงเวลาด้วยการบอกว่าให้ผ่านงานเลี้ยงไปก่อน เผื่อเธอจะเปลี่ยนใจ บางทีตอนนี้เธอกำลังโกรธเขาเรื่องอรดีอยู่ พอเธอหายโกรธเดี๋ยวก็กลับมาเป็นเหมือนเดิมเอง คิดแบบนั้นก็ลุกจากเก้าอี้ เดินขึ้นบันไดไป อัยญดาสวนทางลงมา
" จะไปไหน "
" เรื่องของฉัน "
ธันวาคว้ามือเธอไว้
" เมื่อไหร่จะหายโกรธ วันนี้ผมอุตส่าห์หยุดงานอยู่เป็นเพื่อนคุณ นี่คุณยังจะออก "
ธันวายังพูดไม่ทันจบอัยญดาก็พูดสวนขึ้นมา
" ฉันไม่ได้โกรธ แล้วฉันก็ไม่ต้องการให้ใครมาอยู่เป็นเพื่อนด้วย ฉันโตแล้วอยากไปไหนก็ไป ไม่ได้บอบบางให้ใครต้องคอยกอดคอยประคอง "
ธันวามองหน้าอัยญดา คำพูดของเธอยังคงประชดเขาเรื่องอรดี นี่เหรอที่บอกไม่โกรธหน่ะ