บทที่ 5 การพบกันอันแสนไม่ประทับใจ EP.2-1

1297 คำ
ทางด้านลออองค์ซึ่งนั่งรออนงค์นางกับธราธร จนกระทั่งรู้สึกเบื่อหน่ายเต็มที จึงคว้ากระเป๋าของน้องสาวที่วางไว้ข้างๆ ตัวขึ้นสะพาย แล้วเดินไปยังร้านกาแฟที่หมายตาไว้ตั้งแต่แรก หญิงสาวตรงเข้าไปหยุดหน้าตู้ที่ประกอบไปด้วยขนมเค้กหน้าตาน่ากินวางเรียงรายอยู่ โดยไม่ได้สนใจกับสิ่งรอบตัว จึงไม่รู้เลยว่าสถานที่แห่งนี้กำลังมีการถ่ายละครกันอยู่ ฉากที่กำลังถ่ายทำอยู่ในขณะโฟกัสไปที่พระเอกของเรื่อง ซึ่งรับบทโดยณดนย์กำลังนั่งดื่มกาแฟรำลึกถึงความหลังที่ตัวเองกับคนรักเคยเจอกันครั้งแรกที่นี่ แต่ในขณะที่กำลังนั่งเหม่อลอยและปล่อยอารมณ์เศร้ากำลังได้ที่ พระเอกหนุ่มก็ถึงกับอารมณ์เสีย เมื่อเห็นหญิงสาวแต่งกายแปลกตาเดินตรงเข้ามาก้มๆ เงยๆ อยู่หน้าตู้กระจก ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากบริเวณที่เขานั่งนักโดยไม่ได้สนใจมองสิ่งรอบข้างเลยสักนิด พนักงานในร้านทุกคนที่ยืนประจำอยู่บริเวณจุดนั้น ต่างมองเห็นตั้งแต่หญิงสาวเดินเข้ามาแล้ว แต่เพราะกำลังเผลอไผลจ้องหน้าพระเอกรูปหล่ออยู่จึงบอกไม่ทัน “ขอโทษนะคะ ตอนนี้ที่นี่กำลังมีการถ่ายละครอยู่ค่ะ” เสียงพนักงานที่ยืนอยุ่หน้าตู้บอกด้วยหน้าเสียงแผ่วเบาอย่างเกรงใจ “อะไรนะคะ” ลออองค์หันไปถามเพราะได้ยินไม่ค่อยถนัด ดาราหนุ่มคนดังแห่งยุคซึ่งยังคนนั่งนิ่งอยู่ และบังเอิญได้ยินการโต้ตอบของทั้งสองฝ่ายอย่างชัดเจน จึงลุกขึ้นยืนทันทีด้วยความโมโหที่ถูกขัดจังหวะในการทำงาน แล้วพูดเสียงดังใส่อารมณ์ไม่ยั้งกับหญิงสาวที่ยืนหันหลังให้ “นอกจากสายตาคุณจะไม่ค่อยดีแล้วหูก็ยังไม่ดีอีก คุณไม่ได้สังเกตอะไรรอบตัวเลยหรือไง ถึงเดินดุ่มๆ เข้ามาในขณะเขากำลังถ่ายละครกันอยู่ ถึงไม่เห็นกล้องคุณก็น่าจะเห็นผมและรู้ว่าเป็นใคร” คนพูดหยุดไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดอย่างขุ่นเคืองต่อไปว่า “คุณรู้ไหมว่า กว่าผมจะเค้นอารมณ์แสดงได้ถึงขนาดนี้ ผมต้องใช้ความพยายามแค่ไหน” คนถูกต่อว่าด้วยคำพูดด้วยแรงอารมณ์ค่อยๆ หันไปมองรอบตัวทันทีที่ถูกกล่าวหา ดวงหน้าสะสวยซีดสลดลงด้วยความตกใจแกมอับอาย เพราะจุดประสงค์หลักของตัวเองเพียงแค่อยากมาเดินดูขนมเค้ก และจะลองซื้อไปอย่างละชิ้นสองชิ้นเพื่อลองชิมเท่านั้น เธอผิดจริงๆ ที่ไม่ได้มองรอบๆ ตัว แต่ทำไมบอกกันดีๆ ไม่ได้หรือไง ต้องมาว่ากันด้วยน้ำเสียงใส่อารมณ์กับเธอด้วย คนถูกต่อว่าเม้มปากแน่น ก่อนจะหันไปเผชิญหน้ากับคนที่ต่อว่าเธออย่างไม่มีเหตุผล และพูดออกไปด้วยน้ำเสียงโกรธกรุ่นว่า “ขอโทษค่ะ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะเข้ามาขัดขวางการทำงานของคุณ รู้ว่าผิดที่ไม่ได้มองรอบตัวก่อน แต่ทำไมเวลาคุณจะถ่ายละครไม่คิดจะหาป้ายมาติดไว้ข้างหน้าว่าห้ามเข้าเลยหรือไง ใครๆ จะได้รู้ แล้วตอนฉันเดินเข้ามาก็ไม่เห็นมีใครบอกเลยสักคำ” ลออองค์พูดเสียงที่ค่อยๆ ดังขึ้นทุกขณะพลางหอบหายใจด้วยความโมโห แล้วเงยหน้าขึ้นมองคนที่พูดว่าเห็นเขาแล้วน่าจะรู้ว่าเป็นใครตั้งแต่หัวจรดเท้า ด้วยสายตารังเกียจเดียดฉันท์ ก่อนจะพูดต่อด้วยแรงโทสะ “ฉันไม่รู้หรอกว่าคุณเป็นใคร ไม่เคยอยากรู้จักไม่เคยอยากสนใจ ไม่ว่าจะเป็นดาราดังหรือดาราไม่ดังก็ช่างหัวคุณ นอกจากคุณเป็นคนที่หลงตัวเองแล้วยังพูดจาได้ย่ำแย่มากๆ ” คนพูดคงไม่รู้ตัวหรอกว่าเสียงของตัวเองนั้นดังแค่ไหน ซึ่งคนรอบข้างที่ยืนฟังอยู่ถึงกับอ้าปากค้างกันเป็นแถวรวมทั้งคนถูกว่าด้วย และเมื่อเจ้าตัวพูดจบก็เตรียมตัวจะก้าวออกจากร้าน โดยปกติลออองค์จะเป็นคนที่ค่อนข้างใจเย็น ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่โกรธจนแทบควันออกหูได้ถึงเพียงนี้ “ใจเย็นๆ ก่อนทั้งคู่จ้ะ” ธนัญญาเดินเข้ามาหาตั้งแต่ได้ยินเสียงโต้เถียงของคนทั้งคู่แล้ว ทั้งรู้สึกทึ่งระคนตกใจที่เห็นลออองค์ยืนว่ากราดใส่พระเอกชื่อดังแห่งยุคอย่างณดนย์ คนที่ตอนนี้ผู้จัดทั้งหลายต่างพากันแย่งตัว และเป็นเรื่องแปลกแต่จริงที่คนถูกว่าด้วยถ้อยคำขนาดนี้กลับเงียบสงบจนผิดปกติ ซึ่งไม่เคยเห็นดาราหนุ่มในสภาพเช่นนี้มาก่อนนับตั้งแต่ทำงานร่วมกันมา “แพรมน...ไม่เป็นไรหรอกจ้ะเพราะเป็นซีนสั้นๆ ถ่ายซ่อมใหม่เมื่อไหร่ก็ได้” ผู้จัดคนดังบอกหญิงสาวที่ยังยืนหน้าตาแดงก่ำด้วยความโกรธ ก่อนหันไปถามณดนย์ที่ยังยืนนิ่งขึงอยู่ “ถ่ายใหม่ได้ใช่ไหม...ดนย์” “ได้...ได้ครับ” หลังจากนิ่งอึ้งไปครู่ใหญ่ณดนย์เพิ่งมีโอกาสเอ่ยปาก ซึ่งเป็นคำพูดก็ฟังแล้วอ่อนลงมากราวคนละคน ก่อนหน้านี้พระเอกหนุ่มรู้สึกอารมณ์เสียอย่างแรง จึงแสดงความโกรธเกรี้ยวใส่ออกไปไปโดยไม่ยั้งคิด ตอนเห็นครั้งแรกก็เห็นเพียงด้านหลังในชุดแต่งกายแปลกตาที่ไม่ค่อยเหมือนใคร แต่ครั้นเห็นใบหน้าเธออย่างชัดเจนเท่านั้นคนถูกว่ากราดถึงกับตกตะลึง ก่อนหัวใจจะกระตุกวูบขึ้นมาอย่างไม่รู้สาเหตุซึ่งไม่เคยเป็นเช่นนี้มาก่อน ผู้หญิงอะไรหน้าตาเหมือนผู้หญิงโบราณแต่ก็สวยซึ้งตรึงใจเขาเหลือเกิน ตอนนี้จึงได้แต่นิ่งอึ้งพูดอะไรแทบไม่ออก สิ่งที่ทำตอนนี้คืออยากตบปากตัวเอง ทั้งอยากถอนคำพูดที่พูดออกไปนัก ไม่รู้อะไรมาบังตาและดลใจให้พูดจารุนแรงแบบนั้นอออกไปได้ เจ้าตัวคงโกรธมากทีเดียวเพราะดูจากสายตาที่มองมายังเขา ณดนย์เห็นแล้วรู้สึกใจหายอย่างบอกไม่ถูก “พี่ว่าเรามานั่งกินอะไรกันก่อนดีกว่าไหม มัวยืนกันอยู่ทำไมให้เมื่อยเดี๋ยวมื้อนี้พี่เป็นเจ้ามือเอง” ธนัญญาพูดโพล่งขึ้นก่อนจะหันไปทางทีมงาน ที่ยังยืนมองดูเหตุการณ์อยู่ด้วยความสนใจ “วันนี้เลิกกองก่อนส่วนฉากนี้เดี๋ยวค่อยถ่ายกันใหม่” แล้วจึงหันไปทางลออองค์ “แพรมนมากับพี่” พูดจบก็จูงมือหญิงสาวไปยังโต๊ะที่สั่งให้เด็กในร้านนำมาต่อกันเป็นโต๊ะยาว ซึ่งคนถูกจูงรู้สึกอึดอัดใจจนไม่อยากอยู่ตรงนี้อีกแล้ว แต่ก็เกรงใจพี่สาวของธราธร จึงเดินตามไปอย่างไม่ค่อยยินยอมพร้อมใจนัก ขณะกำลังก้าวเข้าไปในร้านกาแฟอีกครั้งเสียงโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น เมื่อก้มลงดูหน้าจอก็เห็นเป็นชื่อของน้องสาว จึงกดรับด้วยสีหน้าที่ดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ “ว่าไงจ๊ะไหม” “พี่แพรอยู่ไหนหรือคะ” “อยู่ในร้านกาแฟจ้ะอยู่กับพี่จี๊ด แล้วไหมล่ะอยู่ไหน” “อยู่กับธรค่ะเดี๋ยวไหมลงไปหาในนั้นนะคะ” หลังจากกดวางสายธนัญญาก็หันมาถาม “ใยไหมกับธรอยู่ที่ไหนกันหรือจ๊ะ” “อยู่ที่ห้องของธรค่ะพี่จี๊ด” ลออองค์ตอบโดยที่สายตาไม่มองไปทางณดนย์ที่นั่งตรงกันข้ามเลยสักนิดเดียว ทำเอาคนที่คอยหวังจะสบสายตาหน้าม้านไปอีกครั้งด้วยความละเหี่ยใจ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม