พี่ไข่ของเธอเป็นคนขยัน มุมานะในการสร้างเนื้อสร้างตัวมากๆ เขาทำการเกษตรแบบยึดหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง รายได้ของเขาในแต่ละเดือนเท่ากับเงินเดือนปริญญาตรีของนักศึกษาจบใหม่อย่างเธอซึ่งต้องทำงานทั้งปี
หมู่บ้านของเธอ บ้านแต่ละหลังห่างกันมาก ในชนบทแบบนี้ชาวบ้านมีที่ดิน และทำการเกษตรเสียส่วนใหญ่ จึงไม่ได้ปลูกบ้านใกล้กันเหมือนในตัวเมืองใหญ่ แต่กลับมีน้ำใจช่วยเหลือกันมากกว่า นอกจากครอบครัวไหนที่มี พี่น้องหลายคนอยากปลูกบ้านอยู่ใกล้กันจะได้ช่วยเหลืองานการซึ่งกันและกัน ก็มีหลายครอบครัวเช่นกัน
“ให้พี่ฟอกสบู่ให้ตัวเล็กนะ” เขากระซิบที่ริมหู เสียงกระเส่าแบบนี้ทำเธอแข้งขาระทวย วางไม้วางมือแทบไม่ถูก ไม่ได้โดนเขาเปิดซิงก็เหมือนโดนนั่นแหละ เขาสัมผัสไปตรงไหน เธอก็สะท้านไปทั้งตัวมือของเขาเริ่มถูไปตามเนื้อตัวของเธอ ฟองสบู่หอมกรุ่นกระจายตัวอย่างรวดเร็ว โขมพัตถ์ลากมือจากไหล่เนียนลงไปประสานกับหลังมือสาว
ยุวธิดาก้มงุด ใจสั่นตัวสั่นขณะเขาจับมือเธอลากขึ้นมาจนถึงโคนขา เขาเม้มใบหูของเธอเบาๆ
“อุ๊ย!” คนตัวเล็กสะดุ้งด้วยความเสียวไส้ ยิ่งซ่านสยิวเข้าไปอีกเมื่อ มือใหญ่ลากมือของเธอขึ้นมาที่เนินสาว ก่อนจะกอบกุมเอาไว้และถูเบาๆ
“พี่ไข่จ๋า ระ... เรารีบอาบน้ำกันดีกว่าจ้ะ” เธอบอกเขาเสียงสั่นระริก ในขณะที่เขารวบกุมมือประสานกับเธอแน่นขึ้น แล้วสะกิดเบาๆ ที่ยอดเกสรสวาท
“อา...” เธอร้องคราง จิกมืออีกข้างกับผ้าถุงแน่นขึ้น เขาเขี่ยติ่งไตแดงฉ่ำเพียงไม่นานเธอก็เกร็งกระตุกเสร็จคานิ้วของเขา หลั่งรินน้ำหวานออกมา ท่วมท้น
เขาลากมือขัดถูไปตามเนื้อกายสาวต่อเนื่อง คนตัวเล็กถึงกับตัวอ่อนระทวย หอบหายใจแผ่วๆ เพราะเสียวซ่านกับมือหนาที่สัมผัสไปทั่วสรรพางค์กาย
“พี่ไข่จ๋า ดะ... เดี๋ยวต้องไปทำต้มกะทิสายบัวอีกนะจ๊ะ”
“รู้แล้วครับ” เขามองคนขี้อายด้วยสายตาเอ็นดูปนรักใคร่
“แข็งไปทั้ง... เลยเห็นไหม ตอนโดนตัวเล็กนั่งทับ” เขาจับมือเธอมาวางที่หน้าขาแกร่ง พูดเป็นนัยชวนเสียวซ่าน
“อุ๊ย!” เธอดึงมือหนีแต่เขาตะครุบเอาไว้
“แต่งงานกันพี่จะเข้าหอเจ็ดวันเจ็ดคืนเลยคอยดู”
“ขาดใจตายกันพอดีสิคะ” เธอค้อนเขา ก้มหน้างุด มือยังกุมส่วนของความเป็นชายแข็งแกร่งที่เหมือนมีชีวิตอยู่ในอุ้งมือน้อยๆ ของตัวเอง
เขาอยากให้เธอกลืนกิน ลามเลีย รูดรัด ทำอะไรก็ได้ให้หายทรมาน แต่คนขี้อายคงไม่ทำ และเขาคงต้องตัดใจอีกเช่นเคย
“รีบอาบน้ำกันเถอะ” เขาอยากจะบ้าตาย อยากวิวาห์เหาะเสียให้รู้แล้ว รู้รอด ไม่อยากรอให้ถึงสามเดือน คนอยากมีเมียเร็วๆ อกจะแตกตายอยู่รอมร่อ
สองหนุ่มสาวรีบอาบน้ำอาบท่าโดยเร็ว เธอยืมเสื้อผ้าของเขามาสวมใส่ชั่วคราว ส่วนชุดชั้นในนั้นตากผึ่งลมเอาไว้ด้านล่างหลังจากที่ซักจนสะอาดแล้ว
เสื้อผ้าของเขาตัวหลวมโคร่งเพราะเขาตัวใหญ่มาก รู้สึกโล่งเมื่อนำมาสวม ไม่มีชุดชั้นในอีกด้วย มันเลยรู้สึกแปลกๆ เขินๆ อย่างไรไม่รู้
ต้มกะทิสายบัว รสชาติจะออกมันๆ เปรี้ยวๆ หวานๆ โขมพัตถ์เป็นคนเตรียมสายบัว ส่วนเธอจัดการนึ่งปลาทู ก่อนจะมาขูดมะพร้าว
“อุ๊ย!” เธออุทานเมื่อเขามานั่งบนที่ขูดมะพร้าวซ้อนด้านหลังเธอ
“ให้พี่ช่วยขูดไหม จะได้เสร็จเร็วๆ” เขากระซิบบอกที่ริมหู
“ให้กล้วยลุกก่อนสิคะ พี่ไข่จะได้ขูดได้ถนัด”
“ตอนนี้ก็ลุกครับ ลุกไปทั้งลำเลย” เขาเบียดเข้ามาหา
“พี่ไข่ลามก! คนบ้าพูดอะไรก็ไม่รู้” เธอจะลุกหนีแต่เขากอดเอาไว้ เอื้อมมือไปขูดมะพร้าวช่วยเธออย่างแข็งขัน คนขี้อายเขินหน้าแดง ตัวสั่นระริกอีกรอบในอ้อมแขนของเขา
“ที่ไหนกันครับ พี่แค่อยากช่วยเท่านั้นเอง”
“เดี๋ยวกล้วยไปโขลกพริกนะคะ”
“ขูดมะพร้าวก่อนครับ ค่อยโขกพริก” เขากระซิบ รั้งมือเธอไปขูดมะพร้าว
“อุ๊ย!” ยุวธิดาเบี่ยงหลบแต่ไม่พ้น โดนเขาขโมยหอมแก้มไปหลายครั้ง
“ตัวหอมจัง ขนาดไม่ใส่น้ำหอม” เขาซุกไซ้
“พี่ไข่ขา...”
“ขา...”
“เดี๋ยวจะขูดมะพร้าวไม่เสร็จนะคะ” เธอบอกเขาเสียงสั่นๆ มะพร้าวไม่ค่อยได้ขูด เธอโดนปล้นจูบเสียส่วนใหญ่
“ก็ขูดไปสิครับ พี่แค่มาช่วย”
“มาช่วยทำให้ช้าน่ะสิคะ อุ๊ย!” เขาละมือจากที่วางทาบทับบนหลังมือของเธอเพื่อช่วยขูดมะพร้าว แล้วล้วงเข้าไปในเสื้อตัวโคร่งของเธอแทน
“พี่ไข่ ไม่เอาค่ะ” เธอตีมือ เขาทำตาปรอย
“พี่อยากช่วยขูดจริงๆ นะ”
“อย่ามาเนียนค่ะ พี่ไข่น่ะทะลึ่งใหญ่แล้ว”
“เห็นตัวเล็กแล้วมีอารมณ์นี่นา” เขาบอกเสียงกระเส่า
“เดี๋ยวไม่ได้กินกันพอดี” เธอทำเสียงดุแต่ไม่จริงจังนัก
“งั้นเร่งขูดกันเถอะจ้ะ” เขาบอกว่าเร่งขูดก็เร่งจริงๆ ขูดไปโยกไปท่อนเนื้อของเขามันเสียดสีกับบั้นท้ายของเธอ คนที่นั่งอยู่ด้านหน้าแก้มแดงปลั่ง ขนลุกซู่ไปหมด กว่าจะขูดมะพร้าวเสร็จเล่นเอาเหงื่อตก แถมมือของเขายังซน ห้ามปรามจนอ่อนใจ เอาแต่ล้วงเข้ามานวดนมเธอ ฟอนเฟ้นจนหัวนมแข็งไปหมด
“พี่ไข่ไปโขลกเครื่องในครกสิจ๊ะ” เธอรีบบอกเขา ต้องโขลกหอมแดง พริกไทยและกะปิเข้าด้วยกัน เขาผละห่างอย่างแสนเสียดาย ไปนั่งโขลกเครื่องแป๊บเดียวก็มานั่งซ้อนทางด้านหลังเธออีกแล้ว หาเรื่องมากอดหอมให้สาแก่ใจ
“พี่ไข่ตั้งหางกะทิบนไฟก่อน”
“ช่วยแกะปลานึ่งก่อนไม่ได้เหรอ” เขาโอบเธอมาจากทางด้านหลังก่อนจะจับมือเธอเอาไว้และช่วยแกะปลาทูนึ่ง
เนียนได้ตลอดเวลา... ให้ได้กอดหอมให้หายคิดถึงก็พอ
“กล้วยหิวแล้วนะคะ ยังไม่ได้กินอะไรเลย”
“พี่ก็หิวแล้วเหมือนกัน” เสียงของเขากระเส่า เขาหิวอะไรกันล่ะ คงไม่ได้หิวข้าวเหมือนเธอสินะ
เขาช่วยแกะปลาก่อนจะไปตั้งหางกะทิ แล้วเอาน้ำพริกแกงที่ตำเอาไว้ใส่ลงไปคนเรื่อยๆ จนเดือด แล้วใส่สายบัวลงไปปรุงรสด้วยน้ำตาปี๊บ มะขามเปียกข้นๆ คนไปเรื่อยๆ จนน้ำตาลละลาย ก่อนจะนำปลาทูใส่ลงไป ต้มให้เดือด ใส่หัวกะทิและชิมรส
“ชิมดูสิ” เขายื่นช้อนที่ตักน้ำแกงมาให้เธอ หญิงสาวอ้าปากชิม ก่อนจะยกนิ้วโป้งให้เขาบอกว่าอร่อย
“หิวข้าวแล้วค่ะ” เธอบอกเขา ชายหนุ่มจัดการตักข้าวสวยใส่จาน ตักต้มกะทิสายบัวปลาทู และมีน้ำพริกปลาทู ผักสดและผักลวกอีกหลายชนิด พร้อมไข่เจียวหมูสับ เห็นอาหารตรงหน้าแล้วน้ำลายสอ เขาบอกว่าอยากชิมฝีมือเธอ แต่ยุวธิดากลับได้ชิมฝีมือเขาเสียเอง ทั้งสองรับประทานอาหารกันอย่างเอร็ดอร่อย นั่งกินกันไป มองหน้ากันไป รู้สึกมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก
เขาปั่นจักรยานมาส่งเธอที่บ้านตอนเย็น พร้อมกับต้มกะทิสายบัวใส่ปลาทูหม้อเล็กๆ มาฝากบิดามารดาของเธอด้วย
“อ้าว... มากันแล้วเหรอ นั่นหอบหิ้วอะไรกันมาเต็มไปเสียหมด”
นอกจากต้มกะทิสายบัวแล้ว โขมพัตถ์ยังหอบหิ้วผลไม้พวกกล้วย มะม่วง และเงาะมาฝากว่าที่พ่อตาแม่ยายอีกด้วย
“ต้มกะทิสายบัวมาฝากครับ มีผลไม้มาฝากด้วย”
“ขึ้นมาก่อนสิพ่อไข่” บิดามารดาของยุวธิดา เทิดกับจงจิตรรีบเอ่ยชวน ว่าที่ลูกเขยขึ้นมาบนเรือน เขาเองก็รอท่าอยู่แล้ว อยากให้ชวนขึ้นเรือนใจจะขาด อยากอยู่นานๆ จะได้เห็นหน้าลูกสาวคนสวยของคนบ้านนี้นานๆ
คนที่นั่งซ้อนท้ายจักรยานแอบหันมามองสบตา ก่อนจะหลบวูบ อยากบอกว่ากว่าจะถึงบ้าน เขาปั่นจักรยานช้าเหลือเกิน ถ้าบอกว่าเต่าคลานยังเร็วกว่าจะเว่อร์ไปไหม
“กินข้าวกินปลากันมาหรือยังล่ะ”
“กินกันมาแล้วครับ พอดีกล้วยเขาอยากกินต้มกะทิสายบัว เลยพากันไปเก็บมาทำกินกันครับ”
“น่ากินเสียจริง แม่ทำน้ำพริกมะขามใส่กุ้งสดเอาไว้ เดี๋ยวเอากลับไปกินที่บ้านนะพ่อไข่” นางจงจิตรหันไปสั่งบุตรสาวให้ไปตักน้ำพริกมะขามที่ยังร้อนๆ อยู่ในกระทะ ใส่กระปุกให้ว่าที่ลูกเขย