เหมยหลิงหลับไปจนถึงรุ่งเช้า ตื่นขึ้นมาไม่เจอคุณชายตงซิงหยวนก็รู้สึกโมโหยิ่งนัก บุรุษคนนี้ไร้คุณธรรมเกินไปแล้ว
แต่เมื่อเห็นข้อความที่ทิ้งไว้ นางยิ่งรู้สึกไม่พอใจคิดว่าอย่างไรตนก็คงจะรออยู่ตรงนี้กระมัง เมื่อใคร่ครวญเป็นเช่นดีก็ดีแล้ว ลดความยุ่งยากมากทีเดียว
คิดถึงคุณหนูตอนนี้น่าจะกลับถึงเรือนเรียบร้อยแล้ว ส่วนนางก็ทำหน้าที่แทนเป็นที่เรียบร้อยเช่นเดียวกัน
พอรักษาชีวิตไปได้อีกหลายตอน
เรื่องเมื่อคืนก็คงให้มันผ่านไป สำหรับเหมยหลิงที่เป็นสาวจากยุคปัจจุบันให้ความสำคัญกับชีวิตกว่าความบริสุทธิ์ยิ่งนัก เมื่อตัดสินใจแล้วก็ต้องยอมรับมัน
โชคดีที่เผ่าพันธุ์จิ้งจอก สามารถควบคุมการตั้งครรภ์ตัวเองได้
และยังปรับร่างกายตัวเองให้เป็นสาวบริสุทธิ์ได้ตลอดด้วย //ปลื้มมากข้อนี้
แน่นอนเรื่องราวพวกนี้นางรู้หมดจากนิยายที่อ่านอย่างไรเล่า นางรีบลุกขึ้นแต่งตัว กลับจวนตระกูลหลี่
ไม่คิดจะฝากข้อความใดๆ ไว้ให้ตงซิงหยวนแม้แต่น้อย
เพราะคาดว่าด้วยนิสัยของตงซิงหยวนเมื่อกลับมาไม่เจอตัวเองก็คงจะเลิกรา
แค่หญิงสาวหนึ่งคนสำหรับตงซิงหยวนคงปล่อยเรื่องราวให้ผ่านไปไม่นำมาใส่ใจแน่นอน
“คุณหนู พี่เหมยหลิงกลับมาแล้วค่ะ”
เหมยรุ๋ยเข้าไปแจ้งต่อหลี่จือหยา เมื่อคืนหลังจากที่แยกกันไม่รู้ว่าเหมยหลิงหายไปที่ใด
“บ่าวคาราวะคุณหนูเจ้าค่ะ”
“พี่เหมยหลิงเมื่อคืนพี่หายไปที่ใดเล่า ข้ากับเหมยรุ๋ยตกใจแทบแย่”
สำหรับพี่เหมยหลิงไม่ใช่แค่สาวใช้สำหรับหลี่จือหยา แต่เป็นพี่สาวที่เติบโตมาด้วยกันความรักความห่วงใยมีมากกว่าสาวใช้ทั่วไปนัก เมื่อคืนที่เหมยหลิงหายไปหลี่จือหยากังวลใจยิ่ง เมื่อเห็นว่ากลับมาอย่างปลอดภัยก็รู้สึกปลอดโปร่งขึ้น
"บ่าวผิดไปแล้ว ทำให้คุณหนูกังวลใจเพราะบ่าว เมื่อคืนบ่าววิ่งไปหอชิงหยวน เกิดอาการหน้ามืดเป็นลมไป โชคดีมีคนช่วยเหลือพาเข้าไปพักในหอชิงหยวน บ่าวรู้สึกตัวอีกทีก็เช้าแล้ว แม้กระทั่งผู้มีพระคุณบ่าวก็ไม่รู้ว่าใคร "
พอได้ยินว่าเหมยหลิงไม่สบาย หลี่จือหยาก็รีบเอ่ยถามทันที
“ต้องให้หมอตรวจหน่อยหรือไม่"
“ขอบพระคุณคุณหนู บ่าวขอแค่นอนพักก็พอแล้วเจ้าค่ะ"
"ถ้าเช่นนั้นพี่เหมยหลิง พี่ไปพักผ่อนก่อนเถิด ถ้าไม่ดีขึ้นพี่อย่าเกรงใจ จงมาบอกกล่าวแกข้า”
"บ่าวขอบคุณคุณหนู เช่นนั้นบ่าวขอตัวก่อน” สำหรับเหมยหลิงตอนนี้ตัวเองขอพักผ่อนก่อน
สาวใช้อื่นๆ คิดว่าแม้เหมยหลิงจะเป็นสาวใช้คนโปรดอย่างน้อยต้องโดนตำหนิสักคำสองคำ
ไม่เพียงเท่านั้นยังบอกให้ไปพักผ่อนอีกด้วย
ไม่ใช่เหมยหลิงคิดว่าตัวเองเป็นคุณหนูของจวนไปแล้วกระมัง
การหายไปทั้งคืนของสาวใช้ ไม่ใช่เรื่องที่น่าตกใจอะไร
แต่ถ้าเปลี่ยนเป็นคุณหนูในห้องหอผู้สูงศักดิ์
การนอนพักแรมนอกจวนเป็นเรื่องที่เสื่อมเสียเกียรติอย่างยิ่ง
เมื่อจัดการธุระเสร็จเรียบร้อย ตงซิงหยวนก็รีบกลับมาหาเหมยหลิงเขาคิดถึงความรัณจวณเมื่อคืนจนเกิดอาการหนึบๆ แล้ว
แต่เขาก็ต้องผิดหวังไม่เพียงแต่ไม่เจอหญิงสาวรอเขาอยู่ แม้กระทั่งร่องรอยของหญิงสาวก็หาไม่เจอเช่นเดียวกัน
“อู่เป่า”
ตงซิงหยวนเรียกองค์รักษ์เงาออกมาสั่งการ
“สืบหาแม่นางคนเมื่อคืน ข้าต้องการรู้เรื่องราวทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับนาง”
“ขอรับ”
อู่เป่ารับคำ รีบตามหาหญิงสาวทันที
ในขณะที่อู่เป่า สืบหาเหมยหลิงไปทั่วเมืองฟูฟง ไม่ทราบด้วยเหตุใด
สืบอย่างไรก็ไร้ซึ่งเงาของหญิงสาวผู้นั้น
ตงซิหยวนผู้ไม่เคยใส่ใจกับสตรีผู้ใด
ช่วงเวลา 2-3 วันมานี้ กลับมีบางเวลาเหม่อลอยคิด
นางจะเป็นคนหรือปีศาจจิ้งจอกกันแน่
จะปีศาจก็ดี คนก็ช่าง แต่ได้เขาแล้วจะทิ้งเขาแบบนี้ไม่ได้
ต่างกลับเหมยหลิงนอนหลับไร้กังวล ไม่รู้เรื่องราวใดๆ เลย
หลับไปจนกระทั่งยามเซิน (เวลาประมาณ 15.00-17.00)
จึงรู้สึกตัวขึ้น
เมื่อได้พักผ่อนเรียบร้อยเหมยหลิงย่อมต้องคิดแผนการต่อไป
ตอนนี้สามารถรักษาชีวิตตัวเองและเกียรติของคุณหนูไว้ได้แล้ว
แต่ตราบใดที่คุณหนูยังไม่ถอนหมั้นหรือแต่งเข้าจวนตระกูลเซียว ยังไม่สามารถไว้วางใจได้
สิ่งแรกที่ต้องทำ ต้องรักษาพิษในร่างกายของคุณหนูที่ได้รับมาตั้งแต่กำเนิดเสียก่อน
เพื่อที่คุณหนูจะต้องเร่งฝึกพลังลมปราณ เมื่อมีพลังลมปราณฐานะในจวนของคุณหนูย่อมมั่นคงขึ้น นายท่านจะได้ให้ความสำคัญ ฮูหยินหลี่จะทำอะไรย่อมระวังมากกว่าเดิม
แน่นอนสำหรับบ่าว คุณหนูรุ่งโรจน์บ่าวย่อมรุ่งโรจน์เช่นกัน ตายก็ย่อมตายด้วยกัน
เพื่อให้เรื่องราวจัดการได้ง่ายขึ้น จักต้องบอกเล่าเรื่องราวที่แท้จริงให้คุณหนูฟังเสียก่อน
“คุณหนู บ่าวมีเรื่องรายงานเจ้าคะ”
เหมยหลิงรู้ว่าเหมยรุ๋ย เป็นคนของฮูหยินหลี่เรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้ ให้ฮูหยินหลี่รู้เรื่องไม่ได้เด็ดขาด ไม่เช่นนั้นนางได้เป็นถ้วยยาเคลื่อนที่ของผู้มีอำนาจแน่นอน
เมื่อเห็นท่าทีของเหมยหลิง หลี่จือหยาหรือจะไม่เข้าใจ
“พวกเจ้าออกไปก่อน”
เมื่อทุกคนถอยออกไปหมดแล้ว เหมยหลิงก็ขยับกายเข้ามาคุกเข่าใกล้คุณหนู
“คุณหนูจริงๆ แล้วบ่าวเป็นคนเผาพันธ์ุจิ้งจอกเก้าหาง”
เหมยหลิงเว้นจังหวะ เพื่อให้คุณหนูได้มีเวลาไตร่ตรองสักหน่อย
“เมื่อคืนบ่าวเจอ คนตระกูลเดียวกัน จึงได้รู้เรื่องราวของตัวเอง บ่าวรู้ว่าเลือดของจิ้งจอกสามารถรักษาพิษได้ทุกชนิด พอรู้เรื่องนี้บ่าวก็คิดถึงคุณหนูทันที คุณหนูของบ่าวต้องทุกข์ทนทรมานกับการฝึกลมปราณที่ไม่ได้ผล ถ้าคุณหนูได้ดื่มเลือดของบ่าวพิษจะโดนขับออกจนหมดสิ้น และจะสามารถฝึกพลังลมปราณได้เจ้าคะ”
เหมยหลิงพยายามเล่าให้กระชับมากที่สุดในฐานะบ่าวจะพูดมากความไม่ได้
"พี่เหมยหลิงกำลังบอกว่าข้าว่า ... ข้าจะสามารถฝึกพลังลงปราณได้หรือ"
หลี่จือหยา ไม่คาดคิดจะได้ยินเรื่องราวที่คาดไม่ถึงเพียงนี้
"แต่หลังพิษในร่างกายโดนขับออกหมดแล้ว บ่าวขอร้องให้คุณหนูเก็บเรื่องนี้เป็นความลับ ให้คนเข้าใจว่าคุณหนูเริ่มฝึกปราณได้เองจากการฝึกฝน"
หลังตกตะลึงก็ซาบซึ้งเหมยหลิงเป็นอย่างมาก ขอแค่นางยังอยู่เหมยหลิงจะไม่มีวันลำบากแน่นอน เรื่องที่ควรรับปากย่อมรับปากแน่นอน
“ขอบคุณพี่เหมยหลิง ความหวังดีของท่านข้าเข้าใจ ข้าจะเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ”
เหลยหลิงรีบกรีดเลือดใส่จอกชาทันที แล้วยื่นจอกชาให้หลี่จือหยาอย่างนอบน้อม
ในขณะที่หลี่จืดหยากำลังจะดื่มเลือดจอกนั้น มือก็อดสั่นไหวไม่ได้ พี่เหมยหลิงบอกว่า
หลังจากกินเลือดจอกนี้แล้วนางจะสามารถฝึกลมปราณได้
นางจะไม่ใช่หญิงไร้ค่าแล้ว
นางสามารถฝึกฝนตนเองให้โดดเด่นแล้วใช่หรือไม่
นางกำลังจะเหมาะสมกับพี่เซียวหลีหยวน
สิ่งเหล่านี้แม้แต่ฝันนางก็ไม่เคยคิดว่าวันนี้จะมีจริง
นางเริ่มหวาดกลัว กลัวว่านี้เป็นเพียงจินตนาการที่ตัวเองสร้างขึ้นมา
นางหันไปหาเหมยหลิงเพื่อขอคำยืนยันอีกครั้ง
เหมยหลิงพยักหน้ายืนยันพร้อมกล่าวให้กำลัง
“บ่าวจะอยู่คอยรับใช้ท่านอยู่ตรงนี้”
เหมยหลิงพอได้มาหลี่จือหยาตัวจริง ก็อดสงสารไม่ได้
แม่นางคนนี้โชคซะตาเล่นตลกนัก ทั้งที่เกิดมาในตระกูลสูงศักดิ์ มีจิตใจที่งดงาม ชีวิตควรมีแต่ความสวยงามจึงจะถูก แต่นี้กลับตรงกันข้าม ชีวิตในแต่ละวันกลับหาความสุขไม่ได้เลย
หลังจากดื่มเลือดเข้าไป หลี่จือหยา รู้สึกร่างกายเกิดอาการร้อนวูบวาบ ใบหน้า ลำคอ หน้าอกมีรอยแดงเป็นเส้นๆ เหงื่อในกายเริ่มไหลออกมา ร่างกายค่อยๆ ขับพิษออก เมื่อพิษโดนขับออกจนหมดสิ้น ผ่านไปสักระยะร่างกายหลี่จือหยาจึงเริ่มเย็นลง เหมยหลิงเตรียมน้ำให้หลี่จือหยาชำระร่างกาย หลังเช็ดตัวแห้ง
หลี่จือหยารู้สึกสบายตัวไม่ทันได้เอ่ยวาจานางก็หลับไป