อย่าใจร้อน

972 คำ
ตอนที่ 3 ท่ามกลางป่าเขาอันเงียบสงัด เสียงลมครางพัดผ่านกิ่งไม้พลิ้วไหว ท้องฟ้าเต็มไปด้วยดวงดาวพร่างพราวน้อยใหญ่ หมู่เมฆบางเบาที่ผ่านแสงดาวมาก่อตัวกันขึ้นเป็นรูปร่างคล้ายคนโอบกอดกัน จนกระทั่งเมฆก้อนบนนั่นลอยต่ำลงรวมร่างกันเป็นเนื้อเดียว ก่อนที่เสียงของผู้นำทางจะเอ่ยขึ้นปลุกให้ทุกคนที่กำลังเพลิดเพลินกับธรรมชาติในยามค่ำคืนหันมาสนใจเสียงของเขา “ถ้าเดินลงเขาลูกนี้ก็ถึงหมู่บ้านหินศิลาแล้ว” หมู่บ้านแห่งนี้ตัดขาดจากโลกภายนอกโดยสิ้นเชิง สังเกตจากลักษณะภูมิศาสตร์แล้ว ที่นี่มีปราการคุ้มกันภัยจากธรรมชาติปกป้องเอาไว้เป็นอย่างดี ทุกคนหยุดพักตามคำสั่งของผู้นำทาง จะมีแค่ปุณญาดาผู้หญิงเพียงคนเดียวที่ไม่เห็นด้วยและอยากจะไปต่อ “คืนนี้เราจะพักกันที่นี่ก่อน พอพรุ่งนี้เช้าเราค่อยเดินทางเข้าหมู่บ้าน ” เสียงของผู้นำทางเอ่ยขึ้นอีกครั้ง ก่อนจะหันมายิ้มให้ปุณญาดา “เดินกันอีกนิดเดียว เราก็จะถึงแล้ว ทำไมคุณลุงไม่รีบไปต่อให้ถึงเลยละค่ะ” ปุณญาดาเอ่ยขึ้นหลังสิ้นเสียงของผู้นำทาง “แต่ผมก็เห็นด้วยกับพรานอ่องเค้านะ รอให้ถึงพรุ่งนี้เช้าแล้วค่อยเดินเข้าหมู่บ้านจะดีกว่า เกิดเข้าไปตอนนี้ชาวบ้านที่นี่จะหาว่าพวกเราเป็นผู้บุกรุกเอาได้” ไตรทศเอ่ยขึ้นเพื่อบอกกับแฟนสาว ปุณญาดาเธอค่อนข้างเป็นคนหัวรั้นและมีความมั่นใจในตัวเองสูง “ก็พรานอ่องเค้าชำนาญเส้นทางแถวนี้ไม่ใช่เหรอคะ จะกลัวอะไร” ปุณญาดาเอ่ยขึ้นอย่างไม่ยอมแพ้และหันหน้ามามองพรานอ่อง ที่เอาแต่ยิ้มให้เธอและไม่พูดอะไร “เชื่อพรานอ่องเค้าเถอะญาดา ขืนสุ่มสี่สุ่มห้าเข้าไป..เราจะเป็นอันตรายเปล่า ๆ” ไตรทศเอ่ยเตือนแฟนสาวอีกครั้ง ใจจริงเขาไม่อยากให้เธอมาที่นี่ตั้งแต่ทีแรกอยู่แล้ว แต่ขัดไม่ได้เพราะกลัวจะต้องทะเลาะกัน ระหว่างที่ทุกคนกำลังแยกย้ายกันไปเตรียมที่พัก ราเชนทร์ก็เริ่มสุมกองไฟเพื่อคลายความหนาว ปุณญาดาที่อยากเข้าไปที่หมู่บ้านในคืนนี้ให้ได้ เธอจึงอ้างกับไตรทศแฟนหนุ่ม..ว่าเธอปวดฉี่ “ทศ!!...เดี๋ยวญาดามานะคะ ขอแอบไปหาที่ฉี่แถวนี้ก่อน” “คุณปวดมากมั้ย เดี๋ยวรอผมกางเต็นท์ให้เสร็จแป๊บ..เดี๋ยวผมไปส่ง” “ทศ...แต่ญาดาปวด...จนฉี่จะราดแล้วนะคะ” “โอเค ๆ งั้นไปเลยก็ได้” ทุกครั้งแฟนหนุ่มก็จะเป็นฝ่ายตามใจเธอตลอด ไตรทศทิ้งอุปกรณ์ที่นำออกมาทั้งหมดเอาไว้ตรงนั้นและยังไม่ทันที่เขาจะได้กางเต็นท์หรือจัดเตรียมที่นอนอะไรมากนัก ก็ต้องรีบพาแฟนสาวไปปลดทุกข์กลางป่าทันที หลังจากเดินทางกันมาไกลหลายสิบโล เส้นทางก็เต็มไปด้วยความลำบาก กว่าจะมาถึงจุด ๆ นี้ได้ แถมรถราก็ยังไม่สามารถนำเข้ามาสันจรแถวนี้ได้อีก ทุกคนที่มาที่นี่จึงต้องเดินเท้าข้ามเขามาเป็นลูก ๆ กันเลยทีเดียว “ทศคะ ญาดาอยากเข้าไปที่หมู่บ้านในคืนนี้ จริง ๆ นะคะ” พอเดินออกมาได้สักระยะ หญิงสาวก็เฉลยความจริงว่าการปวดฉี่ของเธอมันเป็นแค่ข้ออ้าง เพื่อไม่ให้พรานอ่องสงสัยเท่านั้น แต่แฟนหนุ่มก็ไม่เห็นด้วย “ผมว่าคุณใจเย็น ๆ ก่อนเถอะ อย่าเพิ่งใจร้อนเข้าไปตอนนี้เลย” ไตรทศเอ่ยเตือนแฟนสาว เพราะไม่อยากขัดคำสั่งของพรานอ่อง “ทศ!!!...คุณไม่เข้าใจใจญาดาเลย” หญิงสาวถอนหายใจออกมา “ญาดา..คุณรอวันนี้มาตั้งหลายสิบปี ทำไมกับอีกแค่นี้..คุณถึงจะรอไม่ได้ล่ะ แค่คืนเดียวเองนะครับ" “...........” ญาดาไม่ตอบ และเคืองแฟนหนุ่มที่ไม่ยอมตามใจเธอ “เอาน่า เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็เช้าแล้ว” ไตรทศพยายามง้อเธอ และก็ง้ออยู่นานหลายนาที จนปุณญาดาอารมณ์ดีขึ้นจึงเอ่ยกับเขา “ทศ...ไปหยิบทิชชูเปียกมาให้ญาดาหน่อยสิคะ” เธอยอมพูดกับเขาหลังจากที่เขาเป็นฝ่ายง้อเธออยู่นาน “ผมเอามาให้แล้ว” พูดจบแฟนหนุ่มก็ยื่นซองทิชชูเปียกให้แฟนสาว “ทีงี้...รู้ดีไปซะทุกเรื่อง!!!” เธอพูดประชด “รีบ ๆ เข้าเถอะ ผมอยากไปผิงไฟแล้ว มันหนาว” ไตรทศทำท่าลูบแขนตัวเอง ราเชนทร์ ในอดีตเขาเคยนายตำรวจหนุ่ม และที่เขาต้องดั้นด้นมาที่นี่ก็เพราะน้องชายของตัวที่เป็นตำรวจตระเวนชายแดนได้หายตัวไปอย่างลึกลับที่หมู่บ้านแห่งนี้ และก่อนหน้าที่เขาจะตัดสินใจเดินทางมาที่นี่ ก็มีเพราะนักธุรกิจคนหนึ่งจ้างให้เขามาสืบเรื่องราวของแฟนสาวของเขาที่หายตัวไป เพราะก่อนหน้านี้เธอก็มาท่องเที่ยวกับเพื่อน ๆ ของที่นี่เช่นกัน เหตุการณ์ที่น้องชายของราเชนทร์ได้หายตัวไปอย่างลึกลับ ทำให้มารดาของเขาที่เป็นโรคหัวใจอยู่อาการทรุดลง จนเสียชีวิตในเวลาต่อมา ราเชนทร์พอจะรู้ข่าวจากน้องชายในตอนนั้นว่า ที่นี่เป็นแหล่งผลิตยาเสพติดรายใหญ่ แต่ตอนนี้เขาไม่ใช่ตำรวจแล้ว จึงไม่ได้มาเพราะหน้าที่ดังกล่าว แต่เพียงเพราะอยากรู้ว่าน้องชายตนเองยังมีชีวิตอยู่หรือเปล่าก็เท่านั้น
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม