โรงพยาบาลแพทย์รังสี
"ผมตกลงแต่งงานกับหลานสาวของคุณป้าก็ได้ครับ..แต่ผมขออะไรอย่างนึงได้ไหมครับ?"
"อะไรหรอคะ..?"
"อย่าพึ่งบอกกับเธอว่าผมเป็นใคร ผมอยากให้เธอเห็นหน้าของผมในวันเข้าพิธีแต่งงานเลยทีเดียวได้ไหมครับ..?"
"ได้ค่ะ.."
"ขอบคุณครับ.."
...
วันแต่งงานของบ่าวสาว
2 เดือนผ่านไป
"ฉันตื่นเต้นแทนแกจริงๆเลยยัยจี๊ดที่วันนี้ก็มาถึง วันที่แกจะได้แต่งงานและได้เป็นเจ้าสาวจริงๆ"
"ตื่นเต้นซิเพราะฉันเนี่ยโคตรลุ้นเลยว่าหน้าตาสามีฉันจะเป็นยังไง หวังว่าคงมีหูตาจมูกปากครบนะ"
"ป้าจวนของแกคงไม่เลือกผู้ชายหน้าตาขี้ริ้วขี้เหร่ มาให้เป็นสามีของหลานสาวสุดที่รักอย่างแกหรอกนะ
"ฉันก็หวังว่าแบบนั้นนะ.."
"ปะ..ออกไปต้อนรับแขกหน้างงานกัน ป่านนี้ป้าแกและก็ทุกคนรอกันครบหมดแล้วมั้ง.."
"อื้ม.."
เธอลุกขึ้นยืนเดินตามแป้งออกไปจากห้องแต่งตัวด้วยชุดเจ้าสาวสีขาวที่ดูสวยงาม สีหน้าเธอบ่งบอกถึงความกังวลเพราะลุ้นว่าหน้าตาสามีของเธอจะเป็นยังไง และเมื่อเธอเดินมาถึงหน้างานก็เห็นผู้ชายที่ใส่ชุดสูทสีขาวยืนต้อนรับแขกกับพ่อแม่ของเขาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
"นั่นมันคุณหมออัศนัยนี่..?"
"..."
"อย่าบอกนะว่าเจ้าบ่าวของแกคือ หมออัศนัยหรอเนี่ย..?"
เธอยืนอึ้งตาค้างขึ้นมาทันทีที่ได้รู้ว่าคนที่จะมาเป็นสามีของเธอคือหมออัศนัยนั่นเอง
"ทำไมอยู่ดีๆถึงเป็นหมออัศนัยไปได้..นี่มันเกิดอะไรขึ้นวะแก..?"
"ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงเป็นเขา.."
เธอยืนสีหน้าเครียดขึ้นมาทันทีเพราะคนที่เธอแต่งงานด้วย ดันเป็นคนที่เธอไม่ชอบขี้หน้าและเธอก็รู้ดีว่าเขาเองก็ไม่ค่อยชอบหน้าเธอนัก แต่ทำไมเขาถึงยอมมาแต่งงานกับเธอง่ายๆแบบนี้
"ยัยจี๊ดมาแล้วหรอลูก มายืนข้างๆพี่เขานี่มา"
เขาหันมามองหน้าเธอด้วยความตะลึงในความสวยของเธอ ปกติเธอก็เป็นคนสวยอยู่แล้ว ก็ไม่คิดว่าวันนี้เธอออยู่ในชุดนี้จะสวยมากขึ้นกว่าเดิมเป็นสิบเท่า
ป้าจวนจิตรเดินยิ้มเข้าไปจูงมือหลานสาวสุดที่รักมายืนที่หน้างานคู่กับหมออัศนัย
"นี่พ่อและแม่ของคุณหมอลูกไหว้พวกท่านซะซิ.."
เธอยกมือไหว้พ่อและแม่ของเขา แต่แม่ของเขากลับหันหน้าหนีทำเป็นไม่สนใจเพราะเธอไม่ชอบใจนักที่ได้เธอเข้ามาเป็นลูกสะใภ้จนเธอรู้สึกได้
"สวัสดีพี่เขาด้วยซิ.."
"หวัดดี.."
เธอหันมายกมืไหว้เขาลวกๆจนเขามองด้วยใบหน้านิ่งๆ
"เป็นไงละอึ้งไปเลยใช่ไหมที่ได้รู้ว่าสามีของตัวเองเป็นถึงคุณหมอนะ..เรา 2 คนเคยเจอกันแล้วไงที่โรงพยาบาลนะจี๊ดจำได้ไหม..?"
"ค่ะ..จำได้แม่นเลยละคะคนหน้าตาแบบนี้ ถึงหน้าของเขาจะโหลก็เหอะ.."
เธอหันหน้าหนีเขาแล้วมองไปอีกทางขยับออกห่างมาจากตัวเขา จนเขาหมั่นไส้นึกอยากแกล้ง
"จะขยับไปไหนละครับ เดี๋ยวช่างภาพเขาจะถ่ายรูปพวกเรา.แล้วนะ."
"นี่อย่ามาจับเอวฉันนะ.."
"..."
เขามองหน้าเธออย่างไม่พอใจ จึงกอดรัดเอวเธอแน่นขึ้นแล้วดึงตัวเธอเข้ามาใกล้ตัว
"คุณ.."
"แสดงให้คนในงานเห็นหน่อยซิว่าเรารักกันมากแค่ไหน..เดี๋ยวคนอื่นจะรู้นะว่าคุณไม่เต็มใจแต่งงานกับผม"
"ฉันเต็มใจแต่งงานนะ แต่พอรู้ว่าเจ้าบ่าวเป็นคุณฉันก็อยากจะวิ่งหนีออกไปจากงานซะตอนนี้เลย"
"งั้นผมคงต้องกอดคุณให้แน่นกว่านี้แล้วหละ."
"นี่คุณ..ปล่อยนะ"
ช่างภาพกดชัตเตอร์รัวๆที่ได้เห็นบ่าวสาวกอดกันแนบแน่น จนทุกคนในงานมองไปที่ทั้งคู่แล้วก็ยิ้มในความหวานที่ทั้งคู่แสดงออกมาคู่กัน
ป้าจวนจิตรมองทั้งคู่ด้วยความพอใจ แตกต่างจากแม่ของเขาที่สงสารลูกชายตัวเองด้วยความจับใจ ที่ต้องมาแต่งงานกับผู้หญิงที่ตัวเองไม่ได้รักแบบนี้
พิธีในงานถูกจัดมาเรื่อยๆจนใกล้จบก็มาถึงช่วงที่บ่าวสาวกล่าวพูดกันและกัน
“ฉันขอพูดก่อนแล้วกันนะคะ เพราะฉันมีอะไรหลายๆเรื่องเลยที่อยากจะบอกกับว่าที่สามีของฉัน..”
“...”
เขาหันมามองหน้าเธอนิ่งๆด้วยความอยากรู้ว่าเธอจะพูดอะไรกับเขา
“ฉันอยากจะบอกกับเขาว่า ถึงเรา 2 คนจะแต่งงานกันแล้วแต่คุณก็ไม่มีสิทธิ์มายุ่งเกี่ยวกับชีวิตของฉัน ฉันจะให้อิสระกับคุณเต็มที่ส่วนฉันก็จะทำแบบนั้นเหมือนกัน...”
เขาหันมาจ้องหน้าเธอด้วยความไม่พอใจ พร้อมกับทุกคนในงานด้วยที่เจ้าสาวพูดกับเจ้าบ่าวตัวเองแบบนี้
“เธอล้อเล่นนะครับ..”
เขารีบแย่งไมค์ออกมาจากมือเธอทันทีและพูดแก้ตัวให้กับเธอ
“เรา 2 คนแต่งงานกันแล้ว แล้วอีกอย่างเมียผมก็สวยออกขนาดนี้ ผมไม่มีทางปล่อยให้เธอคลาดสายตาไปไหนแน่นอนครับ..นี่คุณล้อเล่นกับแขกในงานแบบนี้สงสัยคืนนี้คุณคงจะไม่อยากนอนแน่ๆใช่ไหมครับ..?”
“กรี๊ด...คุณหมอ..”
พวกพยาบาลสาวๆในโรงพยาบาลของเขาต่างพากันกรี๊ดเสียงดังในคำพูดของคุณหมอที่พวกเธอไม่เคยได้ยินเขาพูดแบบนี้มาก่อน จนพวกเธอพากันอิจฉาเจ้าสาวของเขากันแทบจะทุกคน
...
เวลาเที่ยงคืน
ส่งตัวเข้าหอ
“ป้าฝากคุณหมอดูแลยัยจี๊ดด้วยนะคะ ถ้ามันดื้อจัดการมันได้เต็มที่เลยนะคะป้าสนับสนุน..”
