ตอนที่7.เปิดตัวทายาทคนสุดท้ายของตระกูลคัมภีรดา
1553 คำ
“คุณเขตเขาไม่เคยมีผู้หญิงเลยสักคนเลยเหรอคะ?”
“มันไม่ใช่พระนะ มันค่อนข้างระวังตัว อาจจะมีหรือไม่มีไม่รู้สิ”
ในสังคมต่างแดนที่ค่อนข้างเสรี คนแบบเขตคามก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น เขาเป็นผู้ชายวัยฉกรรจ์มีหรือจะไม่วอกแว่กได้
“คงงั้นแหละค่ะ” ชุติภาถอนใจ แล้วก็ผุดลุกขึ้นยืน “ภามีธุระ ภาไปก่อนนะคะ”
“เดี๋ยวสิ พอมีให้พี่ยืมสักหมื่นสองหมื่นไหมละ?”
คงเพราะวันนี้อารมณ์ดี ชุติภาเลยยอมควักกระเป๋าสตางค์ให้พี่ชาย พอได้สตางค์มาจากน้องสาว กฤตินก็เร่งรีบไปในที่ที่เคยทำให้เขาเกือบล่มจมทันที
เขาสนุกกับเงินต่อทุนที่ชุติภาให้มา เขามือขึ้นขนาดปั้นเงินหมื่นให้กลายเป็นเงินล้านได้ภายในสามชั่วโมง โดยไม่รู้ว่า นั่นคือแผนการของใครบางคน ใครคนที่ที่ล่อลวงให้กฤตินเดินเข้ามาในกับดัก กับดักที่เขาคาดไม่ถึงด้วย
“หนูภา แม่อยู่ตรงนี้” ฉายรวีโบกมือเมื่อเห็นชุติภาโผล่เข้ามาในสายตา วันนี้นางมาประชุมที่สมาคมสตรี สมาคมที่สตรีส่วนใหญ่ว่างงานเลยรวมตัวกันเพื่อใช้เวลาว่างคุยข่มคนอื่น
ทั้งเรื่องฐานะและเรื่องของบรรดาลูกๆ
“คุณแม่เรียกภามาที่นี่ทำไมคะ?” ชุติภาเอียงตัวกระซิบถาม
“พอดีมีคนอยากแนะนำให้รู้จักน่ะ” ฉายรวีจีบปากพูด
“คนนี้เหรอเธอ ที่จะแต่งงานกับตานวิน” สตรีสูงวัยที่นั่งถัดไปจากฉายรวีกระซิบถาม
“อือ...เรียนจบเพิ่งกลับมาตระกูลจิรวินไง” ฉายรวีคุยเขื่อง
“อ้อ...จิรวิน พอได้ยินอยู่นะ”
“เธอจะไม่ได้ยินได้ไง บริษัทของเขาเพิ่งมีข่าวกับคัมภีรดากรุปเมื่อวันก่อนไงยะ”
“ใช่จริงๆ ด้วย เห็นว่าจะร่วมงานกับคัมภีรดากรุปใช่ไหมหนู”
“ค่ะ พี่ตินพี่ชายภา เพิ่งเซ็นต์สัญญากับคัมภีรดากรุปก่อนที่ภาจะมาที่นี่เองค่ะ”
“โอ้ยตาย ยินดีด้วยค่ะ แหมน่าอิจฉาคุณฉายจังค่ะ ลูกชายก็เก่ง ว่าที่ลูกสะใภ้ก็เก่ง ได้ร่วมงานกับบริษัทใหญ่ๆ แบบนี้กำไรปีนี้คงอื้อซ่า”
เสียงแสดงความยินดีดังอื้ออึง ฉายรวียิ้มจนปวดแก้ม ในขณะที่ชุติภารู้สึกกระอักกระอ่วน ตอนนี้เธอเริ่มลังเลแล้ว เพราะหากชั่งน้ำหนักกันจริงๆ ระหว่างนวินกับเขตคาม ยังไงผู้ชายคนหลังก็มีน้ำหนักมากกว่าหลายเท่า
ตอนที่7.เปิดตัวทายาทคนสุดท้ายของตระกูลคัมภีรดา
งานเลี้ยงในค่ำคืนนี้สมหน้าสมตาคัมภีรดากรุปยิ่งนัก นักธุรกิจชั้นนำดาหน้ามาร่วมงานเกือบครบทุกคน ชุติภาเองก็รู้สึกตื่นเต้นไม่น้อย งานหรูหราระดับนี้ น้อยครั้งมากที่เธอมีโอกาสได้มาร่วมงาน
“เห็นวงในปิดกันให้แซ่ดเลยนะ วันนี้จะมีเซอร์ไพรส์!!”
เสียงกระซิบจากกลุ่มก๊วนด้านหลังทำเอาชุติภาหูผึ่ง
“อ้อ เรื่องที่จะเปิดตัวทายาทคัมภีรดาคนสุดท้ายนะเหรอ”
ชุติภาขมวดคิ้ว ‘ทายาท’ เธอตั้งใจฟังเพราะอยากรู้เรื่องวงในของตระกูลนี้ให้มากที่สุด ก่อนจะตัดสินใจครั้งสุดท้าย
ฉายรวีขยับเข้ามาใกล้เอียงคอกระซิบถามว่าที่ศรีสะใภ้ “ยัยหนูภา คนพวกนั่นพูดอะไรกันน่ะ ป้าไม่เข้าใจเลย”
หากชักสีหน้าใส่ว่าที่แม่สามีตอนนี้ เกรงว่าคะแนนนิยมที่ทำไว้จะติดลบ ชุติภาเลยพยายามยังอารมณ์ตัวเองไว้ไม่ให้เผลอตัววีนออกมา
“คุณป้าคะ ภาเองก็กำลังฟังอยู่”
“ตาวินบอกป้า เมื่อวานหนูไปเจอกับคนตระกูลนี้มาไม่ใช่เหรอ” ฉายรวีชวนคุยต่อ นางคงอยากรู้เลยไม่ทันได้ประเมินอารมณ์ของว่าที่ศรีสะใภ้ให้ดี
“ค่ะ พี่ตินเซ็นต์สัญญากับคัมภีรดาเมื่อวาน โปรเจกต์มูลค่ากว่าร้อยล้านเชียวค่ะ” ชุติภาคุยโอ่ เธอมั่นใจว่าก๊วนด้านหลังจะได้ยิน
“ยัยภา ยัยภาใช่ไหม เราพนิดาเองนะจำเราได้ไหม” คนเต้าข่าวที่ชุติภาเองก็รู้สึกคุ้นหน้าเดินเข้ามาทัก
“นิดา อ้อจำได้”
“เธอกลับจากนอกแล้วเหรอ แหม...สวยกว่าเก่าแทบจำไม่ได้เลยนะ” พนิดาสัพยอก
“เพิ่งกลับมา ยังไม่ถึงครึ่งปีเลย”
“ทำงานทำการหรือยัง อ้อลืมไป อย่างเธอไม่ต้องวิ่งหางานให้ลำบากเหมือนพวกเรา”
“ทำไมละนิดา” เพื่อนๆ ในก๊วนนั้นยื่นหน้ามาถามหลังพนิดาพูดจบ
“นางรวยไงยะ บ้านนางมีบริษัทผลิตสินค้าแปรรูป เครือจิรวิน”
“อ้อ...เร็วๆ นี้ได้ข่าวว่าเซ็นต์ศัญญากับคัมภีรดาด้วยใช่มั้ยคะ”
ชุติภาพยักหน้าไม่ได้พูดออกมาตรงๆ
“อุ้ย!! ดีใจด้วยค่ะ อย่างนี้กำไรปีนี้น่าจะทะลุเป้า คัมภีรดาเขากว้างขวาง เขาส่งออกทำกำไรปีละเป็นพันๆ ล้านเชียวค่ะ”
“ที่หนูๆ ที่ซุบซิบกันเมื่อสักครู่ หมายความว่ายังไงคะ” ฉายรวีพูดแทรก นางอยากรู้เรื่องที่ตัวเองสนใจ
“คุณป้าเป็นใครคะ” พนิดาชักสีหน้าใส่
“แม่คุณวิน นวิน ขรินทร์ทิพย์ ผู้ชายที่ยืนอยู่ตรงนั้นไง” ชุติภาช่วยแก้หน้าให้ฉายรวี เพื่อรักษาหน้าตัวเองด้วย
“คนที่มีข่าวซุบซิบกับเธอเมื่อสองเดือนก่อนน่ะเหรอ” พนิดาเอียงตัวกระซิบกระซาบ
“เธอน่ะ งานอดิเรกชอบสอดส่องเรื่องชาวบ้านหรือไงยะ” ชุติภาเหน็บกลับ
“แหม เราก็แค่ชอบอ่านข่าวซุบซิบเท่านั้นเอง” พนิดารีบแก้ตัว
“ว่าแต่ พอมีใครจะบอกป้าก่อนได้ไหม ป้าอยากรู้” ฉายรวีดึงกลับมาประเด็นเดิมที่ตัวเองอยากรู้
“แหมคุณป้าก็ใจร้อนจังค่ะ”
“เท่าที่ป้ารู้ บ้านนี้เขามีลูกชายคนเดียวไม่ใช่เหรอจ้ะ” ฉายรวีเปรย
ทายาทคัมภีรดาเท่าที่สังคมรู้มีแค่เขตคามคนเดียว ดังนั้นเมื่อมีข่าววงในเล็ดรอดมา ผู้คนเลยให้ความสนใจเป็นพิเศษ
“จะว่าแบบนั้นก็ได้ค่ะ บ้านนั้นเขาไม่ได้ปิด แต่ก็ไม่ได้เปิดเสียทีเดียว ลูกสาวคนเล็กบ้านนั้นเขารักธรรมชาติ ชอบใช้ชีวิตติดดินค่ะ”
“ลูกสาว” ชุติภาพึมพำ แอบผ่นลมหายใจเมื่อนึกถึงมรดก หากตนเองเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของสมาชิกในบ้านหลังนั้น
“แว่วๆ ว่าเป็นแก้วตาดวงใจทีเดียวค่ะ”
“ไม่แปลกหรอก แต่ก็แค่ลูกสาวแหละ” ฉายรวีพึมพำ นางเม้มปาก นึกเสียดายที่บุตรชายหมดโอกาส หากบุตรหลานบ้านนั้นเกิดถูกใจ นวินขึ้นมาตอนนี้ก็คงชวด
“ว่าไม่ได้นะคะ เท่าที่เขาลือๆ กันมา สมบัติเกินครึ่งเป็นชื่อของลูกสาวค่ะ”
“โห...” เสียงฮือฮาดังขรม
มีชุติภาคนเดียวที่ยืนนิ่ง สายตาของเธอจับจ้องใครบางคนที่ปรากฏตัวพร้อมกับครอบครัวคัมภีรดาที่กำลังเดินผ่านประตูด้านหน้าเข้ามา รวมทั้งนวินด้วย เขาไม่มีทางจำคนที่ตนเองเคยรักได้ ครั้งหนึ่งหญิงผู้นั้นทำให้เขากล้าแหกกฎเกณฑ์ของมารดาเชียวนะ
“ยัยภา แม่ตาฝาดไปใช่มั้ยจ้ะ” ฉายรวีสะกิดแขนชุติภา นางเองก็เห็นสิ่งที่ชุติภาจับตามองอยู่
ชุติภาเม้มปาก ความรู้สึกกังขาเกิดขึ้นเต็มใจ
“ใครน่ะ สวยดีนะ” พนิดาพึมพำ วันนี้เขมิกาสวยเฉิดฉายด้วยอาภรณ์แบรนด์ดัง ทั้งเนื้อทั้งตัวเธอเต็มไปด้วยราศีความมั่งคั่ง คนที่ไม่เคยพบเจอเลยอดไม่ได้ที่จะชื่นชม
ยกเว้นคนที่คิดว่าตนเองรู้จักเขมิกาดีอย่างฉายรวี
“ก็สวยดีหรอกนะ แต่....” ฉายรวีแสร้งพูดไม่จบ
พนิดาหันมาสนใจ ต่อมอยากรู้เต้นตุ๊บตับ “คุณป้ารู้จักเธอเหรอคะ ใช่ ‘ทายาท’ คนที่จะเปิดตัวหรือเปล่าคะ?”
“จะใช่ได้ยังไงละจ้ะ ผู้หญิงจนๆ คนนั้น ไม่มีทางมีสายเลือดสูงส่งได้หรอก”
“ใช่...ผู้หญิงแบบนั้นไม่มีค่าควรมาอยู่ตรงนี้ด้วย” ชุติภาเอ่ยสนับสนุน
“มันยังไงกันแน่ภา เธอเองก็รู้จักหล่อนเหรอ” พนิดาขมวดคิ้ว
ชุติภาเอียงตัวกระซิบบอก พนิดาตาโต “โห ไม่คิดว่าเธอจะโชคร้ายเจอผู้หญิงแบบนั้นเข้านะ แล้วคุณวินเขาจะไม่ปวดใจแย่เหรอที่ต้องมาเจอกันในสถานการณ์แบบนี้น่ะ”
ชุติภามองไปที่นวิน
เธอกำมือแน่น ท่าทางที่ยังตัดใจไม่ขาดแบบนั้น ทำให้เธอตัดสินใจได้ตอนนี้นั่นเอง
“เขม” ฉันเหลือบมองพลางยิ้มมุมปาก ท่าทางสลดของเขาทำให้ฉันปวดแปลบในใจเล็กน้อย แต่ไม่ได้ทำให้ฉันเกิดความรู้สึกสงสารสักนิด ฉันเคยผ่านช่วงเวลาน่าเวทนาเช่นนั้นโดยไม่มีเขาเคียงข้างมาแล้ว ดังนั้นหากเขาจะรู้สึกเจ็บปวด อย่างที่ฉันเคยรู้สึกเจ็บปวดบ้าง ก็น่าจะสมน้ำสมเนื้อ
“คะ”
“ให้เฮียช่วยมั้ย” เขตคามพึมพำ เขารั้งข้อมือน้องสาวมากำไว้
นวินมองตามทุกอิริยาบถ เขารู้สึกเหมือนมีปลายมีดกรีดลงบนเนื้อหัวใจ เหมือนกับว่าหัวใจของเขากำลังถูกเฉือนออกเป็นชิ้นๆ
- ผู้เขียน
