อีกทีได้ไหม?

4510 คำ
"ดาว" เมื่อรถยนต์จอดสนิทหน้าอาพาร์ทเมนต์ที่เป็นที่หมาย แต่หญิงตัวเล็กยังคงหลับสนิท เพราะเวลาที่ดึกดื่นเช่นนี้คงหลับลึกจนต้องเอ่ยเรียกเพื่อปลุกให้รู้สึกตัว "ดาวครับ" มือหนาแตะสะกิดแขนเล็กพร้อมเอ่ยเรียก จนเริ่มขยับรู้สึกตัว เปลือกตาเริ่มเปิดออก มองโดยรอบอย่างพิจารณา "ถึงแล้วหรือคะ?" หญิงตัวเล็กเอ่ยวาจาถาม "ถึงแล้ว" ชายตัวโตบอกกล่าว "อื้อ~~~" ร่างเล็กกะทัดรัดบิดไปมาเพื่อผ่อนคลายจากการนอนหลับใหล "ขอบคุณนะคะสำหรับอาหารและการมาส่งถึงที่" หญิงสาวร่ายยาวด้วยรอยยิ้ม "ต้องส่งถึงห้องด้วยไหม ?" สายตามองหน้าหญิงสาวพร้อมเอ่ยแซว แต่ถ้าเธอต้องการเขาก็ยินดี "ไม่ต้องค่ะ" ดาวรีบบอกปฏิเสธเร็วพลันด้วยสีหน้าตระหนกตกใจ "ฮ่าฮ่าฮ่า...ล้อเล่น" "ชิ! ดาวขึ้นห้องแล้วนะ" หญิงสาวบอกกล่าวด้วยรอยยิ้มทรงเสน่ห์ เมื่ออีกคนนั้นหัวเราะร่า "ครับ" "ขอบคุณอีกครั้งค่ะ" หญิงสาวกล่าวอำลาพร้อมยกมือไหว้ตอบแทน "อืม ไปนอนเถอะดึกแล้ว" "ฝันดีนะคะ" "เช่นกันเด็กน้อย" ปากส่งส่งยิ้มมือเล็กเปิดประตูรถก้าวขาลง ยืนรอส่งอีกคนให้เคลื่อนรถไป เธอตั้งใจแบบนั้น แต่รถก็ยังจอดนิ่งสนิทไม่ขยับเขยื้อนไหวติง จนกระจกรถเลื่อนลงจนเห็นใบหน้าเจ้าของ "ดาวขึ้นห้องก่อนสิ" เสียงเรียบที่เปล่งออกมาอย่างออกคำสั่ง "ดาวรอส่งพี่นายก่อน" เธอพูดตามหลังเมื่อการยืนรอคือสิ่งที่ตั้งใจทำ "ขึ้นไปก่อนเลย เร็ว" นายส่งเสียงเข้มขึ้นทันใด เมื่ออีกคนที่ยืนนิ่งไม่ไหวติงคัดค้าน "ค่ะ~~~คุณนาย...ไปละนะ" และเธอก็ยอมจำนนทำตามในที่สุด "ไปเลย ชิ้วๆ" ปากเอ่ยไล่อย่างไม่จริงจัง พร้อมมือที่แสดงท่าทีปัดป่าย จนคนตัวเล็กจิ๊ปากอมยิ้มน่ารัก "ชิ!" หญิงตัวเล็กหันหลังและเดินเข้าไปยังอาพาร์ทเมนต์ แต่ก็ยังเหลือบหันกลับมามองด้วยรอยยิ้มในบางครา "โอ๊ะ! โอ๊ย" ร่างเล็กเซถลาล้มพับเมื่อจังหวะที่หันมามองนั้น ทำให้เสียหลักล้มเพราะรองเท้าที่สวมใส่ ที่นานครั้งจะใส่  มันจึงไม่ค่อยคุ้นชินในการเดิน ชายตัวโตที่มองเธอตลอดสายตา รีบลงมาจากรถวิ่งหน้าตั้ง มุ่งไปยังคนตัวเล็กที่กำลังพยายามฝืนตัวหยัดลุกยืน "ดาวเป็นไงบ้าง" เสียงนุ่มเอ่ยถามอย่างห่วงใย สายตามองต่ำลงไปกวาดมองตามร่างกาย และเบิกตาโตเมื่อเข่าที่มีเลือดซึมออกมาได้รับบาดเจ็บ "ไม่เป็นไรพี่" หญิงสาวว่ากล่าว "ขาเจ็บกระเผกแบบนี้เนี้ยนะบอกไม่เป็นไร" ชายตัวโตย้อนกลับ เมื่อสิ่งที่เป็นตรงหน้ามันเห็นชัดกว่าคำพูดที่เธอบอกปฏิเสธ "พี่นายกลับเถอะมันดึกแล้ว ขับรถค่ำมืดมันอันตราย" ดาวบอกกล่าวอย่างห่วงใย เพราะนี่มันแทบเลยเที่ยงคืนมามากโขแล้ว "ให้พี่ไปส่ง!...ฮึบ" ชายหนุ่มไม่สนใจคำบอกกล่าว อุ้มโอบหญิงสาวแนบอกทันใด และไม่ต้องรอให้เธอนั้นอนุญาตเพราะความห่วงใยที่มีมันมากกว่า เธอได้รับบาดเจ็บ มันก็ทำให้เขารู้สึกเจ็บที่บกพร่อง "ว๊าย!...