ตอนที่1.จุดเริ่มต้นของความล้มเหลว
ตอนที่1.จุดเริ่มต้นของความล้มเหลว
เขมิกา คัมภีรดา นั่นคือชื่อของฉันเองค่ะ ผู้หญิงตัวเล็กที่ทำงานอย่างหนักเพื่อเลี้ยงชีพตัวเอง แต่งานที่ทำก็เป็นงานที่ฉันรัก ความเหนื่อยยากเลยไม่ใช่ปัญหาที่สร้างความทุกข์ใจให้กับฉัน ฉันมีความสุขในทุกๆ วัน แม้คนรอบข้างมักจะชอบกระแหนะกระแหน คงเป็นเพราะ มีผู้ชายคนหนึ่งที่เดินเข้ามาในชีวิตฉันมั้ง
เขาชื่อ นวิน ขรินทร์ทิพย์ ภาพลักษณ์ของเขาดูดี พอๆ กับหน้าตาและชาติตระกูลของเขา แต่สำหรับฉันแล้ว ฉันรู้สึกเฉยๆ นะ ทว่าความเสมอต้นเสมอปลายของเขา ทำให้ฉันใจอ่อน ยอมรับเขาเข้ามาเป็นส่วนหนึ่ง
ฉันตื่นเช้าเริ่มงานเหมือนทุกวัน
งานที่ฉันใช้หาเลี้ยงชีพคือการเปิดคาเฟ่เล็กๆ ที่มียอดขายพอเลี้ยงตัวได้ ไม่ต้องเดือดร้อนจนต้องหาหยิบยืมเงินเพื่อใช้ดำรงชีวิต
ตอนที่ฉันกำลังยุ่งเพราะออเดอร์ลูกค้าที่สั่งผ่านแอพพลิเคชัน นวินก็แวะมาหา ฉันสังเกตเห็นความยุ่งยากบนสีหน้าของเขา เลยยั้งปากไม่อยู่ประสาคนที่เก็บอะไรไว้ในใจไม่ค่อยได้
“คุณมีเรื่องกังวลหรือเปล่าคะ” เขาหันมามองฉันแล้วก็ยิ้มจางๆ ยิ้มที่ฉันรับรู้ได้ ในรอยยิ้มนั้นแฝงความหมายหลายอย่าง ฉันละมือจากงานที่จะทำต่อ หลังทำออเดอร์สุดท้ายเสร็จ ฉันเดินไปทิ้งตัวนั่งบนเก้าอี้อีกตัวที่ว่างอยู่ ภายในร้านของฉัน
“บอกเขมได้นะวิน เขมรับได้”
คงเพราะเราสองคนรู้อยู่แก่ใจดี เรื่องความสัมพันธ์ที่ถูกต่อต้านจากคนในครอบครัวเขา ปัญหาเดียวที่ฉันเองก็ไม่รู้ว่าจะหาทางแก้ยังไงดี
“เขม ผมสัญญา ผมจะไม่มีวันทิ้งคุณ” เป็นคำสัญญาที่เคยทำให้ฉันหัวใจพองโตในคราแรกที่ได้ยิน แต่หลายๆ ครั้งที่เขาย้ำให้ฉันได้ยิน ฉันเริ่มรู้สึกถึงความลังเลที่ปะปนมาในน้ำเสียงของเขา
“เขมเชื่อคุณค่ะ” ฉันตอบแบบขอไปที แล้วก็แอบผ่อนลมหายใจ
คงเป็นเพราะฉันจับความรู้สึกของเขาได้ ครั้งนี้คงเป็นปัญหาใหญ่สำหรับเขามากทีเดียว ผู้ชายที่เคยแข็งแกร่งคนนี้ เลยดูว้าวุ่นแปลกๆ
“เขม หากผมต้องแต่งงาน คุณคิดว่ายังไง”
ฉันตะลึงจนตัวชา แต่เมื่อตั้งสติได้ ฉันก็ถามกลับไปด้วยน้ำเสียงที่อ่อนล้าเต็มที “ไม่ได้แต่งกับเขมใช่มั้ยคะ?”
แววตาของชายคนรักไหววูบ เขาก้มหน้าลงแล้วก็ตอบฉันด้วยน้ำเสียงแผ่วๆ “บริษัทผมมีปัญหานิดหน่อย คุณแม่เลยเสนอทางเลือกให้กับผม” ฉันเม้มปาก คุณนายฉายรวีไม่เคยยินดีกับความสัมพันท์ของฉันกับบุตรชายของนางเลย ครั้งแรกที่ได้เจอกัน ท่าทางไม่ยอมรับรู้นั่นก็เคยทำให้ฉันใจฟ่อ แต่คงเพราะความสม่ำเสมอของนวินเอง ฉันเลยพยายามทำดีทุกทาง เพื่อให้ครอบครัวของเขายอมรับฉันในสักวัน
แต่ทว่า...ความหวังของฉัน ไม่มีทางไปถึงจุดหมาย
“คุณอยากหย่า?” ถึงฉันกับนวินยังไม่ได้แต่งงานกันเป็นทางการ แต่ฉันกับเขาก็มีความสัมพันท์ที่เกินกว่าแค่คู่รักทั่วไป คงเพราะความถือดีของฉันก็ได้ ก่อนที่เราสองคนจะยอมรับซึ่งกันและกัน นวินเลยยอมจดทะเบียนสมรสกับฉันเพื่อเป็นหลักประกันในอนาคต ซึ่งเรื่องนั้น ครอบครัวของเขาไม่มีใครรู้ โดยเฉพาะมารดาของเขา
“ผม” เขาหยุดพูด ยกมือขึ้นคลึงข้างขมับ ท่าทางเหมือนคนหมดหนทาง จนยอมที่จะต้องฝืนความรู้สึกตัวเอง
“ให้เขมช่วยมั้ยคะ?” ฉันไม่ได้พูดเล่น หากเขายอมรับ ฉันย่อมมีหนทางช่วยเขาได้
“ผู้หญิงจนๆ อย่างหล่อนจะช่วยอะไรฉันกับตาวินได้ยะ!!” เสียงแหลมบาดหูดังแทรกบทสนทนาของฉันกับเขา นวินเงยหน้ามอง สีหน้าของเขาเผือดสีลงกว่าเก่า
“คุณแม่ครับ ผมขอ ผมขอคุยกับเขมก่อน” นวินพึมพำเสียงแหบ
ฉันขมวดคิ้วมองหน้าชายคนรัก แล้วก็หันไปทำความเคารพมารดาของเขาตามมารยาท
“แม่บอกแกแล้ว ผู้หญิงคนนี้หวังอะไรจากแกได้ ถ้าไม่ใช่เงิน”
ฉันขมวดคิ้วหนักกว่าเก่า หันกลับไปมองผู้ชายที่เคยให้คำมั่นสัญญากับฉันบ่อยๆ อีกครั้ง
“แม่ครับ” เสียงของนวินเข้มขึ้น
“วิน ไม่มีเวลาเหลือแล้วนะลูก นอกจากยัยภา ไม่มีใครช่วย ขรินทร์ทิพย์ของเราได้อีกแล้ว” ฉันสะดุดหูชื่อของผู้หญิงที่ผ่านริมฝีปากสีสดของคุณนายฉายรวีออกมา ผู้หญิงที่ท่านหมายมั่นอยากได้มาเป็นศรีสะใภ้เสียเหลือเกิน แต่เป็นเพราะฉัน ความหวังของท่านเลยมืดมน
“แม่ครับ ขอเวลาผมสักหน่อยเถอะครับ ขอให้ผมได้คุยกับ เขมก่อน” นวินวิงวอนมารดาเสียงอ่อนล้า
“เพราะแกมัวแต่งุ่มง่ามแบบนี้ไงยะ บริษัทเลยง่อนแง่นจนเกือบล้ม แม่ปล่อยให้แกทำตามใจตัวเองไม่ได้อีกต่อไปแล้ว รีบไปหย่ากับแม่นั่นซะ ก่อนที่บริษัทของเราจะล้มละลาย” ฉายรวีตะเบ็งเสียง แววตาแฝงไว้ด้วยความคลั่งแค้น ผู้หญิงตรงหน้าขัดขวางความมั่งคั่งของครอบครัวนาง หากยังมัวรีรออยู่ บุตรชายอาจจะเปลี่ยนใจ
ท่าทางเขารักผู้หญิงจนๆ คนนั้นไม่น้อยทีเดียว
ไม่อย่างนั้น บุตรชายที่เคยเชื่อฟัง จะลักลอบมีความสัมพันท์ที่แก้ไขไม่ได้ กับผู้หญิงที่นางชิงชังได้ยังไง
