ปัจจุบันนักธุรกิจหนุ่มค่อยๆ เปลี่ยนตลาดจากใจกลางเมือง ขยับขยายออกไปหาทำเลนอกเมืองสร้างหมู่บ้านจัดสรรขนาดใหญ่ ที่ทั้งโครงการมีบ้านอยู่ไม่กี่สิบหลัง แต่ละหลังมีอาณาบริเวณกว้างขวางเหมาะกับครอบครัวใหญ่ ที่ต้องการมีพื้นที่ไว้สำหรับใช้สอย
ขณะนี้บ้านในโครงการดังกล่าวมีคนจองไว้เต็มหมดทุกหลัง เพราะชื่อเสียงจากโครงการแรกที่ขจรขจาย ด้วยระบบสาธารณูปโภคที่เขาวางไว้อย่างดีเยี่ยม จนได้รับการยอมรับจากทั้งในวงการและนอกวงการ ทั้งที่เพิ่งเปิดการโครงการที่สองเท่านั้น สำหรับคนหนุ่มในวัยเพียงยี่สิบเจ็ดปีอย่างณภัทร ถือว่าเป็นนักธุรกิจรุ่นใหม่ไฟแรงที่ประสบความสำเร็จค่อนข้างสูง
ไม่ค่อยมีใครในวงการรู้เรื่องราวของชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลา แฝงแววเย็นชาผู้นี้มีความเป็นมาอย่างไร เพราะตัวณภัทรไม่ค่อยเปิดเผยตัวเองเท่าไหร่ ถ้าไม่ใช่งานสำคัญที่มีผลเกี่ยวเนื่องกับธุรกิจ จะไม่มีใครเห็นเขาปรากฏตัวต่อหน้าสาธารณชนอย่างแน่นอน
ทุกคนทราบแต่เพียงว่าเขาชื่อ ณภทัร แมคคินเลย์ เท่านั้น ทั้งที่หน้าตาเป็นไทยแท้ทุกประการ หลายคนข้องใจเรื่องนามสกุลแต่ไม่มีใครกล้าเข้าไปถามเองนี้กับเขาโดยตรง
นิตยสารชื่อดังต่างๆ สนใจอยากได้เขาขึ้นปก ต้องการสัมภาษณ์ลงในหน้าหนังสือ แต่ไม่เคยมีใครได้รับคำตอบรับจากชายหนุ่มผู้นี้สักครั้ง แต่สิ่งนี้กลับเป็นแรงดึงดูดให้เป็นจุดสนใจมากยิ่งขึ้น
“นายจะไปไหนต่อหรือเปล่าครับ” คมศักดิ์หันไปถามผู้เป็นนายขณะยืนรออยู่หน้าลิฟต์
“กลับบ้าน ช่วงนี้สถานการณ์ไม่ค่อยดีนัก มีคนจ้องเล่นงานฉันอยู่แกก็รู้นี่น่า”
ข่าวดังที่ลงพาดหัวทางหน้าหนังสือพิมพ์ทุกฉบับเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา คงไม่พ้นข่าวของนักธุรกิจสาวใหญ่ด้านอสังหาริมทรัพย์ เจ้าของหมู่บ้านชื่อดังถูกยิงตายคาที่ในรถยนต์คันหรู และจากเหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้ณภัทรต้องคอยระมัดระวังตัวเองมากขึ้นกว่าเดิม เพราะในปัจจุบันธุรกิจด้านนี้มีการแข่งขันกันค่อนข้างสูง
ตัวชายหนุ่มทำธุรกิจโดยไม่ได้คิดแค่ตักตวงผลประโยชน์แต่เพียงฝ่ายเดียว วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในการก่อสร้างตัวเขาเลือกสรรใช้แต่ของดีมีคุณภาพ ดังนั้นราคาบ้านแต่ละหลังในโครงการจึงราคาค่อนข้างสูง เมื่อเทียบกับบ้านของโครงการอื่นแต่กลับขายได้หมดทุกหลัง ด้วยสาเหตุนี้อาจไปขัดผลประโยชน์ของคู่แข่งโดยที่เขาไม่รู้ตัวก็เป็นได้
ชายหนุ่มรู้ตัวดีมาตลอดเวลาว่ามีคนคอยจ้องเล่นงานอยู่ จึงค่อนข้างระมัดระวังตัวเองอยู่เสมอ เวลาไปไหนมาไหนมักจะมีคนของเขาตามติดอยู่ห่างๆ แต่ไม่ได้เป็นที่เปิดเผยเท่านั้น
“ฉันอยากดื่มกาแฟ”
หน้าคอนโดฯ ค่อนข้างหรูหราแห่งนี้มีร้านกาแฟชื่อดังมาเปิดสาขาอยู่ ซึ่งกาแฟแต่ละแก้วนั้นราคาค่อนข้างแพงสำหรับคนทั่วไป เพราะคนที่พักอาศัยที่นี่ส่วนใหญ่เป็นระดับคนมีเงินทั้งสิ้น
ร้านกาแฟที่ทั้งสองเดินเข้าไปมีที่นั่งแยกกันเป็นสัดส่วน ณภัทรกวาดสายตามองหาที่ว่างและก็บังเอิญเหลือเพียงสองที่พอดี พนักงานบริกรรีบเดินออกมาต้อนรับด้วยสีหน้ายิ้มแย้มพร้อมส่งเมนูให้ เพราะคุ้นหน้าตาของชายหนุ่มผู้นี้เป็นอย่างดี ด้วยอีกฝ่ายมักจะแวะมาทานกาแฟที่นี่อยู่เป็นประจำ
“ขอเหมือนเดิม” ณภัทรสั่งบริการ ส่วนคมศักดิ์นั้นขอน้ำเปล่าเพราะไม่ค่อยถูกกับกาแฟสดเท่าไหร่นัก เคยดื่มแล้วใจสั่นจึงไม่เคยแตะอีกเลย
บริกรยังไม่ทันเอากาแฟที่สั่งมาเสิร์ฟ หูของณภทัรก็ได้ยินเสียงคุยกันเบาๆ จากโต๊ะข้างหลังที่เขานั่ง
“นี่นังไหม จำได้หรือเปล่าที่ฉันเคยบอกแกเรื่องห้อง 904 น่ะ”
น้ำเสียงที่พูดฟังดูก็พอรู้ว่าเจ้าของคำพูดจัดอยู่ในเพศใด ทำให้ชายหนุ่มคิดในใจอย่างขำๆ ว่าได้ยินแค่เสียงก็ไม่อยากที่จะเห็นหน้าแล้ว
แต่ห้อง 904 ที่พูดถึงนั่นมันห้องของเขานี่น่า ทำให้ต้องเงี่ยหูฟังต่อไปอย่างสนอกสนใจ
“นี่นังธร วันนึงแกบอกฉันไม่รู้กี่เรื่องจะจำได้ไหมเล่า”
เจ้าของเสียงใสๆ ที่ตอบออกมานั้น ทำให้นึกอยากเห็นหน้าคนพูดขึ้นมาทันที
“ก็เจ้าของห้องที่ว่าฉันเคยเจอเขาโดยบังเอิญ หน้าตาหล่อมากๆ หล่อแบบไม่เผื่อแผ่ใครหน้าไหน ผู้ชายอะไรไม่รู้หล่อได้หล่อดีหล่อไม่บันยะบังยัง ถ้าฉันเกิดมาสวยแบบแกก็ดีสินะจะยินยอมมอบกายถวายตัวให้เลย”
เสียงแหลมๆ ที่ได้ยินทำเอาคมศักดิ์ ที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามถึงกับหลุดหัวเราพรืดออกมาก ก่อนจะรีบปั้นสีหน้าให้เรียบเฉยเหมือนเดิม เมื่อเห็นผู้เป็นนายหันมาถลึงตาใส่ คงมีแต่ดวงตาเท่านั้นที่ยังไหวระริกด้วยความขบขัน
“แล้วแกจะเอามาเล่าให้ฉันฟังทำไม อย่าบอกนะว่าแกไปแอบหลงรักเขาอีก ไม่เคยเข็ดเลยนะไอ้นิสัยคลั่งไคล้คนหล่อจนไม่ลืมหูลืมตาของแกเนี่ย” เสียงใสๆ ที่ได้ยินตอบด้วยน้ำเสียงติดเบื่อหน่าย
“เปล่าซะหน่อย แค่อยากจะบอกแกว่าผู้หญิงที่พ่อหนุ่มรูปหล่อคนนั้นพามาน่ะ ฉันไม่เห็นเคยซ้ำหน้ากันเลยสักคน...” คนพูดๆ ยังไม่ทันจบประโยคเสียงใสๆ เสียงเดิมก็ดังแทรกขึ้น
“แกไปคอยเฝ้าเขาหรือไง ถึงได้รู้ว่าตานั่นพาใครมาบ้าง”
ตานั่นที่นั่งหันหลังอยู่ถึงกับสะดุ้งโหยง
“ก็ห้องของฉันอยู่เลยห้องเขาไปสองห้องไงยะ ฉันเลยได้แอบดูอยู่บ่อยๆ”
“อ้าว...เมื่อกี้แกบอกว่าเคยเจอโดยบังเอิญที่แท้แกคอยแอบดูเขา”
“ก็ห้องมันอยู่ใกล้ๆ กัน มันก็มีโอกาสเจอกันอยู่แล้ว”
“พอเลย แกไม่ต้องมาเล่าเรื่องผู้ชายพรรค์นี้ให้ฉันฟัง แกก็รู้ว่าฉันเกลียดพวกผู้ชายที่ชอบเห็นผู้หญิงเป็นของเล่น คนแบบนี้แค่เดินเฉียดฉันก็รังเกียจแล้ว แกรีบจ่ายเงินเลยนะฉันขอไปห้องน้ำก่อน”
เสียงที่ตอบบ่งบอกถึงความรู้สึกแบบนั้นจริงๆ ซึ่งณภัทรฟังแล้วรู้สึกขัดใจเป็นที่สุด และช่างเป็นเรื่องบังเอิญห้องน้ำที่หญิงสาวคนพูดเดินผ่านนั้น ต้องผ่านโต๊ะที่เขานั่งพอดี ชายหนุ่มจึงทำทีเป็นยกแก้วกาแฟขึ้นดื่ม เพราะอยากเห็นหน้าคนที่บอกว่าแค่เดินเฉียดก็รังเกียจแล้วว่าจะเป็นอย่างไร
จะสวยอย่างที่เพื่อนของเจ้าหล่อนบอกไว้จริงหรือเปล่า