“มากินเหล้ากับมึงไง เห็นช่วงนี้มึงไม่ค่อยว่างที่จะออกไปดื่มกับพวกกู” พี่คามินว่าก่อนจะวางของที่อยู่ในมือลงบนโต๊ะกระจก
“แล้วนี่เพื่อนมาหา มึงไม่คิดจะลุกมานั่งกับพวกกูเลยรึไง”
“กูขอเคลียร์งานให้เสร็จก่อน เดี๋ยวไป” งานที่ว่านี่คงจะเป็นไอ้นั่นของเขานั่นแหละ ก็เมื่อกี้ก่อนจะเด้งลุกจากตักเขา ฉันรับรู้ได้ถึงความแข็งขันที่มันกำลังชูชันขึ้นมาทิ่มสะโพกมนของฉันไง
แล้วตอนนี้ฉันก็เห็นว่าพี่องศาทำหน้าตาเหยเก สงสัยคงจะทรมานมากแน่ๆ ขนาดฉันยังขมิบร่องตัวเองถี่ยิบเลยตอนนี้
“ยัยพราว นั่งกัดปากทำไมวะ” หะ นี่ฉันทำอะไรนะ ฉันหันไปมองหน้าพี่เพทายทันทีหลังจากที่เขาพูดประโยคเมื่อกี้จบ
“อ เอ่อ พอดีเมื่อกี้พราวโดนมดกัดปากค่ะ ตอนนี้เลยคันๆ” พี่องศาหันมามองหน้าฉัน ก่อนจะลอบยิ้มออกมา ยังจะยิ้มอีกคนบ้า นี่ถ้าพี่เพทายเปิดมาเจอภาพเมื่อกี้นี้นะ ความแตกแน่
สองชั่วโมงต่อมา
“ยัยพราว แล้วนี่ไม่คิดจะกลับไปอยู่บ้านแล้วเหรอ?” เสียงไอ้เพทายเอ่ยถามพราวฟ้า ที่นั่งเล่นโทรศัพท์อยู่ด้านข้างมัน
ที่มันถามแบบนั้นเพราะตอนนี้พราวฟ้าย้ายออกมาอยู่คอนโดเดียวกับผมแล้วครับ แต่คนละห้องนะ ห้องเธออยู่ชั้นยี่สิบห้า ส่วนห้องผมอยู่ชั้นสามสิบซึ่งเป็นชั้นบนสุดของตึก แต่ตอนกลางคืนเราสองคนก็นอนกอดกันทุกคืน ถ้าผมไม่ลงไปนอนกับเธอ เธอก็ขึ้นมานอนกับผมแต่ส่วนมากพราวฟ้าจะขึ้นมานอนห้องผมมากกว่า
“รอฝึกงานเสร็จค่ะ อีกอย่างคอนโดที่อยู่ตอนนี้ก็อยู่ใกล้กับบริษัทด้วย แถมยังไปกลับฟรีทุกวัน ไม่ต้องเสียตังเติมน้ำมันรถสักบาท ใช่มั้ยคะ พี่องศา” ร่างบางที่นั่งยิ้มหน้าระรื่นอยู่ตอนนี้หันหน้ามาพูดกับผม ที่เธอพูดแบบนั้นก็เพราะทุกวันนี้เราสองคนไปกลับบริษัทด้วยกันไงครับ
“เหอะ เดี๋ยวนี้ไอ้องศากลายเป็นพี่ชายคนโปรดแทนพี่แล้วสิ”
“จะน้อยใจทำไมคะ พราวก็รักพี่เพทายเหมือนเดิมทุกวัน” ว่าจบเธอก็พิงหัวไปกับไหล่กว้างของไอ้เพทายทันที ทำไมเธออ้อนเก่งขนาดนี้นะ ตอนอยู่กับผมไม่เห็นอ้อนแบบนี้บ้างเลยวะ
“พวกมึง เดี๋ยวกูไปก่อนนะ พอดีเด็กที่ร้านไลน์มาตาม เหมือนจะเกิดเรื่อง” ไอ้คามินที่นั่งดื่มอยู่ข้างๆผมพูดขึ้น
“อ่าวเห้ย งั้นเดี๋ยวกูไปด้วย กูจะไปดื่มต่อที่ร้านมึง” แล้วไอ้เพทายก็พูดขึ้นมาอีกคน หลังจากนั้นพวกมันสองคนก็พากันกลับไป
แกร๊ก!
ผมเดินไปล็อกประตูห้องทำงาน ก่อนจะเดินกลับมาหาคนที่กำลังนั่งก้มหน้าก้มตาเล่นโทรศัพท์อยู่บนโซฟา
“อื้อ พ พี่องศา” พราวฟ้าเอ่ยเรียกชื่อผมด้วยน้ำเสียงที่แหบพร่า หลังจากที่ผมซุกไซ้จมูกลงไปบนซอกคอขาวเนียนของเธอ
“เรามาต่อจากก่อนหน้านี้ดีมั้ย” ไม่พูดเปล่า แต่ผมใช้สองมือของผมช้อนตัวของพราวฟ้าขึ้นมาในท่าเจ้าหญิง ก่อนจะพาเธอเดินตรงไปที่โต๊ะทำงานขนาดใหญ่ของผม
“จะเอาบนนี้เหรอคะ” ร่างบางที่นั่งอยู่บนโต๊ะทำงานผมถามขึ้น
“ก็เปลี่ยนบรรยากาศไง ได้ไหม หืม” ได้ไม่ได้ไม่รู้ แต่ตอนนี้ผมลงมานั่งคุกเข่าอยู่กลางหว่างขาของเธอแล้ว
“อื้อ พ พี่องศา” เสียงพราวฟ้าร้องครางออกมาหลังจากที่ผมแตะลิ้นร้อนลงไปบนกลีบกุหลาบงามของเธอ ไม่ต้องถามหาเสื้อผ้า เพราะผมจัดการถอดมันออกไปเมื่อกี้แล้ว
“เสียวแค่ไหน หืม” ผมใช้ริมฝีปากดูดดึงตรงติ่งเสียวของเธออย่างมูมมาม จนเธอแทบจะร้องขอชีวิต
“อื้อ พ พราวเสียวค่ะ ย หยุดก่อน” ยิ่งได้ยินเสียงร้องของเธอ ผมก็ยิ่งดูดมันหนักขึ้นไปอีก จนในที่สุด…..
“พ พี่องศา อ๊า….” พราวฟ้าปลดปล่อยน้ำสีใสจำนวนมากให้ไหลออกมาจนเกือบจะล้นปากของผม ผมกลืนน้ำของเธอลงลำคอไปอย่างไม่คิดรังเกียจแม้แต่น้อย
“ถึงตาพี่บ้างนะ” ไม่รอช้าผมรีบหยัดกายเต็มความสูงของตัวเองขึ้นมา ก่อนจะขอให้เธอใช้ปากปรนเปรอลูกชายของผม
“อื้มม แบบนั้นแหละพราว เร็วกว่านี้อีก ซี๊ด”
“อื้อ” พราวฟ้าเร่งจังหวะในการใช้ปากของเธอกับลูกชายผม จนกระทั่ง…
“อา…..”
อึก!!
“ทำไมน้ำถึงเยอะขนาดนี้คะ เมื่อคืนก็เพิ่งปล่อยไป” เธอพูดขึ้น ก่อนจะใช้ลิ้นเลียริมฝีปากของตัวเองหลังจากที่เธอกลืนน้ำอุ่นๆของผมลงคอไป
“พี่ปล่อยได้เยอะกว่านี้อีกนะเผื่อพราวจะยังไม่รู้” ผมตอบคนที่นั่งคุกเข่าอยู่บนพื้นตอนนี้
“งั้นก็ทำให้พราวรู้สิคะ ว่าพี่องศาจะปล่อยได้เยอะแค่ไหน” ตอนได้กันใหม่ๆนี่เธอขี้อายมากนะ ไม่เหมือนกับตอนนี้เลย
“แล้วอย่ามาร้องขอชีวิตทีหลังก็แล้วกันนะครับ” พูดจบผมก็จับพราวฟ้าเล่นบทรักไปทั่วทุกมุมห้องทำงาน เดี๋ยวคืนนี้จะทำให้ร้องครางจนเสียงแหบเสียงหายไปเลย