เมื่อคิดว่าจะถูกโบยจนตาย เหมยหลิงก็รีบเสนอคุณหนูทันที
“คุณหนูเจ้าคะ ให้บ่าววิ่งไปจองที่ ที่หอชิงหยวนก่อนดีไหม เจ้าคะ”
เหมยหลิงรีบเสนอตัวไปดูสถานการณ์ก่อนเพื่อคุณหนูจะไม่ได้รีบเดิน โอกาสที่จะคลาดกับคุณชายตงย่อมมีมาก
“ดีเหมือนกัน เราจะได้ไม่ต้องรีบ รบกวนพี่เหมยหลิงแล้ว”
“บ่าวยินดีรับใช้คุณหนูเจ้าคะ”
พอได้รับคำอนุญาตจากคุณหนู เหมยหลิงก็รีบวิ่งไปที่หอชิงหยวนทันที
ตงซิงหยวนวันนี้ออกมาดื่มสังสรรค์กับคุณชายต่างๆ เหมือนเคย
เขามองเห็นสาวงามคนหนึ่งกำลังวิ่งเข้ามา เพียงภาพเหงื่อไหลออกตามซอกคอเล็กน้อยผสมกับกลิ่นตัวของจิ้งจอกสาว ก็ทำให้บุรุษเกิดความร้อนรุ่มตรงท้องน้อย เห็นๆ อยู่ว่าเป็นมนุษย์คนหนึ่ง แต่ทำไมมีท่าทางยั่วยวนขนาดนี้
ตงซิงหยวนขยับเดินเข้าไปใกล้เหมยหลิง เมื่อเห็นใบหน้าบุรุษกำลังเดินเข้ามา
ในนิยายที่บรรยายบุรุษที่ได้ชื่อว่ามีความงาม รูปร่างหน้าตาที่ช่างสมบูรณ์แบบ ย่อมเป็นใครไม่ได้
เหมยหลิงมั่นใจว่าบุรุษคนนี้คือ ตงซิงหยวน
ถ้าสามารถหลอกให้คุณชายไปที่อื่นได้ ย่อมเป็นเรื่องดี
เหมยหลิงเริ่มคิดแผนในใจ
“แม่นางไม่ทราบว่า จะให้เกียรติข้าชมเรือไฟด้วยกันได้หรือไม่”
แม้จะเป็นหนุ่มเจ้าสำราญตงซิงหยวนก็ไม่ผู้ชายหยาบกระด้างฉุดคราวหญิงสาวที่ไม่เต็มใจ
เมื่อได้ยินคำกล่าวนั้นประจวบกับเหมยหลิงมีแผนการในใจ
ไม่ได้คิดให้มากความเหมยหลิงรีบตอบรับทันที
“เจ้าค่ะ” ตงซิงหยวนยิ้มหวานพอใจ ยืนมือเชื้อเชิญเหมยหลิงไปที่ห้องพักรับรองทันที
ตงซิงยิ้มพรายพอใจ ในเมื่อหญิงสาวตามเขามาย่อมยินยอมพร้อมใจเป็นแน่
ส่วนเรือนเขาย่อมพร้อมรับอนุเพิ่มทุกวันอยู่แล้ว
เขาก็เอือมมือกุมมือของเหมยหลิงทันที
เหมยหลิงกำลังจะเอ่ยปากปฏิเสธและห้ามไม้ห้ามมือของคุณชายตง
แต่ในใจก็คิดถ้าคุณหนูมาเจอกับคุณชายตงซิงหยวนตอนนี้จะแย่กว่าเดิมมาก เลยได้แต่ปล่อยไปก่อน
เมื่อประตูห้องปิดลง ตงหยวนเลยรวบตัวเหมยหลิงเข้าสู่อ้อมกอดทันที เขาอดทนแทบจะไม่ไหวแล้ว กลิ่นกายของหญิงสาวรัณจวณเหลือเกิน
เหมยหลิงรู้สึกร่างกายแข็งค้างไปชั่วขณะ เธอไม่คิดว่าคุณชายตงจะรุกรวดเร็วขนาดนี้ ในชีวิตจริงนางยังไม่เคยมีประสบการณ์เลย
ตงซิงหยวนซุกไซร์ เขาใช้ปากเลียเหงื่อที่ไหลตามซอกคอเรียวหงส์ของหญิงสาว
ลมหายใจรดที่ต้นคอของนาง ผสมกลิ่นสุราของตงซิงหยวนทำให้เหมยหลิงที่กำลังตกตะลึงที่เริ่มมึนงง
ร่างกายเริ่มสั่นสะท้าน พอรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไปก็ทำให้จิตใจเริ่มหวาดกลัว หัวใจเต้นระรัว
ไม่ทันได้คิดเรื่องราว คุณชายตงใช้มือสอดลูบไล่เนินทรวงอกบีบเค้นเบาๆ พลางละเลียดลิ้มรสปากของเหมยหลิง เหมยหลิงร่างกายเริ่มอ่อนระทวย
รสจูบของคุณชายตงมีหรือหญิงบริสุทธิ์อย่างเหมยหลิงจะต้านได้
ตอนนี้นางไร้เรียวแรงต่อสู้แล้ว ได้แต่ปล่อยตามใจและร่างกายของตัวเอง
เสื้อผ้าของนางถูกถอดออกจนหมดสิ้น ภาพดอกบัวคู่งาม เรือนร่าง ยั่วยวนทำให้ตงซิงหยวนแทบคลั่ง
ข้างกายเขาไม่เคยขาดหญิงสาว
แต่หญิงสาวที่มีกลิ่นกายมีเสน่ห์ที่หอมรันจวนทำให้ตื่นเต้นแบบนี้เขาพึ่งเคยเจอ
งดงามหยาดเยิ้ม รูปร่างเอิบอิ่ม สมส่วน จุดโค้ง จุดนูนเด่นชัดเจน เขาค่อยๆ แยกขาหญิงสาวออก
เขามองเห็นจุดนั้นชัดเจน นูนพร้อมกลีบกุหลาบเนื้ออ่อนนุ่มมีน้ำไหลหยาดเยิ้ม
ตงซิงหยวนค่อยๆ สอดมือเข้าไปในร่างกายหญิงสาว
ไม่น่าเชื่อนางจะยังบริสุทธิ์รอดพ้นผู้มีอำนาจมาได้
ความรู้สึกภูมิใจเกิดขึ้นมาและเริ่มมีความอยากเป็นเจ้าของ
พอมีความคิดเช่นนั้น ตงซิงหยวนก็อ่อนโยนกับเหมยหลิงมากขึ้นไม่เร่งรีบเกินไป
เขาใช้นิ้วถอดเข้าถอดออกจนมือของเขาแฉะไปหมด กลิ่นกายสาวแรกแย้มเร่งเปลวไฟในกายบุรุษให้ลุกโชติ
ตงซิงหยวนอดทนไม่ไหวแล้ว จึงค่อยๆ แทรกตัวเข้าไปในช่องที่ชุมฉ่ำ
เหมยหลิงกระตุกรับทันที ไม่ได้มีความรู้สึกเจ็บมากมายแต่กลับเสียวซ่านหยุบหนับเกินจะทน
“อา……”
เหมยหลิงเปล่งเสียงครางเกร็งส่ายบิดตัวไปมาทำให้ ยิ่งทำให้จุดนั้นยิ่งบีบรัดตัวแน่น ตงซิงหยวนสั่นสะท้าน มันทั้งชื้นทั้งนุ่มแน่นเหลือเกิน
เขาแช่กายอยู่สักพักเพื่อรอคอยหญิงสาวปรับตัว เขาค่อยๆ แทรกความเป็นชายเข้าไปจนส่วนปลายของเขาเข้าสู่ส่วนลึกที่สุด
“อ่า…ซี๊ด …แม่นางเจ้าช่างทำให้ข้าแทบคลั่ง”
ความแน่นหนึบแต่การตอดรัดของช่องรัก ทำให้ตงซิงหยวนเอ่ยเสียงครางๆ
น้ำรักเปียกชื้นรู้สึกถึงความนุ่มลื่น ตงซิงหยวนจึงค่อยขยับร่างกายเนิบๆ ช้าๆ แม้จังหวะไม่ต้องเร่งเร้าตงซิงหยวนก็เสียวซ่านไปทั้งตัว
ตงซิงหยวนละเมียดลิ้นไปทั่วกายของเหมยหลิง ร่างกายเริ่มประสานประสาท ชายหนุ่มก็เร่งจังหวะขยับเอวกระแทกเข้าออกเร็วรัวๆ นับไม่ถ้วน เมื่อเริ่มเห็นแสงสว่างร่ำไร ความเร็วยิ่งระรัวโหมดั่งพายุบ้าคลั่ง
เหมยหลิงจิตใจล่องลอยสุขสม นางจึงกระดกสะโพกตอบรับแรงกระแทกสอดคล้องกับตงซิงหยวนเป็นจังหวะ และเปล่งเสียงคราณพึงพอใจกับการปรนนิบัติของตงซิงหยวน
“อา...”
ตาของตงซิงหยวนมองดูเรือนร่างของนางเหมยหลิงเขยื้อนไปตามจังหวะของเขา ช่างเป็นภาพที่ดูยั่วยวนเป็นอย่างมาก
ด้วยเหมยหลิงไม่ใช่หญิงสาวยุคโบราณด้วยแล้ว ร่างกายของจิ้งจอกสาวจึงตอบรับทุกท่วงท่าของตงซิงหยวน สำหรับเหมยหลิงคล้ายว่านางกำลังโบยบินอย่างไรอย่างนั้น ทั้งคู่โหมรันกันไม่หยุด ไม่รู้ว่าสงครามเริ่มและหยุดไปกี่ครั้ง
องค์รักษ์ของตงซิงหยวนใช้กำลังภายในกักเก็บเสียงข้างในซึ่งเป็นหน้าที่ปกติที่ทำประจำอยู่แล้ว
แม้เสียงข้างในห้องจะกังวานไปด้วยเสียงครางของทั้งคู่
แต่ข้างนอกกลับเงียบสงบยิ่งนัก
เมื่อเสียงข้างในสงบลง องค์รักษ์จึงได้ส่งเสียงผ่านกำลังภายในให้เพียงคุณชายที่ได้ยิน
“คุณชายมีเรื่องด่วนขอรับ” ตงซิงหยวนตื่นตัวทันที
“ว่ามา”
พอองค์รักษ์รายงานเรื่องราวก็ทำให้
ตงซิงหยวนรีบแต่งตัว เขียนจดหมายทิ้งไว้ให้หญิงสาวสั้นๆ ก่อนจากไปทันที
รอข้ากลับมา
เขามั่นใจอย่างยิ่ง หญิงสาวผู้นี้เมื่อเป็นคนของเขาแล้วย่อมไม่หนีหายไปไหนแน่นอน