หลังจากวันนั้น ลลินก็เริ่มลางานบ่อยขึ้นเนื่องจากอาการแพ้มันรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เธอแทบไม่สามารถทำงานได้จนต้องกลับมาพักที่ห้องอยู่เป็นประจำ จนสุดท้ายเธอก็เหนื่อยกับการที่ต้องไปๆหยุดๆ หญิงสาวตัดสินใจเขียนใบลาออกด้วยมีหลายเหตุผลที่ทำให้เธอยอมเสียบริษัทของบิดาไปจริงๆแล้วตอนนี้ เพราะเธอกลัวว่าจะกระทบเรื่องงานแถมสิ่งที่กลัวมากที่สุดคือจัสตินอาจสงสัยได้เกี่ยวกับการตั้งครรภ์ของเธอ เพราะตอนนี้หน้าท้องก็เริ่มนูนเด่นออกมาบ้างแต่ก็ไม่มากจนสามารถสังเกตเห็นได้ง่ายๆแต่นับวันมันจะยิ่งใหญ่เธอไม่อยากให้เขารับรู้เรื่องนี้ เลยคิดว่านี่คือทางออกที่ดีที่สุดแล้วสำหรับเธอ
“คุณว่ายังไงนะ! ใครลาออก!”
เสียงจัสตินดังขึ้นอย่างตกใจก่อนที่ความโกรธจะเริ่มขึ้น เมื่อกันยาเดินเอาจดหมายลาออกของ ลลินมาส่งให้เขาในเช้าวันทำงาน มือใหญ่รีบเอื้อมไปรับก่อนจะเปิดออกดูทันที และพบว่ามันคือความจริง ซึ่งเป็นสิ่งที่เขาไม่เคยคาดคิดว่าลลินจะลาออก เพราะตลอดเวลาเธอยืนยันว่าจะทำงานอยู่ที่บริษัทนี้ซึ่งเป็นบริษัทที่บิดาของหญิงสาวก่อตั้งขึ้น
“เดี๋ยวผมมา”
จัสตินกำกระดาษในมือเอาไว้แน่นก่อนจะเดินออกจากห้องทำงานไปอย่างฉุนเฉียว โดยมีสายตาโศกเศร้าของกันยามองตามไป
“ลลินอยู่ไหน! มาทำงานรึยัง!”
“เอ่อ บอสคะ คือว่าวันนี้พี่ลินลา...แล้วก็น่าจะไม่มา...”
ยังไม่ทันที่เมธาวีจะพูดจบประโยคร่างใหญ่ของจัสตินก็เดินออกไปราวกับพายุใต้ฝุ่น ทำเอาหญิงสาวถึงกับยกมือขึ้นทาบอกทันที ก่อนจะมองไปที่ประตูห้องทำงานของเจ้านายสาวอย่างรู้สึกเศร้าสร้อยอย่างบอกไม่ถูก เธอก็รู้เรื่องที่ลลินจะลาออกก่อนคนอื่นๆเพียงแค่อาทิตย์เดียวเท่านั้นเอง
ทางด้านจัสติน ตอนนี้เขาขับรถออกจากบริษัทและกำลังตรงมาที่คอนโดของลลินที่เขารู้ว่ามันอยู่ที่ไหน และรู้มาตั้งนานแล้วนั้นอย่างกับพายุหมุน ชายหนุ่มแทบไม่คิดเบรกถ้าไม่ติดไฟแดงก่อนจะมาจอดสนิทอยู่ใต้คอนโดหรูของหญิงสาว เขารีบก้าวลงจากรถทันที
“ผมมาขอพบคุณลลิน”
เขาบอกกับพนักงานที่ทำงานอยู่หน้าเคาเตอร์ของคอนโด
“เธอพึ่งออกไปข้างนอกเมื่อสิบนาทีก่อนค่ะ ไม่แน่ใจว่าจะเข้ามาตอนไหน ลองโทรหาเธอดูก็ได้นะคะ”
พนักงานบอกออกมาตามความเป็นจริง ทำเอาจัสตินแทบสะกดกั้นอารมณ์ร้อนรุ่มของเขาไม่อยู่ เพราะไม่ใช่ว่าเขาจะไม่โทร เขาโทรจนโทรศัพท์จะไหม้อยู่แล้วแต่เธอไม่รับแถมปิดเครื่องใส่อีกนี่สิที่ทำให้เขาโกรธมากมายอยู่ตอนนี้ เมื่อทำอะไรไม่ได้ชายหนุ่มจึงไปนั่งรออยู่ที่โซฟารับแขกแทน
จัสตินนั่งรอแล้วรอเล่าลลินก็ไม่มาสักที ทำเอาเขาเริ่มอยู่เฉยไม่ได้ เพราะสมองกำลังคิดไปต่างๆนานาแล้ว
“ลลิน!!!”
เสียงแข็งกร้าวร้องเรียกชื่อของลลินดังขึ้นเพราะสุดท้ายก็สิ้นสุดความอดทนเมื่อร่างบางเดินถือของพะรุงพะรังเข้ามาเต็มไม้เต็มมือ ก่อนจะหันไปมองตามเสียงที่เธอรู้สึกว่าคุ้นเคย พลันของทุกอย่างก็หล่นไปกองรวมกันอยู่บนพื้น ขาเรียวเริ่มก้าวถอยหลังอย่างรู้สึกหวาดกลัวกับสีหน้าท่าทางของชายหนุ่มที่เธอพยายามหนีแต่ก็หนีไม่รอด จัสตินรีบวิ่งเข้ามาก่อนจะจับแขนเล็กเอาไว้แน่นเพราะกลัวเธอวิ่งหนีอีก
“ไปคุยกับผมดีๆหรือจะให้ผมต้องใช้กำลัง”
เสียงขู่ของจัสตินทำเอาลลินถึงกับขนลุก เพราะถ้าเป็นอย่างนั้นลูกในท้องของเธออาจเป็นอันตรายได้
“ไม่...เดี๋ยวฉันเดินตามไป...ที่สวนด้านหลังก็แล้วกัน”
ลลินบอกขึ้นก่อนจะก้มลงเก็บของแล้วเอาไปฝากไว้ที่เคาท์เตอร์โดยมีจัสตินมองตามอย่างแปลกใจเพราะเห็นสิ่งของที่เธอซื้อมานั้นมันเป็นของเด็กอ่อนแทบทั้งสิ้น จากนั้นทั้งสองก็เดินตามกันออกไปที่สวนหลังคอนโด
“คุณคิดจะทำอะไร จะหนีปัญหาด้วยวิธีโง่ๆแบบนี้เหรอ”
เขาเอากระดาษที่กำติดมือมาโยนไปตรงหน้าหญิงสาว ลลินที่ไม่ต้องมองก็รู้ได้ทันทีว่ามันคืออะไร
“ฉันไม่ได้หนีปัญหาแล้วก็คิดมาอย่างดีที่สุดแล้ว แต่ถ้ามันไม่ถูกใจคุณฉันก็ไม่สามารถทำอะไรได้ แต่ฉันยังคงยืนยันที่จะลาออก”
ลลินบอกออกมาเสียงเรียบนิ่งอย่างพยายามสะกดอารมณ์เพื่อที่ไม่อยากทะเลาะและอาจมีผลต่อลูกน้อยในครรภ์ของเธอด้วย
“ก็ได้ถ้าคุณยืนยันว่าที่ลาออกไม่ได้เป็นเพราะผมจริง แต่ขอให้รู้เอาไว้ ว่าการหนีปัญหามันไม่ใช่ทางที่ถูกต้อง!!”
จัสตินพูดทิ้งท้ายด้วยความโมโหก่อนจะเดินจากไปทันทีทิ้งให้ลลินได้แต่มองตามพลางน้ำตาก้อนใหญ่ก็หลั่งรินออกมา นี่คงครั้งสุดท้ายแล้วสินะที่เธอจะได้เห็นเขาแบบนี้ ขอให้ทุกอย่างจบลงตรงนี้วันนี้ แล้วเธอจะไปมีชีวิตใหม่กับลูกน้อยของเธอสองคน
เวลาผ่านไปเรื่อยๆหลังจากวันนั้นก็เกือบๆสามเดือนแล้วที่ลลินหายหน้าหายตาไปอย่างไร้ร่องรอย ด้วยความรู้สึกค้างคาหรืออะไรจัสตินก็ไม่อาจอธิบายออกมาได้ เพราะเขาแทบไม่เป็นอันทำอะไรเอาแต่คิดหาเหตุผลต่างๆนานาสุดท้ายเขาก็ตัดสินใจกลับไปหาลลินที่คอนโดอีกครั้งและพนักงานที่นั่นก็บอกเพียงว่าเห็นเธอออกไปพร้อมกับกระเป๋าใบใหญ่ จนตอนนี้ผ่านไปเกือบๆสองเดือนเธอก็ยังไม่กลับมา ทุกวันหลังเลิกงานจัสตินแทบบอกได้ว่ามานั่งสิงสถิตอยู่ที่คอนโดนี้จนพนักงานพากันจำได้ และคำตอบก็เหมือนเดิมคือเธอยังไม่กลับมา
“เฮ้อ หายไปไหนนะลลิน...”
เสียงเอ่ยขึ้นอย่างท้อแท้ก่อนจะตัดสินใจขับรถกลับคอนโดของเขาเหมือนทุกๆวันโดยไม่รู้เลยว่า ลลินนั้นได้บินลัดฟ้าไปอยู่กับบิดาและน้องชายเรียบร้อยแล้ว เพราะเธอต้องมีคนดูแล อีกอย่างเธออยากไปให้ไกลๆเพื่อที่จะเริ่มต้นชีวิตใหม่ด้วยเลยตัดสินใจมาหาบิดา ทีแรกหญิงสาวคิดหนักว่าจะบอกบิดาถึงเรื่องที่เกิดขึ้นยังไง เพราะกลัวบิดาผิดหวังเสียใจกับสิ่งที่เธอพลาดพลั้งทำลงไป แต่กลับเปล่าเลยเมื่อคุณไตรภพรู้ว่าบุตรสาวกำลังตั้งครรภ์เขาแทบกระโดดโลดเต้นไปทั่วบ้านที่จะมีหลานเพิ่มมาอีกคนแล้วแถมยังไม่คิดถามถึงพ่อของลูกในท้องของเธอเลยสักนิด
“ทำอะไรอยู่ลิน ขอพ่อคุยด้วยหน่อยได้ไหม”
เสียงที่ดังขึ้นด้านหลังทำเอาคนที่ตกอยู่ในภวังค์รีบหันมามองก่อนจะฉีกยิ้มกว้างส่งไปให้บิดาทันที คุณไตรภพเดินเข้ามานั่งข้างบุตรสาวที่ตอนนี้ดูมีน้ำมีนวลกว่าแต่ก่อนเยอะมากทีเดียว
“เป็นยังไงบ้างวันนี้ แพ้หนักอยู่อีกรึเปล่าลูก”
“ไม่แล้วค่ะคุณพ่อ ลินดีขึ้นมากแล้ว ดีที่ได้คำแนะนำจากหลินหลินค่ะ”
ลลินบอกออกมาพลางขอบคุณน้องสะใภ้ของตนเอง ที่ช่วยแนะนำหลายอย่างให้เธอได้ดีเลยทีเดียว
“บางทีพ่อก็คิดถึงแม่ของลูกมากๆเลยรู้ไหม แต่ก็ขอบคุณที่เธอยังทิ้งสมบัติอันล้ำค่าเอาไว้ให้พ่อด้วย พ่อรักลินกับดนย์มากนะลูก ถ้ามีเรื่องอะไรไม่สบายใจก็อย่างเก็บมันเอาไว้ พ่อยอมรับฟังลินเสมอนะ”
ลลินถลาเข้ากอดบิดาอย่างแสนของคุณ เธอไม่นึกว่าบิดาของเธอจะเป็นคนดี ดีแบบไร้ที่ติขนาดนี้ เธอโชคดีจริงๆที่บิดารักและเข้าใจทุกอย่าง จากนั้นสองพ่อลูกก็คุยเล่นกันอย่างสนุกสนาน