7

1177 คำ
ชนิดาภาเป็นลูกสาวของนักธุรกิจด้านสื่อโฆษณาที่มีชื่อเสียงอันดับต้นๆ ของประเทศไทย เขารู้จักเธอตั้งแต่ก่อนไปเรียนเมืองนอกในงานเลี้ยงวันเกิดของบิดา ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายอยากให้สองหนุ่มสาวลงเอยกัน ด้วยความสัมพันธ์ทางธุรกิจ รูปร่างหน้าตา และสถานะของทั้งคู่นั้นเหมาะสมกันเสียจนผู้คนลุ้นว่า หากภาวัตกลับมาจากอเมริกาคงจะมีข่าวดีในเร็ววัน “ยินดีต้อนรับกลับเมืองไทยนะคะภีม” เมื่อเห็นว่าเป็นใครเดินเข้าห้องมา เจ้าของร่างบางที่อยู่ในชุดเดรสรัดรูปสีดำขับผิว ลุกขึ้นพร้อมกับเดินเข้าไปหาชายหนุ่มทันที “ขอบคุณครับ คุณจะมาไม่เห็นบอกผมก่อนเลย” พูดพร้อมกับส่งยิ้มให้คนตรงหน้า ภาวัตไม่ปฏิเสธเลยว่าชนิดาภาเป็นผู้หญิงที่งดงามเสียจนไม่มีผู้ชายคนไหนกล้าปฏิเสธ “แหม คุณกลับมาไทยไม่เห็นบอกนิด้าสักคำ” หญิงสาวแกล้งทำเป็นงอน แต่นั่นกลับทำให้เธอดูน่ารักเสียมากกว่า “พอดีผมยุ่งๆ ต้องเคลียร์อะไรหลายอย่าง เลยไม่ได้ส่งข่าวบอกใครสักคนน่ะครับ” ภาวัตพูดขึ้นอย่างเป็นมารยาท แต่ความจริงแล้ว เขาแค่ไม่ได้นึกถึงชนิดาภาเท่านั้นเอง ชายหนุ่มยอมรับว่าเธอสวยมาก และหากปฏิเสธไมตรีก็คงจะโง่เต็มที แต่ไม่รู้ว่าทำไม เขาถึงไม่รู้สึกพิเศษอะไรกับชนิดาภา แค่มองว่าเป็นผู้หญิงสวยคนหนึ่งเท่านั้น “ไม่เป็นไรค่ะ แต่คืนนี้ คุณต้องไปดินเนอร์กับนิด้านะคะ” หญิงสาวถือโอกาสมัดมือชกทันที “แต่ว่า…” “นะคะ พอดีพี่ชายของนิด้าเพิ่งกลับมาจากอเมริกาก่อนหน้าภีมได้ไม่นาน คุณกับพี่ชายนิด้าควรรู้จักกันเอาไว้นะคะ เห็นว่าคุณมีแพลนจะเปิดบริษัทที่ต่างประเทศด้วย เผื่อเขาจะช่วยให้คำปรึกษาเรื่องการทำพีอาร์ได้บ้าง” ชนิดาภารู้ดีว่าจะต้องเอาเรื่องไหนมามัดมือชกเขาได้สำเร็จ และเธอก็มั่นใจว่าคนอย่างภาวัตไม่ยอมเสียเรื่องงานอย่างแน่นอน “จริงๆ คืนนี้ ผมอยากเคลียร์งานให้เรียบร้อยก่อน แต่ถ้าคุณนัดพี่ชายไว้แล้วก็ได้ครับ” ภาวัตตอบรับอย่างเลี่ยงไม่ได้ “เย่ ดีใจจังเลย คุณจะได้รู้จักกับพี่ชายนิด้าไว้” หญิงสาวยิ้มออกมาด้วยความดีใจ ที่สุดท้ายภาวัตก็ยอมรับปากจนได้ แม้ว่าจริงๆ แล้วจุดประสงค์หลักคืออยากให้พี่ชายได้เจอกับ ‘ว่าที่สามี’ ของเธอเท่านั้น “ว่าแต่คุณไม่ทำงานเหรอครับวันนี้?” ภาวัตเอ่ยถามขึ้น เพราะพอรู้มาว่าชนิดาภาขึ้นแท่นผู้บริหารของบริษัทแล้วเรียบร้อย “แหม พูดเหมือนอยากให้นิด้ารีบกลับอย่างนั้นแหละ” ชนิดาภารู้ดีว่าแม้ตนเองจะเป็นผู้หญิงที่เพียบพร้อมทุกอย่างจนมีแต่ผู้ชายอยากเข้าหา แต่สำหรับภาวัตแล้ว เขาไม่เหมือนผู้ชายคนอื่น “เปล่า พอดีผมเห็นว่าคุณได้เป็นผู้บริหารแล้ว มาหาผมแบบนี้ คนอื่นจะว่าหรือเปล่า” เจ้าของร่างสูงโปร่งเดินไปนั่งที่เก้าอี้ทำงานของตนเอง ราวกับจะบอกเป็นนัยว่า ตอนนี้ เธอควรกลับไปได้แล้ว “ใครจะกล้าว่าคะ อย่าลืมสิว่า นิด้าเป็นลูกสาวขอรองประธานบริษัทนะคะ” ชนิดาภาพูดอย่างขำขัน เพราะแม้เธอจะไม่ไปทำงานสักวันก็คงไม่มีใครกล้าต่อว่าอยู่ดี “ไม่ได้นะครับ ยิ่งคุณเป็นลูกสาวประธานก็ยิ่งต้องเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับลูกน้อง” ภาวัตพูดเตือนหญิงสาว เพราะเขามองว่าแม้เราจะอยู่ในตำแหน่งหัวหน้า แต่หากว่าทำไม่ดี ก็ไม่สามารถสั่งสอนลูกน้องได้ “แหมภีม นิด้าแค่อยากแวะมาทักทายคุณแค่นั้นเอง” ชนิดาภาเริ่มรู้สึกหน้าเสียที่ถูกชายหนุ่มต่อว่า เธอจึงอ้อนเขาด้วยคำหวาน “ขอบคุณครับที่มาหาผม งั้นเอางี้ไหม เดี๋ยวคืนนี้เราเจอกันอีกที คุณจะได้กลับไปเคลียร์งานด้วย” ภาวัตพูดพร้อมกับส่งยิ้มให้หญิงสาว “ก็ได้ค่ะ” พูดด้วยน้ำเสียงเศร้า ก่อนจะมองชายหนุ่มที่ตอนนี้จับจ้องแต่เอกสารบนโต๊ะราวกับไม่สนใจตนเอง “ถ้างั้นนิด้าไปก่อนนะคะ แล้วเจอกันค่ะ” ชนิดาภากล่าวลาชายหนุ่มเป็นการทิ้งท้าย พร้อมกับเดินออกจากห้องไปทันที ภาวัตเงยหน้ามองเบื้องหลังของหญิงสาวที่เดินลับตาไปพลางคิดกล่าวโทษตนเองที่ทำเมินเฉยต่อเธอ อาจเป็นเพราะในใจเขาตอนนี้กำลังมีเรื่องที่สนใจมากกว่า และเรื่องของพริมพิกาก็สำคัญยิ่งกว่าผู้หญิงคนอื่น หากหาหลักฐานได้ว่าแพรวาเป็นลูกคนอื่นจริง ตอนนั้น เขาอาจจะเลิกสนใจในตัวคุณครูคนสวยก็เป็นได้ ภาวัตเดินเข้ามายังร้านอาหารสุดหรูที่ชนิดาภาจัดการจองไว้เสร็จสรรพ พลางนึกชื่นชมหญิงสาวที่หาร้านได้ดูดีและเงียบสงบ เพราะเขาเป็นคนไม่ชอบอยู่ในสถานที่ที่ผู้คนพลุกพล่านมากนัก ที่สำคัญ ร้านแห่งนี้ราวกับปลูกอยู่ท่ามกลางสวนกุหลาบราวสามร้อยสายพันธุ์ สายตาคู่คมมองไปในสวนสวยที่เป็นทั้งจุดเช็กอินถ่ายภาพและจุดนั่งพักผ่อน แล้วสายตาก็ไปสะดุดกับกระถางปูนเปลือยขนาดใหญ่ “จูเลียต โรส (Juliet Rose)” คำพูดเบาๆ ที่หลุดปากออกมาเพียงได้ยินแค่ตนเองคำนั้นทำให้ภาวัตนึกถึงใบหน้าสวยหวานของพริมพิกาขึ้นมา และอดคิดไม่ได้ว่า เวลากว่าห้าปี กุหลาบต้นนั้นยังอยู่ หรือมันตายไปแล้ว... เมื่อหลายปีก่อน ระหว่างเดินทางกลับจากส่งขนมให้ลูกค้า ดวงตาคู่หวานเหลือบเห็นร้านขายต้นไม้ขนาดใหญ่เปิดใหม่ มีทั้งไม้ใบ ไม้ดอกสวยงามเต็มไปหมด มองแล้วสบายตา แต่แล้วก็สะดุดหยุดอยู่กับที่ราวกับต้องมนตร์สะกด เมื่อได้พบกับดอกกุหลาบพันธุ์หายากที่เคยเห็นแต่ในหนังสือ ไม่คิดว่าจะได้เห็นของจริงอยู่ตรงหน้าเช่นนี้มาก่อนสักนิด และด้วยความที่ชื่นชอบดอกกุหลาบมากราวกับว่ามันคือชีวิตจิตใจ โดยเฉพาะดอกกุหลาบสีชมพูเป็นทุน ผลักให้ความตื่นเต้นโลดแล่นออกมาทางดวงตากลมโตที่เปล่งประกาย ขณะเจ้าตัวรีบเลี้ยวรถกลับมาจอดที่หน้าร้าน แล้วเดินลิ่วเข้าไปยลโฉมความสวยงามของมัน “จูเลียต โรส (Juliet Rose) สวยมากเลย” พริมพิกาเอ่ยชื่อกุหลาบสายพันธุ์หายากที่สุดในโลกตามที่เคยอ่านเจอมาในหนังสืออย่างถูกต้อง กุหลาบสายพันธุ์นี้เกิดจากการคิดค้นของเดวิด ออสติน ที่ต้องใช้เวลาถึงสิบห้าปีทีเดียว “จูเลียต โรสจริงๆ ด้วย สวยจัง ”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม