บทที่ 2

1279 คำ
ขวัญชนกจ้องมองเขม่งไปยังรถเก๋งเมื่อคนขับเลื่อนกระจกรถลงแล้วยกมือบ๊าย บาย ให้ลูกชาย เธอมองเห็นพ่อของน้องอาร์ตไม่ชัดนักเนื่องจากระยะค่อนข้างไกลและอีกฝ่ายก็ใส่แว่นตากันแดดสีดำอันใหญ่ปิดบังใบหน้า เธอไม่เคยพบกับคุณพ่อของน้องอาร์ต ทุกครั้งที่เธอส่งจดหมายไปถึงผู้ปกครองเพื่อขอความร่วมมือในการมาประชุมผู้ปกครอง เธอก็จะได้รับจดหมายแจ้งว่าไม่ว่าง...ติดงานสำคัญไม่สามารถมาได้ เธอต้องทำเป็นหนังสือแจ้งเรื่องที่ประชุมและผลการประชุมไปให้คุณพ่อของน้องอาร์ตทุกครั้ง และเวลามาส่งลูกชาย พ่อของน้องอาร์ตก็ไม่เคยลงมาจากรถเลย น้องอาร์ตจะแก้ตัวให้คุณพ่อทุกครั้งว่าเจ้านายคุณพ่อเรียกตัวคุณพ่อให้ไปทำงานสำคัญ ด่วนมากๆ คุณพ่อต้องรีบไป หญิงสาวจ้องมองคุณพ่อน้องอาร์ตจนอีกฝ่ายเลื่อนกระจกรถขึ้นและขับรถออกไปอย่างรวดเร็ว “ไปเข้าแถวกับเพื่อนดีกว่านะคะ เสียงกริ่งเรียกเข้าแถวดังแล้ว” ขวัญชนกจูงมือน้องอาร์ตเข้าไปในโรงเรียนเมื่อเสียงกริ่งเรียกเข้าแถวดังขึ้น เมื่อนักเรียนเข้าแถวเคารพธงชาติเรียบร้อยแล้ว คุณครูประจำชั้นจะพานักเรียนแยกย้ายเข้าตาม ชั้นเรียนซึ่งมีทั้งหมด10 ห้อง นักเรียนห้องละ 16 คน แผนการเรียนการสอนที่เธอจัดไว้สำหรับแต่ละวันคือให้คุณครูสอนนักเรียนทำกิจกรรมร้องเพลง เรียนศิลปะ มีชั่วโมงทำกิจกรรมกลางแจ้ง เรียนคำศัพท์ภาษาอังกฤษง่ายๆ เล่านิทานก่อนนอน การเรียนคำศัพท์ภาษาอังกฤษเธอจะเป็นคนสอนเอง โดยจะสอนนักเรียนระดับอายุ 5-6 ขวบ เธอจะให้เด็กๆ รับประทานอาหารตั้งแต่เวลา 11.30 น. หลังจากมื้อกลางวันแล้วจะให้เด็กๆ เข้านอนถึงเวลา14.00 น. หลังจากนั้นจะให้เด็กๆ ตื่นขึ้นมาทำกิจกรรมกลางแจ้งแล้วแต่ว่าครูประจำชั้นจะหาเกมส์อะไรมาให้เด็กๆ เล่นร่วมกัน เวลา15.30 น.จะเป็นเวลาที่ผู้ปกครองเริ่มมารับลูกกลับบ้าน เนื่องจากใกล้จะสิ้นเดือนแล้ว วันนี้ขวัญชนกจึงไม่มีเวลาไปสอนภาษาอังกฤษ เพราะเธอต้องทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย เงินเดือนของคุณครูและลูกจ้าง รวมถึงทำรายงานผลการเรียนการสอนด้วย เธอนั่งทำงานเอกสารตั้งแต่เช้าจนลืมเวลารับประทานอาหารเที่ยง เวลาล่วงไปจนถึง15.30 น. ผู้ปกครองเริ่มมารับลูกๆ กลับบ้าน ก๊อก...ก๊อก… ขวัญชนกเงยหน้าขึ้นจากกองเอกสารเมื่อได้ยินเสียงเคาะประตูห้องทำงาน “เข้ามาสิจ้ะ” ขวัญชนกเอ่ยอนุญาต เธอทำสีหน้าแปลกใจเมื่อเห็นครูจ๋าหน้าซีดเดินร้อนรนเข้ามาในห้อง “เป็นอะไรไปจ๋า ทำไมหน้าซีดจังเลย” “พี่หลินค่ะ น้องบลูหายไปจากโรงเรียนค่ะ” ครูจ๋าหน้าซีดเอ่ยตอบขวัญชนกด้วยน้ำเสียงตื่นตระหนก ครูจ๋ารักขวัญชนกเหมือนพี่สาว เธอจึงเรียกขวัญชนกด้วยความสนิทสนม “อะไรน่ะ! น้องบลูหายไป จ๋าเดินดูรอบๆ โรงเรียนหรือยัง” ขวัญชนกร้องถามด้วยความตกใจ มือเรียวบางรีบเก็บเอกสารบนโต๊ะทำงาน “จ๋า เดินหาทั่วแล้วค่ะ แต่ไม่เจอน้องบลูเลย” ครูจ๋าเอ่ยตอบเสียงแผ่วเบา “น้องบลูหายไปนานหรือยัง แล้วใครเป็นคนดูเด็กๆ” ขวัญชนกเดินออกมาจากห้องทำงาน ร่างบางระหงเดินลิ่วมายังบริเวณสนามหน้าโรงเรียนที่มีเด็กๆ กลุ่มใหญ่กำลังเล่นอยู่ “สักประมาณ 20 นาที ได้แล้วค่ะ จ๋าเป็นคนดูเด็กๆ เองค่ะ แต่เมื่อสักครู่น้องอาร์ตกับน้องต้นทะเลาะกัน จ๋ามัวแต่แยกเด็กทั้งสอง แล้วน้องกันก็ถ่ายใส่กางเกง จ๋าเลยพาไปเข้าห้องน้ำ พอกลับมาก็ไม่เจอน้องบลูแล้ว” “น้องอาร์ตกับน้องต้นเจ็บมากมั้ย” ขวัญชนกอดที่จะเป็นห่วงเด็กนักเรียนคนอื่นๆ ไม่ได้ ใบหน้าคมสวยเครียดอย่างเห็นได้ชัด “เจ็บนิดหน่อยค่ะ ครูส้มกำลังทำแผลให้อยู่ค่ะ พี่หลินค่ะ จ๋าขอโทษ ที่ดูแลนักเรียนไม่ดี” ครูจ๋ายกมือไหว้เอ่ยขอโทษเสียงสั่นเครือ ดวงตาสีดำสนิทที่ฉายแววเศร้าอยู่ตลอดเวลายิ่งเศร้าลงไปอีก “ช่างมันเถอะ พี่รู้ว่าจ๋าทำดีที่สุดแล้ว มีใครรู้เรื่องน้องบลูหายไปมั้ย” ขวัญชนกปลอบขวัญครูสาวที่ทำท่าจะร้องไห้ “ยังไม่มีใครรู้ค่ะ” ครูจ๋าเอ่ยตอบ “จ๋าไปส่งนักเรียนก่อน ผู้ปกครองเริ่มมารับลูกแล้ว จ๋าอย่าเพิ่งบอกใครน่ะ เดี๋ยวพี่จะโทรไปหาคุณพ่อให้ช่วยส่งคนมาตามหาน้องบลูอีกแรง” “ค่ะ เดี๋ยวจ๋าส่งนักเรียนหมดแล้ว จ๋าจะรีบมาช่วยพี่หลินตามหาน้องบลูนะคะ” ครูจ๋าเอ่ยบอกเสร็จก็รีบวิ่งไปหน้าโรงเรียนเพื่อส่งนักเรียนให้กับผู้ปกครองที่มารอรับ ขวัญชนกกดโทรศัพท์ไปหาพลโทธิติ เธอเป็นกังวลกลัวว่าน้องบลูจะได้รับอันตราย หญิงสาวรอด้วยความเครียดกว่าคุณพ่อของเธอจะรับสายเธอรู้สึกว่าเหมือนนานนับชั่วโมง “คุณพ่อค่ะ ตอนนี้พ่ออยู่ที่ไหนคะ หลินกำลังเดือนร้อน” ขวัญชนกเอ่ยถามรัวเร็วเมื่อพลโทธิติกดรับสายแล้ว “พ่ออยู่ที่กระทรวง มีเรื่องอะไรจะให้พ่อช่วยหรือว่าจะให้พ่อไปช่วยกันพวกหนุ่มๆ ที่มาจีบอีก” พลโทธิติ หัวเราะฮึๆ ก่อนจะเอ่ยแซวลูกสาวสุดที่รัก “พ่อค่ะ! ไม่ใช่เวลามาล้อเล่นน่ะ นักเรียนที่โรงเรียนหลินหายไปคนหนึ่ง พ่อส่งคนของคุณพ่อมาช่วยตามหาหน่อยได้มั้ยคะ” “อะไรน่ะ! เด็กนักเรียนหาย” พลโทธิติตะโกนถามเสียงดัง น้ำเสียงเริ่มซีเรียสไม่แพ้ลูกสาว “ค่ะ หายได้สัก 20 นาทีแล้ว คุณพ่อให้คนของคุณพ่อเข้าทางประตูหลังโรงเรียนนะคะ หลินไม่อยากให้ผู้ปกครองคนอื่นทราบ เดี๋ยวจะตกใจกลายเป็นเรื่องใหญ่โตอีก” “ได้ พ่อจะให้คนของพ่อออกไปเดี๋ยวนี้ สักประมาณ 20 นาทีน่าจะถึงโรงเรียนน่ะ หลินติดต่อผู้ปกครองเด็กหรือยัง” “ยังเลยค่ะ หลินอยากหาน้องบลูรอบๆ โรงเรียนอีกทีก่อนค่ะ ถ้าไม่เจอจริงๆ จะลองโทรไปถามว่าเขารับน้องบลูไปหรือยัง” “หลินแค่นี้ก่อนน่ะ พ่อจะไปบอกให้คนของพ่อรีบไปที่โรงเรียน” พลโทธิติเอ่ยเสร็จก็กดวางสายไป ขวัญชนกทำหน้าเครียด ร่างบางเดินไปเดินมาเป็นหนูติดจั่น หญิงสาวฝืนยิ้นให้ผู้ปกครองบางคนที่เดินเข้ามาทัก เธอคิดว่าน้องบลูอาจจะไปที่สระว่ายน้ำหลังโรงเรียน แต่พอเธอเดินไปหาก็ไม่เจอ ลอง เดินไปหาตามห้องเรียนก็ไม่พบ อีก 30 นาทีต่อมาลูกน้องคนสนิทของพลโทธิติก็เดินทางมาถึงโรงเรียน ขวัญชนกวิ่งไปเปิดประตูหลังโรงเรียนให้ ร้อยตรีทั้ง 5 นายเข้ามาในโรงเรียน เธอเอารูปของน้องบลูให้ร้อยตรีทั้ง 5 นายดู บอกลักษณะเด่นว่าน้องบลูเป็นลูกครึ่ง ผิวขาว มีนัยน์ตาสีน้ำเงินเข้ม เมื่อทุกคนรับทราบข้อมูลของน้องบลูแล้วต่างก็พากันแยกย้ายหาในโรงเรียนและบริเวณโดยรอบ 1 ชั่วโมงผ่านไป ร้อยตรีทั้ง 5 นายกลับเข้ามาในโรงเรียนอีกครั้ง ทุกคนมีสีหน้าผิดหวัง เนื่องจากตามหาน้องบลูไม่พบ ขวัญชนกหน้าซีดเผือดไม่มีสีเลือด มือเท้าอ่อนยืนไม่ไหวจนต้องนั่งแปะหมดแรงบนเก้าอี้ หญิงสาวตัดสินใจโทรไปหาคุณแม่ของน้องบลูเผื่อว่าคุณแม่น้องบลูมารับโดยที่ไม่ได้บอกกับคุณครูจ๋าไว้
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม