บทที่ 5 : เกือบ 2

1499 คำ
“วันใหม่…” เสียงแผ่วเบาที่ลอดผ่านริมฝีปากหยักได้รูปเหมือนคนละเมอพร้อมหยุดชะงักกะทันหัน ทำให้เลขาที่เดินตามมาติดๆต้องพลอยหยุดเดินไปด้วยอีกคน “เชิญครับท่าน ทุกคนกำลังรออยู่” เสียงของเชนทร์เรียกสติผู้เป็นนาย หลังจากที่ยืนนิ่งอยู่กับที่ไม่มีท่าทีว่าจะเดินเข้าไปหากลุ่มทีมงานที่นั่งรอทานอาหารกันอยู่ “ไปบอกกับทุกคนว่าฉันไม่สะดวกทานอาหารมื้อค่ำกับพวกเขา ให้พวกเขาสั่งอาหารได้ตามสบาย ส่วนค่าอาหารทางเราจะเคลียร์ให้เอง” เสียงเรียบแต่ทรงพลังออกคำสั่งกับเลขาก่อนจะละสายตาจากกลุ่มทีมงานพร้อมหมุนตัวเดินกลับไปทางเดิม “ครับท่าน” เชนทร์รับคำแล้วรีบปฏิบัติตามทันทีโดยไม่เอ่ยถามอะไรให้มากความ เพราะเขารู้จักเจ้านายตัวเองดีว่าไม่ชอบพูดอะไรซ้ำเป็นครั้งที่สอง และแน่นอนว่าข่าวการปฏิเสธมื้อค่ำของลูกค้าหนุ่มสุดหล่อ ทำให้ทีมงานสาวต้องผิดหวังไปตามๆกัน แต่คนที่ดูเหมือนจะไม่รู้สึกรู้สาอะไรแถมยังทานอาหารอย่างเอร็ดอร่อยราวกับคนอดอยากมานาน จะเป็นสาวน้อยผู้มาใหม่ที่ยังไม่รู้ว่าเจ้าของมื้ออาหารนี้เป็นใคร วันใหม่สัญญากับตัวเองแล้วว่า ถ้าได้เจอลูกค้าใจดีจะกล่าวขอบคุณที่อุตส่าห์เลี้ยงอาหารมื้อหรูที่แสนโอชะ ซึ่งเธอห่างหายกับอาหารรสชาติดีๆเหล่านี้ตั้งแต่เสียบิดามารดาไปพร้อมๆกันด้วยอุบัติเหตุรถยนต์เมื่อสี่ปีก่อน หลังจากทานอาหารกับกลุ่มทีมงานเรียบร้อยแล้ว วันใหม่ก็ได้รับคีย์การ์ดห้องพัก ซึ่งโรงแรมที่อยู่ติดริมทะเลแห่งนี้ไม่ได้เป็นตึกมีหลายๆชั้น หากแต่เป็นบ้านพักหลังเล็ก ตั้งอยู่ตามจุดต่างๆ ค่อนข้างที่จะให้ความเป็นส่วนตัวกับแขกที่มาพัก “เดี๋ยวค่ะคุณ” วันใหม่เรียกบุรุษหนุ่มในชุดสูทหรูจากทางด้านหลังเพื่อถามทางไปห้องที่เธอเพิ่งเปิดมา ร่างสูงสง่าเพียงหยุดเดินแต่ก็ไม่ยอมหันมาเผชิญหน้ากับเธอ หญิงสาวเลยเลือกที่จะถามแบบไม่ต้องมองหน้า “คุณพอจะทราบไหมคะ ว่าห้อง A33 ไปทางไหน” เมื่อถามจบเขาคนนั้นก็ชี้ไปทางซ้ายก่อนที่จะรีบเดินออกจากที่ตรงนั้นอย่างรวดเร็ว “ขอบคุณนะคะ” หญิงสาวตะโกนขอบคุณตามหลัง ก่อนที่ใบหน้างามจะส่ายไปมาช้าๆไม่เข้าใจว่าอีกฝ่ายจะรีบอะไรนักหนา แต่นั่นก็ไม่ใช่ธุระกงการอะไรของเธอที่จะต้องมาหาสาเหตุ หญิงสาวเลยตัดสินใจลากกระเป๋าใบใหญ่ไปตามทางที่เขาบอกเพียงไม่นานเธอก็หาห้องตัวเองเจอ เมื่อมาถึงหน้าห้องหญิงสาวก็ต้อตาโตกับความสวยงามของห้องพักหรูที่มีโซนส่วนตัว แถมยังเงียบสงบหายห่วงเรื่องที่ว่าจะมีคนมารบกวน ‘บุญแท้ที่ได้มาพักที่หรูๆแบบนี้’ วันใหม่บอกกับตัวเองขณะที่เดินสำรวจห้องสุดหรูของตัวเอง เพราะครอบครัวเธอเคยทำธุรกิจโรงแรมมาก่อนถึงได้รู้ว่าโรงแรมระดับนี้มีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงต่อคืน หากดูจากสถานะการเงินของเธอตอนนี้แล้วคงไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะหาโอกาสเข้าพักโรงแรมระดับนี้ได้ นี่คงเป็นเพราะชาติที่แล้วเธอคงทำบุญมาเยอะก็เลยส่งผลมาถึงชาตินี้ แม้จะตกอยู่ในสถานการณ์ลำบากแค่ไหนก็ยังมีเรื่องดีๆเข้ามาในชีวิตอยู่บ้าง เมื่อจัดการเก็บเสื้อผ้าเข้าตู้เสื้อผ้าเรียบร้อยเวลาก็ล่วงเลยมาเกือบสี่ทุ่ม แต่แทนที่วันใหม่จะเข้าห้องน้ำเพื่ออาบน้ำเข้านอน หญิงสาวกลับเดินออกมาจากห้องเพื่อเดินมาที่สระว่ายน้ำของโรงแรม เพราะตอนนี้เธออยากจะว่ายน้ำในสระที่เธอห่างเหินมาเนิ่นนานตั้งแต่คฤหาสน์หลังใหญ่ของครอบครัวโดนธนาคารยึดขายทอดตลาดไป แต่เมื่อมาถึงสระว่ายน้ำวันใหม่ก็พบว่าไม่ได้มีแค่เธอคนเดียวที่คิดจะมาว่ายน้ำเล่นยามค่ำคือ เพราะในสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ของโรงแรมมีใครบางคนกำลังแหวกว่ายอยู่ แถมรอบๆสระยังมีชายฉกรรจ์ในชุดสูทสีดำสนิทเกือบสิบคนยืนล้อมรอบสระเอาไว้ ‘ถอยก่อนดีกว่า’ วันใหม่พึมพำกับตัวเองหมายจะหมุนตัวกลับ แต่แล้วดวงตาคู่สวยก็เผลอเหลือบมองเห็นเสี้ยวหน้าของบุรุษหนุ่มในสระว่ายน้ำเสียก่อน หญิงสาวพยายามอย่างสุดความสามารถในการเพ่งเล็งมองใครคนนั้นที่รู้สึกคุ้นหน้าจนเผลอก้าวเท้าช้าๆมายังสระว่ายน้ำอย่างไม่รู้ตัว แต่แล้วเท้าเล็กต้องต้องหยุดชะงักยืนอยู่กับที่เหมือนถูกผีหลอก เพราะแสงไฟที่ส่งอสว่างเพียงรำไรนั้นสามารถทำให้มองเห็นบุรุษตรงหน้าชัดพอที่จะทำให้หัวใจดวงน้อยเต้นแรงแทบทะลุออกมาจากอก นัยน์ตาคู่สวยกวาดตามองบุรุษร่างกำยำที่เปลือยท่อนบนเผยให้เห็นกล้ามเนื้อแน่นเครียดไปในทุกส่วนของร่างกาย หัวไหล่ซ้ายลามไปถึงแผงอกกว้างมีรอยสักสีดำเพิ่มความน่าเกรงขามให้กับเจ้าของเรือนร่างได้สัดส่วนเป็นทวี ทุกการเคลื่อนไหวแฝงเสน่ห์ดึงดูดไว้อย่างร้ายกาจ ใบหน้าที่เคยใสไร้หนวดเคราบัดนี้มีหนวดเคราบางๆเปลี่ยนไปเป็นคนละคน แต่กระนั้นความหล่อเหลาที่เคยมีก็ดูจะไม่น้อยลงไปเลยสักนิด มีแต่จะทวีขึ้นอีกเป็นเท่าตัว “พี่อัน…” เมื่อได้สติกลับคืนมาวันใหม่อยากจะร้องเรียกชื่อของเขาออกไปสุดเสียง แต่เหมือนเสียงมันจุกอยู่ตรงลำคอแล้วก็เลือนหายไป พร้อมหยดน้ำใสๆที่ร่วงหล่นลงพื้นด้วยความรู้สึกตื้นตันปนคิดถึงสุดหัวใจ “ขอโทษนะครับคุณผู้หญิง ทางเราขอใช้พื้นที่ตรงนี้เป็นที่ส่วนตัวสักสองชั่วโมงครับ” ชายฉกรรจ์คนหนึ่งในชุดสูทสีดำ เดินมาบอกกับเธออย่างสุภาพพร้อมผายมือเชิญให้เธอออกจากที่ตรงนั้น “ฉันขอไปคุยกับเขาก่อนได้ไหมคะ ฉันรู้จักคุณอันเดรีย ฉันขอเวลาสักครู่นะคะ” “ต้องขอโทษด้วยนะครับที่ทางเราไม่สามารถให้คุณเข้าไปได้ เชิญออกจากที่ตรงนี้ก่อนนะครับ” ดูเหมือนการเข้าถึงตัวเขาไม่ง่ายเสียแล้ว ถ้าเดาไม่ผิดผู้ชายชุดดำราวสิบคนที่ยืนอยู่ตามจุดต่างๆก็น่าจะเป็นการ์ดของเขานั่นเอง ไม่ได้เจอเขานานถึงห้าปี ข่าวคราวเงียบหายพอมาพบอีกทีเขาก็เปลี่ยนไปเป็นคนละคนแล้ว แต่ไม่ว่าเขาจะเปลี่ยนไปแค่ไหนเธอก็ยังจำเขาได้ไม่มีวันลืม “แต่ฉันรู้จักเขา บอกเขาว่าฉันชื่อวันใหม่ เขาต้องจำฉันได้แน่ๆ ได้โปรดไปบอกเขาก่อนนะคะ” หญิงสาวขอร้องเสียงสั่นทั้งน้ำตาเพื่อให้อีกฝ่ายเห็นใจ แต่ดูเหมือนจะเปล่าประโยชน์ เพราะนอกจากจะไม่ได้ผลแล้วเธอยังถูกมองว่าเป็นคนเข้ามาคุกคามชีวิตของเจ้านายหนุ่มจนการ์ดหลายคนเริ่มหันมามองทางเธอ “ต้องขอโทษด้วยนะครับ ตอนนี้ท่านต้องการเวลาส่วนตัว” คำปฏิเสธอย่างสุภาพแต่แฝงไปด้วยพลังเสียงที่น่ากลัวทำให้หญิงสาวต้องยอมรับความจริง วันใหม่ยอมแพ้เดินออกมาจากที่ตรงนั้นเพื่อกลับไปยังห้องของตัวเอง โดยไม่รู้เลยว่าทันทีที่เธอหันหลังเดินจากไป คนที่เธอขอเข้าพบก็หันมาพอดี “โธ่เว้ย!” อันเดรียทุบลงบนน้ำจนแตกกระจายเพื่อระบายความรู้สึกของตัวเองที่ไม่สามารถบอกใครได้เลย ‘ทำไมต้องมาเจอ ทำไมต้องมาให้เห็นหน้าอีก!’ โลกนี้ออกจะกว้างใหญ่ แต่ทำไมจะต้องมาเจอกับเธอ ผู้หญิงที่เคยหักหลังเขาเมื่อห้าปีก่อน คนที่ทำให้เขาหมดศรัทธาในความรัก ตลอดระยะเวลาห้าปีมานี้หัวใจเขาด้านชาจนแทบจะไม่มีความรู้สึก เขาไม่ต้องการคิดถึงหรือรื้อฟื้นความเจ็บปวดในอดีตอีกแล้ว เพราะความเจ็บปวดที่เขาเจอนั้น กว่าจะผ่านมันมาไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เธอจะรู้หรือเปล่าว่าเขาต้องอดทนไม่หันมามองเธอแม้จะรู้ดีว่าเธออยู่ตรงนั้น ก็เพราะในความเข้มแข็งภายนอกที่ทุกคนเห็นนั้นซ่อนน้ำตาที่มันยังไหลไม่เคยเหือดแห้งไปจากใจ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม