เขาถอดถอนตัวเอง ก่อนจะรูดดึงเครื่องป้องกันโยนทิ้งลงถังขยะ แล้วเดินหายเข้าไปอาบน้ำ ไม่นานนักเขาก็เดินออกมาด้วยชุดลำลองขายาว ร่างสูงก้าวเดินมาที่โต๊ะหัวเตียง สวมแหวนกลับเข้าไปที่นิ้วซ้ายตามเดิม
รชนิชลมองชายร่างสูงด้วยสายตาที่เขาอ่านเธอไม่ออก
“จะนอนต่อถึงเช้าก็ได้นะ”
“ขอบคุณค่ะ”
“วันนี้เธอเห็นอะไรบ้าง?”
“คะ?”
เธอยกคิ้วถามเขากลับ ว่าเขาหมายความถึงอะไร ทั้งที่รู้อยู่แก่ใจดี
“เธอเห็นหนทางที่จะรักษาฉันหรือเปล่า”
ชรันถามไปแบบไม่จริงจังทั้งที่รู้อยู่แล้ว ว่าเธอไม่สามารถช่วยเหลือเขาได้ แค่รู้สึกว่าความอวดดี รู้มากของเธอ มันน่าสนใจก็เท่านั้น
ซึ่งรชนิชลก็นิ่งไปสักพัก และตอบคำถามที่ทำให้ชรันนิ่งเงียบไป...
“คุณกำลังใช้ฉันแทนใครรึเปล่าคะ? การกลัวกลางคืน บางทีก็มีสาเหตุมาจากบุคคลได้... แต่ไม่ใช่แทนภรรยาของคุณแน่ๆ”
“.......”
ชายหนุ่มถึงกับพูดไม่ออก ทำได้เพียงแค่จ้องใบหน้าของเธอ และคิดว่าเด็กสาวคนนี้ไม่ธรรมดาจริงๆ
ชรันคว้าโทรศัพท์สมาร์ตโฟนเครื่องหรูที่วางไว้บนหัวเตียงขึ้นมา ก่อนที่เขาจะทำการโอนเงินไปให้แม่ใหญ่เกินจำนวนที่ตกลงกันไว้ถึงสามเท่าเพราะพอใจกับคำตอบ
ปกติหน้าที่นี้ต้องเป็นเลขาของเขาทำ แต่วันนี้.... เธอทำให้เขาสนใจมากกว่าครั้งไหน เขาจึงอยากทำอะไรเพื่อเธอด้วยตัวเขาเองบ้าง ชรันแอบยกยิ้มมุมปากก่อนจะเดินออกจากห้องไป
ระหว่างรอลิฟต์ขึ้นไปชั้นบนสุดของคอนโดสุดหรู ซึ่งเป็นเพนต์เฮาส์ในเครือที่เขาใช้อาศัยอยู่แทนบ้าน เขาก็หลงอยู่ในภวังค์ คิดถึงหนูขาวตัวกระจ้อย จนเดินชนกับภรรยาที่ออกมาต้อนรับในช่วงวิกาล
“ขอโทษครับ”
“คุณเพชรเป็นอะไรหรือเปล่าคะ”
“ทำไมคุณยังไม่นอน”
ชรันเห็นภรรยาก็เลยขมวดคิ้วมองว่าทำไมเธอถึงมายืนอยู่ตรงนี้ ซึ่งปกติเวลาเขากลับมา เธอจะนอนแล้ว และปกติทั้งสองก็แทบจะไม่เกี่ยวข้องกันอยู่แล้ว ทำไมวันนี้เธอถึงยังไม่นอน
“ดารอคุณเพชรค่ะ”
“รอผมเรื่องอะไรครับ”
“ดาอยากนอนเตียงเดียวกับคุณค่ะ”
“แต่ผม…”
“นะคะ... ดาเหงา และคืนนี้ค่อนข้างหนาว คุณอาจจะสั่นอีก... ดาอยากดูแลคุณค่ะ”
ซึ่งพอได้ฟังชรันก็ลอบถอนหายใจ แต่ก็จำยอมเดินตามไปที่ห้องนอนของเธอ
ชรันยอมนอนลงโดยมีดารินทร์ที่นั่งอยู่บนเตียงคอยห่มผ้าให้ พร้อมทั้งลูบหน้าลูบผมให้เขาเพื่อหวังปลอบโยน พร้อมกับเอ่ยถามขึ้นมา
“ทำไมคืนนี้ถึงเลือกเด็กคนนี้อีกคะ?”
“ทำไมถึงถาม” ชรันตอบกลับด้วยน้ำเสียงติดจะหงุดหงิด
“เพราะคุณเรียกเด็กคนนี้มาเป็นเดือนกว่าแล้วนะคะ... คุณไม่คิดว่ามันแปลกๆ ไปเหรอ ปกติครั้งเดียวคุณก็เบื่อ”
เธอตอบคำถามเขาด้วยรอยยิ้ม แต่ในใจกำลังเจ็บปวด
“ไม่มีอะไร” ชรันเอ่ยตอบด้วยเสียงราบเรียบ
“แต่รู้สึกว่าเด็กคนนี้น่าจะพิเศษกว่าคนอื่น”
เธอถามออกไปด้วยแววตาที่สั่นไหว ชรันจึงเงยหน้าขึ้นมามองเธอพร้อมกับตอบคำถาม
“ไม่มีอะไร ก็แค่เด็กคนหนึ่งที่หาเงินเพื่อรักษาครอบครัว เป็นเรื่องปกติ”
“คุณเพชรไม่ได้รู้สึกอะไรกับเด็กคนนั้นใช่ไหมคะ”
“ผมแค่สงสาร เลยช่วยเหลือ ก็แค่นั้น”
ทางดารินทร์ที่ได้ฟังก็พยักหน้าเข้าใจ เธอยิ้มให้เขาก่อนจะล้มตัวลงนอนข้างผู้เป็นสามี
ไม่นานชรันก็หลับไป เพราะเธอได้ยินเสียงลมหายใจเข้าออกของเขาที่สม่ำเสมอ เธอลืมตาขึ้นมาเพื่อนอนมองหน้าสามี ที่ตอนนี้ใบหน้าของเขาไม่ได้เกร็งแน่นเหมือนอย่างเคยอีกแล้ว เขาดูผ่อนคลาย นอนหลับสนิทได้ตามปกติ ซึ่งน่าแปลกมาก
เธอจะเอ่ยถามเบาๆ กับสามีที่ตนไม่เคยมีอะไรด้วย เธอรู้ดีว่ามันเป็นเพราะเส้นบางๆ ที่กั้นเธอกับเขาเอาไว้และรู้ดีว่าไม่อาจได้รับคำตอบอะไรกลับมา
‘มันไม่มีอะไรจริงๆ ใช่ไหมคะ? ... เป็นแค่ความสงสาร ที่ความจริงแล้ว คุณไม่เคยมีความสงสารให้ใคร... แต่กับเด็กคนนี้’
ดารินทร์ไม่เคยเห็นเขาพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนให้ได้ยินเลยสักครั้ง
‘แต่ครั้งนี้... จู่ๆ มันเกิดอะไรขึ้นมาอย่างนั้นเหรอคะ คุณเพชร?’