ตอนที่ 1 อัครวราห์…พาทัวร์สวรรค์ 50%

3217 คำ
 ตอนที่ 1 อัครวราห์…พาทัวร์สวรรค์ 50%            ราตรีแสนยาวไกลของเมืองศิวิไลซ์ ท่ามกลางแสงไฟนีออนไม่มีทีท่าว่าจะสิ้นสุด ยิ่งดึกดื่นเหล่าผีเสื้อกลางคืนยิ่งออกล่าหาเหยื่อมากขึ้นเป็นเท่าตัว ย่านอโคจรมีนับไม่ถ้วนทั่ว สาวงามตู้กระจกเกลื่อนกลาดเป็นสายทาง ทว่านัยน์ตาคมภายใต้กรอบ Rayban สุดหรู ไม่แม้แต่จะลดกระจกรถปรายหางตามอง BMW Series 7 สีดำวาววิ่งโฉบเฉี่ยวเคลื่อนผ่านด้วยความเร็วสูง จุดหมายปลายทางของนักธุรกิจพันล้าน คือ สถานบันเทิงครบวงจรของอัครวราห์ ดินแดนสวนสวรรค์อันครบวงจรทั้งอาบ นาบ นวด ไหนจะฟลอแดนซ์แสนร้อนระอุคลาคล่ำไปด้วยเหล่าผีเสื้อสีสวย อวยอวดลีลายั่วยวนบรรดาเสือร้าย หรือจะเป็นที่แสวงโชคขนาดใหญ่ซึ่งแยกประเภท เอาไว้อย่างเป็นระเบียบ สวนสวรรค์บนดินของอัครวราห์มีด้วยกันถึงเจ็ดชั้น โดยชั้นสุดท้ายเป็นพื้นที่ส่วนตัวของเจ้าพ่อแห่งอัครววราห์ส่วนชั้นถัดลงมาคือที่มอมเมาพวกกิเลสหนา ซึ่งจัดแบ่งโซนไว้อย่างลงตัว ทุกพื้นที่บริเวณมีการ์ดและคนคุ้มกันแน่นขนัด เปิดให้บริการอย่างถูกต้องตามกฏหมาย หากแต่ไม่ถูกต้องตามหลักศีลธรรม เพราะเป็นแหล่งบ่มเพาะกิเลสของปุถุชนในสังคม การบริหารจัดการทุกอย่างนั้น อยู่ภายใต้อำนาจของเจ้าพ่อหนุ่มสุดหล่ออย่าง ธนาวัฒน์ อัครวราห์ หรือ คุณแธน บรรดาสาวน้อยสาวใหญ่ต่างรู้จักกันดี แม้ว่าสถานภาพทางสังคมเขาจะแต่งงานมีภรรยาถูกต้องตามกฏหมาย ทว่าดีกรีความฮอตสุดขั้วก็ไม่ได้ลดหย่อนลงแม้แต่น้อย ผู้ชายเจ้าชู้อย่างธนาวัฒน์หาความสุขใส่ตัวไม่รู้เบื่อ ส่วนทิชารีย์  อัครวราห์ หรือทิชา ผู้เป็นภรรยาเธอไม่เคยปริปากบ่น ถึงเธอจะมีศักดิ์เป็นภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมาย แต่ว่าหญิงสาวไม่เคยหยิบยกเอาพันธะแผ่นกระดาษมาสมอ้าง เพื่อล่วงล้ำหรือก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของเขา และอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าเธอก็จะเป็นอิสระตามที่พินัยกรรมได้ระบุเอาไว้แล้ว ตีสาม…เจ้าพ่อหนุ่มสุดหล่อยังไม่ได้พักผ่อนเสียเลย เนื่องจากว่าห้องทำงานมีการคัดเลือกนวลนางประจำอ่างนาบ ซึ่งผ่านการคัดกรองจากผู้จัดการฝ่ายรับสมัครมาแล้วสองรอบ ทว่าผ่านแล้วจะมาขึ้นงานเลยก็คงไม่ใช่ เพราะทุกนวลนางที่จะมาทำงานต้องผ่านผู้บริหารหนุ่มสุดหล่อแสนเจ้าชู้เสียก่อน เรียกได้ว่าสาวๆ ทั้งหลายต่างพออกพอใจกันยกใหญ่ เมื่อครั้งหนึ่งในชีวิตจะได้พิชิตลีลาสุดมันส์จากเจ้าพ่อโลกีย์  ห้องทดลองงานสำหรับเพลย์บอยเนื้อหอมอย่างธนาวัฒน์จัดเตรียมไว้เป็นอย่างดี มีนวลนางเข้าทดลองงานทั้งหมดสิบคน โดยกติกาการคัดเลือกคือเข้าไปในห้องทีละคน ครั้นลองงานเสร็จ นวลนางทุกคนต้องเงียบกริบ ห้ามใครป่าวประกาศเวลาเดินออกมาข้างนอกห้อง จากที่ตั้งเวลาเอาไว้คนละ 5-10 นาที แต่เอาเข้าจริงปาไปคนละเกือบครึ่งชั่วโมง เพราะนวลอนงค์แต่ละนางนั้นหุ่นสะบึ้มเร้าใจ ลีลาลวดลายต่างเจนสนามกันทั้งสิ้น เก้านางข้างต้นผ่านการทดลองงานฉลุย จะเหลือก็แต่คนที่สิบ ซึ่งกำลังย่างกายเข้ามาข้างในห้อง แต่กว่าแม่คุณจะเขยื้อนเคลื่อนย้ายร่างระหงเข้าไปได้นั้น ทำเอาเจ๊ผู้จัดการซึ่งเป็นสาวประเภทสองหน้าห้องต้องเขม่นสายตามองถึงสามรอบ ก็คุณเธอเล่นตัวเสียเหลือเกิน บอกว่าปวดหัวมั้งล่ะ ปวดท้องมั้งล่ะ ทำเอาผู้บริหารหนุ่มที่รออยู่ในห้องลองงานต้องหน้าบึ้งโกรธขึงพลันอารมณ์เสียขึ้นมาดื้อๆ               ภายในห้อง…            สายตาคมดุจราชสีห์จ้องสาวน้อยหน้าตาจิ้มลิ้มอย่างคาดไม่ถึง อึ้งและทึ่งในความน่ารักน่าทะนุถนอม จนไม่อยากให้ไปทำงานที่อาบอบนวด แต่อยากจะขังเจ้าหล่อนเอาไว้ในอ่างนาบประจำของเขาเสียเอง อารมณ์โกรธกรุ่นราวพายุจะลงเมื่อครู่หายปลิดทิ้ง ครั้นได้ยลโฉมหน้าแม่นวลนางใจกล้าคนสุดท้าย นัยน์ตาคมยิ่งกว่ามีดสแกนร่างงาม กวาดต้อนมองทุกสัดส่วน พลางคิดในใจไปว่า แม่คุณช่างเอวบางร่างเล็กแต่ไม่รู้จะบ้าเซ็กส์ด้วยหรือเปล่า แต่คงบ้าเข้าขั้นล่ะไม่เช่นนั้น คงไม่พาร่างสวยสะพรั่งมาสมัครงานใน สวนสวรรค์บนดินของอัครวราห์หรอก ใสๆ ซื่อๆ อย่างนี้เจอมานักต่อนักแล้ว แอ๊บแบ้วแทบทุกราย สุดท้ายเจอของจริงเข้า ต้องออกลีลาวาดลวดลาย ปรับกระบวนท่าดิ้นสุดมันส์               จริตา ธัญญาธรณ์ หรือ เจียว สาวน้อยวัยยี่สิบเอ็ดปี เรียนจบชั้นปวส. เธอถูกแม่เลี้ยงขายทอดให้เสี่ยในสถานบันเทิงแห่งหนึ่ง ทว่าชีวิตเธอมันไม่ต่างจากหนีเสือปะจระเข้ เมื่อไอ้เสี่ยนรกมันพอจะมองออกว่าสาวน้อยคนสวยต้องสร้างรายได้มหาศาล คนใจอำมหิตไม่ต่างจากยักษ์จากมารก็จับเธอมาขายทอดให้สถานเริงรมย์ไฮโซอย่าง ‘อัครวราห์ …พาทัวร์สวรรค์’ ไม่รู้ว่าโชคชะตาหรือกรรมพาลิขิต ส่งให้เธอรอดมาจนถึงรอบคัดเลือกรอบสุดท้าย ที่สำคัญได้มาพบกับเจ้าของนัยน์ตาสีสนิมกล้าอย่างธนาวัฒน์ เจ้าพ่อสื่อบันเทิงเริงรมย์ทุกรูปแบบ ที่แสนเลื่องชื่อในถนนสายโลกีย์ จริตารู้จักชื่อเสียงเรียงนามของเขาก็ก่อนเข้ามาในห้องนี่ล่ะ เพราะเจ๊ที่คัดเลือกเธอมาย้ำแล้วย้ำอีก ย้ำกรอกรูหูทุกลมหายใจเข้าออก ว่านายใหญ่ของที่นี่ คือ คุณธนาวัฒน์หรือคุณแธน นั่นเอง! เด็กกะโปโลหาเช้ากินค่ำอย่างเธอจะไปรู้อะไร วันๆ เอาแต่หมั่นทำงานงกๆ เพื่อใช้หนี้ให้แม่เลี้ยง ที่ติดไพ่เป็นชีวิตจิตใจ กระทั่งสองวันก่อนไม่มีเงินใช้หนี้นอกระบบ จริตาคือทางออกสุดท้าย เธอโดนแม่เลี้ยงใจมารขายทอดให้เจ้าหนี้               มองสาวน้อยหุ่นชวนฝันนานเข้า เสือหนุ่มเกิดเปรี้ยวปาก อยากนาบแม่สาวน้อยร่างเร้าใจขึ้นมาตงิดๆ ถ้าไม่ติดว่าแม่คุณทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ เขาลากไปสำเร็จโทษในอ่างทดลองงานนานแล้ว               ร่างบอบบางสั่นเทาราวลูกนกตกน้ำ ยิ่งเห็นใบหน้าเขาเธอยิ่งอยากร่ำร้องเอาเสียดื้อๆ น้ำใสคลอรอบเบ้าตา คนเจ้าชู้เห็นแล้วหงุดหงิดใจ ธนาวัฒน์ขมวดคิ้วมุ่น เมื่อต้องคิดหางานให้เธอทดลอง ครั้นนึกได้ก็เอาแค่น้ำจิ้มเสียก่อน เพราะเหนื่อยมาแล้วตั้งเก้านวลนาง ส่วนคนสุดท้ายให้บริการเบาๆ อาบน้ำในอ่างจากุชชี่ก็พอ แต่ไม่รู้ว่าแม่คุณจะบริการได้ถึงใจหรือเปล่า แต่ถ้าไม่ได้ดังใจล่ะก็ เขาจะสั่งไปประจำอยู่ห้องน้ำห้องส้วมแทน!               “ขยับมาใกล้ๆ สิ” เอ่ยเสียงเข้มบอกแม่ร่างสะองตรงหน้า สายตาคมของเพลย์บอยสุดหล่อเชื่อมประสานดวงตาคู่งาม ราวสะกดให้คนตัวสั่นเทาต้องตกอยู่ม่านมนตร์เสือร้ายอย่างเขา               “เอ่อ คือ” จริตาหัวใจไหวหวั่น เกรงกลัวสายตาของคนตรงหน้าเหลือคณา ใบหน้างามซีดเผือดไม่ต่างจากกระดาษ แม่สาวน้อยไม่เคยผ่านมือชายน้ำตาเริ่มซึม ยิ่งเสียงเข้มเร่งเร้าทำเอาหัวใจเปราะบางเต้นระรัวเร็วราวกลองชุด               “ฉันสั่งว่าขยับมาใกล้ๆ สิ” เห็นแม่ร่างบางสั่นเทา เจ้าพ่อความบันเทิงยิ่งอยากกลั่นแกล้ง ธนาวัฒน์ไล้สายตาคมดุจเสือร้ายกวาดต้อนร่างงามทุกซอกส่วน ทำเอาคนโดนสายตาจาบจ้วงต้องขนกายลุกชัน เสียงหวานเอ่ยตอบตะกุกตะกักด้วยความหวาดกลัว               “แต่ว่า ฉัน” กลีบปากอิ่มสีเรื่อเคลือบลิปกลอสขยับเอื้อนเอ่ยหมายจะปฏิเสธ แต่ต้องชะงักค้าง ร่างบางสะดุ้งโหยงตกใจ ใบหน้าซีดเซียวจนไม่เหลือสีเลือด ครั้นเสียงเข้มห้วนตวาดลั่น!!               “หูแตกรึไง!! ฉันสั่งว่ามาใกล้ๆ ฉันสิ!!” เรียกคนตัวน้อยมานั่งโซฟาเนื้อนุ่ม ขณะสายตาคมนั้นวาวโรจน์โกรธกรุ่น ส่วนจริตาน่ะเหรอ เธอไม่รอให้เขาเรียกซ้ำอีกรอบ แม่ร่างบางรีบหอบสังขารไปหาคนบ้าอำนาจตัวโตทันที               “ก็แค่นี้ …นั่งลง” เสียงเข้มสั่ง ขณะแม่เอวกิ่วนาฬิกาทรายยอมทำตามที่ตนบัญชา ก่อนจะส่งเสียงครางจิ๊จ๊ะในลำคอเมื่อหญิงสาวทำไม่ถูกใจ สะโพกอวบกำลังจะหย่อนแตะโซฟาต้องหยุดชะงัก เพราะคนบ้าอำนาจตวาดเสียงห้วนใส่อีกครั้ง   “ใครสั่งเธอนั่งตรงนั้นฮะ นี่! ...มานั่งตักฉันนี่” ตบหน้าตักกว้างเชื้อเชิญ สาวน้อยคนสวยนัยน์ตาไหววูบ               “คือว่าฉัน ฉัน…” เสียงหวานเอ่ย พร้อมดวงตาคู่สวยที่เบิกกว้าง ตั้งแต่จำความได้ เธอไม่เคยนั่งตักผู้ชายคนใดมาก่อน จู่ๆ จะให้มานั่งตักผู้ชายที่เป็นถึงเจ้าพ่อโลกีย์อย่างเขาก็คงไม่ไหว คนตัวน้อยทำท่าไม่ใส่ใจในคำสั่ง หญิงสาวคิดว่าเปลี่ยนมานั่งข้างๆ เขาคงจะพออภัย สะโพกมนสวยกำลังจะหย่อนแตะโซฟานุ่มอีกครั้ง ทว่าก้นไม่ทันได้สัมผัสเนื้อโซฟา มือหนาของคนตัวโตคว้าหมับ จับร่างบอบบางเกยหน้าตักของตนอย่างรวดเร็ว “ว้ายยย!!!” เสียงหวานร้องว้ายด้วยความตกใจ ขณะที่มือร้อนคอยไล้ลูบบริเวณเอวคอด ก่อนจะค่อยๆ เลื่อนกอบกุมสะโพกหนันนุ่ม    การสัมผัสของเขาทำเอาร่างบางสั่นสะท้าน ใบหน้าหล่อคมคายของเจ้าพ่อโลกีย์ เคลื่อนเข้าใกล้พวงแก้มแดงระเรื่อ ริมฝีปากหยักขยับพรอดคำสั่ง ข้างกกหูน้อยกลิ่นหอมกรุ่นด้วยน้ำเสียงแหบพร่า                   “เริ่มงานได้…” เกลี่ยปลายจมูกคมชนพวงแก้มหอม กลิ่นของมันปลุกเร้าอารมณ์ชายได้อย่างรวดเร็ว จริตาเอียงหน้าหลบ คิ้วสวยโก่งดุจคันสรขมวดมุ่น เรียวปากกระจับขยับถามด้วยความไม่เข้าใจในคำสั่ง               “เริ่มงาน???” คนไม่เจนสนามจะรู้หรือว่าเริ่มงานอะไร ก็สองรอบที่มีการคัดเลือก เธอไม่ได้คัดเลือก หญิงสาวโดนเจ๊ผู้จัดการรับซื้อจากเสี่ย แล้วก็ถูกโยนมาตกอยู่รอบสุดท้ายเลย สายตาคมกริบกวาดมองใบหน้างามลออ ก่อนจะลากสายตาคมมองเรียวคอระหง ผาดผ่านมายังภูเขาไฟลูกใหญ่สองลูก แล้วขยับเรียวปากหยักเอื้อนเอ่ยอีกครั้ง               “ก็ใช่น่ะสิ ‘เริ่มงาน’ ได้” จ้องนัยน์ตาคู่หวานด้วยความต้องการ มือหนาที่ไล้ลูบสะโพกงอนงาม เพิ่มแรงบีบขยำปลุกเร้า จริตาถึงกับหน้าแดงซ่าน ทั้งโกรธทั้งอายระคนกัน               “คือฉันเอ่อ ฉันทำไม่เป็น” เสียงหวานเอ่ยปฏิเสธ เจ้าพ่อโลกีย์ตัวโตได้ยินแล้วต้องหน้าหงิก                 “อย่าโง่สาวน้อย ฉันว่าเธอเจนโลกมามาก อย่าทำใสซื่อให้ฉันรำคาญ เริ่มงาน!!!” กระชากถ้อยคำเจ็บทรวงเฉาะเฉือนกระดองหัวใจเปราะบาง จริตาแทบน้ำตาเล็ดไหล เมื่อนึกตามแล้วพอรู้ว่าสิ่งที่เขาสั่งนั้นคืออะไร การมีเซ็กส์กับผู้ชายที่ไม่เคยรู้จัก มันบังคับง่ายๆ เช่นนี้เชียวหรือ…เซ็กส์ไม่จำเป็นต้องเกิดจากความรักเลยใช่ไหม? จริตาขยับปากปฏิเสธ พร้อมต่อลองกับเขาด้วยน้ำเสียงสุภาพ               “ฉันทำไม่เป็น ให้ฉันทำอย่างอื่นแทนได้ไหมคะ” เห็นหญิงสาวเอ่ยขอ เขาก็ยินดีจัดให้ ปากหยักสีสดพ่นคำถามออกมาด้วยน้ำเสียงห้วนแข็ง               “จะทำอะไร” ตวัดสายตาคมกดดันคนตัวน้อยตรงหน้า จริตาต้องเรียบเรียงคำพูดให้ดูดีที่สุด เพราะถ้าพูดออกมาแล้ว เขาจะได้ไม่หงุดหงิด               “ทำอะไรก็ได้ที่ไม่ใช่เรื่อง ‘อย่างว่า’ ค่ะ” พูดจบก้มหน้างุดด้วยท่าทางเอียงอายระคนหวาดกลัว ธนาวัฒน์เห็นแล้วต้องขยับปากถามใหม่อีกครั้ง “อย่างว่าแบบไหนกัน หืม…” โน้มใบหน้ากระซาบถามเสียงกระเส่า ทำเอาสาวน้อยวัยแรกแย้มอายม้วน กลีบปากบางขมุบขมิบขบคิดในใจ   ‘เรื่องอย่างว่าใครจะไปกล้าพูดกัน ยิ่งต่อหน้าผู้ชายที่เป็นถึงเจ้าของดินแดนโลกีย์อย่างเขา เธอคงจะกล้าพูดออกมาหรอกนะ’ ระหว่างที่คนตัวน้อยคิด มือหนากอดกระชับเอวคอด จริตาตระหนกตกตื่น ใบหน้างามแดงระเรื่อ เปลือกตางามหลุบต่ำไม่กล้าประสานสายตากับคนตัวใหญ่ เสียงหวานใสอู้อี้กับอกกว้างกระด้างด้วยความเอียงอาย “ก็เอ่อมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งต่อกันอย่างไรล่ะคะ” คำตอบผะแผ่วจากคนตัวน้อย ทำเอาธนาวัฒน์แทบกลั้นขำไม่อยู่  ไม่กล้ามีความสัมพันธ์กับผู้ชาย แต่อยากมาทำงานประเภทที่รู้ๆ ว่ามันต้องเจอกับเรื่องอย่างว่าเนี่ยนะ สงสัยคุณเธอไร้เดียงสาเกินไปแล้วล่ะมั้ง มุมปากหยักยิ้มขำก่อนจะเอื้อนเอ่ย เพราะเขาก็คลุกคลีกับเรื่องอย่างว่ามาตั้งแต่อายุ 14-15 ปีเลยทำให้มองว่าเซ็กส์เป็นเพียงเรื่องสนุก และที่สำคัญพรหมจรรย์ไม่ได้มีความสำคัญกับผู้ชายอย่างเขา “มีเซ็กส์แค่ไม่กี่นาที เธอก็ผ่านงานแล้ว เธอจะคิดอะไรมาก ทำงานกับฉันได้เงินตั้งเยอะ รับรองคุ้มค่าสาวน้อย เคยๆ มาแล้วไมใช่เหรอ จะถือสาอะไรกัน เริ่มงาน!!!” ถ้อยคำสุดท้ายเร่งเร้าเป็นพิเศษ ทำเอาคนโดนเร่งทางสายตาและวาจาแทบจะแดดิ้นสิ้นลมหายใจ ณ ตรงนั้น! “ฉันไม่เคย ฉันไม่ทำ และฉันก็ทำไม่เป็น” สาวน้อยผู้ไร้เดียงสาไม่เคยผ่านโลกอย่างว่ามาเอ่ยบอก จริตาเธอปณิธานเอาไว้แล้วว่า จะไม่มีวันทำเรื่องอย่างว่ากับผู้ชายที่ไม่ขึ้นชื่อว่าเป็น สามี เด็ดขาด เธอจะมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับผู้ชายที่เธอรักที่สุด และเป็นผู้ชายเพียงคนเดียวที่เธอยอมใช้ชีวิตร่วมกับเขาไปจนแก่เฒ่า ซึ่งก็คือ เจ้าบ่าว ของเธอในวันเข้าพิธีวิวาห์ “อย่าทำให้ฉันต้องอารมณ์เสีย แล้วบีบคอขาวๆ ของเธอให้แหลกคามือ เร็ว!! เริ่มงาน!! ทำเหมือนที่เคยทำมานั้นแหละ” เสียงแหบห้วนสั่งด้วยอารมณ์ไม่คงที่ เพราะแม่คุณไม่ได้ดังใจ พูดอะไรมารั้งแต่จะปฏิเสธไปเสียทุกอย่าง ผ่านไปหลายอึดใจแม่คุณยังคงนิ่ง เห็นแล้วชักทนรำคาญไม่ไหว เสียงห้วนเลยแกล้งถามเย้าคนตัวน้อยบนตักอีกครั้ง “หรือจะให้ฉันเริ่มก่อน …ถือว่าสงเคราะห์มากนะ เพราะที่ผ่านมาฉันไม่ได้ลงแรงสักนิด เป็นแค่ผู้ถูกรุกไม่ได้เป็นฝ่ายบุก เลือกเอาจะเอาแบบไหน ฉันเมตตาเธอมากแล้วนะสาวน้อย”   “ไม่เลือกค่ะ ก็ฉันบอกกับคุณแล้วนี่คะว่าฉันไม่ทำ เพราะว่าฉันทำไม่เป็นและไม่มีวันทำ!!” จริตาตอบเขาด้วยน้ำเสียงห้วนขึ้น ซึ่งจริตาก็ตกใจตัวเองไม่น้อยเมื่อนึกได้ แต่ไม่ทันที่จะกระโดดลงจากตักกว้าง ใบหน้าแสนดุเดือดนำพาเสียงห้วนหาญ ตะคอกใส่หน้าจนเธอต้องปากซีดตัวสั่น “กล้าขึ้นเสียงกับฉันเหรอฮะ!!” มือหนากระชากท่อนแขนเรียว พร้อมกดน้ำหนักมืออย่างหนักหน่วง จนคนตัวน้อยเบ้หน้าด้วยความเจ็บปวด “ปล่อยฉันนะคะ ฉันเจ็บ” กัดฟันบอกคนตัวใหญ่ด้วยความอดกลั้น เจ้าพ่อหนุ่มไม่รับฟัง แต่กลับกระชากร่างงามให้ลุกประจันหน้า สายตาคมกริบกวาดไล้ดวงหน้าหวาน เหลือบนัยน์ตาดุร้ายเหมือนหมาป่ามองเนินอวบอัดที่โผล่พ้นขอบเสื้อกล้ามสีขาวตัวจ้อย ใบหน้าคมคร้ามโน้มใกล้ใบหน้างาม ก่อนจะเอ่ยเสียงเครียดเหนือกลีบปากอิ่ม “เธอเป็นคนปลุกสัตว์ร้ายในตัวฉันเองนะ…สาวน้อย” จริตาผู้รับรังสีอันตรายจำต้องละล่ำละลัก ลุแก่โทษกับความไม่ตั้งใจเมื่อครู่ที่ผ่านมา “ฉันขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจ กรุณาฉันเถิดนะ นะคะ ฉันไหว้ล่ะค่ะ” มือน้อยเคลื่อนเข้าหากัน หมายจะยกกระพุ่มไหว้ ทว่ามันไม่ง่าย เมื่อข้อแขนเรียวอีกข้างถูกมือมารบีบอย่างรุนแรง “ถ้าอย่างนั้นไปอาบน้ำให้ฉัน!!” ได้ยินคำว่าอาบน้ำจริตาอึ้งค้างไปสามวินาที ก่อนที่คนตัวใหญ่ไม่รั้งรอเอาคำตอบ ไม่แม้จะให้เวลาคุณเธอปฏิเสธหรือหาข้อขัดแย้ง ท่อนแขนแกร่งตวัดรวบร่างบางแนบอกกว้างทันที “ว้ายยย!!” เสียงหวานวี้ดร้องด้วยความตกใจ แขนเรียวโอบรอบลำคอแกร่งโดยสัญชาตญาณ ขณะท่อนขาทรงพลังนำพาคนตัวน้อยในอ้อมกอด ตรงไปยังอ่างจากุชชี่ขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่กลางห้อง ซึ่งธนาวัฒน์เป็นคนสั่งลูกน้องนำมาติดตั้งไว้เป็นกรณีพิเศษ ไม่กี่อึดใจต่อมาร่างของสองหนุ่มสาวอิงแอบอยู่ภายในอ่างจากุชชี่ มีน้ำไหลวนอยู่ครึ่งอ่าง กลิ่นกุหลาบหอมอบอวลทั่วบริเวณ เมื่อเขาสั่งคนตัวน้อยผสมครีมอาบน้ำลงไป จมูกโด่งสันเผลอสูดกลิ่นเข้าไปอย่างเคลิบเคลิ้ม เปลือกตาหนาปิดแนบกันเบาๆ เป็นการผ่อนคลายความเมื่อยล้าตลอดทั้งวันที่ผ่านมา    “อะไร” จริตาถามด้วยความไม่เข้าใจ เมื่อจู่ๆ มือหนารวบเอวคอดเข้ามาใกล้ ทำเอาเรือนร่างผ่องแทบจะเกยร่างแข็งแรง อกกว้างกับอกอวบอิ่มแทบจะหลอมรวมเป็นเนื้อเดียวกัน ถ้าข้อศอกเรียวไม่ยันแผงอกกระด้างเอาไว้ ฝ่ามือเรียวบางที่วางทาบบนอกกระด้างเผลอไกล่เกลี่ยไรขนสีทองอ่อนอย่างไม่ตั้งใจ แต่หารู้ไหมว่าการกระทำของเธอมันทำให้คนตัวใหญ่หายใจติดขัด ไม่ว่าจะสัมผัสส่วนใดบนเรือนกาย มันก็ล้วนมีอิทธิพลต่อเขาทั้งสิ้น เพราะโดนสัมผัสทีไรเจ้าน้องชายมันก็ ‘ลุก’ ขึ้นตั้งพร้อมออกอาระวาดทุกครั้ง “แกะรังดุมออกให้หมด แล้วปลดเสื้อผ้าออกจากกายฉัน...ทุกชิ้น” สั่งด้วยน้ำเสียงเด็ดขาด จ้องนัยน์ตาคู่งามอย่างจริงจัง ก่อนจะโน้มใบหน้าหล่อเหลาเข้ามาใกล้แล้วขยับปากหยักเอ่ยต่อ “…ชั้นในด้วย” สาวน้อยหน้ามนถึงกับขนกายลุกซู่ใส่เกียร์เดินหน้าต่อไปไม่ถูก เธอได้แต่นั่งนิ่งจนเสียงเข้มต้องรบเร้าอีกครั้ง “ฉันสั่ง เธอต้องทำ ถ้ายังดื้ออีกละก็ คราวนี้จะไม่ใช่แค่ฉัน แต่จะเป็นผู้ชายที่อยู่หน้าห้องทั้งหมด ลองดูไหม?” คำขู่ของคนใจร้าย ทำเอาเจ้าของนัยน์ตาดำขลับน้ำตาคลอเบ้า ธนาวัฒน์ไม่รอให้เธอเริ่ม มือหนากุมมือบางเลื่อนไต่ตามเรือนกายกำยำ บังคับให้คนตัวน้อยแกะรังดุม ปลดอาภรณ์ออกให้หมดเกลี้ยง เรือนร่างบึกบึนของคนหมั่นออกกำลังกายทั้งในร่มและกลางแจ้งเป็นประจำสุดแสนจะเพอร์เฟ็ก ไม่แตกต่างจากนักรบกรีก แม้จะเปลือยเปล่าต่อหน้าหญิงสาว ทว่าเจ้าพ่อโลกีย์กลับไม่กระดากอายแม้แต่น้อย ตรงกันข้ามเป็นหญิงสาวเสียเองที่หน้าร้อนผะผ่าว พวงแก้มใสแดงเหมือนมะเขือเทศสุกงอม “แก้เสื้อผ้าเธอด้วยสิ” บอกคนตัวน้อยด้วยใบหน้าเรียบตึง ทว่าแววตาสุดแสนจะแพรวพราวและเจ้าเล่ห์นั่นสิทำเอาจริตาต้องรีบสรรหาถ้อยคำมาหลบเลี่ยง
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม