ตอนที่ 3 แผนการคนใจร้าย 100%

3864 คำ
ตอนที่ 3 แผนการคนใจร้าย 100% “อ๊ะ จะ เจ็บ” เสียงหวานครางบอก กระถดร่างถอยห่าง แต่ชายหนุ่มไม่ยินยอม มือหนาที่กดท่อนขาเรียวเปลี่ยนมาจัดตำแหน่งโดยการเอาท่อนขาสวยๆ โอบรอบเอวสอบ ใบหน้าคมโน้มเฉียดปลายจมูกโด่งสัมผัสซอกหูผ่องกระซิบเสียงแหบห้าว “อยู่นิ่งๆ” ขณะพูด มือร้อนโอบอุ้มสะโพกบาง ให้โยกรับตัวตนที่ค่อยๆ สอดประสานเข้าไป ภีมวัจน์รู้สึกเครียด เมื่อลำกายแกร่งต้องฝ่าด่านเยื่อบางๆ เข้าไป ซึ่งเวลานั้นมันแสนรวดร้าวปวดหนึบจนยากเกินอธิบาย และจังหวะสะโพกขยับเข้าหา แม่คุณก็ดีดดิ้นจนผู้ชายชินสนามรักอย่างเขาต้องทรมานร่วมไปด้วย แต่ความเจ็บปวดก็แลกมาด้วยความภูมิใจ เมื่อสิ่งที่เขาได้พิสูจน์และสัมผัสมานั้น มันไม่เคยเป็นของภมรตัวใดมาก่อน แต่ในช่วงเวลาทรมานซาบซ่าน ชายหนุ่มก็ไม่มีกระจิตกระใจมาครุ่นคิด คนตัวน้อยใต้ร่างขยับสับส่าย หลังจากที่เขาแช่ตัวตนฝังเอาไว้นานหลายนาทีเพื่อให้หญิงสาวได้ปรับสภาพร่างกาย แต่พอเข้าจังหวะและอาการเจ็บเริ่มทุเลา สะโพกสวยไม่อยู่นิ่ง ภีมวัจน์เห็นแล้วถึงกับเหยียดยิ้มพอใจ “เป็นอะไร หืม…” เอ่ยถามเสียงทุ้ม ทิชารีย์ได้ยินถึงกับเคลิ้ม นัยน์ตาหวานหยาดเยิ้มมองคนเหนือร่างอย่างเรียกร้อง เมื่อไฟพิศวาสแผดเผาจนเกินจะยั้งใจ “ฉันทรมานเหลือเกิน…” เอ่ยบอกเสียงหวาน มือเรียวสวยเอื้อมโอบใบหน้าหล่อเหลาอย่างสิเน่หา เมื่อยารักออกฤทธิ์ ทิชารีย์ลืมทุกสิ่งอย่าง กายบางของเธอต้องการให้เขาเติมเต็มและพาเธอไปถึงสวรรค์ให้เร็วที่สุด ภีมวัจน์ทอดสายตามอง ก่อนจะก้มหน้าแนบกลีบปากหยักเอ่ยชิดเรียวปากสวยที่เผยอ “เอ่ยขอฉันสิคนสวย” กระซิบเสียงแหบพร่าเหนือกลีบปากรูปกระจับ ส่วนคนที่กำลังตกอยู่ในห้วงวังวนสิเน่หา มองหน้าเขาด้วยแววตาเคลิ้มฝัน ก่อนจะขยับปากครางเสียงแผ่ว “หืม…” จ้องหน้าคนตัวโต ขณะที่เรียวแขนสองข้างเลื่อนโอบรอบลำคอแกร่ง “ถ้าอยากหายทรมาน ก็เอ่ยขอกับฉัน…” ก้มกระซิบข้างพวงแก้ม ก่อนจะเลื่อนกลีบปากร้อนชื้นแตะปลายติ่งหู แล้วแทะเบาๆ เร้าอารมณ์ “ว่าอย่างไร อยากหายทรมานหรือเปล่า หืม…” เสียงพร่ากระเส่าเฝ้าถามอีกครั้ง ขณะเดียวกันชายหนุ่มก็ขยับสะโพกทำท่าจะถอนส่วนมหัศจรรย์ร้อนฉ่าออก ทิชารีย์รีบตวัดท่อนขาเรียวเกี่ยวรอบเอวสอบอย่างแนบแน่น ไม่ยอมให้ถอยห่าง เรียวปากบางกระจับสีหวานเอ่ยอ้อนขอด้วยความลืมอาย “ชะ ช่วยฉันด้วย นะคะ…” น้ำเสียงหวานเว้าวอน แต่ยังไม่ถูกใจพ่อคนเรื่องมาก   “พูดหวานกว่านี้คนสวย…” เฉียดปลายจมูกโด่งตามพวงแก้มแดงสุกปลั่ง ทิชารีย์ถึงกับกายสะท้าน เมื่อจุดอ่อนไหวโดนเขาสัมผัส ขณะเดียวกันสะโพกสวยส่ายขยับด้วยความทรมาน “ฉันช่วยด้วยนะคะ คุณภีม…” นัยน์ตาคู่งามทอดมองคนเหนือร่างอย่างเซ็กซี่ ขณะที่มือเรียวกรีดไล้ปลายนิ้วตามแผงอกกว้างกระด้าง สัมผัสของแม่คุณทำเอาเสือหนุ่มต้องครวญครางเสียงแหบห้าว ความอดทนอดกลั้นที่มีขาดสะบั้น ปากหยักก้มประกบกลีบปากอิ่ม สอดเรียวลิ้นหนากระหวัดเย้าหยอกลิ้นเล็ก ขณะอุ้งมือร้อนสองข้าง กอบกำดอกบัวงามยอดเต่งใสอย่างเมามัน ส่วนสะโพกสอบนั้นเคลื่อนเข้าเคลื่อนออกอย่างซาบซ่าน ทุกจังหวะการโยกขยับบดเบียดเสียจนไม่มีช่องว่าง สองร่างหลอมรวมกันเป็นหนึ่งเดียว ทิชารีย์ถึงกลับครางระงม ยิ่งตอนสะโพกสอบซอยช้าเนิบนาบ ราวกับจะซึมซาบทุกจุดสัมผัส หญิงสาวต้องเบี้ยวบิดกายด้วยความทรมานสุดใจ   ภีมวัฒน์ครวญครางเสียงกระเส่า มือหนาเคล้นคลึงก้อนเนื้อนุ่มราวจะให้มันบุบสลาย แต่ด้วยตอนนั้นทิชารีย์กำลังโดนยารักครอบคลุม ทำให้เธอมีความต้องการมากกว่าที่จะรู้สึกเจ็บ ยิ่งสะโพกสอบซอยถี่ขึ้นเรื่อยๆ เธอก็ยิ่งอยากไปถึงฝั่งฝันเสียเต็มประดา มือน้อยที่เกาะไหล่หนาจิกเล็บคมไปตามแรงอารมณ์ “เร็วหน่อย อื้อ”   ภีมวัจน์รีบเร่งจังหวะรัวและเร็ว ทว่าซาบซ่านถึงขั้วหัวใจ สะโพกสอบโหมกระหน่ำสาดเข้าใส่แบบไม่บันยะบันยัง บดอัดทุกซอกอณูเนื้อ ดอกไม้งามเกร็งกระตุกเป็นสัญญาณบอกว่ากำลังจะไปถึงสวรรค์ มือหนารั้งสะโพกมนเอาไว้อย่างแนบแน่น และไม่กี่อึดใจต่อมาหญิงสาวก็ไปแตะขอบฟ้า ท้องนภามีดวงดาวพราวประกายให้เธอไขว่คว้าหลากหลายล้านดวง ภีมวัจน์เร่งเครื่องเดินหน้าให้ตัวเองตามไป ไม่นานเขาก็เกร็งกระตุก พร้อมกับปลดปล่อยน้ำขาวขุ่นให้หลั่งไหลเข้าไปในกายสาวจนหมดสิ้นและมีส่วนน้อยที่ไหลเยิ้มออกมา เสือหนุ่มฟิตปั๋งกำลังดีไม่มีตก ไม่มีท่าทีว่าจะเหน็ดเหนื่อย เขาปรนเปรอความสุขให้สาวสวยใต้ร่างอย่างหนักหน่วง เสียงหวานครางระงมเมื่อจังหวะการขับเคลื่อนแรงรักถาโถมเข้าใส่นั้นมันช่างรัญจวนหัวใจ กว่ายาแห่งความสุขจะหมดฤทธิ์ ร่างงามถึงกับอ่อนเปลี้ยเพลียแรง เปลือกตาบางปรือปรอยด้วยความเหนื่อยล้า ทิชารีย์ผล็อยหลับไปโดยไม่รู้ตัว เมื่อบทรักครั้งแรกที่เธอประสบมานั้นมันช่างยาวนาน พลังงานในกายโดนเผาผลาญไปหลายกิโลแคลอรี่ ส่วนภีมวัจน์หลังจากเคลื่อนกายลงจากร่างบอบบาง มือหนาก็ไม่ลืมคว้าสิ่งสำคัญมาเก็บเอาไว้บนหัวเตียง ร่างกำยำตะแคงข้างรวบกายงามมาไว้ในอ้อมกอดอุ่น พลางจรดกลีบปากหยักสีกุหลาบพรมจูบเรือนผมนุ่มเบาๆ แล้วจึงปิดเปลือกตาหนักอึ้งหลับไปตามๆ กัน บ่ายโมงกว่า…ร่างอรชรในอ้อมกอดดิ้นขยุกขยิก ความเมื่อยขบวิ่งจับทั่วสรรพางค์กาย บริเวณเอวกิ่วเหมือนมีขอนไม้ใหญ่หล่นทับ หญิงสาวเหลือบสายตาไปมองต้องใจหล่นไปกองที่ตาตุ่ม เมื่อทุกอย่างที่ผ่านมาไม่ใช่ความฝัน แต่มันคือเรื่องจริง หลุบสายตาคู่เศร้ามองตามร่างกายก็มีแต่รอยฟกช้ำดำเขียว โดยเฉพาะอกอวบที่มีรอยเขี้ยวฝากฝังเอาไว้ให้ดูเป็นพยาน ทิชารีย์รู้สึกชาไปทั้งตัว เจ็บกายไม่เท่าไร แต่เจ็บใจนี่สิ!! น้ำตาหยดน้อยใหญ่ไหลแหมะออกมาอาบร่องแก้มจนเป็นทาง ครั้นขยับกายออกห่างก็ต้องหน้านิ่วด้วยความเจ็บปวด ร่างกายรวดร้าวราวจะแยกออกเป็นชิ้นๆ มือที่มีแรงโรยรา จับท่อนแขนแกร่งออกจากเอวอย่างแผ่วเบา เพราะเกรงว่าเขาจะรู้สึกตัว หญิงสาวกัดริมฝีปากตนเองข่มความเจ็บปวดเมื่อพยุงกายลุกจากเตียงกว้าง แต่ขยับร่างได้ไม่กี่คืบต้องหน้าหงิก “จะไปไหนฮะ” เสียงเข้มตะคอก เมื่อลืมตาขึ้นมาแล้วเห็นว่าคนดื้อข้างกายอวดเก่ง เขาสูบพลังงานไปตั้งเยอะแต่แม่คุณยังมีเรี่ยวแรงลุกไหวเนี่ยนะ!! มือหนาตะปบเข้ากับหัวไหล่มน พร้อมจ้องหน้าประสานสายตาอย่างเอาเรื่อง “ปล่อยฉันนะ ปล่อย!!!” บิดข้อแขนให้พ้นจากพันธนาการ ทว่าภีมวัจน์ไม่ใจอ่อน ซ้ำยังตะคอกถ้อยคำร้ายกาจใส่หน้าซีดเซียวที่พร่างพรมไปด้วยหยาดน้ำตา  มุมปากหยักยิ้มหยันอย่างสะใจ ก่อนจะเค้นเสียงห้วนหาญใส่หน้าหญิงสาว ซึ่งแต่ละถ้อยคำที่พรั่งพรูออกมา มันไม่ต่างจากหอกแหลมทิ่มแทงหัวใจดวงน้อยจนเป็นแผลลึก! “ไม่ปล่อย!! แล้วก็หยุดดื้อ! หรือว่าที่ทำเป็นดีดดิ้นนี่อยากให้ฉัน ‘เอา’ ต่ออีกรอบล่ะฮึ… แม่เมียพฤตินัย” ถ้อยคำผรุสวาททำเอาทิชารีย์ถึงกับจุกทรวง ผู้ชายแสนดีของเธอเมื่อสามปีก่อนตายจริงๆ แล้วใช่ไหม ตอนนี้คงเหลือไว้แต่ซาตานใจอำมหิตสินะ ทิชารีย์ทอดสายตาคู่งามมองดวงหน้าคมคร้ามอย่างผิดหวัง ความเจ็บปวดทั้งทางกายและจิตใจตีรื้นขึ้นมา ทำเอาผู้หญิงตัวเล็กๆ เกือบต้านทานไม่ไหว ต้องสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ เรียกความกล้าภายในกายให้ฮึดสู้! “ฉันจะกลับบ้าน ปล่อยฉัน!!!” สะบัดร่างออกห่าง พลางขยับกายเตรียมลงจากเตียง ทว่าก็หนีไม่พ้นมือมารอย่างภีมวัจน์เช่นเดิม ชายหนุ่มหันมายิ้มร้ายก่อนจะเอ่ยปากด้วยน้ำเสียงยียวน “จะกลับไปทั้งๆ ที่ไม่รู้ตัวว่าเป็นนางเอกหนังโป๊น่ะเหรอคนสวย” เกลี่ยไล้ปลายคางมนเย้าหยอก ส่วนทิชารีย์นั้นเธอถึงกับหูผึ่ง คิดว่าตนเองคงหูฝาด หญิงสาวจึงเอ่ยถามอีกครั้ง “กะ แก ว่าไงนะ” ภีมวัจน์ได้ยินสรรพนามที่เธอเรียกก็ฉุนกึก! แต่เขาต้องเก็บความไม่พอใจเอาไว้ รอรวบยอดคราวเดียว คงจะหรรษาพิลึก! ใบหน้าเครียดขรึมเมื่อครู่เปลี่ยนเป็นยียวน พร้อมมือหนาเอื้อมไปคว้าของสำคัญบนหัวเตียงมาโชว์ ปากหยักเอ่ยบอกความจริงพร้อมยิ้มสะใจ “ว๊า…แย่จัง แสดงตั้งแต่ต้นจนจบเรื่องยังไม่รู้ตัวอีก” ขณะเอื้อนเอ่ย มือหนาของภีมวัจน์ก็กดปุ่มเล่นบนกล้องวิดีโอหรู ภาพและเสียงคมชัดระดับ HD   เสียงหวานกรี๊ดร้องลั่น พร้อมก่นด่าผู้ชายสารเลวตรงหน้าอย่างโกรธจัด ข้อมือน้อยประทุษร้ายกายหนาอย่างเหลือใจ  “กรี๊ดดด!! ไอ้สารเลว ไอ้ผู้ชายหน้าตัวเมีย ไอ้…” หญิงสาวเงียบเสียง เมื่อมือหนาเหมือนคีมหนีบรวบรัดข้อมือบางทั้งสองข้างเอาไว้ พลางโน้มใบหน้าคมเฉียดใกล้ จนสัมผัสลมหายใจร้อนระอุของกันและกัน “ไอ้อะไรต่อไปล่ะหืม…” ภีมวัจน์จงใจยั่วโมโหหญิงสาว แต่พอได้เข้าใกล้และจมูกสัมผัสกลิ่นหอมยวน กลับกลายเป็นเขาเสียเองที่อดใจเอาไว้ไม่อยู่ ปากหยักจุ๊บพวงแก้มใสซับสีเลือดอย่างมันเขี้ยว คนตัวเล็กถึงกับเบิกตากว้าง อ้าปากค้างด้วยความตกใจทั้งเขินอายระคนกัน “กะ แก ออกไปห่างๆ เลยนะ” สรรพนามที่คนตัวน้อยพรั่งพรูออกมา ทำให้คนฟังระคายหูจนอดปากไม่อยู่ “พูดเพราะๆ กับผัวคนนี้หน่อยสิคนสวย” ทอดสายตามองหญิงสาวด้วยความเจ้าเล่ห์ ปลายนิ้วแกร่งไล้ลูบโครงหน้าสวยอย่างจงใจแกล้ง  มุมปากหยักกระด้าง ขยับเอื้อนเอ่ยยวนโมโหอีกครั้ง “หรือว่าที่ทำเก่งอยู่นี่ อยากดังล่ะ หืม…” วิดีโอกดพักค้างไว้ เปลี่ยนมาเล่นเหมือนเดิม เสียงหอบกระเส่าดังชัดแจ่ม ทิชารีย์ถึงกับเนื้อเต้น ปากสั่นระริก ใบหน้างามแดงเถือกลามมาจนถึงใบหู ทั้งโกรธทั้งอับอาย น้ำตาเม็ดน้อยใหญ่ไหลล่วงลงมาอย่างอัปยศอดสูเกินบรรยาย “ผู้ชายสารเลว!” หญิงสาวก่นด่าอย่างเจ็บใจ แม้เธอจะสรรหาถ้อยคำจากนรกขุมใดมาด่าทอ ไอ้คนตรงหน้ามันก็ไม่รู้สึกรู้สา เพราะเขามันเลวเกินจะเรียกว่า ‘คน’ ด้านภีมวัจน์ที่โดนหญิงสาวต่อว่า ใบหน้าคมเปลี่ยนเป็นสีเข้มด้วยความโกรธกรุ่น กรามบึนบดเป็นสันนูนอย่างน่าหวาดกลัว “ฉันจะเลวกว่านี้ ถ้าผัวเธอมันยังไม่ยอมขายที่ดินให้ฉัน” เจ้าของเสียงตะคอกดังลั่นจ้องหน้าหญิงสาวอย่างเอาเรื่อง   ทิชารีย์อึ้งไปชั่วขณะ เขาจับเธอมาย่ำยีด้วยวิธีเลวบัดซบก็เพื่ออยากได้ที่ดินผืนนั้นน่ะเหรอ เลวสิ้นดี หน้าตัวเมียที่สุด หญิงสาวไม่คิดเลยว่าผู้ชายที่เพียบพร้อม และมีกรอบหน้าทางสังคมสวยหรูอย่างเขา จะกล้าทำเรื่องต่ำเรี่ยดินแบบนี้ คนเรามันรู้หน้าแต่ไม่รู้ใจจริงๆ   “ไอ้คน…” อ้าปากโต้ตอบไม่กี่พยางค์ต้องชะงักค้าง เสียงเข้มของคนตัวใหญ่ตวาดแทรกสวนด้วยความเดือดดาล ใบหน้าหล่อคมขึ้นสีด้วยความโมโหสุดกู่ “ไอ้อีอะไรอีกฮะ!! อย่าลืมว่าตอนนี้ฉันถือไพ่เหนือกว่า ฉันสั่งอะไรเธอต้องทำ ทำทุกอย่างตามที่ฉันมอบหมาย ตกลงไหม…” คำถามของเขาเป็นคำถามชนิดไม่ต้องการคำตอบ เพราะว่าเธอตอบอะไรไปมันก็ไม่มีผล ในเมื่อทุกอย่างเขาคือคนตัดสิน “ไม่!!” ทิชารีย์ปฏิเสธเสียงแข็ง ภีมวัฒน์ได้ยินแล้วต้องหน้าเข้ม ขึงตาคมใส่อย่างเอาเรื่อง  “ไม่ก็ดี ฉันจะได้เอาคลิปเอ็กซ์พวกนี้ลงยูทูป ลง…”  คนตัวโตแกล้งพูดให้หญิงสาวหวาดกลัว และก็ได้ผลเมื่อร่างบางนิ่งเงียบ ใบหน้างามซีดเผือด “โทรบอกผัวเธอซะ!! ว่าไปค้างที่บ้านเพื่อนสองคืน หรือจะบอกว่ามานอนกับฉันก็ได้ ดูสิ! ว่าผัวสุดที่รักของเธอมันจะว่าอย่างไร” ถ้อยวลีที่พรั่งพรูออกมาจากปากหยัก มันไม่ต่างจากน้ำกรดที่ราดรดหัวใจให้เป็นแผลเหวอะหวะ   “ไม่! ฉันไม่โทร ฉันจะกลับบ้าน” ทิชารีย์ปฏิเสธ “เธอได้กลับแน่ แต่หลังจากที่ฉันย่ำยีเธอจนหนำใจ …เร็ว! โทรบอกมันเดี๋ยวนี้” “ไม่!!” ใบหน้างามสะบัดพรืด ร่างหนาเข้าใกล้ใบหน้าหล่อเหลาอยู่ในระดับเดียวกับดวงหน้าสวยหวาน จมูกโด่งเกลี่ยพวงแก้มสีเรื่ออย่างหยอกเย้า ลมหายใจร้อนรวยรินไม่ไกลบริเวณกกหูผ่อง ปากหยักกระซิบกระซาบเสียงแหบพร่าแสนรัญจวนหัวใจ “จะโทรไม่โทร หือ…” ขยับร่างชิดใกล้ เนื้อกายที่เปลือยเปล่าทั้งสองเสียดสีกันอย่างวาบหวิว ขณะเดียวกันมือหนาก็ยกกล้องวิดีโอขึ้นโชว์ พร้อมข่มขู่หญิงสาวด้วยวิธีเจ้าเล่ห์ “หรือจะให้ฉันส่งวิดีโอเอ็กซ์ร้อนๆ ที่มีเธอเป็นนางเอกไปให้มันดูแทน หือ…” กดจมูกโด่งสันแนบพวงแก้มนุ่มหนักๆ เน้นๆ    “กะ ก็ได้” ในที่สุดหญิงสาวยอมจำนน ยื่นมือเรียวบางรับสมาร์ทโฟนจากคนตัวใหญ่ ก่อนจะเลื่อนทัชสกรีนหาชื่อของผู้ชายอีกคน โดยการกระทำทุกอย่างอยู่ในสายตาของคนเผด็จการอย่างภีมวัจน์ตลอดเวลา “หึๆ” นักธุรกิจหนุ่มกลั้วหัวเราะในลำคออย่างพอใจ เพราะอีกไม่นานเกินรอ เขาจะได้ครอบครองที่ดินผืนงามของไอ้ธนาวัฒน์ ในเมื่อตอนนี้เขาก็มีนายหน้าคนสำคัญ ซึ่งจะต้องทำทุกวิถีทางให้เจ้าพ่อหนุ่มยอมขายที่ดิน