จันทร์หอมมองตัวเองในกระจกเงาอีกครั้งเพื่อสำรวจความเรียบร้อยของเสื้อผ้า เมื่อเห็นว่าทุกอย่างสมบูรณ์แบบแล้ว หล่อนจึงก้าวออกไปจากห้องนอน
มารดาที่ยืนรออยู่ด้านนอกห้อง รีบเดินเข้ามาหาทันที
“วันนี้หอมของแม่สวยจังเลย”
หล่อนฝืนยิ้มบางๆ ให้กับมารดา ก่อนจะมองผ่านระเบียงลงไปยังชั้นล่าง รถยนต์คันหนึ่งจอดอยู่ ซึ่งหล่อนรู้ดีว่ารถคันนี้มาที่นี่ทำไม
ก็มารับหล่อนไปบ้านของคุณหญิงประไพพรรณยังไงล่ะ
สาวน้อยคิดอย่างอดสู ก่อนจะผ่อนลมหายใจออกมาจากแผ่วเบา
“แม่อยู่คนเดียว ดูแลตัวเองนะจ๊ะ หอมจะแวะมาเยี่ยมทุกวันหยุดจ้ะ”
หล่อนเห็นในดวงตาของแม่มีหยาดน้ำตาเอ่อซึมจึงสวมกอดท่านเอาไว้
“หอมไม่เป็นไรจ้ะแม่ หอมจะทำให้สำเร็จโดยเร็ว และเราจะได้กลับมาอยู่ด้วยกันอีกครั้งนะแม่ อยู่ด้วยกันแบบไม่มีหนี้มีสินอีก...”
“หอม... แม่ขอโทษนะลูก แม่ขอโทษ...”
“แม่อย่าพูดแบบนี้เลยนะ หอมยินดีทำทุกอย่างเพื่อรักษาบ้านของเราเอาไว้”
หญิงสาวเงยหน้าขึ้นจากอกของมารดา ก่อนจะยิ้มทั้งน้ำตาให้กับท่าน
“แล้วหอมจะโทรกลับมาหานะแม่”
“แม่อยากไปส่งหอมที่บ้านของคุณหญิงท่านด้วยน่ะ แม่อยากเห็นคุณธันสักครั้งหนึ่ง...”
จันทร์หอมเข้าใจความรู้สึกเป็นห่วงที่มารดามีอยู่ดี แต่หล่อนก็ไม่อยากทำให้ท่านต้องลำบากนั่งรถกลับมาบ้านเพียงลำพัง
“แม่ส่งหอมที่นี่ก็พอจ้ะ ส่วนคุณธันน่ะ... หอมมั่นใจว่าเขาจะต้องเป็นผู้ชายที่ดีจ้ะ หอม... หอมเชื่อแบบนั้นจ้ะแม่”
หล่อนเองก็ยังไม่รู้เลยว่าธันฐกรณ์จะเป็นคนแบบไหน นิสัยใจคอเป็นอย่างไร แต่กระนั้นก็จำต้องพูดในแง่ดี เพื่อทำให้มารดาคลายกังวล
“แล้วหอมจะโทรหานะแม่”
“หอม... ดูแลตัวเองดีๆ นะลูก”
“จ้ะแม่ แม่เองก็ดูแลตัวเองนะจ๊ะ กินข้าวให้ตรงเวลาด้วยนะ”
หล่อนยื่นนิ้วไปเกลี่ยน้ำตาบนแก้มของมารดาให้อย่างแผ่วเบา
“หอมไปนะแม่”
หล่อนฝืนยิ้มให้ท่าน ก่อนจะตัดสินใจเดินลงบันไดมา ซึ่งมารดาก็รีบตามมาส่งที่รถด้วย
“อย่าลืมโทรหาแม่นะหอม”
“จ้ะแม่ หอมไปนะ”
หล่อนสวมกอดมารดาอีกครั้ง ก่อนจะก้าวขึ้นไปบนรถทันที เมื่ออยู่ในรถน้ำตาที่พยายามซ่อนเอาไว้ก็ไหลออกมาท่วมท้น
หล่อนไม่รู้หรอกว่าสิ่งที่กำลังจะเผชิญหน้ากับมันนั้นคือนรกขุมที่เท่าไหร่ รู้เพียงแต่ว่ามันไม่มีทางเป็นสวรรค์แสนสุขอย่างแน่นอน
หญิงสาวบีบมือของตัวเองแน่น และก็พยายามที่จะหยุดร้องไห้ แต่เสียงสะอื้นก็ยังเล็ดลอดออกมาจากกลีบปากอิ่มอยู่ดี
ภายในห้องโถงกว้าง ธันฐกรณ์นั่งหน้าเคร่งเครียดอยู่บนโซฟา โดยมีคุณหญิงประไพพรรณนั่งอยู่ตรงหน้า
“คุณแม่ครับ ผมมีธุระต้องออกไปทำครับ”
“ธุระอะไรพ่อธัน นี่มันวันหยุดนะ วันเสาร์ ลืมไปแล้วหรือไง” คนเป็นแม่พูดขึ้นอย่างรู้ทัน