“ป้าจวนคะ..”
“แกแต่งงานแล้วนะแกจะไปเที่ยวไปวันๆเหมือนเมื่อก่อนไม่ได้แล้วนะ เชื่อฟังคุณหมอเขาเข้าใจไหม.?”
“ค่ะ..”
ป้าจวนจิตรดึงตัวหลานสาวสุดรักเข้ามากอดไว้แน่นด้วยความรัก เธอจึงได้ทีกระซิบเบาๆที่ข้างหูป้าของเธอเพื่อไม่ให้พ่อกับแม่ของเขาได้ยิน แต่เขากลับได้ยินที่เธอพูดทุกคำ
“นี่ถ้าป้าบอกจี๊ดก่อนซักคำว่าจี๊ดต้องแต่งงานกับตาหมอบ้านี่นะ จี๊ดจะไม่มีทางแต่งกับเขาเด็ดขาด..”
ป้าจวนจิตรคลายอ้อมกอดออกมองหน้าปรามหลานสาวตัวเองให้หยุดพูด
“ยินดีต้อนรับเข้ามาเป็นสะใภ้ของตระกูลวิษณุรังสีนะหนูจี๊ด ทำตัวตามสบายได้เลยนะอยากได้อะไรก็บอกหมอได้เลย..”
“ขอบคุณค่ะ..”
เธอยิ้มขอบคุณพ่อของเขาอย่างรู้สึกดี และพอหันไปหาแม่ของเขาเธอก็หันหน้าเมินหนีไปอีกทาง
“แม่ครับ..”
“แม่ไม่มีอะไรจะพูด ไปกันเถอะคะ่คุณฉันเหนื่อยแล้ว..”
เธอพูดจบก็ลุกขึ้นยืนเดินนำออกไปจากห้องหอของพวกเขาทันที จนเธอรู้สึกได้ว่าแม่ของเขาดูจะไม่ชอบเธอนัก
“มีความสุขมากๆนะลูก พ่อดีใจนะที่ได้เห็นแกแต่งงานรีบมีหลานให้พ่ออุ้มไวๆนะ..คืนนี้จัดให้พ่อซักคนนะหมอ..”
“พ่อ พูดบ้าอะไรเนี่ย..”
พ่อของเธอหัวเราะชอบใจใหญ่แล้วเดินไปโอบตัวพี่สาวให้ลุกขึ้นเพื่อที่จะได้ปล่อยให้บ่าวสาวได้อยู่กันตามลำพัง
เธอจึงเดินออกมาส่งพวกท่านที่หน้าห้องหอแล้วมองป้าของเธอด้วยตาละห้อย
“ปิดประตูได้แล้วยัยจี๊ด..”
“จี๊ดกลับไปด้วยได้ไหมคะ..?”
“อย่าทำตัวเเป็นเด็กได้ไหม ปิดประตูเร็วๆ..”
เขานั่งฟังอยู่สักพักแล้วจนรู้สึกรำคาญ จึงลุกขึ้นเดินมาที่ประตูแล้วปิดประตูห้องหอของพวกเขาทันที
”นี่คุณทำบ้าอะไรเนี่ย ไม่เห็นหรือไงว่าฉันกำลังจะลาป้ากับพ่อฉันอยู่..?”
“เห็น..แต่นี่มันเที่ยงคืนแล้วนะปล่อยให้พวกท่านได้กลับไปพักผ่อนเถอะนะ..”
“ยุ่ง..”
เธอพูดจบก็สะบัดหน้าเดินหนีเขาทันที จนเขารู้สึกไม่พอใจ
“ผมจะยุ่ง และต่อจากนี้เป็นต้นไปผมก็จะยุ่งกับคุณทุกเรื่องเลยคอยดู..”
“คุณไม่มีสิทธิ์นะ..”
“ผมมีสิทธิ์อยากให้ผมทำให้ดูคืนนี้เลยไหมว่าผมมีสิทธิ์อะไร..?”
“...”
เขาเดินก้าวเท้าเข้ามาหาเธอช้าๆจนเธอเริ่มกลัวเธอจึงเดินถอยหลังหนีเขาจนไปชนเข้ากับผนังห้อง
“วันนี้ผมเหนื่อยแล้ว เรายังมีเวลากันอีกเยอะผมได้ใช้สิทธิ์ของผมเต็มที่แน่ คุณรอดูก็แล้วกัน..”