ทันทีที่ได้ยินคำพูดเหล่านั้น ฉันก็น้ำตาคลอ
“เชื่อพี่เถอะ คนอย่างหมอนั่นปกป้องแกไม่ได้หรอก”
คำเตือนของใครสักคนดังแว่วๆ อยู่ข้างหู ฉันแค่นยิ้ม ผ่อนลมหายใจยาวเหยียด
“วินคิดจะทำยังไงต่อคะ?” ฉันกลั้นใจถาม
“ผม” หลายครั้งที่ฉันเองก็รู้สึก ผู้ชายตรงหน้าฉันไม่มีความเข้มแข็งพอ เขาอยู่ใต้ร่มเงาของมารดาของเขามากเกินไป แต่เพราะความรักที่เขามีให้ฉันอย่างสม่ำเสมอ ฉันเลยยอมมองข้ามความอ่อนแอของเขาบ้างในบางครั้ง
และครั้งนี้ ฉันเริ่มรู้สึกว่าตัวเองคิดผิด
ฉันเคยคิดว่าความรักท่วมท้นของฉัน จะสามารถเอาชนะใจมารดาของเขาได้ แต่แค่นั้นคงไม่พอ สำหรับมารดาของเขาเสียแล้วละมั้ง
ตี๊ดดดดดดด... สัญญาณออเดอร์จากแอพพลิเคชันดังเตือน ฉันทรงตัวยืน “คุณนัดมาเลยก็ได้ค่ะ เขมจะได้หาเวลาว่างๆ ให้ หากคุณอยากหย่า” หางเสียงของฉันสั่นพร่า สิ่งที่ฉันพยายามยื้อไว้ ดูเหมือนจะขาดสะบั้นลงแล้ว
“เขม” ท่าทางเขาตกใจไม่น้อย
“คุณกลับไปกับแม่ของคุณก่อนเถอะค่ะวิน ไปปรึกษากันดีๆ แล้วค่อยกลับมาบอกเขมใหม่” ฉันรีบเม้มปากหลังพูดจบ ฉันไม่มีทางปล่อยให้ท่าทางน่าสมเพชของฉันถูกคนอื่นเห็น ฉันกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลออกมาประจานตัวเองแทบแย่
“หล่อนไม่มีทางได้สตางค์จากลูกชายแม้แต่บาทเดียว” มารดาของเขาพูดแทรก
ฉันหมุนตัวไปประจันหน้า และมองสู้ตากับท่านครั้งแรก
ฉายรวีถลึงตาใส่ แววตาถือดีของแม่ลูกสะใภ้ทำให้ท่านรู้สึกเย็นยะเยือกไปทั้งแผ่นหลัง ท่าทางผยองแบบนั่นไงทำให้นางรู้สึกสยองพิกล นางเลยไม่เคยชอบขี้หน้าผู้หญิงคนนี้ ตั้งแต่ครั้งแรกที่บุตรชายพามาแนะนำให้รู้จัก
ผู้หญิงจนๆ ไม่มีหัวนอนปลายเท้า ไม่มีทางรักบุตรชายของท่าน โดยไม่หวังอะไรตอบแทน
“แล้วแต่เลยค่ะ เขมจะหย่าให้แล้ว น่าจะพอใจนะคะ”
“เขม แต่ผมไม่!!” นวินรั้งแขนฉันไว้ ฉันยิ้มจางๆ ให้
หัวใจฉันด้านชาเสียแล้ว ในเมื่อเขามีทางเลือกที่ดีกว่า ฉันก็ไม่ควรรั้งเขาไว้ ในเมื่อคนในครอบครัวของเขา ตั้งป้อมรังเกียจฉัน ทั้งที่ยังไม่ทันทำความรู้จักฉันให้ดีๆ เลย
“อยากหย่าวันไหน นัดวันเขมมาแล้วกันค่ะ ขอตัวนะคะ เขมกำลังยุ่ง”
ฉันปัดมือเขาทิ้ง พร้อมกับหยดน้ำตาที่ร่วงริน ใบหน้าฉันก้มต่ำ สายตาที่มองผ่านคราบน้ำตาก็พร่าเลือน
ปัง!! เสียงปิดประตูดังกระแทกใจ ฉันทรุดฮวบลงไปกองที่พื้น เลยไม่ทันได้เห็นว่านวินเดินจากไปทางไหน ฉันสะอื้นไห้แบบไม่กลัวใครได้ยิน เสียงร้องไห้ของฉันก็ไม่ได้ทำให้นวินเดินย้อนกลับมา หนทางรักของฉัน คงจบลงแค่นี้แล้ว