ครั้นเธอคิดตุกติกเขาก็มีเรื่องต่อลอง หึๆ… ทิชารีย์ต่อสายหาธนาวัฒน์ พร้อมพร่ำบอกตามที่คนใจร้ายสั่งทุกอย่าง ส่วนคนที่นั่งควบคุมอย่างภีมวัจน์ต้องหน้าหงิก เริ่มไม่พอใจกับหญิงสาว เมื่อแม่คุณพูดจากับปลายสายด้วยน้ำเสียงหวานเกินเหตุ คนตัวน้อยไม่ทันจะเอ่ยลา มือหนาชิงคว้าเครื่องมือสื่อสารมาไว้กับตน พร้อมกดตัดสายทิ้งอย่างไม่ไยดี เพราะเขาทนฟังบทสนทนาของทั้งสองคนต่อไปไม่ได้ ฟังแล้วมันเจ็บใจ! มือเรียวบางแย่งเอาเครื่องมือสื่อสารของตนคืน ทว่าไม่เป็นผลเมื่อคนแขนยาวเยื้อขึ้นจนสุด ขณะเดียวกันปากหยักก็พ่นคำสั่งอย่างเอาแต่ใจ เพราะตอนนี้คนถือไพ่เหนือกว่าคือ ‘เขา’ “วันนี้เธอต้องอาบน้ำและแต่งตัวให้ฉัน เพราะบ่ายสามโมงฉันจะเข้าบริษัท ส่วนอาหารมื้อนี้ขอเป็นกาแฟเพรียวๆหนึ่งแก้ว ส่วนเธออยากกินอะไรก็ทำเอง…หลังจากฉันออกไปทำงาน เธอก็ควรจะนอนอ้าขารอฉันอยู่ที่นี่ ห้ามออกไปไหน!! ถ้าฉันยังไม่อนุญาต อย่าลืมว่าในมือฉันมันมีอะไร” ชูเครื่องต่อรองชิ้นสำคัญให้หญิงสาวดู  “เดี๋ยวคืนนี้ฉันมาสานต่อบทรักร้อนๆ สักสองสามยก ถึงจะคืนโทรศัพท์ให้ …และต่อจากนี้ไป ถ้าฉันโทรหา เธอต้องรับ ฉันสั่งอะไร เธอต้องรีบทำ ฉันสั่งให้มา ต้องรีบมา ด่วน!! แล้วถ้าไม่ได้ดังใจฉันจะเอาหนังโป๊ที่เธอแสดง ไปเผยแพร่ในเว็บไซต์!” ประโยคสุดท้ายเน้นย้ำชัดเจน แต่ก็ไม่ได้ทำให้ทิชารีย์หวั่นเกรง   “ฝันไปเถอะ” ยักไหล่มนใส่คนตัวใหญ่ติดกันสองครั้ง ภีมวัจน์เห็นแล้วมันเขี้ยว แม่คุณคงคิดว่าเขาไม่กล้าทำอย่างที่พูดสินะ คิดผิดถนัด! นักธุรกิจในคราบซาตานกระตุกมุมปากหยักแสยะยิ้มดุร้าย   “ไม่ฝันคนสวย ถ้าเธอดื้อหรือตุกติก ฉันจะทำตามที่พูดจริงๆ… น่าสนทีเดียว ถ้าในอินเทอร์เน็ตมีวิดีโอเอ็กซ์ร้อนๆ ของเมียเจ้าพ่อสถานบันเทิง กำลังร่านสวาทนอนกับผู้ชายอื่นที่ไม่ใช่ผัว เสียงครางกระเส่าเร้าใจสุดๆ ถ้าพวกบ้ากามได้ชมละก็น้ำลายไหลยืด ยิ่งตอนที่เธอกำลังแหกขาแล้วฉันตอกไอ้นั่นเข้าไป อ๊า…ว่าแล้วชักอยาก ‘เอา’ อีกรอบ!” เขยิบกายเข้าใกล้จนแผงอกกว้างกระด้างสัมผัสดอกบัวตูมคู่แฝด ทิชารีย์ผละคนลามกใจร้ายปากจัดออกห่าง เสียงหวานกรีดร้องด้วยความโมโหระคนเอียงอาย “อ๊ายๆๆ หยุดพูดเดี๋ยวนี้นะไอ้ผู้ชายหน้าตัวเมีย!” “เธอว่าใครฮะ!!” ตะคอกเสียงห้วนกระด้าง ทว่าทิชารีย์ทำใจแข็งฮึดสู้ เพราะที่ผ่านมาเธอคงญาติดีกับเขาเกินไป คราวนี้สบโอกาสขอจัดคืนเสียหน่อย ถึงจะไม่มากแต่พอแสบคันก็ยังดี “โง่ถึงขนาดที่ไม่รู้ว่าฉันว่าคุณหรือไง!!” ตวัดสายตาคู่งามใส่อย่างสะใจ ภีมวัจน์เห็นแล้วถึงกับเข่นเขี้ยวบดกรามเป็นสันนูน อารมณ์ดุจเพลิงโลกันต์เตรียมจะระเบิด ยิ่งริมฝีปากกระจับเถียงฉอดๆ เขาล่ะอยากจับแม่คุณมาสั่งสอนให้เข็ดขยาดนัก “อวดเก่ง!!” ตะคอกใส่ด้วยอารมณ์เดือดดาล ทิชารีย์ไม่ยอมแพ้ เชิดหน้าโต้ตอบเขาด้วยความโมโหสุดขีด ก่นด่าคนตัวใหญ่สารพัด “คุณมันไม่เป็นสุภาพบุรุษ ไอ้ผู้ชายซาตาน ไอ้หน้าตัว…อุ๊บ” ไม่ทันสิ้นประโยค ปากหยักสีสดบดขยี้กลีบปากคนอวดเก่งอย่างสุดทน ฟันคมขบปลายลิ้นน้อยเป็นการสั่งสอน ให้รู้เสียบ้างว่าใครมันเหนือชั้นกว่า  ภีมวัจน์ระดมจูบหญิงสาวอย่างบ้าคลั่ง เรียวปากหยักบดขยี้เสียจนคนตัวน้อยน้ำตาไหล โพรงปากหวานแสบร้อนทั่วทั้งอณูเนื้อ เผื่อแผ่ความดิบเถื่อนมอบให้นานแสนนาน นานเสียจนจะขาดใจ ถ้าเขาไม่ยอมถอนกลีบปากออกในวินาทีสุดท้าย “ถ้าอยากก็อดไว้ เดี๋ยวคืนนี้ฉันมาสานต่อ แต่ตอนนี้ไม่มีเวลา ฉันต้องรีบเข้าบริษัท” น้ำเสียงกระด้างตวาดคำเราะร้ายแทงใจดำคนตัวบางที่นั่งหายใจหอบแฮกๆ หญิงสาวเงียบปากไม่โต้ตอบ และไม่แม้แต่จะปรายหางตามองหน้าคนเลวทราม ปากสุนัขอย่างเขา “…” ภีมวัจน์เห็นหญิงสาวเงียบ ก็อดปากค่อนแขวะไม่ไหว “อยากมากจนปากไม่ออกเลยนะ ยัยร่าน…”  เชยดวงหน้ามนขึ้นมาสบตาอย่างดูแคลน ทิชารีย์ถึงกับโกรธกรุ่น หญิงสาวเข่นเขี้ยวด้วยความโมโห ขณะเดียวกันกลีบปากบางที่สั่นระริกก็ตวาดกลับอย่างไม่ยอมแพ้ “มันเรื่องของฉัน อย่ามายุ่ง!!” สายตาคู่งามตวัดใส่อย่างขุ่นเคือง ภีมวัจน์ไม่ยอมหยุด เล่นลิ้นกับแม่คุณเสียหน่อย เอาให้พอหายเหงาปาก หลังจากที่ต้องห่างไปหลายชั่วโมง “ไม่ยุ่งเรื่องของ ‘เมียบำเรอ’ คนนี้ แล้วจะให้ไปยุ่งเรื่องของใครละ หืม…” เจ้าของเสียงแหบกระเส่าลากปลายจมูกโด่งคม กดเน้นสูดดมความหอมกรุ่นบริเวณพวงแก้มสุกปลั่ง “อะ ไอ้คนหน้าด้าน…” ตวาดแว้ดพร้อมยกมือน้อยผลักหน้าเขาให้ออกห่าง ภีมวัจน์เห็นอาการของหญิงสาวแล้วเริ่มฉุน ‘คนดื้อ อวดดี’ ชายหนุ่มเลื่อนหน้าประจันสายตากับคนอวดเก่ง ปากหยักสวนกระแทกถ้อยคำชนิดเจ็บจุก จนทิชารีย์ต้องอึ้งค้าง หลายวินาที เธอนึกไม่ถึงว่าผู้ชายที่ตนเคยมอบหัวใจให้เมื่อหลายปีก่อน จะปากจัดจ้านถึงพริกพริกขิงเพียงนี้   “ถ้าฉันหน้าด้าน เธอมันก็หน้าด้านกว่าฉันสินะ มีผัวเป็นตัวเป็นตน แต่ก็ยอมอ้าขาให้ฉันเอาจนติดอกติดใจ เธอมันวันทองหรือกากีดีล่ะฮึ!!” เอ่ยถามทั้งๆ ที่รู้ดีแก่ใจ ว่าทำไมหญิงสาวถึงยอมให้เอาเปรียบ ทิชารีย์โกรธและเกลียดผู้ชายใจร้ายตรงหน้าจนร่างกายสั่นเทิ้ม ถ้อยคำผรุสวาทที่พรั่งพรูออกมาจากปากหยัก ทำเอาหญิงสาวสุดทน ฝ่ามือเรียวเล็กตวัดใส่เสี้ยวหน้าคมสุดแรง เผียะ!! ภีมวัจน์หน้าหัน แก้มสากซีกซ้ายชาวาบ ข้างในโพรงปากคาวเลือด จนเจ้าตัวต้องใช้ลิ้นหนาดุนกระพุ้งแก้ม พร้อมหันหน้ากลับมามองเจ้าของฝ่ามือพิฆาต  มุมปากหยักกระตุกอย่างดุร้าย ทิชารีย์เห็นแล้วถึงกับลอบกลืนน้ำลายลงคอดังเอื้อก! ดวงตาคู่งามพร่าเลือนไปด้วยหยาดน้ำตา ที่ไหลออกมาราวทำนบกลั้นน้ำแตก มือหนาตะปบเข้าที่แขนเรียวบาง พร้อมฉุดกระชากให้หญิงสาวลุกจากเตียงกว้าง ทิชารีย์ถึงกับหน้าเบ้ด้วยความเจ็บปวด เสียงหวานตวาดแว้ดๆ   “ปล่อยนะ ปล่อยแขนฉัน ปล่อย!!”     “ปล่อยให้โง่ล่ะสิ! มาอาบน้ำให้ฉัน จากนั้นจะได้ทำอาหารให้ฉันกิน…” สิ้นคำห้วน กระชากลากหญิงสาวลงจากเตียงด้วยความป่าเถื่อน ทิชารีย์ร้องโอดโอย เมื่อความเจ็บจี๊ดบริเวณกลางกายสาววิ่งพล่านขึ้นมาจนถึงท้องน้อย “โอ้ยยย!!!” มือเรียวบางเลื่อนกุมท้องน้อย ขณะเดียวกันท่อนขาเรียวก็พลันอ่อนเพลียเปลี้ยแรง จนเจ้าตัวไม่อยากขยับเขยื้อน ภีมวัจน์เห็นเช่นนั้นไม่รอช้า ตวัดท่อนแขนแข็งแกร่งโอบอุ้มร่างบอบบางแนบอกกว้างกระด้าง สืบเท้าตรงดิ่งเข้าไปข้างในห้องน้ำอย่างเร่งด่วน กว่างานทุกอย่างจะเสร็จสิ้น ทำเอาสาวน้อยคนสวยเสียเหงื่อไปหลายปี๊บ เพราะคนเจ้าเล่ห์เล่นปะทะสงครามน้ำลายกับเธอไม่ยอมหยุด หนำซ้ำยังหยอกเย้าก่อกวนคนหน้างอเหมือนม้าหมากรุกทุกพร่ำเวลาที่ได้ชิดใกล้ ถึงปากจะบอกรังเกียจสุดจะทน แต่ยังสาละวนกับเรือนร่างโสภาไม่ห่าง และก่อนจะออกจากห้อง ภีมวัจน์ไม่ลืมเอากล้องวิดีโอและโทรศัพท์มือถือของหญิงสาวติดมือไปด้วย เพราะเขาต้องการให้คนอวดเก่งตัดขาดจากโลกภายนอก  ด้านทิชารีย์รู้สึกว่าตนเองปลอดภัยและหายใจได้เต็มอิ่ม เมื่อตอนที่ผู้ชายปากสุนัขออกไปทำงาน หลังจากนั้นหญิงสาวหลุบหายเข้าห้องน้ำอีกครั้ง เพราะเธอตั้งใจจะไปแช่น้ำอุ่นในอ่างจากุชชี่ขนาดใหญ่ พร้อมขัดถูเรือนร่างบอบช้ำไปด้วย เพราะตามเนื้อตัวโดนคนใจร้ายฝากฝังร่องรอยราคีเอาไว้อย่างอัปยศอดสู หยดน้ำใสอุ่นร้อนไหลซึมออกมาตามหางตาอย่างน่าสงสาร ความเมื่อยล้าผสานกับกลิ่นหอมอ่อนของครีมที่ผสมลงในอ่างอาบน้ำ ทำให้คนตัวน้อยเคลิบเคลิ้ม แนบเปลือกตาบางบนล่างปิดกันเบาๆ ก่อนจะผล็อยหลับไปโดยไม่รู้ตัว …
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม