เรื่อง อุ้มรักพราวตะวัน
ตอนที่ 2 มีแฟนเป็นหมอมันดีต่อใจ
ฉันอยากจะร้องไห้ให้กับความซวยของตัวเอง ที่ปล่อยให้แอลกอฮอล์มันเล่นงานได้ ห้องชั้น 406 แต่กลับไปเข้าห้องของตานั้นได้ยังไง
โง่แล้ว โง่อีก โง่ซ้ำโง่ซ้อนจริงๆ…
คิดแล้วอยากจะหายตัวไปจากโลกนี้บอกเลยว่าฉันโคตรอายอีตานั้นเลย แล้วดันมาอยู่ห้องข้างๆฉันด้วย เจอกันฉันไม่รู้จะทำหน้ายังไง คิดแล้วอยากจะเอาหัวโขกกำแพงให้ตายๆไปเลยจริงๆ
“ เพราะเขาคนเดียวเลย ที่ทำให้ฉันต้องเป็นแบบนี้ ”
ต้นเหตุของเรื่องทั้งหมดที่ทำให้ฉันเป็นแบบนี้ก็คือ ‘ ปัณณ์ ’ ถ้าเขาไม่เลือกที่จะทิ้งฉันในวันนั้น ฉันก็คงไม่อกหักเฮิร์ทหนัก เมาจนเผลอไป one night stand กับใครก็ไม่รู้แบบนี้
คิดแล้วฉันอยากจะร้องไห้ เรื่องของฉันกับปัณณ์มันก็ลอยเข้ามาในหัว ที่ฉันจำได้ดี
วันที่เขาไม่เลือกฉัน…
“ สวยจัง ”
ชุดเจ้าสาวสีโอรส เกาะอกเปิดไหล่ ยาวคลุมเข่าทำให้เดินสบาย มันดูเซ็กซี่และสวยหรูหราในคราวเดียวกัน มันสะดุดตาฉัน จนทำให้ต้องยืนจ้องมองอยู่หน้าร้านพรีเวดดิ้งแบบนี้
ถ้าฉันสวมชุดนี้ ทำผมลอนใหญ่ปล่อยสลวย บนศีรษะของฉันมีมงกุฎดอกไม้สีขาวสวมอยู่ ท่ามกลางพิธีวิวาห์ริมทะเลที่มีเสียงคลื่นดังอยู่เนืองๆ มีดอกไม้สีขาวถูกจัดประดับเรียงรายเป็นแถวแนวทางเดิน มีผู้ชายที่ฉันรักสวมสูทสีขาวกับเนคไทสีชมพูมองมาที่ฉัน เขายิ้มให้ฉันแววตาของเขามันมีฉันอยู่ในนั้น ในมือของเขามีช่อดอกไม้สีขาว เขากำลังเดินมาหาฉัน เขายื่นช่อดอกไม้ให้ฉัน ซึ่งมันหมายถึงเขาจะจงรักภักดีแค่ฉันเพียงคนเดียว
“ คุณ คุณคะ คาปูชิโน่เย็นได้แล้วค่ะ ”
“ คะ อ๋อค่ะ ” พนักงานร้านกาแฟทำฉีนสะดุ้ง ก็กาแฟที่ฉันสั่งได้ไว้แล้วนะสิ
ฉันมันคนเพ้อฝัน ที่สักวันจะได้แต่งงานกับผู้ชายที่ฉันรักในตรีมริมทะเล แต่ความฝันของฉันมันไม่เกินเอื้อมอย่างแน่นอน เพราะวันนี้ฉันจะคุยกับแฟนเรื่องการแต่งงานของเรา
‘ ปัณณ์ ’ แฟนของฉัน เราสองคนอายุเท่ากัน เขาเป็นหมอหนุ่มหล่อ EQ เป็นเลิศ เราคบกันมาเข้าปีที่ 5 แล้ว เรารักกันมาก เราไม่เคยทะเลาะกันเลย ถึงฉันจะเป็นสาวออฟฟิศที่อาชีพไม่เหมาะกันเลย แต่เรากลับเข้ากันได้ดีสุดๆ
บอกเลยว่ามีแฟนเป็นหมอ…มันโคตรดี
ถึงแม้เวลาของการทำงานของเราจะไม่ตรงกัน แต่ฉันกับเขาก็มักจะหาเวลาว่างที่เหมาะสมมาเจอกันตลอด อย่างเช่นวันนี้ ที่เรานัดกันจะไปทานอาหารดินเนอร์มื้อค่ำด้วยกัน
“ น้องพราว มาหาหมอปัณณ์เหรอจ๊ะ ”
ฉันมาบ่อยจนพี่ๆพยาบาลจำได้ ปัณณ์เปิดตัวฉันกับทุกคนว่าเราเป็นอะไรกัน ทำให้การมาโรงพยาบาลของฉัน จึงดูสนิทและคุ้นเคยกับพี่ๆพยาบาลเอามากๆ
“ ค่ะ ”
ไอ้ฉันมันก็คนขี้เขินซะด้วยสิ เป็นแฟนหมอ มาหาหมอมันก็เขินอยู่นะ
“ เมื่อไหร่จะมีข่าวดีจ๊ะเนี่ย พี่อยากได้ยินข่าวดีของน้องพราวกับหมอปัณณ์เต็มทนแล้ว ”
“ คงไม่นานเกินรอแล้วมั้งคะ ” จะบอกว่าวันนี้จะคุยกับหมอเรื่องแต่งงาน ก็ดูจะตลกคาเฟ่ไป
“ นั่นไง หมอมาพอดีเลย ”
หมอแฟนของฉันเดินหล่อลอยมาแต่ไกล แฟนใครเนี่ยทำไมถึงหล่ออย่างนี้
“ รอนานไหม? ”
เขาน่ารักกับฉันเสมอ เขาไม่เคยอายที่คบกับสาวออฟฟิศอย่างฉัน ปัณณ์ยิ้มเดินเข้ามาโอบเอวฉันแสดงความเป็นเจ้าของ เขาทำให้ฉันตกหลุมรักได้เสมอ
“ พราวเพิ่งมาถึงน่ะ ”
“ เราไปกันเลยไหม ”
“ อืม ”
@ร้านอาหารลองชิม
ร้านอาหารที่อยู่ใจกลางเมือง เป็นร้านอาหารประจำของฉันและปัณณ์ที่เราสองคนมักจะพากันมาที่ร้านอาหารแห่งนี้อย่างน้อยอาทิตย์ละ 1 วัน นอกใจไปชิมร้านอื่นแต่ก็ต้องวนกลับมาร้านนี้ตลอด ร้านนี้เป็นร้านที่มีความทรงจำของฉันกับเขา
“ เป็นไงบ้าง ช่วงนี้งานหนักรึเปล่า? ” ปัณณ์คือคนที่เอาใจใส่ฉันตลอดเวลา ทั้งเรื่องงานและเรื่องสุขภาพ มีแฟนเป็นหมอมันดีต่อใจ
“ นิดหน่อยน่ะ แล้วปัณณ์ล่ะ คนไข้เยอะรึเปล่า ”
“ พอสมควรเลย ช่วงนี้ฝนตกบ่อย คนมักเป็นหวัดกันเยอะ พราวต้องดูแลสุขภาพด้วยนะ ” ปัณณ์เขาน่ารักมากจริงๆ จะไม่ให้ฉันหลงรักเขาซ้ำๆได้ยังไง
“ พราวมีแฟนเป็นหมอ ไม่เห็นต้องกลัวเลย ”
ไอ้ฉันมันก็คนสวยอยู่กับแฟนมันก็อยากอ้อน ต้องตัวเล็กตัวน้อยเป็นธรรมดา
“ พราาต้องดูแลตัวเองให้ได้นะ ปัณณ์ไม่อยู่พราวจะได้คุ้นชิน ”
คำพูดของเขาทำฉันขมวดคิ้ว เขาไม่เคยพูดกับฉันแบบนี้มาก่อน ถ้าฉันอ้อนเขาคำตอบที่ได้คือเขาจะดูแลฉัน แต่วันนี้ทำไมเขาตอบจนฉันใจหวิว
“ ทำไมวันนี้ปัณณ์พูดแปลกๆ มีอะไรรึเปล่า ” ฉันกับเขามีอะไรเราจะคุยกันตรงๆตลอด
“ โรงพยาบาลที่ออสเตรเลียรับปัณณ์เข้าไปทำงานแล้วนะ ”
ฉันใจหวิวมากที่ได้ยินแบบนี้ ความรู้สึกเหมือนฉันกับเขาค่อยๆห่างกันทุกที ทั้งที่อยู่ห่างกันแค่เอื้อมแค่นี้เอง
“ เหรอ ปัณณ์จะไปเหรอ ”
“ มันเป็นความฝันที่ปัณณ์พยายามมาอย่างหนักเลยนะ ฝันที่จะได้ไปทำงานกับบุคลากรที่มีคุณภาพมีชื่อเสียง แล้วคิดดูสิว่าปัณณ์จะเก่งขึ้นได้มากขนาดไหน ความเหนื่อยที่สะสมมามันคุ้มค่ามากเลย พราวว่าไหม ”
เขาฝันมาตลอดว่าอยากไปทำงานที่โรงพยาบาลในออสเตรเลีย โรงพยาบาลที่มีชื่อเสียงเกี่ยวกับปอดและหัวใจ ฉันรับรู้มาโดยตลอด แต่ฉันไม่คิดว่าเขาจะได้ไปจริงๆ และก็ไม่คิดว่าเขาเลือกที่จะไป
“ ทำไมพราวทำหน้าอย่างนั้น ไม่ดีใจกับปัณณ์เหรอ ”
“ ดีใจด้วยนะ ”
“ 3 ปีที่ปัณณ์ได้ไปที่นั่น ปัณณ์จะเก็บเกี่ยวประสบการณ์ให้มากที่สุด ”
เขาดูภูมิใจมาก มากเสียจนถ้าฉันจะคุยเรื่องแต่งงานกับเขา มันคงทำให้เขารวนเร แล้วฉันก็คงเป็นตัวถ่วงเลยในชีวิตเขาเลยใช่ไหม
“ ปัณณ์ไม่ไปไม่ได้เหรอ ”
“ ได้ไงล่ะพราว ปัณณ์พยายามมันมาหลายปีเลยนะ ”
“ เราต้องห่างกันงั้นเหรอ ”
“ งานกับเรื่องส่วนตัวพราวแยกให้ออกสิ อย่าใช้อารมณ์แบบนี้ ” น้ำตาฉันมันจะไหลรินออกมาให้ได้ ฉันพยายามกลั้นมันไว้มาก
“ พราวแค่อยากมีปัณณ์อยู่ใกล้ๆ ”
“ โตเป็นผู้ใหญ่หน่อยสิ นั่นอนาคตของปัณณ์เลยนะพราว ”
คำพูดและแววตาของเขามันไม่มีฉันอยู่เลย ฉันกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่จนต้องร้องไห้ออกมาต่อหน้าเขา
ฉันเม้มปากแน่น กลั้นใจ ก่อนจะพูดออกไป…
“ เราเลิกกันเถอะ ”
“ พราวพูดอะไร ”
“ เราเลิกกัน ”
“ ตลกแล้วพราว อย่าเอาเรื่องแค่นี้มาทำให้เราเลิกกันสิ เราแค่ห่างกันแค่นั้นเอง ” เขาคงจะขำฉันมากสินะ
“ รู้อะไรไหม ว่าอนาคตของพราว พราวอยากเป็นผู้หญิงธรรมดาที่ได้แต่งงานได้ใช้ชีวิตร่วมกับคนรัก มีลูกมีครอบครัวที่อบอุ่น พราวอยากมีแค่นี้เลย แต่ดูปัณณ์สิ อนาคตของปัณณ์ไม่มีพราวอยู่ในนั้นเลย ”
“ ไร้สาระน่ะพราว การแต่งงานเราจะแต่งเมื่อไหร่ ตอนไหนก็ได้ ไม่เห็นต้องรีบขวนขวายมันเลย เราต้องทำอนาคตเราให้ดีซะก่อน ”
เขาคงไม่ใช่ปัณณ์คนเดิมสำหรับฉันอีกต่อไปแล้วสินะ
“ พราวคงเดินต่อไปกับหมอปัณณ์ไม่ได้ โชคดี ”
ระยะเวลาที่เราสองคนคบกัน ฉันอยากได้ยินการคุยเรื่องการแต่งงานกับเขามาตลอด ฉันรู้ว่าการแต่งงานเราจะแต่งตอนไหน คบกันนานเท่าไหร่ก็ได้ แต่เมื่อทางเลือกของเราไม่ตรงกัน เขาเลือกอนาคต ซึ่งในนั้นไม่มีฉัน แต่ฉันเลือกเขา เลือกที่จะอยากให้เขาให้เกียรติฉัน
ในเมื่อเราไม่มีกัน ก็ปล่อยมือกันและกันจะดีกว่า…
พราวตะวันคนนี้ บอกเลิกเอง อกหักเอง และเฮิร์ทร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรเอง มันนักเลงพอ…