“งานของผมมีวันหยุดที่ไหนกันครับคุณแม่ เอาไว้ผมกลับมาเมื่อไหร่ ค่อยเจอหนูหอมของคุณแม่ดีกว่านะครับ”
“ไม่ได้ ยังไงพ่อธันก็ต้องอยู่เจอหนูหอมก่อน พอเจอแล้วจะไปไหนก็ไป แม่ไม่ห้าม”
ธันฐกรณ์ผ่อนลมหายใจออกมาจากแรงๆ อย่างไม่สบอารมณ์ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะคนออกคำสั่งคือมารดานั่นเอง
“ผมให้เวลาอีกห้านาทีนะครับ ถ้าไม่มา ผมจะไปแล้ว”
“ไม่ถึงห้านาทีหรอกน่ะ ตาเชิดโทรมาบอกแม่เมื่อกี้นี้เองว่าเลี้ยวเข้ามาในซอยบ้านเราแล้ว” คุณหญิงประไพพรรณพูดอย่างอารมณ์ดี
“คุณหญิงคะ ตาเชิดกลับมาแล้วค่ะ” คนใช้วัยรุ่นรีบวิ่งเข้ามารายงาน
“รีบไปเชิญคุณหอมเข้ามาเลย เร็วเข้า”
“ค่ะคุณหญิง”
คุณหญิงประไพพรรณแสดงทีท่าตื่นเต้นหนักมาก ตรงกันข้ามกับผู้เป็นลูกชายที่นั่งหน้าบูด
“เจอปุ๊บ ผมไปเลยนะครับ”
“ยะ แต่ตอนเย็นก็ต้องกลับมานะ ห้ามไปเถลไถลที่อื่นเด็ดขาด เพราะพ่อธันกำลังจะมีเมียแล้ว”
ธันฐกรณ์แทบอยากจะหัวเราะออกมาให้เป็นเสียงโดราเอม่อนนัก
นี่ขนาดยังไม่เห็นหน้าคุณแม่ยังห้ามนู้นห้ามนี่เขาขนาดนี้ แล้วถ้ามาอยู่ด้วยกัน เขาไม่ต้องถูกขังเลยเหรอ
ชายหนุ่มคิดอย่างปวดหัว และก็หงุดหงิดเหลือเกิน
“อุ๊ยยย มาแล้ว พ่อธัน หนูหอมมาแล้ว”
เสียงของมารดาตื่นเต้นมากยิ่งขึ้น พร้อมกับเร่งเร้าให้เขาหันไปมอง แต่เขาไม่ทำตามยังคงนั่งนิ่งหน้าบูดเช่นเดิม
ผู้เป็นแม่มองค้อนลูกชาย ก่อนจะรีบกวักมือเรียกจันทร์หอม
"หนูหอมมานี่สิจ๊ะ มานั่งใกล้ๆ ฉันนี่”
“ค่ะคุณหญิง”
จันทร์หอมยิ้มหน้าเจือนๆ ขณะเดินขาสั่นเทามาหยุดเบื้องหน้าของคุณหญิงประไพพรรณา หล่อนก้มหน้ามองพื้น ทำให้เห็นเพียงแค่ปลายเท้าและขากางเกงของลูกชายท่านเท่านั้น
“มานั่งตรงนี้นะ”
คุณหญิงลุกขึ้นไปประคองให้จันทร์หอมมานั่งใกล้ๆ ซึ่งก็เป็นโซฟาตัวตรงกันข้ามกับธันฐกรณ์ที่นั่งก้มหน้าก้มตาเล่นโทรศัพท์มือถือพอดี
“พ่อธัน น้องมาแล้วจะไม่ทักทายน้องหน่อยเหรอ”
คนเป็นแม่มองลูกชายอย่างหมั่นไส้ ก่อนจะหันไปกระซิบบอกจันทร์หอม
“พี่เขาเขินน่ะ อย่าถือสาเลยนะ”
“ค่ะคุณหญิง”
“พ่อธัน มองน้องหน่อยสิ อย่าทำตัวไม่มีมารยาทแบบนี้เชียวนะ”
คุณหญิงสั่งลูกชายเสียงไม่พอใจ ซึ่งธันฐกรณ์ก็ถอนใจแรงๆ และเงยหน้าขึ้นอย่างเสียไม่ได้
“ครับคุณแม่...”
ชายหนุ่มพูดได้แค่นั้นก็ต้องกลืนทุกพยางค์ที่เตรียมจะพ่นออกไปเข้าไปในลำคอจนหมด เมื่อสายตาปะทะเข้ากับดวงหน้าคุ้นตาของจันทร์หอม
“นี่เธอ!”
ซึ่งก็ไม่ใช่แค่ธันฐกรณ์คนเดียวหรอกที่ตกใจจนแทบช็อก แต่จันทร์หอมเองก็แทบเป็นลมเป็นแล้งตายเลยเช่นกัน
“คุณ...!”