ปล่อยดาวพี่ เดินเองได้ มันหนัก" "ตัวเท่าลูกหมา หนักที่ไหน เงียบปากไปเลย" เสียงเข้มเอ่ยบอกพร้อมสายตาที่มองอย่างสั่งห้ามดุดัน จนคนในอ้อมอกนั้นต้องหลบสายตาทันควัน เพราะสายตานั้นดุดันจริงจัง "ดุจัง" "ทำไมชอบทำให้เป็นห่วง" ระหว่างก้าวขาขึ้นบันได เสียงนุ่มเอ่ยขึ้นอย่างห่วงใย "ไม่ได้ตั้งใจนี่นา" เสียงแผ่วตอบกลับไม่กล้ามองหน้า เพราะว่าชายหนุ่มนั้นดุเสียเลยเกินเวลานี้ "เปิดประตู" "ค่ะ~~~พ่อ สั่งจังวุ้ย" ใบหน้าเปื้อนยิ้มยียวน ชวนให้อีกคนนั้นยิ้มตามกับกิริยาของเธอที่แสดงออกมา "กวน!" "อ๊ะ! เจ็บนะ" และเขาก็อดไม่ได้ที่จะเย้าแหย่ แม้ไม่สามารถใช้มือจัดการได้ ก็ใช่ว่าจะไร้ปัญญา โดยการลงแรงแตะใช้หน้าผากตัวเองสัมผัสกับหน้าผากกว้างนูนนั้น จนเธอร้องมีสีหน้าอาการเจ็บ หญิงร่างเล็กถูกวางอย่างเบามือบนเตียงนอน ร่างสูงนั่งยอง ๆ ลงต่ำ เรียวนิ้วลูบคลำรอบแผลถลอกอย่างเบามือ สายตาที่มองสื่อออกมาว่าห่วงใยเป็นที่สุด "อย่าค่ะ เดี๋ยวดาวถอดเอง" เมื่อเห็นอีกคนกำลังทำสิ่งที่เธอคิดว่าไม่ควรจึงร้องปรามทันที "อยู่เฉย ๆ เถอะน่า" เสียงห้ามค้านดังขัดขึ้นพร้อมมือที่สารวนถอดรองเท้าเจ้าปัญหา ออกอย่างเบามือก่อนจะวางมันไว้ข้างตัว "พี่นายไม่น่าทำแบบนี้เลย" ดาวว่ากล่าวทั้งที่ทุกอย่างถูกชายตรงหน้าจัดการเรียบร้อยแล้ว "เต็มใจทำ...ยาอยู่ไหนพี่จะทำแผลให้" ใบหน้าหล่อเหลาเงยมองพร้อมเอื้อนเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน หญิงตัวเล็กมองทุกการกระทำของชายตรงหน้า แต่ไม่กล้าพูดอะไรออกไป ในใจก็คิดว่าเขาทำแบบนี้ทำไม บางครั้งก็รู้สึกอ่อนไหวเหลือเกินต่อการกระทำเช่นนี้ของเขา แต่บางคราวเสียงหัวใจก็คัดค้านต่อต้านว่าหัวใจมันเจ็บพอแล้ว หรือบางครั้งก็นึกย้อนหวนถึงอีกคน...ความรู้สึกแบบนี้คืออะไร เรียกว่าหลายใจหรือเลือกใครไม่ได้! สับสน! "ดาว" เสียงเอ่ยเรียกที่แสนเสนาะหูทำให้เธอนั้นหลุดจากภวังค์ความคิด "คะ ?" "พี่ถามว่ายาอยู่ไหน?" นายย้ำถามอีกครั้ง เมื่อยังไม่ได้คำตอบที่ต้องการ "อ่อ...อยู่ในลิ้นชักค่ะ" ดาวบอกกล่าวให้รับรู้ และร่างสูงจึงลุกเดินไปยังที่หมาย และเดินกลับมาพร้อมยาและอุปกรณ์ทำแผลมากมาย "อูย~~" สำลีชุบแอลกอฮอล์ถูกแตะลงเนื้อผิวที่เกิดบาดแผล แม้เขาจะทำเบามือแต่ก็เกิดอาการเจ็บแสบอยู่ดี "แสบเหรอ" ฟู่~~~ ไออุ่นจากปากของเขาที่เป่า เพื่อช่วยบรรเทาทุเลาความเจ็บแสบ "อืม" เธอตอบรับสั้น ๆ "เจ็บแป๊บเดียว เดี๋ยวก็หาย” “บาดแผลจะหายดี หากมียาดีที่คอยสมานแผล ไม่ว่าแผลนั้นจะบาดลึกแค่ไหน หากมันได้รับการรักษาก็ย่อมหายดี” คนตัวเล็กนิ่งฟัง สายตาก็มองการกระทำที่อ่อนโยนต่อบาดแผล  คำพูดร่ายยาวที่แอบแฝงความหมาย คำพูดมากมายที่นายพร่ำกล่าว มันสะกิดแผลในใจของคนฟัง หรือทุกคำที่พูดนั้นเขาหมายถึงเธอ "แล้วถ้าแผลนั้นไม่มีทางรักษาหายล่ะคะ?" ดาวย้อนถาม สายตาเหม่อลอยมองออกไปอย่างไร้จุดหมาย "แค่บาดแผลทำไมจะรักษาไม่หายล่ะ? บาดแผลไม่ใช่โรคร้ายที่ไร้ทางรักษา ที่แผลไม่หายอาจจะเพราะว่าเจ้าของบาดแผลไม่ยอมรักษามันต่างหาก “ปากพร่ำพูดแต่มือยังคงทายาและจัดการทำแผล ไม่มีแม้แต่จะเงยหน้ามองกัน "ก็มันเจ็บ" ดาวบอกกล่าวเสียงแผ่ว คำพูดที่ร่ายยาวของเขา ยิ่งทำให้สะกิดบ่อน้ำตาของคนฟัง คิดถึงความหลังของบาดแผลที่แสนเจ็บปวด เจ็บปวดจนยากที่จะหาทางรักษามันให้หายดี บาดแผลของหญิงคนนี้คงหายารักษายากแล้ว "ถ้าไม่รักษาแผลนั้นอาจลุกลาม และคงรักษายากมาก “เมื่อมีแผลต้องรีบรักษาให้หาย จะได้ไม่ทรมานเจ็บปวดตัวเอง” "พี่นาย" คนตัวเล็กเอ่ยเรียกเสียงแผ่วสั่นเครือ ยิ่งฟังที่หวนนึกถึงตัวเอง น้ำตาก็พาลไหลอย่างไม่รู้ตัวบาดแผลที่ถูกทายาและปิดด้วยผ้าพันแผลด้วยฝีมือของชายตรงหน้า สายตาก้มมองดูแม้ดวงตาอาบชื้นด้วยน้ำใส ๆ ที่ไหลลงมา "เป็นไปได้ไหมว่า  พี่จะเป็นยาดีตัวนั้น ที่มันจะสมานแผลของดาวให้หายดี" ใบหน้าหล่อเหลาเงยมองพร้อมกล่าวบอก  มือหนายื่นเช็ดน้ำตาที่รินไหลอย่างนุ่มนวล "ฮึก อึก ดาว...." หญิงสาวมองหน้าสบตาคนนั่งต่ำ สองมือถูกกอบกุมในอุ้งมือใหญ่ ตอนนี้ไม่รู้จะตอบว่ายังไงดี...ความหมายที่มีจากคำพูดที่แอบแฝงนั้นมันจะจีรังแค่ไหน กลัวเจ็บซ้ำ ๆ เหลือเกินหัวใจ แต่ถ้าไม่รักษาก็ทรมานตัวเอง "ขอเป็นยานั้นได้ไหม?" เสียงนุ่มเปล่งออกมาอีกครั้ง เมื่อคนฟังนั้นยังไม่ให้คำตอบ สายตาที่สื่อมองมา สายตาของการอ้อนวอนร้องขอ เมื่อนึกย้อนทวนไป เขาก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร แต่กลับทำดีด้วยทุกอย่าง แม้ยามที่อ้างว้างเดียวดายเขาก็อยู่เคียงกายไม่ห่างหาย จะตัดสินใจยังไงดี ?   ...ดวงตากลมโตที่อาบชื้นด้วยน้ำตาที่รินไหล เมื่อคำพูดที่แสนจะกินใจนั้นออกจากปากของนาย ผู้ชายตรงหน้าที่ส่งสายตาอย่างอ้อนวอน อ้อนวอนต่อคำร้องขอที่ขอต่อเธอ ขอเป็นคนที่จะรักษาแผลที่แสนเจ็บปวดให้หายดี "ได้ไหมครับดาว" คำพูดที่เปล่งออกมาต่อหน้าหญิงสาว ที่เอาแต่สะอื้นร่ำไห้ น้ำตาไหลรินอย่างไม่ขาดสาย มือหนาที่กอบกุมก็ยังไม่คลาย ยังคงจับมือเล็กนั้นไว้ไม่ห่างกาย "พี่นาย ดาว...ผู้หญิงมีตำหนิแบบดาวไม่....." สายตากลมโตเอ่ยออกมาทั้งน้ำตา ภายในใจก็สับสนจะตัดสินใจยังไงดี เมื่อรู้ตัวเองนั้นดีว่าเป็นคนมีตำหนิ ใครที่ไหนจะจริงจัง! "ชู่ว อย่าพูดเหยียดตัวเองแบบนั้น...ผู้หญิงที่ดีไม่ได้วัดกันที่ผ่านมือใครมา แต่มันวัดด้วยคุณค่าที่คน ๆ นั้นมี และพี่ก็มองเห็นคุณค่านั้นในตัวดาว" นายกล่าวร่ายยาวอย่างซาบซึ้ง ความจริงใจที่แสดงออกทางวาจาและแววตา  คำพูดที่เขานั้นเปล่งออกมา คำพูดที่ทำให้ดาวนั้นน้ำตาไหลรินมากกว่าเดิม ยังมีอยู่อีกหรือคนที่รับคนมีตำหนิเช่นเธอได้? "ฮึก อึก พี่นายดาว ดาวไม่....อื้อ" คำพูดที่ถูกกลืนลงลำคอ เมื่อกลีบปากหนาของชายตรงหน้า ประกบปิดจนมิดไม่มีแม้ช่องว่างให้อากาศเข้าไป คำพูดที่เธอกำลังปฏิเสธยังไม่ถูกพ่นออกมา เพราะกลีบปากนั้นปิดกั้นสนิทมิดชิด "พี่จะรักษามันเอง บาดแผลนั้นของดาว" กลีบปากหนาประกบจูบอีกครั้งเมื่อพูดจบประโยค กดแช่จนแน่นิ่ง ดวงตาที่เปียกปอนด้วยน้ำตา ค่อย ๆ ปิดลง น้ำตาที่เอ่อคลอไหลลงจนสัมผัสกับผิวหน้าของอีกคน มือหนาเคลื่อนคล้อยจับประคองใบหน้านั้น กดรั้งท้ายทอยให้แน่นิ่ง เมื่อเธอเริ่มไหวติงออกห่าง กลีบปากค่อย ๆ ขยับบดเบียดกับเรียวปากอวบอย่างเสน่หา ใบหน้าที่แนบชิดจนสัมผัสได้ถึงไออุ่นลมหายใจของกันและกัน สองมือบางกำแน่นตรงสาบเสื้อของชายตรงหน้า มือหนาก็เริ่มซนลูบไล้ตามผิวกายด้านหลัง  ดันตัวสาวให้นอนราบลงกับพื้นที่นอนนุ่มอย่างอ่อนโยน เรียวลิ้นผลักดันเข้าไปในโพรงปากสาว ปัดป่ายไล่ชิมเป็นพัลวัน จนแทบเป็นลิ้นอันหนึ่งอันเดียวกัน "อื้ม" มือสองคู่ประสานกันออกด้านข้าง ปากหนาก็ยังคงทำงานต่อเนื่องจนเรียวปากอวบอาบชื้นด้วยน้ำลาย สิ่งที่ถูกปรนเปรอทำให้ร่างบางเริ่มอ่อนระทวยไหววูบและวาบหวามอย่างไม่อาจต้านทาน มือหนาสอดลูบไปใต้แผ่นหลัง ก่อนที่ตะขอบลาจะหลุดร่วงจนคลายออกจนอกนูนเป็นอิสระ "ทุกอย่างที่ทำพี่ตั้งใจ และไม่ได้ไร้สติ" เสียงแหบพร่าดังเข้ามาชิดหู ใบหน้าหล่อซุกไซ้ลงผิวคอจนขนลุกชัน ร่างกายสั่นสะท้านอย่างไม่อาจหลีกหนี ร่างหนาทาบทับจนมิดสนิทแนบชิดกายสาว บดเบียดผิวกายกับเนื้อนูนที่น่าเสน่หา น่าจับต้อง "พี่นาย อื้อ" ปลายลิ้นหนาลากเลียลงต่ำเรื่อย ๆ ถอดประทุมที่ตระหง่านต่อสายตา ถูกปากหนาครอบงำในบัดดล จนคนใต้ร่างนั้นสะดุ้ง สะท้าน ร่างกายบิดเร้าอย่างหลีกหนี แต่ก็ไม่อาจรอดพ้น เมื่อคนตัวโตนั้นทิ้งน้ำหนักตัวทาบทับกักไว้  จนบางทีก็หลุดลอดเสียงกระเส่าครางต่ำออกมาอย่างไม่อาจเก็บอารมณ์ได้ อาภรณ์ที่คลุมกายสาวหลุดร่วงเพียงเสี้ยวนาที เผยกายที่เปลือยเปล่าต่อสายตา ใบหน้าหล่อเผยยิ้มอย่างพึงพอใจที่ได้เชยชมสิ่งสวยงามตรงหน้า เขาไม่อาจปฏิเสธได้ว่าเธอนั้นเคยมีตำหนิมาก่อน เขารับได้! และพอใจแล้วในสิ่งนี้ และจะเป็นคนที่ครอบครอง รักษาแผลของเธอให้หายดี เสมือนยาดีที่เขาจะโรยลงบาดแผลนั้นที่เธอมีมาก่อน "อ๊ะ!! จะทำอะไรคะ?" หญิงสาวร้องเสียงหลงเมื่อคนตัวโตแยกสองขาออกห่างตั้งฉาก และก้มหน้ามุดลงกลางกายจนต้องดันหัวไว้ "อ๊ะ อื้ม" แต่มือเล็กนั้นต้องถูกพันธนาการแน่นด้วยมือหนาที่กดแช่กับพื้นที่นอน ก่อนจะก้มหน้าลงกลางกายสาว เว้าวนปลายลิ้นลงจุดกระสัน เอวบางบิดร่อนเหนือพื้นที่นอนพร้อมเสียงกระเส่าแหบพร่าทุกคราที่ปลายลิ้นลากไถตรงความสาว "อื้อ พี่นาย ซี๊ด" ยิ่งได้ยินเสียงหวานครวญครางก็ยิ่งได้ใจ ตวัดปลายลิ้นลากไถขึ้นลงเร็วถี่ น้ำใสไหลอาบความสาวจนชื้นแฉะ ไหลแข่งกับน้ำลายจากเรียวลิ้น ไม่ว่าน้ำอะไรที่ไหลชื้นถูกดูดกลืนลงลำคอแกร่งจนหมดทุกหยาดหยด ร่างเล็กกระตุกเกร็งอย่างสุขสม เพียงเรียวลิ้นร้าย ๆ นั้นตวัดเร็วและถี่อย่างไร้ความปรานี อารมณ์ซ่านที่มีถูกปลดปล่อยออกมาจนหมดสิ้น หน้าอกสาวกระเพื่อมตามแรงหอบหายใจ ชายตรงหน้าเงยหน้ามองด้วยรอยยิ้มที่เขานั้นพอใจ เมื่อสิ่งที่ทำนั้นสามารถมอบความสุขให้เธอได้ เขายินดีทำ! "พี่จะถนอมดาวที่สุด" เสื้อผ้าของนายถูกจัดการถอดออกจนหมดเผยให้เห็นความเป็นชายที่ตระหง่านเป็นลำ หญิงใต้ร่างดวงตาเบิกโตกับสิ่งที่เห็น จนคนตัวโตนั้นต้องปลอบประโลมด้วยรอยจูบที่แสนจะตราตรึงต่อสัมผัส ความเป็นชายค่อย ๆ คืบคลานเข้ากายสาวอย่างช้า ๆ น้ำตาสาวไหลรินด้วยน้ำใสที่เอ่อคลอก่อนหน้าที่มี ความเจ็บกลางกายที่เธอทนได้แม้จะรู้สึกเจ็บ แต่ชายตัวโตก็สามารถเบี่ยงเบนความเจ็บปวดนั้นให้หนีห่างด้วยรสจูบ "ดีขึ้นไหม?" เสียงนุ่มเอ่ยถาม และได้รับการตอบกลับด้วยการพยักหน้าและเบือนหน้าหนีออกด้านข้าง เหมือนเธอนั้นกำลังอาย ความอายที่แสนน่ารักจนคนตัวโตนั้นยิ้มพอใจและอดไม่ได้ที่จะกดจมูกฝังลงพวงแก้มระเรื่อ เอวหนาเริ่มขยับช้า ๆ ทุกสัมผัสเขาทำอย่างอ่อนโยนและทะนุถนอมคนใต้ร่างที่แสนจะบอบบาง "ปิดทำไม?" ปากเอ่ยถามแต่เอวหนายังคงทำงานต่อเนื่อง "อ๊ะ!" ความเขินอายที่คนตัวเล็กแสดงออกมาและบดบังด้วยการเอาหมอนปิดใบหน้านั้นไว้ จนเขาต้องดึงออก "อาย" "อายทำไม น่ารักออก อื้ม" "อ๊ะ อ่ะ อร๊า" "ซี๊ด ดาว อื้ม...." เมื่อความซ่านตัณหาเริ่มแล่นพล่านอย่างไม่อาจทานทนได้ เอวหนาสับสวนเข้าออกเร็วถี่ ร่างบางที่ถูกกระแทกเหมือนไร้การปรานีเริ่มสั่นคลอนตามแรงกระแทก "พี่ไม่ไหวแล้ว" แรงสวาทที่ก่อเกิดจนความอ่อนโยนเริ่มหายไป แปรเปลี่ยนเป็นดั่งแรงกระหน่ำสาดใส่ดั่งกับพายุลูกใหญ่ที่กำลังพัดพาไปตามกระแสแรงลมท่ามกลางทะเลกว้าง "อ๊ะอร๊า อื้ม" เสียงประสานขับขานร่วมกันดังอย่างเสนาะหู เสียงหอบกระเส่า ร่างกายที่กระเพื่อมตามแรงจนเย้าต่อสายตาคนตัวโต ที่ยังคงขยับร่างกายตามแรงสวาทที่มี ร่างกายเล็กที่ชวนเสน่หา ยิ่งได้มองก็ยิ่งไม่อยากละสายตาออกห่าง ไม่อยากปล่อยร่างกายเธอให้เป็นอิสระ "ไม่ไหวแล้ว ซี้ด~~~โอ้ว ดาว" "อะ อร้า อ๊ะ" แรงถาโถมในห้วงจังหวะสุดท้ายอย่างบ้าคลั่งและหื่นกระหาย จนร่างกายเล็กนั้นสั่นคลอน มือเล็กกำผ้าปูที่นอนจนยับย่น เส้นเลือดปูนขึ้นตามหลังมือเพราะความเกร็ง ((ซี้ดอร้าย)) ชายตัวโตปลดปล่อยบรรดาลูกรักลงบนหน้าท้องแบนราบทุกหยาดหยด หญิงสาวหอบเหนื่อยและดูอ่อนแรง มือที่กำผ้าปูที่นอนแน่นถูกคลายออกช้า ๆ เมื่อรสสวาทนั้นจบลง