หลังจากเปลี่ยนชุดให้เป็นทางการขึ้นแล้ว จันทร์หอมก็เดินมาหาทนายความวัยกลางคนที่รถยนต์ โดยมีมารดาเดินตามติดมาด้วย
“โชคดีนะหอมลูกแม่”
จันทร์หอมหันมายิ้มให้มารดา และก็สวมกอดท่านเอาไว้
“หอมแค่ไปพบคุณหญิงเองจ้ะแม่ ในสัญญาระบุเอาไว้ว่าวันมะรืนถึงจะเริ่มงานค่ะ”
นรินทิพย์คลายอ้อมแขน ก่อนจะมองหน้าลูกสาวด้วยความเป็นห่วง
“ดูแลตัวเองนะลูก”
หญิงสาวหอมแก้มมารดาอย่างเอาใจ ก่อนจะพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงแสร้งสดใส
“ค่ะแม่ เดี๋ยวหอมจะรีบกลับมานะ”
“แม่จะรอนะหอม”
จันทร์หอมโบกมือลามารดา พร้อมกับก้าวขึ้นไปนั่งบนรถยนต์ข้างกับทนายความ
อึดใจต่อมา รถยนต์ก็แล่นออกไปจากบริเวณบ้าน นรินทิพย์มองตามท้ายรถไปจนลับสายตา
“หอม... แม่ขอโทษนะ เพราะความโง่ของแม่แท้ๆ ที่ทำให้หนูต้องลำบาก...”
นรินทิพย์น้ำตาคลอสองหน่วยตา ก่อนจะไหลรินออกมาอาบสองแก้มด้วยความเสียใจ
ใช้เวลาเพียงชั่วโมงเศษๆ จันทร์หอมก็เดินทางมาถึงคฤหาสน์หลังงามของคุณหญิงประไพพรรณ
ทนายความวัยกลางคนก้าวลงจากรถ หล่อนจึงก้าวตามลงไป และยืนนิ่งอยู่ข้างๆ รถ ดวงตามองไปรอบๆ บ้านด้วยความทึ่งจัด
คฤหาสน์หลังนี้ใหญ่โตโอ่อ่า และถูกตกแต่งเอาไว้สวยงามเหลือเกิน
“เข้าไปข้างในกันเถอะครับหนูหอม”
เสียงเรียกเบาๆ ของทนายความ ช่วยดึงใจลอยๆ ของจันทร์หอมให้กลับคืนมาได้ชั่วขณะ
“อะไรนะคะคุณทนาย?”
“ผมบอกว่า เราเข้าไปข้างในกันเถอะครับ ป่านนี้คุณหญิงน่าจะรออยู่แล้ว”
“เอ่อ... ค่ะ”
หล่อนผงกศีรษะตอบรับ ก่อนจะเดินตามหลังทนายความเข้าไปข้างในตึกแสนสวย
ภายนอกว่าตกแต่งสวยงามแล้ว ภายในของตัวคฤหาสน์กว่าอีก หญิงสาวมองไปรอบๆ ตัวอย่างชื่นชม ก่อนจะสะดุ้งเมื่อเสียงของทนายความดังขึ้น
“คุณหญิงรออยู่ในห้องรับแขกกับหนูหอม”
“เอ่อ... ค่ะคุณทนาย”
หล่อนมองเข้าไปในห้องหนึ่งที่อยู่ถัดออกไปจากโถงกว้าง ก็พบว่ามีผู้หญิงสูงวัยนั่งอยู่บนโซฟาสีน้ำตาลไหม้
เท้าเล็กรีบเดินตามหลังทนายความเข้าไปภายในห้องรับแขกโอ่อ่า ก่อนจะรีบยกมือขึ้นไหว้เมื่อหญิงสูงวัยแต่งตัวดีส่งยิ้มมาให้
“สวัสดีค่ะคุณหญิง”
คุณหญิงประไพพรรณระบายยิ้มพึงพอใจออกมา ขณะจ้องมองจันทร์หอมด้วยความเอ็นดู
“สวัสดีจ้ะ โตขึ้นเยอะเลยนะหนูหอม”
“เอ่อ...” หล่อนอึกอักและยังคงยืนอยู่ที่เดิมไม่กล้านั่งลง
“นั่งลงสิจ้ะ”
“ขอบคุณค่ะ”
จันทร์หอมเลือกที่จะนั่งโซฟาตัวถัดออกมาจากคุณหญิงประไพพรรณพอสมควร สายตาของหญิงสูงวัยที่ทอดมองมาทำให้หล่อนรู้สึกประหม่าไม่น้อย
“หน้าตาสะสวยแบบนี้ พ่อธันของฉันจะต้องไม่ปฏิเสธอย่างแน่นอน”
คุณหญิงประไพพรรณพูดขึ้นอย่างมั่นอกมั่นใจ ก่อนจะหันไปพูดกับทนายความเพราะต้องการคนสนับสนุน
“คุณทนายคิดเหมือนฉันไหมคะ”
“ครับคุณหญิง”
หญิงสูงวัยระบายยิ้มกว้าง ดวงตาจ้องมองสำรวจตรวจตราจันทร์หอมอย่างต่อเนื่อง จนคนที่ถูกมองรู้สึกไม่ค่อยดีนัก
“หนูหอมอ่านสัญญาครบทุกข้อแล้วใช่ไหม”
“ครบแล้วค่ะคุณหญิง”
“งั้นก็แสดงว่าหนูหอมก็รู้แล้วใช่ไหมว่า การตั้งครรภ์โดยเร็วจะทำให้ครอบครัวของหนูหอมหมดหนี้สินจากฉัน”
จันทร์หอมเม้มปากเป็นเส้นตรง หัวใจเต็มไปด้วยความอดสู
“ค่ะ หอมทราบค่ะ”
คุณหญิงประไพพรรณยังคงระบายยิ้มอ่อนโยน มองหล่อนด้วยแววตาเมตตา
“ความหวังทั้งหมดของฉันอยู่ที่หนูหอมคนเดียวนะรู้ไหม”
นี่หล่อนควรยินดีและดีใจกับสิ่งที่ได้ยินจากปากของหญิงสูงวัยตรงหน้าใช่ไหม
จันทร์หอมถามตัวเองในอกอย่างสมเพชในโชคชะตาของตนเอง
“หอมจะท้องให้ได้เร็วที่สุดค่ะ คงไม่น่าถึงหนึ่งเดือนแน่นอนค่ะ”
หล่อนยืนกรานออกมา แต่คุณหญิง
ประไพพรรณกลับถอนใจออกมาคล้ายกับมีเรื่องวิตกกังวล
“ถ้ามันง่ายแบบนั้น ฉันก็คงไม่ต้องนัดหนูหอมมาเจอกันก่อนจะเริ่มงานจริงแบบนี้หรอก”
“คุณ... คุณหญิงหมายความว่ายังไงเหรอคะ” จันทร์หอมถามออกไปด้วความแปลกใจ
“ลูกชายของฉันน่ะมันต่อต้านการคลุมถุงชน”
“อ๋อ... คุณหญิงก็เลยกังวลใช่ไหมคะ”
“ไม่ใช่แค่นั้นหรอกนะหนูหอม พ่อธันน่ะ ไม่ชอบเด็กเอามากๆ เลยนะ แถมยังเกลียดคำว่า ‘ครอบครัว’ มากๆ ดังนั้นการที่จะทำให้หนูหอมตั้งท้องน่ะมันก็ยากพอๆ กับการเข็นครกขึ้นภูเขาเลยนะ”
จันทร์หอมฟังคำพูดของคุณหญิงประไพพรรณแล้วก็มีสีหน้าแปลกใจและเหลือเชื่อ
“มีคนแบบนี้ด้วยเหรอคะคุณหญิง”
“มีสิจ้ะ ก็ลูกชายฉันเนี่ยแหละ”
คุณหญิงประไพพรรณถอนใจออกมาแรงๆ ก่อนจะขยายความต่อ
“นี่ถ้าพ่อธันยอมมีหลานให้ฉันง่ายๆ ฉันก็คงไม่ต้องเอาหนี้สินมาบังคับให้หนูหอมมาช่วยเหลือฉันเรื่องนี้หรอก”
มันก็จริงอย่างที่คุณหญิงประไพพรรณบอกนั่นแหละ หากมันไม่มีซั่มติงอะไร หญิงสูงวัยตรงหน้าคงไม่ยอมเสียหนี้สินจำนวนมากขนาดนี้หรอก
“เอ่อ... คุณหญิงแน่ใจนะคะว่าลูกชายของคุณหญิงไม่ใช่... เอ่อ... พวกรักร่วมเพศน่ะค่ะ”
คุณหญิงประไพพรรณส่ายหน้าไปมา และยืนยันเสียงแข็ง
“ไม่ใช่หรอกหนูหอม พ่อธันน่ะเป็นผู้ชาย แมนทั้งแท่งเลยละ”
คงเพราะสีหน้าของจันทร์หอมมีวี่แววไม่เชื่อละมั้ง คุณหญิงประไพพรรณจึงอธิบายต่อ
“ที่ฉันมั่นใจเนี่ยก็เพราะว่าฉันเห็นพ่อธันพาผู้หญิงขึ้นเตียงบ่อยๆ น่ะ”
“อ้าว ถ้าแบบนี้ก็ให้ผู้หญิงที่คุณธันนอนด้วยตั้งท้องเลยสิคะ หอมว่ามันง่ายกว่านะคะ”
คุณหญิงประไพพรรณถอนใจออกมาเฮือกใหญ่ “ถ้ามันง่ายแบบนั้นฉันจะมาจ้างหนูหอมทำไมกันล่ะ พ่อธันน่ะแค่นอนด้วย แต่ไม่ได้จริงจัง แถมป้องกันสุดๆ อีกต่างหาก”
“ถ้าเป็นแบบนี้ คุณธันก็คงไม่ยอมนอนกับหอมง่ายๆ แน่นอนค่ะ”
“ใช่น่ะสิ”
คุณหญิงประไพพรรณยืนยันออกมาชัดเจน ก่อนจะพูดต่อ
“หนูหอมจะต้องเป็นคนลากลูกชายของฉันขึ้นเตียงด้วยตัวเอง”
จันทร์หอมหน้าแดงระเรื่อทันที เมื่อได้คำพูดของคู่สนทนา
“หอม... จะต้องเป็นฝ่ายเริ่มเหรอคะ”
“ใช่จ้ะ เพราะพ่อธันไม่มีทางทำแน่ ยิ่งรู้ว่าหนูหอมเป็นคนของฉัน เขาคงต่อต้านหนักหนาเลยทีเดียวแหละ”
จันทร์หอมนั่งนิ่ง ใบหน้าเคร่งเครียดขึ้น เพราะไม่คาดคิดมาก่อนเลยว่า ผู้หญิงบริสุทธิ์อย่างหล่อนจะต้องมาวางแผนจับผู้ชายขึ้นเตียง
หล่อนอยากจะปฏิเสธงานน่าสมเพชนี้ซะ อยากจะวิ่งหนีไปให้ไกล แต่ก็ทำไม่ได้ เพราะหล่อนติดหนี้คุณหญิงประไพพรรณเอาไว้เป็นล้าน แถมยังเซ็นชื่อในสัญญาไปเรียบร้อยแล้วด้วย
“หนูหอม... ต้องทำให้ได้นะ ความหวังของฉันทั้งหมดอยู่ที่หนูหอมคนเดียวแล้วนะ”
หล่อนสูดลมหายใจเข้าปอดแรงๆ ก่อนจะตอบรับออกไปอย่างไร้ทางเลือก
“ค่ะคุณหญิง หอมจะทำทุกวิถีทางเพื่อที่จะตั้งท้องหลานของคุณหญิงให้ได้ค่ะ”
“ขอบใจมากหนูหอม... ขอบใจจริงๆ นะ” คุณหญิงประไพพรรณเอื้อมมือมากุมมือของหล่อนเอาไว้ และบีบอย่างดีใจ
จันทร์หอมทำได้แค่ระบายยิ้มบางๆ เท่านั้น เพราะลึกๆ แล้วหล่อนกำลังรู้สึกแย่ไม่น้อยเลยทีเดียว
“งั้นวันนี้หนูหอมกลับไปเตรียมตัวก่อนนะ วันมะรืนฉันจะให้รถไปรับที่บ้านเลย” คุณหญิงประไพพรรณพูดขึ้น
“ค่ะ คุณหญิง”
หญิงสาวยกมือขึ้นไหว้ลา แต่ยังไม่ทันได้ลุกขึ้นจากโซฟา คุณหญิงก็พูดขึ้นเสียก่อน
“เดี๋ยวฉันให้คนขับรถไปส่งหนูหอมที่บ้านนะ รอแป๊บ”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะคุณหญิง”
“ไม่ได้ ฉันจะปล่อยให้หนูหอมกลับคนเดียวได้ยังไงกัน เดี๋ยวฉันให้รถไปส่ง”
คุณหญิงประไพพรรณกำลังจะกวักมือเรียกคนใช้ แต่จันทร์หอมหยุดเอาไว้เสียก่อน
“คุณหญิงคะ พอดีหอมจะแวะเที่ยวห้างในเมืองด้วยน่ะค่ะ”
คุณหญิงประไพพรรณลังเลอยู่เล็กน้อย แต่ไม่นานก็ผงกศีรษะตอบรับ
“ก็ได้จ้ะ งั้นหนูหอมเดินทางปลอดภัยนะ วันมะรืนเจอกัน”
“ค่ะคุณหญิง สวัสดีค่ะ”
หล่อนยกมือขึ้นไหว้ลา ก่อนจะเดินออกไปจากห้องรับแขกในที่สุด