“เอาออกไป! บอกว่าให้ไปทำมาใหม่ แล้วนี่อะไร เหมือนเดิมทุกอย่าง”
เสียงดังกัมปนาทของ จัสติน เดชนรงค์ ลูกครึ่งไทย-สวีเดน ที่ตอนนี้ดำรงตำแหน่งรองประธานในเครือบริษัท ลลินดา พร็อพเพอร์ตี้ ซึ่งเป็นบริษัทพัฒนาอสังหามริมทรัพย์อันดับหนึ่งในประเทศไทย ทำเอาเลขาอย่าง กันยา ถึงกับแทบหกล้มคารองเท้าส้นสูงเมื่อต้องวิ่งกลับเข้ามาในห้องทำงานของเจ้านายหนุ่ม ทั้งๆที่พึ่งเดินออกไปได้ยังไม่ถึงสิบนาที
“เดี๋ยวกันยาบอกกับทางฝ่ายออกแบบให้นะคะ”
กันยารีบเดินเข้ามาหอบเอาเอกสารบนโต๊ะทำงานของเจ้านายหนุ่มแล้วเดินออกจากห้องทำงานของจัสตินไปทันที
“อีกแล้วเหรอ นี่มันจะมากไปแล้วนะ นี่ก็ไม่เอาโน่นก็ไม่ผ่าน ตกลงต้องการอะไรกันแน่ อยากมีเรื่องนักใช่ไหม หึ! ได้”
ส่วนทางด้านฝ่ายออกแบบก็ไม่น้อยหน้า เมื่องานถูกตีกลับอีกครั้ง ไม่รู้เป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วนั้น ลลิน เหมากุล หรือ ลิน ผู้จัดการฝ่ายออกแบบพ่วงด้วยตำแหน่งทายาทเก่าของบริษัท ก่อนที่บิดาของจัสตินจะเข้ามาเทคโอเวอร์ ลลินดา พร็อพเพอร์ตี้ เมื่อสองปีที่แล้ว แต่ครอบครัวของเธอก็ยังคงมีหุ้นส่วนในบริษัทนี้อยู่ หญิงสาวจึงยังได้ดำรงตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายออกแบบมาจนถึงปัจจุบัน และยังพ่วงอีกตำแหน่งคือคู่แค้นคู่กัดของจัสติน รองประธานหนุ่มที่เป็นทายาทโดยตรงของบริษัทอยู่ในขณะนี้
“เอามาให้ลิน เดี๋ยวลินจะไปคุยกับเขาเอง”
ลลินเดินมาหยิบเอกสารในมือของกันยาที่ยังไม่ได้วางก่อนจะเดินออกจากห้องทำงานไปทันที ทำเอาทั้งกันยาและเมธาวีเลขาของลลินได้แต่มองตามอย่างรู้สึกหนักใจ เพราะสองคนนี้เวลาเจอกันทีไรเป็นต้องทะเลาะกันรุนแรงทุกที
ตุ๊บ!!!
เสียงเอกสารดังขึ้น ลลินโยนมันลงไปอย่างไม่ใยดีต่อหน้าโต๊ะทำงานของรองประธานหนุ่มจัสติน ที่นั่งเซ็นเอกสารอยู่จึงค่อยๆเงยหน้าขึ้นมอง เพราะรู้ดีว่าเธอต้องมาแน่
“ฉันหมดความอดทนกับคุณแล้วนะ ไอ้นั่นไม่ดี ไอ้นี่ไม่ผ่าน มันจะอะไรกันนักกันหนา ไหนกรุณาบอกมาสิว่าตรงไหนที่มันไม่ผ่าน”
ลลินพูดขึ้นด้วยความโมโห เพราะนี่มันไม่ใช่ครั้งแรก เธอให้ลูกน้องแก้งานมาส่งเป็นสิบๆรอบก็ยังไม่ผ่านจนครั้งนี้เธอต้องเอามันมาทำเองแต่จัสจินก็ยังบอกว่ามันไม่ผ่านอีก เลยทำให้เธอหมดความอดทนทันที
“ผมไม่มีเวลามานั่งอธิบายกับงานไม่ได้เรื่องแบบนี้ ถ้าทำไม่ได้ก็ออกไป ให้คนที่มีความสามารถเข้ามาทำแทน”
จัสตินพูดขึ้นเสียงนิ่ง ตอนนี้เขาไม่อยากต่อล้อต่อเถียงกับหญิงสาว เพราะโครงการที่ปราณบุรีกำลังมีปัญหาเรื่องแบบบ้าน จนต้องหยุดการสร้างลงชั่วคราว
“หึ!! นี่คุณว่าฉันไร้ความสามารถอย่างนั้นเหรอ คุณบอกว่างานมันไม่ได้ แบบไม่ลงตัวแล้วคุณเคยอธิบายไหมว่าตรงไหนที่มันไม่ลงหรือต้องการแบบไหน! แล้วฉันก็ไม่ได้อยากทำงานกับคุณเลยสักนิด ถ้าไม่คิดว่ามันเป็นบริษัทที่คุณพ่อฉันสร้างขึ้นมาฉันไม่มานั่งเสียเวลาอยู่อย่างนี้หรอก!”
ลลินพูดขึ้นด้วยความโมโหก่อนจะสะบัดหน้าเดินออกไป เพราะถ้าขืนอยู่นานกว่านี้มีหวังเธอได้วาดแม่ไม้มวยไทยกับชายหนุ่มแน่นอน
“เฮ้อออออ”
จัสตินถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยหน่ายเพราะตอนนี้ปัญหาด้านนอกบริษัทก็เยอะอยู่แล้ว แล้วเขายังต้องมาแก้ปัญหาในบริษัทอีก ไม่ใช่ว่าเขาอยากมีปัญหากับเธออย่างนี้ แต่งานที่เขาดูมันไม่ลงตัวจริงๆ ถ้าเธอดูมันดีๆเธอจะรู้ว่าแบบที่ทำมามันมีอีกแค่ไม่กี่จุดต้องแก้ไข และไม่ใช่ว่าเขาไม่อยากบอกว่าต้องแก้ตรงไหนเพราะทุกครั้งที่มันผิดเขาก็บอกแต่มันกลับเป็นอยู่อย่างนี้ตลอดจนหลังๆมานี้เขาแค่ตรวจแต่ไม่อยากบอก อยากให้ทำงานกันอย่างรอบครอบและควรตรวจให้ละเอียดก่อนเอามาส่งเขา
“เป็นไงบ้างคะพี่ลินแล้ว....”
เมธาวีที่เห็นเจ้านายสาวเดินเข้ามารีบถามขึ้นแต่ลลินไม่ได้แม้จะสนใจมองเพราะเธอโกรธจัสตินมากจนไม่อยากแม้แต่จะคุยกับใครทั้งนั้น
“ไอ้บ้า!!! ไอ้บ้าๆๆๆๆๆๆๆ”
พอเข้ามาอยู่ในที่ส่วนตัวหญิงสาวถึงกับตะโกนเอาความอัดอั้นตันใจออกมาอย่างสุดจะทน ความโกรธที่เคยมีเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นความเกลียดอย่างทนไม่ไหว เมื่อปัญหาระหว่างจัสตินและเธอมันเรื้อรังมานานจนตอนนี้เธอแทบไม่อยากมองหน้าเขา
“ลินจะทนได้นานขนาดไหนคะคุณแม่ ลินเหนื่อยเหลือเกิน”
น้ำตาที่น้อยคนจะได้เห็นค่อยๆไหลรินอย่างกลั้นเอาไว้ไม่อยู่เมื่อนึกไปถึงมารดาที่ได้จากโลกนี้ไปเพราะโรคร้ายตั้งแต่เธอเริ่มเรียนมหาวิทยาลัย บริษัทลลินดา พร็อพเพอร์ตี้นั้นเป็นบริษัทที่ คุณไตรภพ บิดาของเธอก่อตั้งขึ้นโดยใช้ชื่อมารดาของเธอจนกระทั่งประสบปัญหาทางธุรกิจ บิดาของจัสตินก็ยื่นมือเข้าช่วยบริหาร แต่เธอกับบิดาก็ยังคงมีหุ้นส่วนและมีเพียงเธอที่ยังคงทำงานอยู่ที่นี่ บิดานั้นขอเกษียนตนเองไปอยู่ไกลถึงต่างประเทศกับผู้เป็นน้องชายที่มีครอบครัวอยู่ที่โน่น
ปัญหาระหว่างเธอกับจัสตินเริ่มขึ้นเมื่อปีก่อน เมื่อเธอนั้นพยายามเสนอไอเดียการออกแบบให้ต่างออกไปจากแบบเดิม แต่ชายหนุ่มกลับหักหน้าเธอกลางที่ประชุมและพวกคณะกรรมการก็ดันไปเห็นด้วยกับเขาอีกทำเอาลลินถึงกับพูดไม่ออก หลังจากนั้นเธอก็เริ่มสังเกตว่าจัสตินมักจะหาเรื่องมาให้แผนกของเธอตลอด จากที่งานไม่เคยมีปัญหาก็เริ่มมีตรงนั้นผิด ตรงนี้แก้ พอเธอให้ลูกน้องแก้งานแล้วเอาไปส่งก็มักจะโดนตีกลับ จนหลังๆเริ่มเป็นเธอที่เป็นคนเอาไปส่งเองเขาถึงจะยอมให้งานของเธอผ่าน จนมันเริ่มสะสมมาเรื่อยๆลลินเลยอดไม่ได้ที่จะระเบิดอารมณ์ออกมา
“อะ..เอ่อ พี่ลินคะ พอดีว่าท่านรองให้พี่ลินเข้าไปพบค่ะ...ตอนนี้...”
เมธาวีที่เดินเข้ามาโดยไม่ได้ขออนุญาตเพราะมัวแต่ตกใจที่อยู่ดีๆจัสตินก็บอกให้ลลินเข้าพบทั้งๆที่เธอทำงานมาตั้งนานรองประธานหนุ่มไม่เคยทำแบบนี้เลยสักครั้งรีบเข้ามารายงานเจ้านายสาวของเธอแต่ดันเข้ามาเห็นตอนที่ไม่ควรเห็นเสียอย่างนั้น
“อืม เดี๋ยวพี่ไป”
ลลินยกมือเล็กขึ้นเช็ดน้ำตาก่อนจะรีบกลั้นลูกสะอื้น เพราะตอนนี้เธอต้องกลับมาเข้มแข็งแล้วทำงานต่อ แต่ก็อดแปลกใจไม่ได้ที่จัสตินอยากพบเธอทั้งๆที่เธอพึ่งไปอาละวาดเขามาแท้ๆ
“ขออนุญาตค่ะ คุณลลินมาแล้วค่ะบอส”
“อืม”
เสียงอนุญาตช่างสั้นและน่ารำคาญสำหรับลลินเหลือเกิน หญิงสาวหายใจเข้าลึกๆก่อนจะเดินเข้าไปในห้องทำงานของชายหนุ่ม ซึ่งมันเป็นที่ที่เธอแทบไม่คิดอยากก้าวเข้ามาเลยสักนิดถ้าไม่จำเป็นจริงๆ
“เชิญนั่ง เราคงต้องคุยกันยาว”
จัสตินบอกขึ้น ก่อนที่ลลินจะทำตามที่เขาบอกพลางนึกอยากรู้ว่ามันต้องมีเรื่องอะไรแน่นอนเขาถึงเรียกเธอเข้ามาหาแถมให้นั่งคุยแบบนี้อีก ด้วยความสงสัยเลยอดถามออกมาไม่ได้
“มีอะไรรึเปล่า”
แต่น้ำเสียงก็ยังแข็งกระด้างเมื่อความโกรธยังไม่หมดไป จัสตินค่อยๆยื่นเอกสารในแฟ้มตรงหน้าให้ ลลินเอื้อมมือมาหยิบก่อนจะเปิดอ่าน ตากลมไล่อ่านไปเรื่อยๆประมาณเกือบๆห้านาทีโดยไม่รู้เลยว่ามีสายตาคมจ้องมองเธอนิ่งด้วยหัวคิ้วที่แทบจะจรดกันอย่างคาดเดายาก
“มันเป็นไปได้ยังไง แบบก็ดูรัดกุมทุกอย่าง เป็นทางหน้างานรึเปล่าที่ทำให้งานมีปัญหา ฉันแน่ใจว่าแบบตัวนี้ถูกประเมินและผ่านการตรวจทานอย่างละเอียดจากหลายฝ่าย”
เมื่ออ่านเสร็จ ลลินก็เอ่ยค้านขึ้นมาทันที เพราะในเอกสารแจ้งมาว่าตัวแบบมีปัญหา ทำให้โครงสร้างของตัวบ้านเอียงเอน แต่เท่าที่เธอดูมันแทบเป็นไปไม่ได้เพราะตามแบบแทบจะอุดช่องโหว่พวกนั้นไว้จนหมด
“เฮ้อ ผมก็ไม่แน่ใจว่าปัญหาจริงๆมันคืออะไร แต่ตอนนี้โครงการถูกระงับการสร้างชั่วคราว คุณช่วยบอกผมได้ไหมว่าจะแก้ปัญหานี้ยังไง”
จัสตินเอ่ยถามขึ้น เพราะหลายครั้งถ้าไม่ใช่เขาก็เป็นคนอื่นที่ช่วยแก้ปัญหาต่างๆของบริษัทนี้ แต่ ลลินที่มักบอกว่าบริษัทนี้เป็นของครอบครัวเธอกลับไม่เคยเผชิญมันด้วยตัวเอง และครั้งนี้แหละเขาจะให้เธอได้เห็นปัญหาจริงๆสักที เธอจะได้ไม่มาใช้อารมณ์ด่าเขาบ่อยๆแบบนั้นอีก
“ฉันจะไปดูหน้างานด้วยตัวเอง ฉันแน่ใจว่าปัญหามันอยู่ที่ผู้รับเหมา ไม่ใช่แบบ”
“อืม ก็ตามใจ แต่ผมขอบอกไว้ก่อนว่าถ้าเกิดมันเกิดจากแบบจริงๆ ฝ่ายคุณต้องรับผิดชอบความผิดพลาดที่เกิดขึ้น”
ก่อนที่ลลินจะได้เดินออกจากห้องทำงานของชายหนุ่มไป ก็ต้องกลับมาเดือดพล่านอีกครั้ง เธอพยายามไม่อยากต่อปากต่อคำกลั้นใจเดินออกไปทันที โดยมีจัสตินมองตามจนลับร่างเล็กไป
ส่วนทางด้านลลินเดินกลับมาที่ห้องทำงานด้วยหัวใจที่เต้นรัวด้วยทั้งโกรธที่โดนโยนปัญหามาให้ฝ่ายของเธอ ทั้งยังพาลโกรธไปถึงจัสตินเพราะคิดว่าเขาพยายามหาเรื่องเธอ
“เดี๋ยวพี่จะออกไปดูหน้างานที่ปราณบุรีนะ ส่วนทางนี้พี่ฝากด้วย ถ้ามีอะไรด่วนก็ส่งเมลไปให้พี่ได้เลย”
“แล้ว....กลับมาวันไหน....เฮ้อออออ”
เสียงเมธาวีที่เอ่ยถามขึ้นตามหลังลลินไปเหมือนเป็นแค่ลมพัดผ่านเมื่อเจ้านายสาวได้เดินหายลับไปจากตรงนั้นเรียบร้อยแล้ว
ลลินที่ไม่สามารถรอเวลาได้รีบขับรถตรงไปปราณบุรีทันที เธอจะไม่ยอมเด็ดขาดถ้างานที่มีปัญหานั้นไม่ได้เกิดจากแบบ เธอจะไม่ยอมให้จัสตินเล่นงานเธอได้เด็ดขาด
ส่วนทางด้านจัสติน วันนี้เป็นวันศุกร์สุดสัปดาห์ เขาเลยคิดว่าจะทำงานลากยาวไปจนมืดค่ำด้วยยังไม่อยากกลับบ้านเท่าไหร่ เพราะทุกวันศุกร์สุดสัปดาห์เขาจะกลับบ้านไปหาบิดามารดาและจะได้พักยาวๆจนวันจันทร์
“คุณว่าอะไรนะ! ผู้รับเหมาประท้วงขอค่าแรง มันเกิดขึ้นได้ยังไง...”
แต่ขณะที่นั่งทำงานอยู่จัสตินก็ได้รับสายจากผู้ดูแลโครงการที่กำลังมีปัญหาว่าผู้รับเหมาพากันมารวมตัวประท้วงเรื่องไม่ได้รับค่าจ้าง ทำเอาเขาแทบยกมือขึ้นกุมขมับทันที ก่อนจะลุกขึ้นเก็บของเมื่อคุยโทรศัพท์เสร็จเรียบร้อย เห็นทีคงต้องเป็นเขาที่ต้องไปปัญหานี้ด้วยตัวเองเสียแล้ว