กลีบปากหนาจูบซับแก้มนวลเนียนด้วยรักใคร่อย่างอ่อนโยนนุ่มนวล และลุกจัดการคราบน้ำรักให้กับเธอจนสะอาดเกลี้ยงเกลา "รักดาวนะ" "............" ความเหนื่อยหอบจากบทรักทำให้ไม่มีการตอบกลับด้วยคำพูดของหญิงสาวแต่อย่างใด เธอทำได้เพียงนอนหายใจหอบนิ่งหลับตา และพยักหน้ารับรู้ส่งไปเท่านั้น  ร่างหนาเอนกายลงนอนเคียงข้างดึงคนตัวเล็กเข้าสู่อ้อมกอดอุ่น ทั้งที่ร่างกายเปล่าเปลือยภายใต้ผ้าห่มผืนเดียวกันและหลับใหลในเวลาต่อมาตลอดทั้งคืน....แผลในใจที่เธอนั้นรักษาไม่หาย เขาจะเป็นผู้ชายคนนั้นที่รักษามันให้หายดีเอง   แสงสีเหลืองนวลที่กำลังโผล่พ้นขอบฟ้า ดวงจันทร์ละหน้าที่ผันเปลี่ยนแก่ดวงอาทิตย์ให้สาดทอแสงในยามรุ่งอรุณ แสงแดดอ่อนสาดทอกระทบผิวผ้าม่าน ทะลุผ่านผิวผ้าเข้ามายังห้องพัก  ที่ชายหญิงเล่นบทระเริงรักด้วยกัน  จนมันทำให้อ่อนล้าเพลียแรง  วันหยุดของหลายคนที่ใช้สำหรับพักผ่อนร่างกายจากการทำงานมาตลอดทั้งสัปดาห์ ชายร่างหนาขยับตัวลืมตาตื่น กระพริบเปลือกตาเพื่อปรับกับแสงแดดที่สาดส่องมา  ปรับสายตาการมองด้วยการขยี้ตาเบา ๆ ด้วยมือข้างเดียวที่ไร้พันธนาการ เพราะแขนอีกด้านนั้นใช้หนุนอิงหัวของใครอีกคน การตื่นนอนที่แสนจะพิเศษ เมื่อสายตาแรกของวันมีคนพิเศษนอนเคียงข้าง  ร่างเล็กบอบบางนอนหลับตาพริ้มสนิท  เปลือกตาปิดมิดชิดไร้การขยับเขยื้อน  เรียวแขนเล็กพาดเอวหนาอย่างเผลอลืมตัว และหัวทุยซบลงร่องไหล่ของคนตัวใหญ่ที่นอนกอดให้ไออุ่นตลอดคืน มือหนาเกลี่ยเส้นผมที่ปกปิดใบหน้าออก เผยให้เห็นใบหน้าของคนพิเศษชัดเจนเต็มดวงตา  จมูกคมฝังลงหน้าผากกว้างนูน สูดดมกลิ่นกายสาวยามเช้าจนเต็มปอด  ความเปี่ยมล้นในหัวใจ ความสุขใจดั่งดอกไม้ผลิบานในยามเช้า ความเศร้าที่ทำได้แค่แอบมองห่าง ๆ นับจากนี้จะไม่มีอีกแล้ว  เมื่อสองกายได้รวมร่างเป็นของกันและกันอย่างไม่มีสิ่งใดขวางกั้นได้อีก "อื้อ" หญิงร่างเล็กในอ้อมอกแกร่ง ขยับตัวบิดกายเพื่อคลายความล้าจากการนอนหลับ นายที่เห็นปฏิกิริยาของสาวร่างเล็กจึงแกล้งนอนหลับตาทันที "อุ๊ย!" เสียงร้องตกใจเมื่อลำแขนเผลอโดนคนที่กำลังแสดงละครว่าหลับใหล จนต้องรีบชะงักแขนไว้แล้วค่อย ๆ ดึงกลับทันที หญิงสาวค่อย ๆ พลิกตัวตะแคงนอนหันหน้ามองคนที่หลับใหล สายตาจ้องมองใบหน้านั้นอย่างพินิจ  และคิดตรองว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในคืนที่ผ่านมา  มันดีต่อตัวเองแล้วใช่ไหม...ลองดูอีกสักตั้งจะเป็นไร ? มือเล็กเลื่อนแตะแก้มคนตัวใหญ่ เกลี่ยปลายนิ้วสัมผัสไปมาอย่างอ่อนโยนแผ่วเบา และเขาก็ยังไม่มีทีท่าจะลืมตาตื่น แต่ทุกสัมผัสเขารับรู้ทั้งหมด ใบหน้าคนตัวเล็กค่อย ๆ ขยับเข้าไปใกล้อย่างช้าๆ สายตาก็มองจ้องเรียวปากนั้นไม่วางตา ใบหน้าเคลื่อนคล้อยเข้าใกล้  จนอีกคนที่แกล้งหลับใหลนั้นสัมผัสได้ถึงไออุ่นของลมหายใจที่กระทบผิวหน้า เมื่อเรียวปากอวบกำลังแนบชิด ดวงตาที่ปิดสนิทจึงเปิดออกและอมยิ้ม ดวงตากลมโตเบิกกว้าง ร่างกายสะดุ้งตกใจเมื่อคิดว่าคนตัวใหญ่นั้นหลับใหลสนิท เพราะเธอนั้นกำลังจะขโมยจูบเขาในยามเช้า...ร่างเล็กแสดงความอายจนพวงแก้มแดงระเรื่อ ค่อย ๆ ดึงผ้าห่มปิดหน้าเพื่อบดบังความอาย จนชายตัวโตนั้นแทบหลุดขำกับท่าทีของเธอ "จะขโมยจูบเหรอ" วงแขนแกร่งสอดช้อนใต้คอคนตัวเล็กพร้อมกอดแน่น คางมนเกยหัวทุยเล็กโดยมีผ้าห่มขวางกั้น "เปล่า" เสียงเล็กตอบกลับ แม้จะอยู่ใต้ผ้าห่มก็สามารถได้ยินชัดเจน "แล้วที่เห็นคืออะไร" ชายตัวใหญ่ย้อนถามอีกครั้ง "ไม่มีอะไร" หญิงสาวตอบกลับ "แน่ใจ ?" ชายตัวใหญ่ย้ำถามอีกครั้งอย่างยียวน "ออกไป มุดเข้ามาทำไมเนี้ย" เสียงแหลมแผดดังเมื่อคนตัวใหญ่มุดเข้าใต้ผ้าห่มเช่นกัน ที่หลบเพราะเขินอายที่เธอนั้นถูกจับผิดได้ว่ากำลังล่วงล้ำร่างกายของชายตัวใหญ่ "ปล่อยค่ะดาวจะลุกแล้ว" ร่างบางถูกโอบรัดจนแนบชิดอกแกร่ง แต่แขนเล็กก็ดันกั้นไว้  ภายใต้ผ้าห่มผืนเดียวกัน ใบหน้าที่ใกล้ชิดกันแค่คืบ รอยยิ้มที่แสนเจ้าเล่ห์ของชายตรงหน้า มันเริ่มแสดงให้เห็นว่าเธอควรออกห่าง "บอกก่อนว่าเมื่อกี้จะทำอะไรพี่ครับ" สายตาที่เขามองเธอนั้นหวานเยิ้ม จนคนที่มองนั้นแทบเคลิ้มหลอมละลาย แต่เมื่อนึกย้อนคิดจึงเกิดความอาย เมื่อชายตรงหน้าย้อนถามถึงการกระทำ "ดาวเปล่า" เธอยังคงก้มหน้าปฏิเสธเฉไฉ "จะไปแปรงฟันแล้ว ปล่อยก่อน" มือหนาเชยคงมนของคนตัวเล็กให้สู้สายตา เขาจ้องมองใบหน้าสดใสนั้นด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะค่อย ๆ กดริมฝีปากทาบทับเรียวปากอวบนั้น และเธอก็ตอบรับมันอย่างดีด้วยการไม่ผลักดันหนี แค่อยู่นิ่ง ๆ ในอ้อมกอดอุ่นนั้น "อื้อ อื้ม" เรียวปากถูกทาบทับต่อเนื่อง คนตัวใหญ่ก็แสนจะจูบเก่งและนุ่มนวล ชวนให้เคลิบเคลิ้มอย่างกับถูกร่ายเวทย์มนตร์ "จะทำแบบนี้ใช่ไหม?" กลีบปากหนาละห่างเพียงเสี้ยวและเอ่ยถามออกมา คนตัวเล็กส่ายหน้าปฏิเสธด้วยความอาย "อ่า อื้ม" และถูกครอบงำด้วยปากหนาอีกครั้ง เมื่อเธอนั้นปฏิเสธในการกระทำของตัวเอง "อื้อ" ร่างบางถูกพลิกนอนหงาย  ร่างชายทาบทับร่างกายภายใต้ผ้าห่มผืนเดียวกัน  ผิวกายที่ไร้สิ่งขวางกั้นเบียดเสียดสีกันจนเกิดแรงกระสันแล่นพล่านในกาย "อีกทีได้ไหม" "อื้อ...เดี๋ยว ดาวยังไม่อนุญาตเลย" มือเล็กประกบใบหน้าหล่อแล้วดันออกห่าง เมื่อการขอที่ไร้การอนุญาตแต่คนตัวใหญ่กลับฉวยโอกาสปรี่จูบทันใด "พี่อนุญาตเอง จบนะ!" "อ่า พี่นาย อื้อ อื้ม" สิ้นคำพูดของตัวเอง มือหนาจับกดข้อมือเล็กตรึงเหนือหัว พร้อมมอบรสจูบที่ร้อนแรง เรียวลิ้นพันเกี่ยวฉกชิมความหวานในยามเช้าในปากเล็ก "พี่นาย แปรงฟันก่อน อื้ม" "ไม่แปรง" "อื้ม" ใบหน้าหล่อลากไซ้ดอมดมลงผิวคอ ขบเม้มผิวกายสาวเป็นแห่ง ๆ ลากปลายลิ้นไล่เลียลงต่ำมายังทรวงอก อีกมือบีบเค้นจนเต็มกำ ปากหนาครอบงำจนเต็มปาก ดูดเลียยอดถันจนคนใต้ร่างกระเส่าหอบแรง กลางกายสาวบดเบียดเสียดสีขาเมื่อร่างกายดั่งโดนกระแสไฟฟ้าแล่นผ่าน  ความเสียวซ่านเริ่มทวีคูณ  การสัมผัสเล้าโลมที่แสนเสน่หา  เรียวลิ้นหนาที่หยอกเย้าทรวงอกอย่างบ้าคลั่ง  น้ำกามสาวเริ่มไหลหลั่งอาบชื้นกลีบดอกไม้งามในยามเช้า ใบหน้าชายขยับต่ำลงสายตามองความสาวอย่างจับจ้อง ฝ่ามือหนาลูบวนตรงเนินอวบอิ่มโหนกนูน "อ่า อื้ม พะ พอแล้ว" มือเล็กที่หลุดพ้นจากพันธนาการจับรั้งข้อมือชายไว้ เหมือนสั่งห้ามการกระทำ... "ร่างกายดาวไม่ได้บอกแบบนั้น" "อร๊ะ อื้อ ซี๊ด" สิ้นเสียงพูดของชายร่างโต สองขาเล็กถูกจับตั้งฉากเร็วพลัน ใบหน้าหล่อนั้นก้มมุดกลางกายสาว ส่งเรียวลิ้นอุ่นโลมเลียกลีบกายตรงรอยแยกสีระเรื่อที่อาบชื้นด้วยน้ำกามสาว ที่เขาเป็นคนกลั่นให้มันหลั่งออกมาอย่างไม่ขาดสาย ร่างกายสาวที่ถูกทรมานด้วยลิ้น นอนแดดิ้นบิดเร้าอย่างปลาต้องการน้ำ ชายตัวใหญ่ยิ่งได้ใจจ้ำจ้วงสอดลิ้นขึ้นลงตามร่องความสาว "หวาน อ่าม อื้ม" "พี่นาย อื้อ ดาวไม่ไหว" ความสาวตอดรัดปลายลิ้นที่ซุกซนในความสาว ตัวตนถูกปลดปล่อยออกมาจนหมดสิ้น ร่างเล็กนอนหอบเหนื่อย แรงหายใจถูกพ่นเข้าออกเร็วถี่ ทรวงอกกระเพื่อมไหวติงตามแรงหอบหายใจ อึกอ่า ...ชายหนุ่มไม่รอช้า สอดกายเข้าใส่ในความสาวอย่างไม่รีรอให้เสียเวลา ขยับเอวหนาสวนเข้าออกทันที จ้วงแทงกระหน่ำแรงทีเบาทีตามอารมณ์ซ่าน ความสาวบีบรัดความเป็นชายเป็นห้วง ๆ  ความนุ่มนิ่มในโพรงความสาวมันตราตรึงเสน่หา จนไม่อยากพาแกนกายหนีออกห่าง "ดาว อื้อ ซี๊ด" ยิ่งสวนเอวเร็วเท่าไหร่ ความไวต่อตัณหายิ่งทวีเพิ่มขึ้น ตัณหาที่มีลุกโชนดั่งโดนไฟแผดเผา "จะไม่ไหวแล้ว" ความซ่านที่มีไม่อาจทานทนต่อความสาวที่บีบรัดจนแทบแหลกเป็นเสี่ยง ๆ ตัวตนต้องการถูกปลดปล่อยเมื่อไม่อาจต้านทานได้ไหว ห้วงจังหวะสุดท้ายของแรงราคะกระหน่ำกระแทกจนร่างเล็กสั่นคลอน พร้อมส่งเสียงเสนาะหูน่าฟัง (อร๊าย ซี๊ด) ทั้งคู่ปลดปล่อยตัวตนออกแทบพร้อมกัน น้ำรักพุ่งฉีดไกลโดยไม่ได้ตั้งใจ จนกระเด็นอาบเปื้อนริมฝีปากของหญิงสาว จนแทบเม้มปิดปากไม่ทัน "พี่นาย!" เสียงเรียกในลำคอส่งเสียงบอกไม่ค่อยชัดคำ แต่คนตัวใหญ่ก็เดาทางออกว่าเธอนั้นกำลังตำหนิเขา "โทษทีแรงดีไปหน่อย" เขาบอกอย่างยิ้ม ๆ และลุกไปจัดการเช็ดคราบน้ำรักที่แปดเปื้อนให้เธอ "เร็ว ๆ เลย" หญิงสาวออกคำสั่ง "ไม่ชิมหน่อยเหรอ อร่อยนะ" ชายตัวใหญ่ยียวนด้วยคำพูดที่แสนร้ายกาจ "เก็บไว้กินเองเถอะ...พอแล้วนะดาวเหนื่อย" เมื่อเห็นสายตาของชายตรงหน้า วาจาปฏิเสธถูกพ่นออกมาทันที "ครับผม"
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม